บทที่ 43 ผู้บุกเบิกแห่งการอยู่อาศัย (2)
“อรุณสวัสดิ์เจี๊ยก” บาร์กมนุษย์หมีทักทายเมื่อเห็นเจี้ยกเดินล งมาจากบันไดในบ้าน หลังจากเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับค่าประสบการณ์ที่หายไปได้รับการจัดการแล้วนั้น บาร์กก็ยินดีอย่างมากที่จะให้เจี๊ยกได้มาอยู่ชั่วคราวเพื่อคิดสิ่งที่จะทําต่อไป
อย่างแรก เจี๊ยกได้เรียนรู้ทักษะสองสามอย่าง ทักษะแรกที่ได้ มาก็คือ ทักษะธรรมชาติของเดียรัจฉาน ซึ่งได้รับการปลดล็อคทันทีที่น้องสาวของเอสกี้พยายามดึงค่าประสบการณ์ของเจี้ยกกลับคืนมามันคือทักษะติดตัวของเหล่าครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์ทุกคนและทําให้คุณสมบัติธรรมชาติของบุคคลนั้นสูงขึ้นระยะเวลาหนึ่งแต่อิทธิพลจริง ๆ ของทักษะดูเหมือนจะขึ้นอยู่กับประเภทของสัตว์ที่บุคคลนั้นๆเป็น
ตัวอย่างเช่น ความแข็งแกร่งของบาร์กเพิ่มขึ้นรวมทั้งประสาท สัมผัสของเขาด้วย และเมื่อใดก็ตามที่เขาเปิดใช้งานทักษะร่างกายของเขาก็จะเหมือนหมีมากขึ้นมีขนปกคลุมทั่วร่างกายมากขึ้นส่วนของใบหน้าเองก็จะมีลักษะแบบเดียวกับหมี
ในกรณีของเจี๊ยกเนื่องจากเขาเป็นมนุษย์วานร ก็จะ เพิ่มในส่วนของ ความเร็ว เนื่องจากอันดับทักษะยังไม่สูงพอ รูปลักษณ์ภายนอกของเขาจึงยังไม่เปลี่ยน แต่เขาก็มั่นใจว่ามันจะ เกิดผลอย่างแน่นอนหากใช้ทักษะไปเรื่อย ๆ
ทักษะถัดไปที่เลี้ยกได้เรียนรู้ก็เป็นอีกหนึ่งพื้นฐาน ทักษะการป ระเมิน ในช่วงแรก ทักษะจะบอกเขาแค่ข้อมูลทั่วไปแต่เมื่อถึงอันดับหนึ่ง เขาก็จะได้รับข้อมูลเพิ่มขึ้นแต่เป็นข้อมูลที่ไม่จําเป็นต้องรู้ เขาจะเพิ่มอันดับทักษะต่อไปเรื่อยๆเพื่อให้ได้ข้อมูลของสัตว์และ มอสเตอร์นานาชนิดที่มากขึ้น นอกเหนือจากทักษะการประเมินเขายังเรียนรู้ ทักษะพฤกษศาสตร์มันเป็นทักษะที่เฉพาะเมื่อได้ประเมินพืชนานาพันธุ์
จากนั้นเจี้ยกก็ยังได้เรียนรู้ทักษะทั่วไปอื่น ๆ อีก อย่างเช่นทักษะการจัดการมานา และทักษะการทําอาหาร
และในการเตรียมการสําหรับวันนี้ ในวันแรก เขาจะออกนอกเมีองเพื่อไปล่าทั้งนี้เขายังได้เรียนการต่อสู้โดยใช้กระบองและฝึกอยู่ที่โดโจ (สถานที่ ๆ ใช้ฝึกวิถีทางต่าง ๆ) เป็นระยะเวลาสองสัปดาห์ในเกมมันค่อนข้างเป็นเวลาที่นาน เพราะเลี้ยกต้องไปทํางานถึงแปดชั่วโมงต่อวันจากนั้นก็ต้องดูแลหลาย ๆ อย่างในอพาร์ทเม้นท์อีก
“อรุณสวัสดิ์บาร์ก” เจี๊ยกโค้งตัวไปด้านหน้าและนั่งลงฝั่งตรงข้ามโต๊ะและบาร์กก็วางแก้วชาลงตรงหน้าเขา
“ขอบใจ” พ่อหนุ่มลิงพูดด้วยรอยยิ้มและจิบชา บาร์กพยักหน้า และยิ้ม“แล้ววันนี้จะทําอะไร? นายบอกว่าจะออกไปนอกเมืองนี้ใช่ไหม?”
“ใช่ ฉันอยากรู้ว่าข้างนอกนั่นมีสัตว์อะไรบ้าง ฉันอดใจรอไม่ไหว แล้วจริง ๆ”เขาพูดด้วยความตื่นเต้น แต่บาร์กเพียงเกาท้ายทอยด้วยความกังวล
“คิดดีแล้วเหรอ? นายยังไม่มีอาชีพเลยด้วยซ้ํา เลเวลยังไม่ถึงสิ บห้าเลย และปัญหาเรื่องการนอนของนายก็ดูท่าจะเป็นปัญหาด้วยสิ”
“ฉันรู้ แต่นายไม่ต้องห่วงหรอกนะบาร์ก ฉันอาจหลับนานก็จริงแต่ฉันจะกลับมาก่อนมืดก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้วนะ”
“เอาเถอะ ๆ แต่ต้องรีบกลับมานะ ข้างนอกนั่นมีสัตว์ดุร้ายมากมายซึ่งพวกมันไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะกระโจนใส่ร่างที่หลับไหลของนายผลข้างเคียงจากค่าประสบการณ์ที่ถูกขโมยไปนี่เป็นปัญหาใหญ่จริง ๆ”
“ขอบใจนะบาร์กที่เป็นห่วง ฉันซึ้งใจจริง ๆ ที่นายคอยช่วยเหลื อตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา”
“แน่นอน ก็นายเป็นคนดี และฉันปล่อยให้นายนอนข้างถนนไม่ ได้ ที่นี่เราไม่มีโรงแรมเสียด้วยสิ”บาร์กพูดด้วยรอยยิ้มและลุกขึ้น จากนั้นก็เดินไปที่ห้องนอนเพื่อแต่งตัวพร้อมที่จะไปทํางาน
ไม่กี่นาทีต่อมา เขาก็ออกมาจากห้องในชุดเกราะหนัง “ฉันต้องไปเข้ากะแล้ว ล็อคบ้านให้เรียบร้อยด้วยล่ะจําได้ใช่ไหมว่าต้องทํายังไง? เทมานาใส่ประตู”
“ขอบใจนะบาร์ก แต่ฉันว่าจะออกไปพร้อมนายเลย!” เลี้ยกพูด ด้วยรอยยิ้มและยืนขึ้นหยิบกระบองไม้ที่วางพิงโต๊ะไว้พร้อมกับกระเป๋าหนังใบเล็กที่ซื้อมาด้วยเมื่อสัปดาห์ก่อนเพื่อไว้ใส่อาหารและ น้ําดื่ม
“ได้สิ งั้นไปกันเลย ฉันใกล้จะเริ่มงานแล้ว” บาร์กพูดด้วย รอยยิ้มและเดินไปรอเจียกที่ประตู
ทั้งคู่ตรงไปยังประตูเมืองที่เจี๊ยกและบาร์กพบกันครั้งแรก
“เอาล่ะ ระวังตัวด้วย ถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไรให้รีบวิ่งก ลับมาที่นี่ทันที โอเคไหม?ผู้คุมของเราจะจัดการที่เหลือให้เอง”
เจี้ยกพยักหน้ารับและออกจากเมือง มุ่งตรงไปยังปาทึบเพื่อตาม หาสัตว์ป่า แต่ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะฆ่าพวกมัน ไม่นะ หรือเขาจะลองทําอะไรบางอย่างกันแน่!
เขาจะลองฝึกพวกมันให้เชื่อง! นี่คือสิ่งที่เขาอยากทํามาก และ ขอให้ไพร์มอินดัสทรีพิจารณาสร้างระบบการฝึกสัตว์ให้เชื่องที่น่าฟังนี้ขึ้นมาด้วย
และตอนนี้เขาจึงอยากลองดูว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไรในเมื่อ บริษัทยืนยันทําตามคําร้องขอของเขาแล้วอย่างแรกที่เลี้ยกทําก็คือเปิดใช้งานทักษะติดตัว ตอนนี้อยู่ที่อันดับสองทั้งนี้ประสาทสัมผัสข องเขาก็คมชัดขึ้นในการตอบสนองต่อการเปิดใช้งานทักษะ
เขาหลับตาและสัมผัสได้ถึงลมที่พัดกระทบขนตามร่างกาย เขา ฟังเสียงของนกที่อาศัยอยู่ในป่า มาพร้อมกับเสียงร้องของสัตว์ป่าจากระยะไกลพวกสัตว์อาจได้รับบาดเจ็บจากการถูกจับ แต่ก่ อนอื่น เงียกคิดอยู่ว่าเขาควรจะจับนกอะไรอาจเป็นนกอินทรี พวกมันไม่ใช้พื้นที่มากไปซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องสําคัญ เพราะเขาไม่สามารถวิ่งไปทั่วเพราะถูกช้างป่าไล่
เจี้ยกเดินไปตามเสียงที่คล้ายกับเสียงของนกอินทรี ถึงแม้ว่าเสียง จะเล็กกว่าเสียงปกติก็ตาม
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็มาถึงต้นไม้ที่คาดว่านกอินทรี จะใช้ทํารังและหยิบเนื้อดิบชิ้นเล็กๆเพื่อใช้เป็นเหยื่อล่อนก
“ที่นี้ก็ต้องค่อย ๆ และเงียบ ๆ” เจี้ยกพึมพํากับตัวเองและ วางชิ้นเนื้อบนพื้นเพื่อรอให้นกอินทรีได้กลิ่น
ใช้เวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมงนกอินทรีก็โผล่ออกมาจากรัง แล้ วมันก็โผลงมาคว้าเหยื่อล่อทันทีและเช่นนั้นเองเจี๊ยกก็กระโดดพุ่งไปข้างหน้าและขว้างผ้าห่มที่เตรียมไว้สําหรับจับนกอินทรี
การปิดตามันไว้ทําให้มันสงบลง ซึ่งมันจะทําให้เจี้ยกเชื่อมโยงกับ นกได้ง่ายขึ้นและทําให้มั่นใจว่ามันจะไม่บินหนีขณะกําลังคิดว่าจะทําอะไรต่อไป
แต่ถึงกระนั้น เจี๊ยกก็ยังไม่รู้ว่าจะทําอะไรต่อ การฝึก ให้สัตว์เชื่องในเกมนี้ทํางานอย่างไร? การได้รับความเชื่อใจ? งั้นเขาก็จะลองให้อาหารมันดู
เมื่อคิดแล้วว่าสองสามวิธีที่เขาเลือกใช้จะไม่ทําให้มันบาดเจ็บ เจ็ ยกก็หยิบเนื้อก้อนหนึ่งแล้วฉีกเป็นชิ้นเล็กๆพอดีคําให้นกกิน
เจี๊ยกมัดผ้าห่มเข้าด้วยกันที่ช่วงล่างลําตัวอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ ให้นกสามารถบินหนีไปได้เมื่อเอาผ้าปิดตาออกแล้วเลี้ยกก็ค่อย ๆ ดึงผ้าที่คลุมหัวนกอินทรีออกและมันก็เริ่มส่งเสียงร้องทันที
มนุษย์วานรค่อย ๆ ใช้มือลูบหัวมันช้า ๆ เพื่อให้มันสงบลงและ ยื่นชิ้นเนื้ออีกชิ้นไว้ข้างหน้าปากของมันใช้เวลาสักพักกว่ามันจะเริ่มกิน หลังจากให้เพิ่มอีกสองสามครั้ง นกอินทรีก็ส่งเสียงร้องและดันหัวแทรกผ่านฝ่ามือของเจี้ยกเองโดยที่เขาไม่ต้องออกแรงลูบเลย
[ขอแสดงความยินดี! คุณฝึกนกอินทรีขนน้ําเงินสําเร็จ!]
[เรียนรู้ทักษะการฝึกสัตว์ให้เชื่อง]
ด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า เจี๊ยกจึงปลดผ้าห่มและนกอินทรีก็ส ยายปีกออก ทําให้เจี้ยกมองดูลักษณะมันได้ชัดเจนขึ้นขนทั้งตัวของมันเป็นสีน้ําเงินเข้มและมีขนาดใหญ่กว่าขนนกอินทรีทั่วไป
นกอินทรีกระโดดขึ้นมาบนไหล่เลี้ยกและใช้หัวของมันถูกับหัวข องเขา เจี้ยกมองเพื่อนใหม่ของเขาใกล้ ๆด้วยรอยยิ้มและขณะนั้นเองการแจ้งเตือนก็ปรากฏต่อหน้า
โปรดระบุชื่อสัตว์
“อืม… โอโทริ ดีไหม?”
ในการตอบสนองความคิดของเจี๊ยก นกอินทรีก็ส่งเสียงร้องอย่า งมีความสุขราวกับชอบชื่อที่เจ้านายใหม่เพิ่งตั้งให้มัน
โอโทริ ได้รับการตั้งชื่อเรียบร้อย]
โอโทริ]
[เผ่าพันธุ์ นกอินทรีขนน้ําเงิน] โผู้ครอบครอง – เจี๊ยก
(อันดับ – 0] [เลเวล – 67]
[เลือด – 100]
[ความแข็งแกร่ง – 26] [ความอดทน – 19] [ความคล่องแคล่ว – 35]
[ทักษะ]
-[กงเล็บพิฆาต] [อันดับ – 0] [เลเวล – 53]
“น่าสนใจดี มานี่โอโทริ ไปหาอะไรทดสอบความแข็งแกร่ งของแกกันดีกว่า” เจี้ยกยืนขึ้นและพับผ้าห่มเก็บเข้ากระเป๋าจากนั้นก็หลับตาฟังเสียงสัตว์ต่าง ๆ ที่อยู่ไกลออกไปไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงที่คล้ายกับกระต่ายไม่ไกลจากที่เขาอยู่มากนัก
แต่ก่อนที่เลี้ยกและโอโทริจะเดินทางออกไปไกล โอโทริกบินก ลับไปที่รัง
สําหรับเจี๊ยกมีคําอธิบายกับสิ่งนี้เพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น
โอโทริเป็นเพศเมีย!และดูเหมือนมันจะมีไข่อยู่ในรัง
เลี้ยกถอนหายใจเสียงดังและตามมันกลับไปที่ต้นไม้ เขาอยาก เห็นรังของมันหรืออย่างน้อยก็นําไข่กลับไปด้วยเขาไม่อยากพราก แม่ไปจากลูก!
เจี้ยกวางกระบองไว้ที่พื้นและปีนขึ้นไปบนต้นไม้ในชีวิตจริงเขา เป็นนักบินที่เก่ง แต่ที่นี่คือโลกของเกมและดูเหมือนมือของเขาจะติดเหนียวหนึบ จึงใช้เวลาไม่นานสําหรับการปีนขึ้นไปตรง ๆ ที่ ความสูงห้าเมตร
เมื่อปินมาถึงรังของโอโทริ เขาก็พบกับไข่ห้าใบ สี่ใบเป็นสีน้ําเงิน เข้ม ส่วนอีกใบเป็นสีแดงสดใบนี้น่าจะไม่ใช่ไข่ของโอโทริ แต่มันก็ ยังดูแลเช่นไขใบอื่น ๆ เจี๊ยกจึงรู้สึกแย่ที่จะพรากแม่ไปจากลูก ๆ ของมัน
หรือบางทีมันอาจจะเป็นคุณสมบัติเวทมนต์ที่นกอินทรีขนน้ําเงิ นวางไข่นกสายพันธุ์อื่นได้?อาจจะไม่ใช่ ซึ่งเจี้ยกก็ไม่สามารถบอก ได้ชัดเจนว่าผู้พัฒนาเกมเปลี่ยนอะไรในเกมไปบ้าง
ดังนั้นเจี้ยกจึงวางกระเป๋าไว้บนกิ่งไม้และนําไข่ของโอโทรไปวาง เหนือผ้าห่มที่เขาใช้จับมันปกติแล้วสัตว์ที่ถูกฝึกให้เชื่องจะตอบสน องต่อความกระวนกระวายเมื่อมีคนมาแตะต้องไข่หรือลูกของพวกมัน แต่โอโทริเพียงมองโดยไม่ได้ตอบสนองอะไรเลย จากนั้นก็นั่ง ลงเหนือกระเป๋าราวกับกําลังกกไข่เพื่อปกป้องจากสิ่งต่าง ๆ มันยังคงนั่งอยู่ขณะที่เจี๊ยกปืนลงมาจากต้นไม้
แต่เจี๊ยกก็เลิกสนใจและมุ่งหน้าตามหากระต่ายที่เขาได้ยินเสียง เมื่อครู่นี้
MANGA DISCUSSION