โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ (SMRiaG) บทที่ 68 การเดินทางลงมาจากภูเขา
คิริโชยิ้มและยื่นมือออกมาข้างหน้าจับมือกับไอเซ็นเพื่อทักทายกลับ “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะไอเซ็น ข้าชื่อคิริโช ดูเหมือนคุณจะผ่านบททดสอบสุดท้ายแล้วสินะ ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ”
เธอหัวเราะเบา ๆ และเอามือป้องปากขณะหลับตาลง ทําให้ไอเซ็นยิ้มตอบ “ขอบคุณนะ มันช่างเป็นอะไรที่เกิดคาดไปหน่อย ฉันรู้ว่านี่ไม่ใช่แค่หมอกธรรมดาแน่ แต่คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะเป็นคน…”
คําพูดของไอเซ็นทําให้คิริโชประหลาดใจก่อนจะเอียงหัวไปด้านข้าง “เอ่อ…คน? เจ้าคิดว่าฉันเป็นคนเหรอ?” เธอถามในความสับสน และไอเซ็นก็พยักหน้าพร้อมการขมวดคิว
“ใช่สิ เธอเป็นคนไม่ใช่เหรอ? คือ ฉันไม่ได้สนใจหรอกนะว่าเธอจะเป็นมอนสเตอร์, เอลฟ์, มนุษย์, นางฟ้า หรืออะไรก็ตาม และเธอก็ดูเป็นคนดี และอิลเล็นก็ไว้ใจเธอมากพอจึงเลือกให้เฝ้าทางเข้าที่แห่งนี้ ก็นั่นแหละ ฉันเลยคิดว่าเธอคือคน” ชายแก่อธิบาย แก้มสีขาวทั้งสองข้างของคิริโชเริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อน ๆ
“เข้าใจแล้ว…ขอบใจนะไอเซ็น จะว่าอะไรหรือไม่หากข้าจะถามอะไรบางอย่าง?” เธอยิ้ม และไอเซ็นก็พยักหน้า
“ได้สิ ถามมาเลย เธออยากรู้อะไรล่ะ?” เขาพูด และคิริโชก็พยักหน้าช้า ๆ
“ใครคือ…ฮานาโกะ เหรอ?”
ดวงตาไอเซ็นเบิกกว้าง เขาไม่ได้อายที่จะทําอะไรในระหว่างหรือหลังการทดสอบ แต่เขาลืมไปเสียสนิทในสิ่งที่ควรจะลืม แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถแสร้งทําเป็นว่าไม่เคย พูดชื่อฮานาโกะได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะพูดความจริง และผสมกับเรื่องราวที่เอริเตรียมไว้ให้สําหรับเหล่ากลุ่มผู้บุกเบิก
“คือ…ฉันนึกถึงคน ๆ หนึ่งระหว่างการทดสอบตอนที่ฉันได้เห็นและได้ยินเสียงของเธอ ฮานาโกะ… เธอคือภรรยาของฉันเอง แต่เธอจากไปนานแล้ว ฉันคิดว่าที่ฉันหวั่นไหวในตอนนั้นก็เพราะเหตุนี้แหละ” ไอเซ็นอธิบาย และคิริโชก็เริ่มมีสีหน้าสลดใจ
“เป็นเช่นนั้นเองเหรอคะ? เข้าใจแล้ว… ข้าขอโทษด้วยไอเซ็นที่ทําให้เจ้าหวนนึกถึงนาง… แต่…ข้าต้องไปแล้ว… ข้ารู้สึกเหนื่อย…” คิริโชพูดขณะพยายามฝืนลืมตาจากนั้นรูปร่างของเธอก็ค่อย ๆ เลือนหายไป
“งั้นก็ไปพักผ่อนนะคิริโช ไว้คุยกันใหม่” ไอเซ็นพูดและคิริโชก็พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ เปลี่ยนกลับเป็นหมอกดังเดิม ฟุ้งกระจายไปทั่วห้องโถง
ไอเซ็นหันไปมองอิลเล็นที่กําลังมองเขาด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น “น่าสนใจจริง ๆ ปกตินางไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ และข้าได้อย่างเต็มปากเลยว่า ข้าไม่เคยเห็นนางแก้มแดงมาก่อน” มังกรหัวเราะเบา ๆ
ไอเซ็นไม่ได้สนใจคําพูดของเขาและเริ่มถามสิ่งที่เขากังวล “นี่คือชีวิตปกติของเธอเหรอ? ใช้เวลานอนเป็นชั่วโมง เป็นวัน หรือเป็นเดือน และพอตื่นขึ้นมา ก็อยู่ได้แค่ครึ่งชั่วโมงเนี่ยนะ?”
อิลเล็นถอนหายใจและมองไอเซ็นที่มีสีหน้าสลด “ใช่ แต่ไม่ได้เป็นเช่นนั้นตลอด หรอกนะ เจ้าก็เห็นว่าคิริโชมีจิตวิญญาณหมอก นางมีชีวิตที่แสนสั้นแต่มีความสุข และด้วยเหตุผลบางประการที่ข้ายังไม่ได้บอกกับเจ้าเรื่องนี้ คือความตายของนางไม่ได้รับอนุญาตให้ย้ายไปอยู่ในชีวิตหลังความตาย นางติดอยู่ในโลกนี้เพราะคําสาปของเดียรัจฉานที่ชั่วร้าย และถูกผูกติดกับเครื่องรางในสภาพที่ต้องหลับใหลอยู่ตลอด เครื่องรางที่ว่าคือสิ่งที่ข้าบังเอิญพบระหว่างการเดินทาง และการมองผ่านดวงตาที่เห็นความจริง ข้าจึงเห็นว่ามีวิญญาณติดอยู่ข้างในและปลดปล่อยเธอออกมา ช่วงระยะเวล
หนึ่งที่นางมีชีวิตเหมือนผู้คนทั่ว ๆ ไป ที่นอนในตอนกลางคืน และตื่นในตอนกลางวัน แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีบางอย่างเกิดขึ้นกับนาง มีกลุ่มนักผจญภัยกลุ่มหนึ่งเดินทางมายังภูเขาแห่งนี้และผ่านเข้ามายังห้องสมบัติของข้าในขณะที่ข้าไม่อยู่ และถ้ํานี้ก็มีแค่คิริโชที่คอยดูแล กลุ่มนักผจญภัยพบนางเข้าและพยายามที่จะฆ่านางทันที เพราะคิดว่านางเป็นมอนสเตอร์ที่อยู่ในร่างของผู้หญิง ไม่ช้า พวกเขาก็ได้รู้ว่าเครื่องราง นั่นคือที่มาของการมีอยู่ของนาง และสามารถทําลายให้แตกเป็นเสี่ยง ๆ ได้ ส่วนสําคัญของอัญมณีที่ฝังอยู่ข้างในเครื่องรางยังคงอยู่ในสภาพดี ช่วยให้คิริโชยังมีชิวิตอยู่ต่อไป แม้จะมีสภาพอย่างที่เจ้าเห็นก็ตาม ช่างน่าเศร้าที่กลุ่มนักผจญภัยนําอัญมณีพร้อมกับเครื่องรางทั้งหมดกลับไปด้วย”
ไอเซ็นเบือนหน้าหนีจากอิลเล็นที่จะไม่ให้เขาได้เห็นใบหน้าในตอนนี้ และหันไปมองห้องที่เต็มไปด้วยหมอกอีกครั้ง “โหดร้ายมาก… อิลเล็น มันพอจะมีทางไหนไหมที่ผมพอจะช่วยเหลือได้บ้าง?”
“หม เจ้าหมายความเช่นนั้นจริง ๆ ?” อิลเล็นถามด้วยความประหลาดใจ และไอเซ็นก็พยักหน้า “ครับ ผมอยากช่วยจริง ๆ แบบนี้มันไม่ชวนมองเลย… คิริโชอยู่ที่นี่ แต่ก็เหมือนไม่อยู่ นาน ๆ ครั้งเธอจะได้คุยกับคนอื่นบ้าง นั่นควรจะเป็นหนทางที่มีชีวิตอยู่ต่อไม่ใช่เหรอครับ?”
“ไอเซ็น ข้าดีใจนะที่เจ้าอยากจะช่วยเหลือ งั้นก็ได้ ยังพอมีหนทางที่เจ้าจะช่วยได้อยู่ ในตอนที่คิริโชต่อสู้กับกลุ่มนักผจญภัย หนึ่งในพวกเขาได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้ มันอยู่ในห้องสมบัติของข้า เจ้าอาจจะได้พบว่าเขาคือใครและกลุ่มของพวกเขาอยู่ที่ใด”
[ภารกิจใหม่ – ชิ้นส่วนที่ถูกขโมยไป]
[คําอธิบาย]
นักผจญภัยหลุ่มหนึ่งได้ทําลายเครื่องรางซึ่งจิตวิญญาณแห่งหมอกคิริโชถูกผนึกไว้ โดยพวกเขาได้ขโมยชิ้นส่วนหลักไป เหตุนี้จึงทําให้คิริโชอยู่ในสภาพที่แทบจะไม่เหลือการมีตัวตนอยู่ของเธอ คุณต้องการที่จะช่วยเหลือ และเช่นนั้น อิลเล็นเทิร์ธมังกรทองค่าโบราณจึงขอให้คุณตามหานักผจญภัยกลุ่มนั้น และหวังว่าจะเจอเศษชิ้นส่วนจากร่องรอยของหนึ่งในกลุ่มนักผจญภัยที่หลงเหลืออยู่ ออกตามหาเศษชิ้นส่วนและนํากลับมารวมกันอีกครั้ง
[รางวัล]
คิริโชจะได้กลับมามีชีวิตปกติอีกครั้งหนึ่ง
[ความล้มเหลว]
คิริโชจะยังคงใช้ชีวิตอยู่ในสภาพเดิมต่อไป
“ฟังดูเป็นการเริ่มต้นที่ดีเลย ขอบคุณนะครับ อิลเล็น” ไอเซ็นพูดก่อนที่จะอ่านการแจ้งเตือนภารกิจทั้งหมดแล้วก็ปิด จากนั้นก็ตามมังกรกลับไปยังห้องสมบัติ ซึ่งเขาได้มอบแผ่นเหล็กขนาดเล็กที่มีรูปร่างเหมือนกับด็อกแท็กแผ่นหนึ่ง บนนั้นมีการแกะสลักเล็ก ๆ อยู่ ซึ่งเขาอ่านไม่ออกเพราะไม่ใช่ภาษาที่เขารู้จักหรือเป็นสัญลักษณ์ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
อิลเล็นมองไอเซ็นและยิ้ม “ข้าหวังว่าเจ้าจะพบพวกเขานะ ตอนนี้บททดสอบได้สิ้นสุดลงแล้ว เจ้าอยากจะกลับเมลโรเลยไหม? ข้ามั่นใจว่าสหายของเจ้ากําลังตั้งหน้าตั้งตารอให้เจ้ากลับไปอยู่นะ ข้าบินไปส่งเจ้าได้หากต้องการ” เขาพูดแนะน่า แต่ไอเซ็นกลับส่ายหน้า
“ขอบคุณนะครับ แต่ผมจะเดินไป ผมอยากให้อลได้มีประสบการณ์กับภูมิประเทศต่างๆ เพราะงั้นการเดินลงไปจากตรงนี้ก็คงเป็นความคิดที่ดีครับ ไว้ผมจะกลับมาอีกนะครับ และขอบคุณสําหรับโอกาสที่ให้ผมได้เป็นแชมป์เปี้ยนนะครับอิลเล็น”
“ด้วยความยินดี ข้าดีใจที่ทุกสิ่งเป็นไปอย่างราบรื่น”
เช่นนั้นแล้ว ไอเซ็นก็ได้ไปเก็บข้าวของจากในห้องทํางานและมุ่งหน้าเพื่อลงจากภูเขาพร้อมกับคาเรียบนไหล่และอลที่ตามติดอยู่ทางด้านหลัง
“เอาล่ะคาเรีย ฉันจะจับมันไว้แน่น ๆ นะ มันจะได้หนีไปไหนไม่ได้ เธอล่วงหน้าไป และเตะมันเลยนะโอเคไหม? เอาให้สุดแรงเกิดไปเลย!” ไอเซ็นพูดขณะจับตัวตุ่นหินอันดับหนึ่งเพื่อไม่ให้มันขยับไปไหนได้ ระหว่างทางลงเขา เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาบังเอิญพบมอนสเตอร์ที่อ่อนแอพอสําหรับเขาที่จะเอาชนะได้โดยง่ายแบบไม่ต้องออกมาแรงมาก เขาจะปล่อยให้คาเรียได้โจมตีพวกมันเท่าที่เธอจะทําได้เพื่อให้ได้รับค่าประสบการณ์ที่เหมาะสมสําหรับการเปลี่ยนอันดับ เพราะตอนนี้เธอยังทําอะไรได้ไม่มากนัก ดังนั้นเขาจึงต้องช่วยให้อันดับของเธอเพิ่มขึ้นเพื่อที่จะได้ปลดล็อคค่าไหวพริบ และค่าสติปัญญาที่จําเป็นสําหรับการใช้มานา
เช่นนั้นแล้ว เธอจะได้เรียนรู้ทักษะมากมาย เนื่องจากไอเซ็นต้องการชุบเลี้ยงเธอให้คลุกคลีกับสมุนไพรและพืชชนิดต่าง ๆ เพื่อใช้สําหรับการปรุงอาหารด้วยการเล่นแร่แปลธาตุ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์หากเธอจะได้เป็นเกษตรตัวน้อยในแปลงผัก หากวันหนึ่งไอเซ็นได้สร้างบ้านพักของตัวเองบนที่ดินสักแห่งหนึ่ง
ไมโคนิคตัวน้อยพยักหน้าและวิ่งไปเตะตัวหุ่นให้แรงที่สุดเท่าที่มันจะทําได้ แน่นอนว่าามันไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น แต่ก็แรงพอที่ระบบจะจดจําเธอว่าเป็นหนึ่งในนักโจมตี ก่อนที่ไอเซ็นจะจัดการที่เหลือให้
เนื่องจากคาเรียทําความเสียหายไม่ได้มาก เธอจึงได้รับค่าประสบการณ์ที่ไม่เยอะ แต่อย่างน้อยก็เพียงพอที่จะทําให้อันดับของเธอเปลี่ยนได้เสียก่อนที่พวกเขาจะกลับไปถึงเมลโร เพื่อให้เกิดความยุติธรรม เมื่อเห็นว่าอันดับของคาเรียใกล้เพิ่มแล้ว ไอเซ็นจึงออกไปตามหามอนสเตอร์เพิ่มเติม
และเมื่ออันดับเธอเปลี่ยน คาเรียก็กลายเป็น เด็กน้อยไมโคนิด มีขนาดใหญ่กว่าร่างตัวอ่อนสองเท่า นอกจากนี้เธอยังมีแขนงอกออกมาสองข้างอีกด้วย! มันเป็นเหมือนตอไม้เล็ก ๆ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีแขนเลยจริงไหมล่ะ?
เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ คาเรียก็เงยหน้ามองไอเซ็นด้วยดวงตาที่เหมือนจุดสองจุดอย่างมีความสุขและกระโดดขึ้นไปหาเขาเพื่อเป็นการมอบอ้อมกอดที่แท้จ
“ไม่เป็นไรคาเรีย ฉันเองก็มีความสุขเหมือนกัน เชื่อสิ ตอนนี้เรากลับโรงแรมกันก่อนดีกว่า ส่วนเรื่องฝึกการจัดการมานาเอาไว้ที่หลังแล้วกันโอเคไหม? ถ้าฉันทําได้ เธอก็ต้องทําได้!” ไอเซ็นหัวเราะเสียงดังและโบกมือให้อลตามมาใกล้ ๆ เนื่องจากพวกเขาเข้าใกล้เมืองเมลโรมากขึ้นแล้ว ส่วนคาเรียนั่งอยู่บนไหล่เช่นเคย
มันเป็นที่ไหนสักแห่งในช่วงสนธยา และคนงานคนสุดท้ายที่ทํางานอยู่นอกเมืองก็กําลังเดินทางกลับเข้าเมืองเช่นกัน
ไอเซ็นเดินผ่านฝูงชนที่ต้องการจะไปพบปะกันเพื่อดื่มหลังจากเลิกงานของวันที่ยาวนาน และมุ่งตรงไปยังโรงแรม เขาใช้เวลาเดินทางนานกว่าปกติเนื่องจากอลูยังไม่รู้วิธีการเดินผ่านฝูงชนเช่นนี้ และหากไอเซ็นไม่ได้สั่งแบบเจาะจงว่าจะให้เธอเดินอย่างไร เธอก็จะเดินเป็นเส้นตรงเพื่อผลักทุกคนที่ขวางทางไปด้านข้าง
หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็มาถึงโรงแรมอย่างปลอดภัย ไอเซ็นเดินผ่านประตูหน้าเพื่อไปยังจุดต้อนรับเพื่อคุยกับเจ้าของโรงแรม
“โอ้ ตาเฒ่า! ไม่เจอกันหลายวันเลยนะ! หายไปไหนมา?” คนแคระถามด้วยน้ําเสียงที่ดังลั่นทันทีที่เห็นไอเซ็น
“ใช่ ฉันออกไปทําธุระนอกเมืองมาน่ะ บรีกับพวกสัตว์ป่าที่มาด้วยกันครั้งนั้นอยู่ไหม?” ไอเซ็นถาม
“พวกเขาอยู่ในห้อง เอ้อ แล้วก็ดูเหมือนเจ้าจ่อจะตื่นแล้วนะเมื่อวานนี้ เพราะงั้นเขาก็น่าจะอยู่ข้างในด้วย” เจ้าของโรงแรมอธิบาย และไอเซ็นก็กล่าวขอบคุณก่อนจะเดินไปยังห้องขนาดใหญ่ที่อยู่ชั้นล่างซึ่งเป็นที่ที่เขาและบรีได้พาเจี้ยกและบรรดาสัตว์ป่าทั้งหลายมาอยู่เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้
เขาเคาะประตูและได้ยินเสียงใครบางคนรีบวิ่งมาที่ประตูจากนั้นก็ค่อย ๆ เปิดออก ในเวลาต่อมา “คะ?” บรถามด้วยด้วยรอยยิ้มที่สดใสและยิ่งสดใสมากขึ้นเมื่อเธอได้เห็นไอเซ็นยืนอยู่หน้าประตู “เอ๋! คุณกลับมาแล้ว! เป็นยังไงบ้างคะ?!” เธอถามอย่างตื่นเต้น และดึงไอเซ็นเข้ามาในห้องเพื่อคุยกัน
ภายในห้องมีบุคคลที่เจ้าของโรงแรมพูดไว้ว่าเขาตื่นแล้ว นั่นก็คือเจี๊ยก ตอนนี้เขากําลังนั่งอยู่บนเตียงเพื่อป้อนอาหารลูก ๆ ของเขา เมื่อเขาเห็นไอเซ็นก็รีบยืนขึ้นทันที และเดินเข้ามาหา “ไอเซ็น! บรีบอกผมว่าคุณขึ้นไปบนยอดเขา! เป็นยังไงบ้างครับ เล่าให้เราฟังหน่อยสิ! แล้ว… สองคนนั้นใครเหรอครับ?” เจียกถามด้วยความรู้สึกสับสนเล็กน้อย และแม้แต่บรีเองก็มองอลด้วยสายตาที่กระหายความอยากรู้
“งั้นฉันอธิบายเลยก็แล้วกันนะ เริ่มจากแม่สาวน้อยคนนี้ คาเรีย! เธอเป็นไมโคนิด! เธอฟักตัวออกมาจากไข่ใบที่นายให้ฉันมา” ไอเซ็นอธิบาย
“นั่นเป็นไข่ของไมโคนิดเหรอครับ? น่าสนใจจริง ๆ!” มนุษย์วานรเปล่งเสียงและเอนกายเข้ามาใกล้ขึ้น ซึ่งทําให้คาเรียพยายามซ่อนตัวอยู่หลังหัวของไอเซ็น บรีเอียงหัวและถาม “แต่ดูจะตัวใหญ่ขึ้นกว่าก่อนหน้านี้นะคะ ใช่ไหม?”
“ใช่! อันดับเธอเพิ่งเปลี่ยนเมื่อไม่นานนี้เอง ระหว่างที่ฉันลงมาจากภูเขา ฉันฆ่าสัตว์ป่าที่เจอตามทางและให้เธอช่วยโจมตีเพื่อให้พอได้รับค่าประสบการณ์จนอันดับเพิ่มน่ะ ตัวมีขนาดใหญ่ขึ้นและมีแขนแล้วด้วย ส่วนนอกจากนั้นก็เหมือนเดิมหมด” ไอเซ็นอธิบายและยกคาเรียด้วยมือทั้งสองออกมาข้างหน้า ทั้งเลี้ยกและบรีมองเธออยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่งเบนความสนใจไปที่อลู
ไอเซ็นบอกพวกเขาเรื่องบททดสอบที่ได้รับจากอิลเล็น และบอกถึงวิธีสร้างหุ่นยนต์อลูเพื่อที่จะได้ใช้ทักษะที่สําคัญทั้งหมดของเขา จากนั้นเขาก็ได้แสดงอิทธิพลของทักษะใหม่ให้พวกเขาดูว่ามันเป็นอย่างไร
หลังจากบอกเล่าเรื่องราวจบแล้ว เจี๊ยกก็พิงผนังห้อง “โอ้? ผมคงต้องไปเจอมังกรบ้างแล้วสินะ…”
แต่ไอเซ็นส่ายหน้าเพื่อให้คําแนะนําเรื่องนี้ “ถ้าเป็นฉัน ฉันจะไม่ไปนะ อย่างแรกคือ ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายจะแค่เดินไปหามังกรแล้วขอบททดสอบเลยได้ไหม ถ้าหนึ่งใน พวกเขาคิดว่านายคู่ควร พวกเขาจะเข้ามาหานายเอง อีกอย่างนะ ฉันก็ไม่มั่นใจด้วยว่า ดวงตาที่มองเห็นความจริงนี้จะเหมาะกับนายหรือเปล่า แน่นอนว่านายใช้มันเพื่อระบุประเภทสัตว์และพืชนา ๆ ชนิดได้ แต่บางทีมังกรจะหาสิ่งที่น่าสนใจในตัวนายและ มอบมันให้กับนายเป็นของขวัญที่เหมาะกับนายที่สุด สําหรับฉันนะ มันสมบูรณ์แบบ สุด ๆ มันช่วยให้ฉันระบุคุณสมบัติต่าง ๆ ของเครื่องมือ, อาวุธ และวัสดุได้อย่าง ง่ายดาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะระบุได้นะ แต่จะทําไม่ได้กับจําพวกวัสดุเวทมนต์ บางทีฉันก็มองเห็นเวทมนต์ที่ไหลวนอยู่ด้วย และเมื่อพิจารณจากทักษะเวทมนต์ทั้งสองที่เกี่ยวข้องกับทักษะงานฝีมือนั้น บอกได้เลยว่านี่มันดีสุด ๆ ท้ายที่สุดมันเป็นทางเลือกของนายเอง แต่ฉันจะรอจนกว่าจะมีมังกรมาขอให้นายเข้ารับการทดสอบนะ ฉันมั่นใจว่ามันจะเกิดขึ้นแน่ไม่ต้องห่วง”
ไอเซ็นอธิบายให้เลี้ยกฟัง และเขาก็ถอนหายใจเล็กน้อย “ครับ มันก็ฟังดูมีเหตุผลนะ ไอเซ็นครับ แล้วคุณมีแผนจะทําอะไรต่อ?” มนุษย์วานรถาม และไอเซ็นก็เลือกที่จะบอกแผนที่คิดไว้แก่พวกเขา
MANGA DISCUSSION