โชคชะตาที่ล่วงหล่น - ตอนที่ 8 รีบมาที่สนามเทนนิส
“การควบคุมของตระกูลถูกยกเลิกแล้ว ตอนฉันสามารถควบคุมทรัพย์สินของตัวเองได้และฉันก็สามารถใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วเช่นกัน ใช่ไหม?” ลู่หยวนถามคนในสาย
“ใช่ครับ ผมได้รับการแจ้งเรื่องนี้ไว้แล้วตั้งแต่เมื่อวาน ไม่คิดเลยว่านายน้อยจะโทรมาเร็วขนาดนี้ ฮ่า ๆ” น้ำเสียงของเหล่าเซี้ยงดูมีความสุขมาก
“เหล่าเซี้ยง ฉันต้องการข้อมูลของเชิ่งถังกรุ๊ปที่อยู่ในจินหลิง” ลู่หยวนกล่าว
“ได้เลยครับ ผมจะรีบตรวจสอบให้ทันที” เสียงของเหล่าเซี้ยงดูนิ่งสงบ “จินหลิงเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันเจียงหนาน ผมจะติดต่อไปยังสถาบันเจียงหนานเพื่อจัดการเรื่องนี้ทันที นายน้อยสามท่านมีข้อความอะไรจะให้ผมส่งถึงเชิ่งถังกรุ๊ปไหมครับ?”
“บอกพวกเขาว่าบริษัทจิ่วเจียงไม่ใช่บริษัทที่พวกเขาจะแตะต้องได้” ลู่หยวนกล่าว
“ครับท่าน”
“รีบไปจัดการให้เรียบร้อย”
“นายน้อยสามไม่ต้องห่วง ผมจะจัดการให้เสร็จภายในหนึ่งชั่วโมง”
“เยี่ยมมาก”
ดังคำกล่าวที่ว่า ผู้บังคับบัญชาขยับปาก ลูกน้องต้องวิ่งเต้น
เมื่อลู่หยวนวางสาย เหล่าเซี้ยงก็รีบใช้คอนเน็คชั่นของตระกูลติดต่อไปที่เจียงหนานทันที
ตอนนี้จินหลิงกลายเป็นวุ่นวายไปทั้งเมือง
เริ่มต้นที่โทรศัพท์ของสำนักงานจัดเก็บภาษีดังขึ้น
เมื่อเห็นหมายเลขผู้โทร ผู้อำนวยการหวงย่งชิงรีบวางเอกสารในมือลงและรีบรับสายทันที “สวัสดีครับ ผมหวงย่งชิง”
“ฉันคือเจียงชุนหนาน”
“ครับท่านประธานเจียง”
“ผู้อำนวยการหวง เชิ่งถังกรุ๊ปได้ไปกระตุกหนวดเสือเข้า… “
เจียงชุนหนานบอกใบ้ถึงความต้องการของลู่หยวน
“ไม่ต้องห่วงครับท่านประธานเจียง ผมจะรีบจัดการให้ทันที!”
หวงย่งชิงวางสายและสั่งลูกน้องของเขาให้เตรียมรถทันที เขาจะต้องไปที่เชิ่งถังกรุ๊ปด้วยตนเอง
“ผู้อำนวยการ ประธานหวังกำลังรอคุณอยู่ข้างนอก เขาต้องการพบคุณ” เลขาเดินเข้ามาและพูด
“ให้เขากลับมาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้” หวงย่งชิงโบกมือของเขาอย่างไม่ใส่ใจ
“แต่คุณหวังบอกว่าเขารอท่านมาเกือบสองชั่วโมงแล้วนะคะ”
“ฉันบอกว่าให้เขามากลับใหม่ในวันพรุ่งนี้!” หวงย่งชิงจ้องไปที่เลขา
ถึงจะไม่เข้าใจว่าประธานหวังนั้นต้องการอะไร แต่หวงย่งชิงรู้ดีว่าเขาควรให้ความสำคัญกับเรื่องของเจียงชุนหนานเป็นอันดับแรก หวงย่งชิงรู้ดีว่าเจียงชุนหนานนั้นลึกลับมากถึงเขาจะไม่ได้เป็นข้าราชการหรือนักธุรกิจ แต่เขาก็สั่งได้แม้กระทั่งนายกเทศมนตรีแห่งเมืองจินหลิง
เจียงชุนหนานได้บอกว่า เชิ่งถังกรุ๊ปกำลังคุกคามบริษัทจิ่วเจียง
บริษัทจิ่วเจียงเป็นเพียงบริษัทขนาดเล็ก หวงย่งชิงไม่เข้าใจว่าทำไมคนใหญ่คนโตอย่างเจียงชุนหนานถึงได้ใส่ใจกับบริษัทเล็กๆแบบนี้ แต่เขารู้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องถามเรื่องนี้ เพียงแค่ต้องทำตามเท่านั้น
หวงย่งชิงรับผิดชอบเกี่ยวกับภาษีอากร หากเขาเรียกเก็บภาษีจากบริษัทเชิ่งถังเพิ่ม จะมีผลกระทบต่อบริษัทเชิ่งถังเป็นอย่างมาก
ดังนั้นหวงย่งชิงจึงจะต้องไปที่เชิ่งถังกรุ๊ปเพื่อเตือนด้วยตนเอง
ลู่หยวนนั่งอยู่คนเดียวที่ริมทะเลสาบในมหาลัย
ที่นี่ค่อนข้างเงียบสงบ พื้นผิวทะเลสาบใส กิ่งหลิวพริ้วไหวไปมาตามสายลม สามารถมองเห็นอาคารเรียนสีขาวอยู่ไม่ไกลบางครั้งก็มีนกน้ำบินผ่าน รอบข้างเต็มไปด้วยเสียงลมพัดผ่าน
จู่ๆลู่หยวนก็รู้สึกว่าการเป็นโสดนั้นค่อนข้างดี ตอนที่เขาคบกับหลี่เมิ่งเหยาเธอค่อนข้างเอาเปรียบลู่หยวน เขาต้องจัดการทุกเรื่องให้เธอไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่
ลู่หยวนช่วยเธอซื้ออาหารลู่หยวนช่วยเธอซักเสื้อผ้าลู่หยวนช่วยเธอเขียนรายงานและแม้แต่ผ้าอนามัยลู่หยวนก็เป็นคนไปซื้อให้เธอ
ในตอนนั้นทุกๆเหตุการณ์ในชีวิตของลู่หยวนจะมีหลี่เมิ่งเหยาอยู่ด้วย
ตอนนี้กลับเงียบสงบ ลู่หยวนรู้สึกว่าเขาสามารถมีความสุขได้โดยที่ไม่ต้องมีหลี่เมิ่งเหยา
โทรศัพท์ดังขึ้น
มันไม่ได้มาจากเหล่าเซี้ยง
“เฮ้ ลู่หยวนมาที่สนามเทนนิสที่เขต 4 ฝั่งตะวันตกเดี๋ยวนี้เลย” ในโทรศัพท์เสียงผู้หญิงพูดด้วยน้ำเสียงสั่งการ
“ฉัน…”
“นายเป็นอะไร จะขัดคำสั่งฉันเหรอ? เร็วเข้าฉันจะพูดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น!” เธอวางสายไป
ลู่หยวนกำลังเพลิดเพลินกับความเงียบสงบในเวลานี้ เขาไม่อยากไป แต่ในที่สุดก็ลุกขึ้นและจากไป
สนามเทนนิสเขตสี่ตะวันตก
“คนเก็บบอลมาแล้ว!”
“ทางนี้ๆ เร็วเข้า!”
“ให้ตายเถอะ ฉันวิ่งทีละสามก้าวไม่ได้!”
เด็กชายและเด็กหญิงกลุ่มหนึ่งมองเห็นลู่จากระยะไกล พวกเขาก็กวักมือเรียกลู่หยวน
ในกลุ่มนี้มีสาวสวยสวมหมวกเบสบอลกางเกงวอร์ม Nike ขาสั้นสีชมพูและรองเท้า Converse คู่หนึ่งดูอ่อนเยาว์และสวยงาม
“ทำไมนายมาช้าจังฉันโทรไปตั้งแต่สิบนาทีที่แล้ว สนามเทนนิสที่นี้ค่าบริการชั่วโมงละตั้งห้าสิบหยวน เพราะนายมาช้าทำให้ทุกคนเล่นเทนนิสไม่ได้”
หญิงสาวจ้องไปที่ลู่หยวนอย่างตำหนิ
“ฉันขอโทษประธานฉันขอโทษ” ลู่หยวนพูด
สาวสวยคนนี้มีชื่อว่าไป๋หล่านเป็นประธานชมรมเทนนิส
คนอื่น ๆ รวมถึงลู่หยวนอยู่ในชมรมเทนนิส
“เอาล่ะไม่ต้องพูดอะไรมากแค่ยืนใกล้สนามแล้วเก็บบอลให้เรา!” ไป๋หล่านพูดโดยไม่สนใจลู่หยวนและทักทายคนอื่น ๆ “โอเคคนเก็บบอลมาแล้ว ทุกคนพร้อมที่จะเริ่มแล้วหรือยัง?”
“พร้อม!”
“เริ่มได้!”
ดังนั้นไป๋หล่านและคนอื่นๆจึงเริ่มเล่นเทนนิส ลู่หยวนนั่งอยู่ข้างสนามและดูพวกเขาเล่นเทนนิส
หากมีใครตีลูกบอลออกมา ลู่หยวนก็วิ่งไปเก็บมันและโยนคืนให้กับเขา
“นายเชี่ยวชาญในการรับลูกบอล ทำไมนายถึงไม่เข้าไปเล่น”
หลังจากส่งบอลคืนลู่หยวนก็กลับมานั่งที่เดิม เด็กผู้หญิงเข้ามานั่งข้างๆลู่หยวนและถามอย่างกระตือรือร้น
เด็กสาวคนนี้ลู่หยวนไม่เคยพบมาก่อนรู้เพียงแค่ว่าเธอมากับไป๋หล่าน น่าจะเป็นเพื่อนของไป๋หล่าน แต่เธอไม่ได้อยู่ในชมรมเทนนิส
เด็กสาวคนนี้เธอหุ่นดีสวมกางเกงวอร์มสีขาว รวบผมหลวมๆดูแล้วน่ารักมาก เวลายิ้มตามักจะเป็นจันทร์เสี้ยว
“เขาเล่นเทนนิสไม่เป็นเขาทำได้แค่เก็บลูกบอลให้เราเท่านั้น นอกจากนี้ค่าบริการที่นี่แพงมาก เราไม่สามารถจ่ายมันแทนเขาได้ แค่ให้เขาได้เข้ามาดูก็ดีมากแล้ว” เด็กผู้ชายจากชมรมเทนนิสข้างๆที่เพิ่งเล่นเสร็จแทรกขึ้น
ผู้ชายคนนี้ชื่อว่าหวังต้าหลี่ เขามักจะชอบดูถูกลู่หยวน
“ทุกคนสามารถฝึกฝนและเรียนรู้ได้ หากไม่รู้วิธีเล่นเทนนิส” หญิงสาวกล่าว
“ซ้อมเหรอ?ค่าบริการที่นี่แพงมาก เขาจะมาซ้อมได้เหรอ!” หวังต้าลี่พูดด้วยความรู้สึกที่เหนือกว่า “ฉันไม่รู้จริงๆว่าทำไมพวกเขาถึงเข้ารวมชมรมเทนนิส ไม้แร็กเกตราคาหลายร้อยหยวน ไหนจะค่าใช้จ่ายในการฝึกซ้อมอีก ฮ่า ๆ”
หวังต้าหลี่พูดพร้อมดึงไม้มาจากด้านหลัง “ดูไม้ของฉันสิยี่ห้อ Under Armour ราคาถึงสองพันหยวนเทนนิสเป็นกีฬาสำหรับคนรวยไม่ใช่พวกคนธรรมดา”
หวังต้าหลี่พูดอวด
เขาจ้องไปที่หญิงสาวและชำเลืองมอง “คุณมากับประธานไป๋หล่านเหรอ? ผมชื่อหวังต้าหลี่เป็นสมาชิกของชมรมเทนนิส”
“โอ้ ฉันชื่อเฟิงหลิง ฉันไม่ได้เรียนที่มหาลัยเดียวกับคุณ ฉันมาที่นี่เพื่อดูไป๋หล่านเล่นเทนนิสเท่านั้น เธอบอกว่าจะพาฉันมาเล่นเทนนิสแต่ว่าฉันไม่รู้วิธีเล่น ฮ่าฮ่า” เฟิงหลิง กล่าวอย่างสุภาพ
“เฮ้มันง่ายมาก ให้ผมได้สอนคุณ!” ทันใดนั้นหวังต้าหลี่ก็มีพลังขึ้นมาเขาหยิบไม้เทนนิส Under Armour ขึ้นมา
“คุณสามารถใช้ไม้แร็กเกตของผมได้นะ!”
“อ่า ขอบคุณนะแต่ฉันอยากจะนั่งดูมากกว่า”
ดูเหมือนเฟิงหลิงจะไม่เต็มใจที่จะสนทนากับหวังต้าหลี่เธอจึงเริ่มคุยกับลู่หยวน “ว่าแต่ นายชื่ออะไรเหรอ?”
“ลู่หยวน”
“คุณน่าจะรู้จักชื่อของฉันแล้ว” เฟิงหลิงยิ้มเล็กน้อยดูน่ารักมาก “คุณเล่นเทนนิสไม่เป็น ฉันก็เล่นไม่เป็นเหมือนกัน ทำไมเราไม่ลองมาฝึกมันด้วยกันล่ะ!”
ขณะที่พูดถึงเรื่องนี้เฟิงหลิงก็ดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ฉันจะเป็นคนจ่ายค่าสถานที่เอง”
ลู่หยวนอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เธอ
ผู้หญิงคนนี้สวยมาก แสงแดดส่องกระทบผมหางม้าของเธอจากใต้เงาของต้นไม้ เธอดูสดใสมาก
เธอกำลังยิ้มและมองมาที่เขา
ทั้งสองอยู่ใกล้กันมากและในเวลานี้ภายใต้แสงแดดจ้าดูเหมือนว่าพวกเขาจะสามารถมองเห็นดวงตาของกันและกันได้อย่างชัดเจน
ไม่มีร่องรอยของความดูถูกในสายตาของเฟิงหลิง
แม้ว่ารองเท้าและเสื้อผ้าของเธอจะเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง แต่เธอก็ยังเป็นมิตรกับเขาถึงแม้ว่าลู่หยวนจะสวมเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่ง แต่เธอก็ยังวิ่งไปรอบๆเพื่อช่วยลู่หยวนหยิบลูกบอล
ในตาของเฟิงหลิงนั้นแสดงถึงความจริงใจและความเป็นกันเอง
ในขณะนี้จู่ๆก็มีคนตะโกนเสียงดัง
“เฮ้เจ้าโง่ลู่หยวน ไปเก็บลูกบอลมาสิ!”
คนที่ตะโกนมาก็คือหวังต้าหลี่
เขาพยายามที่จะเรียกร้องความสนใจจากเฟิงหลิง ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้สนใจเขาเลย แต่เธอมักจะชวนลู่หยวนคุย
หวังต้าหลี่รู้สึกอายที่จะอยู่ใกล้ๆเธอ
ทำให้ต้องกลับไปเล่นเทนนิสอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามความคิดของผู้ชายคนนี้ล้วนอยู่ที่ลู่หยวนและเฟิงหลิงแม้ว่าเขาจะเล่นเทนนิส แต่ความสนใจไม่ได้อยู่ตรงนั้นเลย
เขาบังเอิญเห็นลู่หยวนและเฟิงหลิงมองหน้ากัน
มันทำให้เขารู้สึกอิจฉา
ดังนั้นเขาจึงตั้งใจตีลูกบอลอย่างแรง จงใจให้ลูกเทนนิสเด้งออกไปนอกสนาม ทำให้กระเด็นเข้าไปในพุ่มไม้ด้านนอก
จากนั้นเขาก็สั่งให้ลู่หยวนไปเก็บลูก
เขาพยายามทุกวิถีทางที่จะแยกเฟิงหลิงออกจากลู่หยวน
“อย่าไปเลย”
เฟิงหลิงขมวดคิ้ว “มันกระเด็นออกไปนอกสนามเข้าไปในพุ่มไม้ มันอันตราย”
“ไม่เป็นไรหรอก”
ลู่หยวนรู้สึกอารมณ์เสีย
แต่ในเมื่อเขาอยู่ที่นี่แล้ว ก็ต้องไปเก็บมันมา
เกรงว่าคนอื่นจะนินทา
พุ่มไม้รกไปด้วยวัชพืชและพวกมันเติบโตอย่างแน่นหนาทำให้ยากต่อการเคลื่อนที่ ลู่หยวนใช้เวลานานกว่าจะหาลูกเทนนิสเจอ และโยนมันกลับไปให้หวังต้าหลี่
“เอ๊ะ! นั่นแขนของคุณมีเลือดออก”
หลังจากกลับไปที่สนามทันใดนั้นเฟิงหลิงก็ชี้ไปที่แขนของลู่หยวนและพูด
แน่นอนว่าแขนของลู่หยวนถูกกิ่งไม้ขีดข่วน เสื้อของเขามีรอยขาดและมีเลือดไหล
“คราวหน้าไม่ต้องไปเก็บแล้วนะ ทำไมคุณถึงต้องเข้าไปเก็บมาให้เขา” เฟิงหลิงขมวดคิ้วและกล่าว
“ไม่เป็นไรหรอก”
ลู่หยวนเช็ดเลือดที่ไหลบนกางเกงของเขา
“คุณทำอย่างนั้นได้ไง! ฉันจะช่วยห้ามเลือด”
เฟิงหลิงพูดพร้อมกับหยิบกระดาษทิชชู่ออกมาจากกระเป๋า จากนั้นคลายเกลียวฝาน้ำแร่จับแขนของลู่หยวนและล้างแผลของลู่หยวนด้วยน้ำแร่ แล้วส่งกระดาษทิชชู่ให้ลู่หยวนเช็ดให้แห้ง
ด้วยเหตุผลบางอย่างหัวใจของลู่หยวนก็รู้สึกหวั่นไหว
ผู้หญิงคนนี้ช่างเป็นคนดีจริงๆ
“เฮ้เฟิงหลิง เธอกำลังทำอะไรน่ะ?”
ขณะที่ไป๋หล่านเดินมานั่งพัก เธอได้เห็นเฟิงหลิงกำลังล้างแผลให้ลู่หยวนเธอก็ขดปากและพูดว่า “เจ้านั่นสกปรกจะตายไป!”
“สกปรกอะไรกัน” เฟิงหลิงพูดโดยไม่เงยหน้ามอง
ไป๋หล่านมองเพื่อนที่แสนดีของเธอด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เธอไม่ได้คิดว่าเฟิงหลิงจะใจดีกับลู่หยวนขนาดนี้
อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรในตัวลู่หยวนที่ไป๋หล่านรู้สึกพอใจ
ไม่รู้ว่าเข้าชมรมเทนนิสมาได้ยังไง