โลกแห่งนี้ที่มีเพียงฉัน - ตอนที่ 15 งานใหม่
บทที่ 15 งานใหม่
[ตัวเอก]
น่าแปลก ทั้งวันฉันไม่เห็นสร้อยเลยสักนิด ทว่ายามเย็น สร้อยซึ่งได้รับจากชายชราพลันปรากฏอยู่ไม่ไกลจากตัวฉันมากนัก ก่อนหน้านี้ไม่เห็นมี จู่ๆมันปรากฏอยู่ตรงนั้นได้อย่างไร? ฉันวางกีตาร์ลง เดินไปใกล้สร้อยบนโต๊ะ มองมันด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ก่อนถอนหายใจออกมา
“มันกลับมาหาฉันเหรอ? บ้าอะไรเนี่ย? คงไม่มีทางเลือก”
เก็บสร้อยไว้กลับตัวแล้วกัน ยังไงมันก็จะมาหาฉันอยู่ตลอด คงหนีไม่พ้นสร้อยประหลาดนี่แน่ๆ ต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิตก็ตาม ด้วยความคิดแบบนี้ ฉันตัดสินใจใส่สร้อยไว้ที่คอ สร้อยดูคล้ายสร้อยแพลตตินั่ม จริงๆไม่รู้หรอกว่ามันทำมาจากอะไร แต่คงเป็นไม่ แพลตตินั่ม ก็ทองขาว ไม่สิ เป็นแพลตตินั่มแหละ สีออกเทาๆ ไม่ค่อยออกทองๆเหมือนทองขาว
“พรุ่งนี้ไปให้คำตอบกับพ่อของทิศ หวังว่าจะไม่เจอเรื่องแปลกๆอีกนะ”
ชีวิตของฉัน แทบทุกวัน มันเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ทั้งเจอเรื่องร้าย เรื่องดี เรื่องประหลาด ยากเข้าใจ ช่างเป็นชีวิตที่หลากหลายจริงๆ เพราะอย่างงั้น น่าปวดมาก เลือกเกิดใหม่ได้ ไม่อยากเกิดมามีชีวิตแบบนี้สักนิด อา แต่ปัจจุบัน ฉันยังคงมีชีวิตอยู่ ดังนั้น ทำได้แค่ใช้ชีวิตอย่างสุดความสามารถ ก้าวเดินไปด้านหน้าต่อไป
/
/
/
/
เช้าวันถัดมาอย่างรวดเร็ว เมื่อคืนไม่ได้ไปยังอีกโลก ไม่รู้ทำไม ทว่าช่างมันก็แล้วกัน ก็ดีอยู่ จิตใจจะได้ไม่รับภาระหนักเกินไป ถึงเรี่ยวแรงจะมีเยอะ แม้เป็นเช่นนั้น การไปอีกโลกก็เท่ากับจิตใจไม่ได้รับการพักผ่อน นี่คืออีกข้อเสียของโลกใบนั้น มีเวลามากกว่าคนอื่นยี่สิบสี่ชั่วโมง เวลาที่เยอะขนาดนี้ ถ้าต้องการใช้ ต้องแลกเปลี่ยน
“พ่อ ผมไปก่อนนะครับ”
บอกก่อนออกจากบ้าน ฉันเดินทางไปยังร้านข้าวมันไก่ของพ่อทิศโดยใช้เวลาพอสมควร ไม่ได้ไกลมาก แต่ก็ไม่ใกล้เช่นกัน ไม่อยากเสียเงินค่ารถ ทำไงได้? มันประหยัดเวลาจริง ทว่าเงินในเวลานี้มีอยู่อย่างจำกัด ควรใช้ประหยัดให้มากสุด เท่าที่สามารถทำได้
เอาจริง ฉันไม่จำเป็นต้องประหยัดเงินมากแบบนี้ก็ได้ อีกไม่นานก็จะได้งานใหม่ทำแล้ว เงิน แน่นอน มีใช้เพิ่มขึ้นจากแต่ก่อนบ้าง ช่างเถอะ ฉันคิดน้อยไปเอง ไว้วันหลังค่อยขึ้นรถ วันนี้เดินไปก่อน
“สวัสดีครับ”
สุดท้าย ฉันก็มาถึงร้านพ่อของทิศ พูดสวัสดีเขา และพนักงานทุกคนในร้าน เดี๋ยวคงได้กลายเป็นเพื่อนร่วมงานกันแล้ว ควรสร้างความสัมพันธ์อันดีนิดหน่อย ไม่เจอทิศเลย น่าจะไม่ว่าง คงออกไปทำงาน
“ซี เป็นไงบ้าง? ตัดสินใจได้รึยัง?”
“ได้แล้วครับ ผมตัดสินใจทำงานที่นี่ ระหว่างทำงานอยู่ ช่วยดูแลผมด้วยนะครับ”
มีเงินมากพอใช้อยู่รอดสองสามเดือน แต่ฉันไม่ควรประมาท ในช่วงนี้ หากไม่มีรายได้เข้ามาเลย ท้ายสุด ตัวฉันจะโดนผลักให้ถึงทางตันของชีวิตอีกครา ทำงานกับพ่อทิศ แม้เสียอิสระไป ทว่ามันไม่ได้แย่เท่าไหร่นัก ฉันสามารถป้องกันเหตุการณ์เลวร้ายได้
“ดี ดี ตัดสินใจได้ดี เธอพร้อมเริ่มทำงานวันนี้เลยรึเปล่า?”
“ไม่มีปัญหาครับ ต้องทำยังไงบ้างเหรอ?”
ไม่เคยมีประสบการณ์เป็นพนักงานร้านอาหารมาก่อนเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ทำงานอย่างงี้
“วันนี้เธอไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากรอก แค่ช่วยงานนิดๆหน่อยๆ คอยดูการทำงานของพนักงานคนอื่นก็พอ”
วันแรกไม่ได้ยากกว่าที่คิด ดีกว่าตอนทำงานกับที่นั่นเยอะ มันสบายเกินไปรึเปล่านะ? ไม่ชินแฮะ แต่ในเมื่อเขาบอกมางั้น ก็ทำตามนั้นแล้วกัน
ร้านพ่อทิศค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว ลูกค้ามาไม่ขาดสาย สถานที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ทั้งปริมาณ คุณภาพ ราคา อื่นๆ ทุกอย่างทำให้คนชอบร้านนี้มากๆ มองดูหลายคน ซึ่งกำลังกินอาหารอยู่ บางคนดูเป็นนักธุรกิจ บางคนดูเป็นพนักงานบริษัทธรรมดา และบางคนก็ดูเหมือนคนรวยมาเงิน คนพวกนี้มากินที่นี่ น่าอัศจรรย์จริงๆ พ่อของทิศทำให้ร้านกลายเป็นใหญ่โตแบบนี้ได้ยังไง? รู้เหตุผลที่ร้านเติบโตจนเป็นแบบนี้ ทว่าอยากรู้ สิ่งที่ต้องผ่านเพื่อมาถึงจุดนี้
“คงจะแปลกใจ และสงสัยอยู่ใช่มั้ยล่ะ?”
จู่ๆก็ได้ยินเสียงของชายวัยกลางคนข้างๆ หันไปมอง เห็นพ่อของทิศยืนอยู่ เขารู้ได้ไงว่าฉันกำลังสงสัย?
“ไม่ยากหรอก แค่มองเธอ ฉันก็ดูออกแล้ว”
พ่อของทิศหัวเราะ ฉันดูออกง่ายขนาดนั้นเลย?
“ยิ่งเธอทำงานที่นี่ เธอก็จะรู้สิ่งที่สงสัยเอง ซี เธอเป็นเด็กที่น่าสนใจนะ ฉันว่าอนาคตของเธอเติบโตได้กว่าตอนนี้แน่ และสักวันหนึ่งจะไม่ได้เป็นเพียงพนักงานร้านเล็กๆแบบนี้”
“คุณคิดงั้นจริงๆเหรอ? ไม่คิดว่าตัวเองจะน่าสนใจนะ แล้วคุณรู้ได้ไงว่าผมจะเติบโต ถ้าตัวผมหยุดอยู่แค่ที่นี่ล่ะ?”
ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่พ่อของทิศพูดสักนิด ชายคนนี้ สำหรับฉัน เขาเป็นคนที่ค่อนข้างคาดเดาได้ยาก หากไม่ต้องการบอก คนอื่นจะไม่มีทางรู้ความคิดเขา
“ก็ไม่มีอะไรมากนักหรอก ฉันรู้สึกได้เท่านั้น รู้สึกได้ถึงอนาคตของเธอ แต่ไม่รู้ถึงขั้นว่าเป็นยังไงหรอกนะ สุดท้าย คนที่กำหนดว่าชีวิตในอนาคตของเธอจะเป็นยังไง ก็คือตัวเธอเอง”
ความคิดผู้ชายคนนี้ แปลกจริงๆ เพราะความรู้สึกอย่างเดียวงั้นเหรอ? แค่นั้น? รับฉันเข้าทำงานเนื่องจากสัมผัสได้ถึงอนาคต? ดูเหมือนคำพูดโกหกเลย ทว่าดูเขาน่าจะพูดความจริง มันยังไงกันแน่นะ?
“ตอนนี้ยังไม่มีอะไรให้เธอทำ ถ้าจะเล่นกีตาร์ก็เล่นได้นะ ครั้งก่อนที่เล่นน่ะ ลูกค้าชอบมากเลยล่ะ”
การทำงานกับพ่อทิศ ดีกว่าที่คิด ฉันมีเวลาฝึกกีตาร์บ้างเล็กน้อย แม้จะได้งานทำแล้ว ไม่แย่ ไม่แย่
ใช่สิ ก่อนเริ่มฝึก ฉันควรดูยอดวิววิดีโอหน่อย หลังจากตอนนั้นมา ก็ไม่ได้เข้าไปดูอีก ผ่านมาพอสมควร ยอดวิวเพิ่มเท่าไหร่แล้วนะ? หวังว่าจะเพิ่มขึ้น สักนิดก็ยังดี
“เดี๋ยวนะ?!”
เมื่อเปิดดู ฉันก็รู้สึกยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น มองหน้าจอโทรศัพท์ ความคิดมากมาย หลากหลายปรากฏขึ้นในหัวไม่หยุด จากหนึ่งพันวิวเป็นหนึ่งหมื่น เพิ่มขึ้นสิบเท่า ไม่ใช่แค่นั้น คนติดตามยังมีเกือบสองร้อยคน ลงแค่หนึ่งวิดีโอ เพิ่มมากแบบนี้ เกิดคาดสุดๆ
เห็นยอดต่างแล้วมีกำลังใจขึ้นกะทันหัน ลงวิดีโอใหม่เสร็จก็ฝึกเล่นกีตาร์ เพลงที่เล่น เป็นเพลงง่ายๆ สบายๆ ฟังเพลินๆ อาจเพราะอย่างงั้น ทุกคนจึงฟังได้โดยไม่รู้สึกแย่ หรือไม่ชอบอะไร
ฉันฝึกเล่นไปสักพักก่อนลุกขึ้นช่วยงานพนักงานคนอื่นๆในร้าน เพื่อนร่วมงานแต่ละคนนิสัยดีมาก ดีกว่าตอนทำงานที่ทำงานเก่าเยอะ ทำไมทั้งสองถึงแตกต่างกันมากแบบนี้นะ?
ไม่มีเวลาให้คิดเยอะ ฉันช่วยพนักงานคนอื่นทำงานหลายอย่าง การทำงานไม่ลำบากเท่าไหร่ คนอย่างฉันที่เคยทำงานหนักกว่านี้มาแล้ว ไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย
ทำงาน เล่นกีตาร์ สลับกัน เวลาไหลผ่านไปไวมากๆ ร้านปิดตอนสี่ทุ่ม ฉันเดินกลับบ้านอย่างไร้เรี่ยวแรง เหนื่อย คนเยอะ แต่ก็รู้สึกดี เป็นการทำงานที่มีความสุข ไม่เหมือนตอนทำงานที่เก่า ที่นั่น เพื่อนร่วมงาน บรรยากาศ รวมถึงอื่นๆ ทำให้ไม่มีความสุขเลย