บทที่ 47 มื้อเช้า
“ตื่นแล้วเหรอ?” ไอเซ็นถามขณะออกมาจากเต็นท์ เมื่อพบบรีกําลังจัดเตรียมสัมภาระ เธอหันมาเมื่อได้ยินเสียงของชายแก่และยิ้มให้เขา
“อื้ม! ฉันไม่ได้นอนเยอะเท่าไหร่ค่ะ แล้วคุณล่ะคะ หลับสบายไหม?” บรีถามด้วยรอยยิ้มที่สดใสขณะเริ่มจัดสัมภาระอีกครั้ง
“ดีนะ หลับลึกสุด ๆ เลยล่ะ” ไอเซ็นยิ้มและช่วยบรีถอดประกอบเต็นท์ เมื่อเสร็จ ไอเซ็นก็ถามเธออีกคําถาม “เธอคิดว่าวันนี้เราจะเจอก็อบลินประเภทไหน?”
เธอเอามือทาบแก้มและเงยหน้าเล็กน้อยขณะกําลังคิด “ฮืม.. เราน่าจะได้สู้กับพวกอันดับสองอีกนะคะ ยังคงเจอประเภทเดิม ๆอยู่ ที่ส่วนใหญ่เป็นก็อบลินประเภทนักรบ, อันธพาล, นักเวทย์ และ นักสู้ อาจเจอพวกก็อบลินหายาก เช่น ก็อบลินนักกวี เมื่อเจอพวกอันดับสามขึ้นไปคราวนี้ก็จะเจอก็อบลินหลากหลายประเภทแล้วค่ะ สมมติว่ามีก็อบลินนักเวทย์ อันดับสอง… เมื่ออันดับมันไต่ขึ้นไปถึงอันดับสาม มันก็สามารถเป็นได้ทั้ง ไพโรแมนเซอร์, อควาแมนเซอร์, เทอร่าแมนเซอร์ หรือแอโรแมนเซอร์ค่ะ ขั้นสุดท้ายของก็อบลินส่วนใหญ่ จะอยู่ที่อันดับสี่ค่ะ ก็อบลินคิงส์”
“อย่างงั้นเองเหรอ? งั้นตอนนี้ก็ถูกจํากัดอยู่แค่มอสเตอร์อันดับสองก่อนสินะ ใช่ไหม?” ไอเซ็นถามขณะกําลังเตรียมวัตถุดิบสําหรับมื้อเช้า และบริก็พยักหน้าเป็นการตอบ
“ค่ะ จนกว่าคุณจะถึงเลเวลห้าสิบ จากนั้นคุณถึงจะเริ่มล่ามอนสเตอร์อันดับสามได้ค่ะ ส่วนอันดับสี่กล่าได้ตอนเลเวลหนึ่งร้อยส่วนอันดับห้าก็ตอนเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบ ทบกันไปเรื่อย ๆ ค่ะ”
“เข้าใจแล้ว…งั้นดันเจี้ยนที่เธอพูดถึงก็มีมอนสเตอร์อันดับสามอยู่สินะ?”
บรีเอียงหัวและกอดอก “คือ… มอนสเตอร์ดันเจี้ยนจะต่างออกไปค่ะ… ดันเจี้ยนมีอันดับของตัวเอง ดังนั้นมอนสเตอร์ข้างในนั้นก็จะมีอันดับตามดันเจี้ยนที่พวกมันอยู่ค่ะ…. หมายความว่า ดันเจี้ยนอันดับสามก็จะพบมอนสเตอร์อันดับสามค่ะ แต่นั่นมันแค่ ทฤษฎีค่ะ พวกมันไม่มีอันดับจริง ๆหรอกค่ะ เนื่องจากพวกมันเป็นมอนสเตอร์ “ปลอม” อย่างเดียวที่พวกมันมีก็คือเลเวล ตัวอย่างเช่น. เอ่อ… ดันเจี้ยนอันดับสามก็จะมีมอนสเตอร์ในช่วงเลเวลห้าสิบถึงหนึ่งร้อยอาศัยอยู่ มันเหมือนกับความแข็งแกร่งที่คนเรามีน่ะค่ะ ข้างนอกไม่มีมอนสเตอร์เลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบ แต่กลับมีอยู่ในดันเจี้ยนอันดับห้า พอเข้าใจไหมคะ?”
“ก็พอจับใจความได้อยู่นะ คงต้องไปเห็นของจริงจะได้เข้าใจมาก กว่านี้ใช่ไหมล่ะ?”
“ใช่ค่ะ!”
ไอเซ็นยิ้มและมองวัตถุดิบตรงหน้า หากเขามีเวลาพอก็จะทําเบคอน แต่อย่างน้อยต้องใช้เวลาถึงสองวัน แม้จะเร็วกว่านั้นเพราะระบบเกมก็ตาม ดังนั้นเบคอนจึงยังไม่ใช่ตัวเลือก ณ ตอนนี้ สองสามวันที่จะถึงนี้ไอเซ็นต้องรีบใช้เนื้อหมูป่าให้หมดก่อนที่มันจะเน่าเสีย แน่นอนว่าคาถาของบรีช่วยยืดอายุอาหารออกไปได้ แต่มันไม่ได้ตลอดกาล
มันจะไม่ได้เป็นเบคอนจริง ๆ แต่ไอเซ็นยังคิดอยู่ว่า ที่เขาได้ก็น่าจะเป็นสิ่งที่เรียกว่า เบคอนจําลอง ดังนั้นเขาจึงหยิบส่วนหน้าท้องพร้อมด้วยสมุนไพรและเครื่องเทศ และมีดทําครัว
เขาหยิบกระเทียมมากําหนึ่งและทุบด้วยข้างมีด จากนั้นก็สไลด์หัวหอมเป็นชิ้นเล็ก ๆ เนื่องจากเขาชอบกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของถั่วที่ใช้ทําสลัดเมื่อวาน ทั้งหอมและหวาน เขาจึงนําถั่วมาบดจนละเอียดเป็นผง เขานําส่วนผสมใส่ลงชามและเติมเกลือ, พริกไทย และ น้ําลงไปผสม ตามด้วยน้ําตาลขาวอีกเล็กน้อย ปกติแล้วเขามักเลือกใช้น้ําตาลทรายแดงแทนน้ําตาลทรายขาว แต่เนื่องจากไม่เจอที่ร้านค้าเบ็ดเตล็ดในเมือง เมื่อเสร็จ ก็ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันและนําเนื้อส่วนท้องไปคลุกเคล้ากับส่วนผสมในชาม ขณะกําลังมองหาส่วนเพิ่มเติมสําหรับมื้อเช้าวันนี้
“นี่บรี รออยู่นี่นะ เดี๋ยวฉันมา”
“โอ้ได้ค่ะ! ระวังตัวด้วยนะคะ!”
“รับทราบ!” ไอเซ็นหัวเราะคิกคักขณะเดินไปหาต้นไม้ที่มีรังนกอยู่ข้างบน เขาใช้เวลาไม่นานจนพบกับต้นหนึ่ง และไม่ได้สูงมากนัก ไอเซ็นพกดาบมาด้วยเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นภายในป่าที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ จากนั้นก็เคาะรังนกบนต้นไม้ เมื่อเห็นไข่ที่อยู่ในรังก็เกิดความพอใจ ในนั้นมีไข่อยู่ด้วยกันหกใบ ซึ่งขนาดเล็กกว่าไข่ไก่เล็กน้อย
ไอเซ็นรู้สึกไม่ดีอยู่บ้างที่ทําเช่นนี้ แต่นี่ก็แค่อีกครั้งหนึ่งเมื่อนับจากการล่าที่เขาทํามาหลายวัน ซึ่งสิ่งนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร
เขานําไข่กลับมาที่แคมป์ จากนั้นก็ก่อไฟในทันทีและตั้งขาตั้งตามด้วยกระทะ แล้วใส่น้ํามันลงไปเล็กน้อย ขณะที่เนื้อส่วนท้องยังคงแช่อยู่ในส่วนผสม ไอเซ็นก็คิดว่าจะนําไข่ไปทําอะไรดี เขาทําไข่เจียวได้ แต่หากจะให้ออกมาเป็นไข่เจียวที่ขนาดสมบูรณ์คงต้องใช้ไข่เพิ่ม
เสียงเปลือกไข่แตกจากการถูกกะเทาะ แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เข้ากันกับเบคอนสุด ๆ นั่นก็คือ ไข่ดาว!
แต่เนื่องจากไข่ดาวนั้นทําเสร็จได้ไวกว่าเบคอน ไอเซ็นจึงไปช่วยบรีจัดการสัมภาระ ปล่อยให้เนื้อส่วนท้องยังคงซึมซับส่วนผสมในชามต่อไป
เมื่อพวกเขาจัดเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ไอเซ็นก็หยิบเนื้อหมูป่าออกมาเสด็จน้ําจากส่วนผสมในชาม แล้วนําผ้าสะอาดมาซับความชุ่มชื้นส่วนเกินจากเนื้อออกทีละน้อย ๆ
หลังจากนั้น ไอเซ็นก็หยิบมีดและสไลด์อย่างระมัดระวัง จากนั้นก็นําไปวางเรียงซ้อนกันในจาน เขาเสียใจที่ไม่สามารถนํามารมควันก่อน ซึ่งก็ไม่ได้ใช้เวลานาน แต่ยังเหลือเนื้อเยอะพอที่จะนําไปทําเบคอนได้เมื่อไอเซ็นมีเวลาว่าง
ไอเซ็นนําเบคอนจําลองไปวางไว้บนกระทะและยิ้มเมื่อได้ยินเสียงดังฉ่า จากนั้นก็เรียกบรี เพื่อบอกเธอว่ามื้อเช้าใกล้เสร็จแล้ว
เขาได้เบคอนมาจํานวนหนึ่งซึ่งพอที่จะทําให้เขาและบรีอิ่มท้อง เขานํามาวางลงบนจาน ต่อมาก็ตอกไข่สองใบลงที่ขอบกระทะ เมื่อไข่สุก ก็นําไปใส่จานของตัวเองและของบรี ต่อมาก็เตรียมไข่อีกสองใบพร้อมด้วยเบคอนอีกจํานวนหนึ่ง แล้วนําไข่ที่เหลืออีกสองใบกับเบคอนดิบหลบไปด้านข้าง
ขณะที่เขากําลังนั่งลงที่โต๊ะ ไอเซ็นก็ดูการแจ้งเตือนข้อมูลอาหาร ที่เพิ่งปรากฏขึ้นมา
[เบคอนจําลองจากเนื้อหมูป่า]
[คุณภาพ – สูงสุด] [อันดับ – 0]
[คําอธิบาย]
เบคอนที่ทํามาจากเนื้อหมูป่าส่วนท้อง เนื่องจากขั้นตอนการปรุงไม่กี่ขั้นตอน หรือลัดขั้นตอน จึงไม่กลายเป็นเบคอนจริง ๆ ได้ แต่รสชาตินั้นเยี่ยมอย่างที่ควร
[ไข่ดาวจากไข่นกฟินช์ภูเขา]
[คุณภาพ – สูง] [อันดับ – 0]
[คําอธิบาย]
ไข่ของนกฟินซ์ภูเขาที่ผ่านกรรมวิธีจนกลายเป็นไข่ดาว
ไข่นกฟินช์เหรอ? ไข่มันน่าจะเล็กกว่านี้ไม่ใช่เหรอ? บางทีนกฟินช์ภูเขาของเกมนี้อาจจะตัวใหญ่กว่าปกติก็ได้
ไอเซ็นยักไหล่เพื่อปัดความสงสัยเหล่านั้นทิ้งไปเนื่องจากมันก็ไม่ได้สําคัญอะไรมาก และที่นี่คือโลกที่เต็มไปด้วยเวทมนต์ บางทีนกฟินธ์ภูเขาก็แค่นกฟินชน์ธรรมดาที่วิวัฒน์ด้วยผลของมานาธาตุดินก็เป็นได้ จากสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับการวิวัฒนาการของสัตว์ นี่อาจเป็นสมมติฐานบนพื้นฐานของความเป็นจริง แต่เขาเองก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่นัก
แต่ตอนนี้คือเวลาสําหรับ มื้อเช้า ของไอเซ็นและบรี
ไอเซ็นกระโดดหลบการโจมตีที่พุ่งเข้ามาหาเขา และบิดลําตัวไปด้านข้างเพื่อให้วาดดาบไวขึ้น จนฟันแขนของก็อบลินนักสู้ขาดลงตรงหน้า ขณะที่ก็อบลินล้มลงกับพื้นและใช้มือข้างที่เหลือประคองบาดแผลเอาไว้ ไอเซ็นก็รู้สึกว่ามีบางอย่างเสียบเข้าที่กลางหลังของเขา มันไม่ใช่ความเจ็บปวดเสียทีเดียว แต่มันคือความรู้สึกอึดอัดและเสียวซ่านแบบสุด ๆ
“เวรเอ๊ย!” เขาตะโกนลั่นขณะดูการแจ้งเตือนตรงขอบตาที่แจ้งความเสียหายที่เขาเพิ่งได้รับ
ไอเซ็นกระโดดไปข้างหน้าขณะที่บรีตะโกนชื่อคาถาเพื่อควบคุมเจ้าก็อบลินที่เพิ่งใช้กริชเล็ก ๆ แทงชายแก่ ซึ่งตอนนี้มันก็ยังคาอยู่ที่หลังเขา
เมื่อพยายามจะไม่สนใจอาการปวดที่ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไอเซ็นก็ถีบก็อบลินอันธพาลกระเด็นจนมันเสียหลักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็วาดดาบลงสะบั้นหัวของก็อบลินแยกออกเป็นสองซีก
จังหวะสุดท้าย ไอเซ็นก็ใช้ดาบสองมือแทงก็อบลินนักสู้ที่นอนอยู่บนพื้นเพื่อปลิดชีพมันในทันที จากนั้นก็ลูบสร้อยคอและหันไปหาบรีที่ตะโกนเรียกเขา
[คุณเลเวล 37]
“พวกมันตายหมดแล้ว เธอช่วยหน่อยสิ ฉันเอื้อมไม่ถึงกริช” เขาพูดและบรีก็พยักหน้าจากนั้นก็วิ่งไปหาเขาเพื่อดึงกริชที่ปักอยู่ที่กลางหลังของไอเซ็นออกอย่างช้าๆ
“นี่ยาค่ะ!” บรีพูดและแสดงทรงกลมขนาดเท่าลูกแก้วสีแดงให้เขา เขารับไว้และโยนเข้าปากในทันที ขบให้แตกด้วยฟันแล้วกลืนลงไป จนรู้สึกว่าความเจ็บปวดนั้นได้รับการบรรเทาอย่างทันทีทันใด
“ขอบใจนะ ฉันคิดอะไรดี ๆ ออกแล้ว มันอาจจะฟังดูเสียงหน่อย แต่เราไปพื้นที่ก็อบลินอันดับสามกันเลยไหม? ค่าสถานะของฉันน่าจะเทียบกับคนที่เลเวลห้าสิบได้แล้วนะ ถ้าไปที่นั่นฉันคงเลเวล เพิ่มขึ้นเร็วกว่านี้ ว่างั้นไหม?”
บรีมองไอเซ็นด้วยรอยยิ้มที่ค่อนข้างขัดแย้งจนเธอพยักหน้าเบา ๆ “ก็น่าจะเป็นความคิดที่ดีนะคะ แต่มันจะยากและยากกว่ามาก ๆ เลยนะคะ คุณจะได้รับความเสียหายมากกว่าที่ได้รับตอนนี้อีกหลายเท่าตัว กริชไม่ได้สร้างความเสียหายขนาดนั้นใช่ไหมล่ะคะ?”
“ก็ไม่เท่าไหร่นะ เสียเลือดไปแค่ห้าสิบหน่วยเอง” ไอเซ็นหัวเราะคิกคัก และบรีก็ดูเหมือนจะเปิดหน้าต่างทักษะขึ้นมา อาจเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับทักษะฐานข้อมูลของเธอ และดูข้อมูลที่เธอมีเกี่ยวกับเรื่องพื้นที่
“อืม… ฉันมีความคิดดี ๆ แล้วค่ะ คุณบอกว่าคุณมีภารกิจหนึ่งซึ่งคุณต้องเพิ่มเลเวลให้มากเอาไว้ ถูกไหมคะ? งั้นเราไปต่อกันที่ดันเจี้ยนก็ได้ค่ะ แต่ฉันเคารพการตัดสินใจของคุณ ฉันแค่เสนอทางเลือกเพิ่มเติมเท่านั้น” บรียิ้มและประสานมือไว้ด้านหลังขณะกําลังรอให้ ไอเซ็นตัดสินใจ
เขาหลับตาลงเพื่อคิดและเกาเครา แน่นอนว่าเขาสนใจว่าดันเจี้ยนจะหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ก็ได้รับความรู้สึกกับการต่อสู้กับก็อบลินแล้วว่าเป็นอย่างไร เลือกสู้กับก็อบลินต่ออาจเป็นความคิดที่ดีเพื่อที่เขาจะได้คุ้นชินกับพวกก็อบลินมากขึ้นกว่าเดิม
“งั้นไปสู้กับก็อบลินอันดับสามกันดีกว่า” เขาพูดแนะนํา และบรีก็พยักหน้าเป็นการยืนยัน
“โอเคค่ะ!” เธอพูดด้วยรอยยิ้มกว้างที่ปรากฎบนใบหน้า
ไอเซ็นหัวเราะเบา ๆ และมองเพื่อนวัยใสของเขา “งั้นลุยกันเลย!”
MANGA DISCUSSION