โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ (SMRiaG) บทที่ 58 ปีนป่าย
ไม่นาน พวกเขาก็กลับมาถึงเมืองเมลโรและก่อนที่พวกเขาจะเดินเข้าไปในอุโมงค์ไอเซ็นและบรีก็ลงมาจากยามิคมะและซีริชิกะตามลําดับและนําพวกเขาเข้าไปยังเมืองโดยใช้มือแตะไว้ที่หลังของสัตว์เพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่าพวกมันผ่านการฝึกมาจนเชื่องแล้ว
และในขณะที่พวกเขาเดินผ่านเมือง ทั้งชายและหญิงที่กําลังเดินกลับบ้านหรือไปเข้ากะที่เหมืองต่างมามุงดูซึ่งคนส่วนใหญ่ก็แสดงสายตาที่หวาดกลัวออกมา
อย่างไรก็ตาม มีคนหนึ่งที่กําลังมองไปรอบ ๆ ด้วยสายตาหวาดกลัวที่สุดนั่นก็คือคาเรียตัวอ่อนไมโคนิดที่ไอเซ็นฝึกให้เชื่องเมื่อไม่นานมานี้ที่กําลังนั่งอยู่บนไหล่ของเขาไอเซ็นหัวเราะเบา ๆ และลูบหมวกเห็ดทําให้เธอเงยหน้ามองเขาก่อนจะเอนกายแนบชิดใบหน้าเขาอย่างที่เคยทําเพื่อเป็นการกอดไอเซ็น
ไอเซ็นยิ้มและมองไปยังโรงแรมข้างหน้าที่กําลังใกล้เข้ามาในระยะการมองเห็นเรื่อย ๆ ในที่สุดพวกเขาก็มายืนตรงหน้าโรงแรมไอเซ็นหันกลับมามองบรี“เธอช่วยเข้าไปถามเจ้าของให้หน่อยได้ ไหมว่าพอจะมีห้องที่มีพื้นที่เพียงพอสําหรับสัตว์พวกนี้แล้วก็ตัวฉันด้วย? ฉัน จะรออยู่ตรงนี้เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้นกับพวกมัน”
เฟย์คินพยักหน้ารับและขอกระเป๋าคืนจากไอเซ็นก่อนจะตรงเข้าไปข้างในปล่อยให้ไอเซ็นและบรรดาสัตว์ยืนรออยู่
ข้างนอก
ในตอนนั้นเองใครบางคนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีได้เดินผ่านมา
“โอ้ ตาเฒ่า! เป็นยังไงบ้าง?” เบลริมขุนนางแห่งเมืองเมลโรถามด้วยการใช้มือท้าวเอวก่อนจะมองสัตว์ต่าง ๆ ที่รายล้อมรอบตัวไอเซ็น“หา? ฉันคิดว่านายคือช่างเสียอีกตอนนี้เป็นคนฝึกสัตว์ไป แล้วเหรอ?”เบลริมเปล่งเสียงออกมาด้วยความแจ่มชัดว่าเขารู้สึกประหลาดใจ
ไอเซ็นหัวเราะเบา ๆ และพยักหน้า “ใช่แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะฉันยังเป็นช่างอยู่ตอนที่ออกไปนอกเมืองพร้อมกับบรีก็บังเอิญเจอพ่อหนุ่มคนนั้นเข้าเขาเป็นนักฝึกสัตว์และสัตว์ทุกตัวที่อยู่ตรงนี้ทั้งหมดล้วนมีเขาเป็นผู้ครอบครองแต่ยกเว้นแม่สาวคนนี้นะ”ครึ่งยักษ์ครึ่ง คนแคระอธิบายและหัวเราะออกมาขณะถือคาเรียไว้บนฝ่ามือ
เบลริมขมวดคิ้วเล็กน้อยและเอนกายไปข้างหน้าเพื่อมองสิ่งมีชีวิตในร่างไม้ ของมนุษย์วานรที่อยู่บนหลังหมีดํา“คาเฒ่า แน่ใจนะว่าไม่ได้แกะสลักสิ่งนี้ขึ้นมาช่วยต่อสู้น่ะ?”
“ฮ่า ๆ เปล่าเบลริม ฉันมั่นใจว่าไม่ได้ทําอย่างงั้นแน่เขาชื่อว่าเจี๊ยก และเขา เป็นเหมือนฉัน ค่าประสบการณ์หายไปทั้งเขาและฉันจะเข้าสู่สภาพรูปปั้นตอนหลับบรีบอกว่ามันเป็นเรื่องของการ ป้องกันที่จะเกิดขึ้นเมื่อเรามีเลเวลสูงหรืออะไรทํานองนั้นเจี๊ยกจะกลายเป็น ไม้ ส่วนฉันจะกลายเป็นโลหะ”ไอเซ็นอธิบายอย่างรวดเร็ว และเบลริมก็พยักหน้า
“โอ้…? งั้นก็หมายความว่านายเลเวลสูงแล้วสินะ?น่าสนใจจริง ๆ..” คนแคระพึมพําในการคิดแต่แล้วก็ยักไหล่“ถ้าเป็นอย่างงั้นดูเหมือนว่านี่จะคุ้มค่ากับ
โมยค่าประสบการณ์ไปสินะ”
“แน่นอนที่สุด ฮ่า ๆ” ไอเซ็นหัวเราะและเกาเคราพร้อมหลับตาและเผยรอยยิ้มออกมา
“ฉันต้องไปก่อนล่ะ ไว้กลับมาที่นี่ก็แวะมาที่บ้านฉันได้นะ” เบลริมหัวเราะและโบกมือให้ไอเซ็นกับบรรดาสัตว์ขณะกําลังมุ่งหน้าลงไปยังเหมืองด้านล่างเมือง
ในเวลาที่ใกล้ ๆ กัน บรีก็กลับมาและมองไอเซ็น“เข้ามาเลยค่ะ! เจ้านายเอ่อ… เจ้าของโรงแรมบอกฉันว่าให้คุณพักที่ห้องใหญ่ชั้นล่างค่ะห้องน่าจะใหญ่พอสมควรเลยนะคะ!ส่วนเรื่องราคา… แพงกว่าห้องปกติเล็กน้อยค่ะ” เธออธิบายและไอเซ็นก็พยักหน้า
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันก็ไม่ได้คิดว่ามันจะถูกกว่าห้องธรรมดาอยู่แล้ว!” ไอเซ็นพูดและหันไปหาบรรดาสัตว์เพื่อบอกพวกมันว่าถึงเวลาที่ต้องเข้าไปข้างในแล้ว
พวกมันเดินตามไอเซ็นเข้าไปข้างในด้วยความเฉื่อยชาราวกับเหนื่อยล้ามาก ๆและไม่นานก็มาถึงห้องพักขนาดใหญ่มีโซฟา เตียงและเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ อีกก่อนที่จะให้สัตว์ได้นอนพักไอเซ็นได้ขยับย้ายเฟอร์นิเจอร์รอบ ๆ เพื่อสร้างพื้นที่ให้พวกมันและปูพื้นด้วยผ้าห่มไว้รอบๆพรมกลางห้องเพื่อให้พวกมันได้มีพื้นที่พอสําหรับการนอน
“บรี ในห้องมีสองเตียงเธออยากพักด้วยกันที่นี่ไหม? จะให้เลี้ยกนอนกับบรรดาสัตว์ของเขาเพราะขนของยามิคุมะก็ดูน่าจะนุ่มสบายเอาล่ะเนื่องจากฉันต้องออกไปจบภารกิจที่ค้างคาอยู่และไม่รู้ ว่าจะได้กลับมาเมื่อไหร่ซึ่งวิธีนี้น่าจะเป็นวิธีที่ดีให้เธอคอยช่วยตรวจดูสัตว์พวกนี้ให้ทีจนกว่าเจี๊ยกจะตื่นขึ้นมาโอเคไหม?” ไอเซ็นพูดแนะนําและนั่งลงบนเตียงหลังจากที่ยามคุมะสลัดเลี้ยกลงบน พรมกลางห้อง
หากเพียงแค่ดูก็คงว่าแปลกที่ร่างกาย ของเลี้ยกยังเคลื่อนไหวได้เหมือนกับร่างกายปกติมันเพียงแค่… แปลกกว่าและเชื่องช้ากว่า เขาตกลงมาบนพื้นและนิ่งอยู่กับที่เหมือนกับเขาแค่กําลังหลับอยู่ เท่านั้น
ทันทีที่เห็นเจ้านายนอนตัวติดกับพื้นยามิคุมะและซีริชิกะก็หมอบลงข้างกาย เขาและผล็อยหลับไปในทันทีส่วนนก อินทรีก็เข้ามาแทรกในช่องว่างระหว่างเลี้ยกและสัตว์ตัวอื่นๆ
บรียิ้มอย่างสดใสเมื่อเห็นภาพนี้พร้อมพยักหน้า“โอเคค่ะ! พรุ่งนี้แล้วใช่ไหมคะ? ระวังตัวด้วยนะคะ”เธอเปล่งเสียงและนั่งลงบนเตียงส่วนไอเซ็นก็ยิ้มเล็กน้อยและเอนกายลงนอน
“ไม่ต้องห่วงนะฉันจะระวังตัวราตรีสวัสดิ์บรี!”เขาพูดด้วยรอยยิ้มและรีบถอดเกราะหนังออกทันทีภายใต้ผ้าปูเตียงและจากนั้นก็มองคาเรียที่กําลังนอนอยู่บนหน้าอกโดยใช้เคราของเขาเป็น
หมอน
“ราตรีสวัสดิ์ค่ะไอเซ็น!”บรตอบกลับและทิ้งตัวลงนอนเช่นกัน
และเช่นนั้นเองทุกคนต่างได้ใช้เวลาหลับพักผ่อนอย่างสบายนับเป็นคืนแรกโดยที่พักผ่อนได้โดยไรซึ่งความกังวลว่าจะมีก็อบลินยกโขยงกันเข้ามาโจมตีพวกเขา
“ฉันไปก่อนนะ! แล้วเจอกันบรี!” ไอเซ็นพูดด้วยรอยยิ้มและโบกมือให้บรี ในขณะที่กําลังมุ่งหน้าไปยังประตูทิศตะวัน ตกพร้อมกับคาเรียบนไหล่และกระเป๋าเป้ใบเล็กบนหลังที่เต็มไปด้วยเสบียงและ ยาขนาดต่าง ๆ พร้อมทั้งดาบสองมือที่พาดอยู่บนบ่าไว้สําหรับป้องกันเหตุฉุกเฉินในกรณีที่อาจพบกับมอนสเตอร์ระหว่างทางไปยังที่อยู่ของแมวตัวนั้น
“ระวังตัวด้วยนะคะไอเซ็น! แล้วพบกันค่ะ!”บรีตะโกนและโบกมือให้ชายแก่ใช้เวลาเดินผ่านเมืองไปไม่นานจากนั้นก็ ผ่านอุโมงค์ไปพร้อมกับคนใช้แรงงานกลุ่มหนึ่งซึ่งไอเซ็นเองก็ไม่รู้ว่าจุดหมายทางของพวกเขาคือที่ใด
ในเส้นทางของป่า ชัดเจนว่าจะเป็นสถานที่ที่มีต้นไม้ใบไม้อยู่รวมกันจํานวนมากแต่ภาพที่ปรากฏอยู่ ณ ตอนนี้กลับมีเพียงก้อนหินอยู่ตามจุดต่าง ๆ เต็มไปหมด
บางทีอาจจะมีเหมืองอยู่แถวนี้ที่นอกเหนือจากสองจุดหลักในเมือง ไอเซ็นคิดว่าน่าจะเป็นเช่นนั้นเพราะเขาเห็นคนงานนําพลัวติดมาด้วย
สิ่งนี้ย้ําเตือนให้ไอเซ็นที่จะซื้อพลั่วเพื่อจะได้นํามาลองขุดเหมืองในเกมดูบ้างว่ามันจะออกมาเป็นลักษณะแบบใดจากการเดินทางที่ผ่านมาในอดีตทําให้เขาได้รับเงินมาบ้างดังนั้นเขาจึงคุ้นชินกับอะไรแบบนี้แน่นอนว่าการได้รู้จักวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ เพิ่มขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องเสีย หาย
ย้อนกลับไปในวันที่พ่อของไอเซ็นฝึกเขาให้อยู่กับโลหะจนชินซึ่งมันก็ฝังลึกลงไปยังจิตใต้สํานึกของเขาไปแล้ว
ไอเซ็นสลัดความคิดนั้นออกไปและกลับมาตั้งสมาธิกับเส้นทางอีกครั้งเช้าที่ผ่านมาเขาได้พูดคุยกับบรีเจ้าของโรงแรมและผู้คนอีกสองสามคนถึงเรื่องตํานานท้องถิ่นหรือข่าวลือที่เกี่ยวข้องกับสิ่งลึกลับที่ซ่อนอยู่บนภูเขาสูงใกล้ ๆ เมืองแห่งนี้และชัดเจนว่ามีกรณีเช่นนี้นอยู่และทั้งข่าวลือหรือตํานานล้วนกล่าวถึงสถานที่สถานที่เดียวกัน ณ ยอดภูเขาที่สูงที่สุดที่ล้อมรอบเมืองเมลโรอยู่
นั่นเป็นสถานที่ที่บรีเคยถูกมิตรสหายทอดทิ้งไว้ที่นั่นในสายตาของไอเซ็นนี่จึงเป็นเหตุผลที่เขาไม่ให้เธอมาด้วยเพราะมันอาจจะเป็นการทําร้ายจิตใจเธอทางอ้อม
ดังนั้นไอเซ็นจึงตัดสินใจที่จะไปโดยมีเพียงแค่คาเรียเป็นเพื่อนร่วมทางไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่คิดว่าเธอจะห่างจากเขาเป็นไปได้ ในฐานะมอนสเตอร์ที่ผ่านการฝึกแล้วของเขา
และเขาก็หวังว่าสิ่งที่เขาจะได้พบเร็ว ๆนี้จะไม่ว่าอะไรเขาที่เพื่อนตัวน้อยผู้ที่ไม่เป็นอันตรายต่อใครมาในวันนี้ด้วย!ซึ่งก็แน่นอนที่ไอเซ็นหวังว่ามันจะเป็นเช่นนั้น! เนื่องจากดูเหมือนว่าการวิวัฒนาการของมอนสเตอร์จะมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปซึ่งเขาจะตัดสินใจด้วยตัว เองเพื่อให้มั่นใจว่าคาเรียจะเลือกเส้นทางที่จะคงความน่ารักน่าชังของเธอเช่นนี้ต่อไป
ไอเซ็นทําตามคําอธิบายอยู่ใกล้กับเส้นทางนี้เข้าไว้ซึ่งจะนําเขาขึ้นไปบนภูเขาในตอนเริ่มต้นภูเขายังไม่ชันนัก มันจึงเหมือนกับการเดินเล่นผ่อนคลายเสียมากกว่าแต่ไม่นานเส้นทางก็เริ่มสูงชั้นจนบางจุดต้องใช้วิธีการปีนซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด
หลังจากปีนป่ายไปตามเส้นทางแบบไม่หยุดร่วมสองชั่วโมง ไอเซ็นก็หยุดเพื่อมองแวดล้อมโดยรอบจากจุดที่เขาอยู่เขาสามารถเห็นเมืองเมลโรได้ทั้งเมือง!เขามองเห็นโรงแรมรวมทั้งสถานที่ที่เขาพบกับเหล่าปรมจารย์ที่มอบทักษะต่าง ๆ ให้แก่เขาและแม้แต่จุดที่อยู่กันสุดของเมืองซึ่งเป็นจุดที่เขาต่อสู้กับเฮนดริก
ไอเซ็นนั่งลงบนก้อนหินที่อยู่ใกล้ ๆ ด้วยรอยยิ้มขณะนั่งเอามือทั้งสองข้าง
ท้าวคาง คาเรียพยายามเลียนแบบเขาเมื่อได้เห็นแต่กลับร่วงลงไปเมื่อเธอพยายามใช้หมวกท้าวบนมือที่ไม่มีอยู่จริง
ไอเซ็นหัวเราะ จากนั้นก็คว้าเธอขึ้นมาวางบนไหล่อีกครั้ง “ระวังหน่อยสิ!เดี๋ยวก็เจ็บตัวเข้าหรอกคาเรีย”เขาพูดและ มองตรงไปยังทิวทัศน์ข้างหน้า
ไม่นานหลังจากนั้น ไอเซ็นก็ยืนขึ้นและยืดเส้นสายเล็กน้อยก่อนจะเริ่มปีนภูเขาต่อ
เมื่อปืนไปได้สักระยะหนึ่งไอเซ็นก็พบกับอุปสรรคใหญ่ซึ่งเป็นสิ่งที่ร่างกายจริง ๆของเขาไม่สามารถที่จะเอาชนะมันได้เลยเนื่องจากเขาต้องปีนขึ้นไปบนหน้าผาที่ให้ความรู้สึกไม่ต่างไปจากการกําแพงแนวตั้งระยะทางเหลือเพียงไม่กี่เมตรซึ่งมันก็ไม่ได้มากมายนักหากพิจารณาถึงความแข็งแกร่งและความคล่องแคล่วที่เขามีมันแทบจะไม่เป็นปัญหาเลยด้วยซ้ําแต่มันก็กวนจิตใจไอเซ็นเนื่องจากแทนที่เขาจะได้เดินเพียงไม่กี่เมตรกลับต้องมายกตัวเองขึ้นไป เหนือกําแพง
แต่อย่างน้อยอุปสรรคนี้ก็ทําให้เขาปืนได้เร็วกว่าที่เขาคิดไว้ เพียงไม่นานเขาก็พบกับเส้นทางใหม่
ไอเซ็นถอนหายใจจากนั้นก็เดือนตามเส้นทางไปไม่กี่ร้อยเมตรจนกระทั่งมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าพื้นที่ยกระดับที่สูงเกินกว่าเขาจะเห็นทุกอย่างรอบ ๆ ภูเขาในระยะใกล้ได้
มันช่างเป็นภาพทิวทัศน์ที่งดงาม!จากนั้นไอเซ็นก็มองรอบ ๆ ทางเข้าถ้ําขนาดใหญ่ที่มีความผิดเป็นแกนกลาง
“ฉันคิดว่าคงเป็นที่นี่นะ” ไอเซ็นพูดกับเพื่อนตัวน้อยของเขา ตัวเธอสั่นบนขาเล็ก ๆ ทั้งสองข้าง
และในตอนนั้นเอง ไอเซ็นก็ถูกกระแทกเข้าอย่างแรงทั่วทั้งร่างกาย และมีความคิดหนึ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวเขาเป็นความคิดที่จู่ๆก็ปรากฏขึ้นมาโดยไม่คาดคิดแต่ขณะเดียวกันก็พุ่งเข้าชนเอาอย่างแรงเหมือนกับถูกรถไฟชนเข้าอย่างจัง!ความคิดที่เขาได้ยินเพียงแค่ เสียงในหัว!
“โอ้… คาเรียกับขาน้อย ๆ นั่นน่ารักจังเลยนะ…”
MANGA DISCUSSION