โชคชะตาที่ล่วงหล่น - ตอนที่ 22 Häagen-Dazs
ลู่หยวนคิดไม่ถึงว่าเจิ้งเยว่นั้นจะลุกขึ้นตบไป๋หล่าน
เขารู้ดีว่าถ้าเขายังอยู่ที่นี่ต่อไป มีแต่จะเพิ่มความขัดแย้งกับให้ทั้งคู่ ดังนั้นเขาจึงหาเหตุผลที่จะปลีกตัวออกมา ก่อนที่จะเกิดเรื่องใหญ่ไปมากกว่านี้
หลังจากลู่หยวนเดินออกจากร้านกาแฟไป
ไป๋หล่านยกมือขึ้นมากุมใบหน้าที่แดงก่ำของเธอ เธอจ้องมองไปที่เจิ้งเยว่ด้วยความโกรธ
แต่หลังจากนั้นไม่นานไป๋หล่านก็หัวเราะคิกคัก
“พี่สาว เพื่อที่จะทำให้ลู่หยวนตายใจ พี่ถึงกับตบฉันจริงๆ! ตอนนี้เขาคงคิดว่าพี่ชอบเขาแน่ๆ แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้ลู่หยวนก็เต็มใจทำเพื่อพี่ทุกอย่างแล้ว”
เมื่อพูดจบไป๋หล่านก็คร่ำครวญอีกครั้ง “เจ็บเหมือนกันนะนี่ย! แต่ว่านะ มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ แค่ทำให้เขาชอบพี่เอง มันไม่ได้ยากเลย ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้มั้ง”
ไป๋หล่านคนนี้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกพี่ลูกน้องของเธอนั้นกำลังโกรธเธอยู่จริงๆ
เธอกำลังเข้าใจว่าเจิ้งเยว่นั้นแสร้งทำเป็นปกป้องลู่หยวน
“เอาล่ะ ถ้าเรื่องนี้ไปได้สวย ฉันต้องขอบคุณเธอมากๆเลยล่ะ!” เจิ้งเยว่พูดและนั่งลงที่เก้าอี้
ไป๋หล่านไม่รู้ตัวเลยว่าจริงๆแล้วเจิ้งเยว่นั้นตั้งใจตบเธอ
“ไม่ใช่แค่ขอบคุณสิ ฉันยอมเจ็บตัวเพื่อพี่ขนาดนี้ ตอนที่เป่าห่าวตกหลุมรักพี่แล้วพี่ต้องตอบแทนฉันอย่างดีด้วย ที่ฉันเล่นสมจริงขนาดนี้”
เจิ้งเยว่ยิ้มและพูดว่า “โอเคโอเค”
เธอพูดว่าโอเคก็จริง แต่ในใจเธอคิดว่าเป่าห่าวที่ไหนกันเป้าหมายของฉันคือลู่หยวนต่างหากล่ะ
ครั้งนี้ต้องเป็นพรหมลิขิตแน่ๆ ที่ทำให้ฉันได้เจอกับเขาอีกครั้ง ฉันจะต้องเล่นให้ดีและทำให้เขาหันมาชอบฉันให้ได้
“ยังไงก็ตามถึงพี่จะเป็นแฟนกับเขาแค่สองสามวันนี้ แต่ก็ระวังเขาไว้ได้ดีล่ะ เผื่อเจ้านั่นทำอะไรล่วงเกินขึ้นมา” ไป๋หล่านนึกขึ้นได้และพูดอย่างกะทันหัน
“ระวังอะไรเหรอ?” เจิ้งเยว่ถาม
“แม้ว่าลู่หยวนจะเป็นคนดี แต่เค้าอาจจะหลังรักพี่มากก็ได้” ไป๋หล่านพูด “ฉันมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่ชื่อว่าเฟิงหลิง พี่ก็เคยเจอหนิ จำเธอได้ไหม?”
“จำได้ๆ ทำไมเหรอ?” เจิ้งเยว่ยิ่งสงสัย
“วันนั้นที่สนามเทนนิสลู่หยวนได้เจอเฟิงหลิง ระหว่างที่เธอรอฉันเล่นเทนนิสจึงเข้าไปทำความรู้จักกับลู่หยวน ดูเหมือนว่ามันทำให้ลู่หยวนนั้นรู้สึกชอบเธอขึ้นมา วันนี้ตอนที่เขามาถึงที่ร้าน เขาก็ถามฉันว่าเฟิงหลิงไม่ได้มาด้วยเหรอ” ไป๋หล่านสแยะยิ้มอย่างดูถูก “ฮึๆ! ลู่หยวนคนนี้ช่างไม่เจียมตัวเลยเอาซะเลย เป็นแค่คนจนแท้ๆ แต่ดันหวังอะไรไม่เข้าเรื่อง พี่ก็ต้องระวังเขาไว้ด้วยล่ะ ถ้าเกิดว่าเจ้านั่นหลงรักพี่มากๆ และสะกดรอยตามพี่ขึ้นมา มันก็น่ากลัวเหมือนกันนะ”
“อ่า…..” เจิ้งเยว่ไม่ได้ตอบกลับอะไร แต่ภายในใจของเธอคิดว่าถ้าลู่หยวนหลงรักเธอขึ้นนมาจริงๆก็ดีน่ะสิ
แต่ที่ไป๋หล่านบอกว่าลู่หยวนเขาสนใจเด็กเฟิงหลิงคนนั้น เป็นเรื่องจริงเหรอ?
เมื่อได้ยินที่ไป๋หล่านพูดเจิ้งเยว่ก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมา เธอจะต้องรีบคว้าโอกาสที่จะทำให้ลู่หยวนชอบเธอให้เร็วที่สุด!
“นี่พี่สาว เรื่องที่พี่เคยเล่าให้ฉันฟังก่อนหน้านี้ว่ามีรุ่นที่สองที่ร่ำรวยอันดับต้นๆ คนที่ใช้ลายนิ้วมือของเขาถอนเงินจากธนาคารน่ะ ที่พี่บอกว่ามีห้องลับที่เอาไว้เก็บของมีค่าและเงินมากมายของเขาโดยเฉพาะด้วย จึ๊ๆ! อย่างกับในนิยายแหน่ะ พี่โชคดีมากเลยที่ได้เจอกับเขาคนนั้น ครั้งหน้าถ้าเขาไปที่ธนาคารอีกพี่อย่าลืมขอ Wechat ID ของเขาส่งมาให้ฉันนะ!” ไป๋หล่านพูดอย่างมีความสุข
“ทำไมฉันจะต้องขอ Wechat ID ของเขาเพื่อเอามาให้เธอด้วย?”
“เพราะว่าพี่มีเป่าห่าวแล้ว!” ไป๋หล่านรีบตอบ
“ฮิฮิ” เจิ้งเยว่ไม่ได้พูดอะไรต่อ ไป๋หล่านช่างไม่รู้อะไรเลยว่าผู้ชายที่เธอกำลังพูดถึงนั้นก็คือลู่หยวนที่เธอดูถูกมาโดยตลอด!
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ไป๋หล่านพูดมันยิ่งทำให้เจิ้งเยว่ไม่มีทางที่จะบอกเธอโดยเด็ดขาด ถึงตัวตนที่แท้จริงของลู่หยวน เพราะดูท่าทางแล้วไป๋หล่านต้องเปลี่ยนใจมาชอบลู่หยวนอย่างแน่นอน
ในขณะที่ทั้งสองคนยังคุยกันอยู่ที่ร้านกาแฟลู่หยวนก็ได้กลับมาถึงทางเข้ามหาลัยแล้วในตอนนี้
ถึงแม้ว่าในตอนนั้นเจิ้งเยวจะดูถูกลู่หยวนก็ตาม แต่ถ้าเธอพูดความจริงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีแล้ว ก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่ลู่หยวนจะช่วยแกล้งเป็นแฟนปลอมๆของเธอ
มีร้านค้าอยู่ตรงทางเข้าโรงเรียนและมีนักเรียนจำนวนมากรุมอยู่ที่ทางเข้าร้าน
นักเรียนเหล่านี้ทุกคนล้วนแต่งตัวดี แน่นอนว่าต้องเป็นลูกหลานของคนที่ร่ำรวยแน่นอน
ร้านนี้มีป้ายเขียนบอกไว้หน้าร้านว่า “Haagen-Dazs”
นี่คือร้านไอศกรีมที่มีชื่อว่า Haagen-Dazs ซึ่งราคาแพงมาก ราคาอย่างน้อยชุดละหนึ่งร้อยถึงสองร้อยหยวน
นักเรียนธรรมดาทั่วไปคงไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปซื้ออย่างแน่นอน
แต่ว่าทำไมคนถึงเยอะจัง? ลู่หยวนเริ่มสงสัย
มีผู้คนมากมายมายืนต่อแถวกัน รวมถึงนักศึกษาในมหาลัยเดียวกับลู่หยวนด้วย หน้าร้านมีหน้าต่างบานใหญ่ทำให้มองเห็นข้างในว่าภายในร้านนั้นเต็มทุกโต๊ะ
ลู่หยวนก้มศีรษะของเขาลงและเดินต่อแถว
ในตอนนั้นเอง ลู่หยวนก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะจากด้านหลัง ดูเหมือนว่าเสียงนั้นจะมาจากกลุ่มผู้หญิง
“เธอดูนี้สิ! มีคนใส่เสื้อผ้าเก่าๆมาซื้อฮาเก้นดาสด้วย”
“เกะกะซะจริง! คนจนๆไปแค่โรงน้ำแข็งก็พอแล้ว ทำไมพวกเราต้องมาต่อแถวต่อจากคนแบบนี้ด้วยนะ”
“กล้ามาซื้อฮาเก้นดาสกิน น่าจะเอาไปอวดเพื่อนละมั้งว่าตัวเองนั้นมีปัญญาซื้อของกินราคาแพง ไม่เจียมตัวเอาซะเลย!”
“ฮ่าฮ่า! ช่างน่าสมเพชจริงๆเลย แน่นอนว่าถ้าฉันถ่ายส่งไปให้เพื่อนดูพวกเธอจะต้องหัวเราะอย่างแน่นอน”
“ฉันละสงสารพ่อแม่ของคนนี้จริงๆที่มีลูกแบบนี้ ไม่สนใจว่าพ่อแม่นั้นจะยากจน หาเงินด้วยความยากลำบากเพื่อส่งเรียน แต่กลับเอาเงินอันน้อยนิดนั้นมาซื้อฮาเก้นดาสกิน!”
ผู้หญิงสองสามคนที่ยืนอยู่ข้างหลังลู่หยวนกำลังพูดถึงใครสักคนด้วยถ้อยคำที่รุนแรง มันทำให้ลู่หยวนรู้สึกไม่พอใจ
สักพักลู่หยวนก็นึกทบทวนถึงคำพูดของผู้หญิงกลุ่มนั้น
เอ๊ะ…ให้ตายเถอะ ฉันนี่โง่จริงๆเลย พวกเธอกำลังพูดถึงฉันนี่!
ลู่หยวนอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองว่าสาวรวยเหล่านี้หน้าตาเป็นอย่างไร
เมื่อเขากันกับไปมองก็พบกับ
ผู้หญิงสามคนยืนต่อแถวอยู่ด้านหลังเขา
แต่มีผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ตรงกลางนั้นเธอสวยที่สุดและดูสะดุดตามาก เธอสวมเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำและมีเปียเชือกถักสีเทาถักอยู่รวมกับผมของเธอ
เคี้ยวหมากฝรั่งฟองใหญ่ไว้ในปาก ใบหน้าของเธอนิ่งเฉยบวกกับหางตาเรียวยาว ยิ่งทำให้เธอดูเป็นสาวสวยที่เย่อหยิ่งมาก
อีกสองคนมีสไตล์การแต่งตัวที่คล้ายกันพวกเธอใส่รองเท้า Aape เดาได้ว่าพวกเธอน่ายจะมาจากครอบครัวที่ค่อนข้างดีด้วย
การแสดงออกของทั้งสามคนนี้ดูแล้วหยิ่งผยองมาก
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ลู่หยวนรู้สึกแปลกใจก็คือสายตาของทั้งสามคนนั้นไม่ได้มองมาที่เขา แต่มองไปยังแถวที่อยู่ข้างๆ
ลู่หยวนคิดว่าพวกเธอน่าจะไม่ได้พูดถึงเขา แต่หมายถึงผู้หญิงที่ยืนอยู่ในแถวนั้น
มีผู้หญิงคนหนึ่งยืนก้มหน้าอยู่ที่แถวข้างๆ
เธอไม่สูงมากรูปร่างเพรียวบางสวมเสื้อยืดเรียบๆ ที่มีขายในตลาดทั่วไปราคาตัวละสิบเหรียญ
เธอสวมกางเกงที่ไม่พอดีกับเอวของเธอ มันทำให้ดูตลกเล็กน้อย
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้ผู้หญิงนั้นดูไม่น่ามองเลยแม้แต่น้อย เธอขาวและอ่อนโยนใบหน้าที่สวยงามซ่อนอยู่ภายใต้ผมหนาของเธอบวกกับริมฝีปากบางๆ ถ้าเธอยิ้มมันต้องน่ามองเป็นอย่างมาก
แต่ว่าตอนนี้ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ยิ้ม เธอก้มหน้าต่ำลงสีหน้าดูเหมือนจะร้องไห้
ลู่หยวนแค่สงสัยว่าทำไมหญิงสาวที่ดูธรรมดาเช่นนี้ ถึงได้มาอยู่ในกลุ่มคนที่จะซื้อฮาเก้นดาสได้?
“ฮ่าฮ่าโจวหยุนเธอหูหนวกเหรอ? พวกเรากำลังพูดถึงเธออยู่นะ ได้ยินหรือเปล่า!”
หลังจากพูดจบเด็กสาวทั้งสามก็มุ่งหน้าไปที่ผู้หญิงที่ยืนก้มหน้าคนนั้น และไปยืนล้อมเธอไว้
ดูเหมือนว่าพวกเธอจะรู้จักกัน
โจวหยุนยังคงก้มหน้าโดยที่ไม่พูดอะไร
“โจวหยุนฉันได้ยินมาว่าเธอเพิ่งได้รับเงินช่วยเหลือสำหรับคนยากจนมานี่ เธอเอาเงินที่ได้รับจากการบริจาคเอามาซื้อ Haagen-Dazs อย่างนั้นเหรอ?”
“ทุกคนมาดูคนนี้เร็ว! มีคนที่บ้านยากจนไม่มีเงินแม้แต่จะจ่ายค่าเล่าเรียนและค่าที่พักแต่เธอกลับมาที่ร้าน Haagen-Dazs และใช้เงินบริจาคเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง ใครอยากเห็นหน้าก็มาดูนี่สิ”
“ทำตัวน่าสงสารจนได้เงินบริจาคมา แต่กลับเอามาใช้สิ้นเปลืองแบบนี้ ช่างไร้ประโยชน์จริงๆเลย”
เมื่อเห็นโจวหยุนยืนเงียบ มันยิ่งทำให้ทั้งสามคนนั้นยิ่งตะโกนดังขึ้น
แน่นอนว่าทุกคนรอบๆมองไปที่เธอด้วยสายตาที่รังเกียจ
เมื่อทุกคนมองไปที่เด็กสาวและเห็นเสื้อผ้าการแต่งตัวของเธอ ซึ่งเดาได้ว่าเธอมาจากครอบครัวที่ยากจน บวกกับที่ได้ยินทั้งสามคนนั้นพูดด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ผู้คนยิ่งรู้สึกรังเกียจเธอมากกว่าเดิม
แม้ว่าลู่หยวนจะรู้สึกสงสารผู้หญิงคนนั้น
แต่เขาก็รู้สึกผิดหวังในตัวเธอเล็กน้อย
ผู้หญิงที่ชื่อโจวหยุนนั้นหน้าตาดี ทำไมเธอถึงได้เป็นคนโลภแบบนี้กัน?
ไม่สามารถตัดสินคนที่หน้าตาได้เลยจริงๆ
“จำหน้าตาของเธอเอาไว้ให้ดี!”
หญิงสาวที่สวยที่สุดในสามคนคว้าผมยาวของโจวหยุนจากนั้นก็ดึงลง ทำให้โจวหยุนเงยหน้าขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
ทันใดนั้นลู่หยวนก็ถึงกับตกตะลึง
ผู้หญิงคนนี้สวยจัง
อาจเป็นเพราะว่าเธอไม่ได้แต่งหน้าเลย ทำให้เธอนั้นดูอ่อนโยนเป็นธรรมชาติ ผิวของเธอขาวและเรียบเนียนมาก
คิ้วโค้งสวยได้รูปแต่ดวงตาคู่นั้นทำให้รู้สึกถึงความเศร้าและดื้อรั้น
ในตอนนี้ริมฝีปากบางของเธอถูกกดแน่น แต่เธอก็ยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ
ผมของผู้หญิงนั้นจะเจ็บปวดมากเมื่อถูกดึงขึ้น แต่เธอไม่ได้ขอร้องหรือร้องไห้เลย ทำเพียงแค่เงียบ
“ทำไมถึงเงียบล่ะ?!” ท่าทีของโจวหยุนทำให้ทั้งสามคนรู้สึกอึ้้ง ดังนั้นพวกเธอจึงปล่อยตัวโจวหยุน
ด้วยเหตุนี้ทำให้โจวหยุนได้ซื้อไอศกรีมวานิลลา Haagen-Dazs พร้อมกับสายตาที่ดูถูกของผู้คนรอบๆ
หลังจากนั้นเธอก็ก้มหน้าและเดินจากไป
“เฮ้อ! เด็กสมัยนี้ช่างไร้สาระซะจริง รู้ว่าตัวเองนั้นยากจนแต่ก็ยังไม่เจียมตัว ยอมจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อฮาเก้นดาส บางที่นี่อาจจะเป็นเงินที่พ่อแม่เธออุตส่าห์ทำงานอย่างหนักเพื่อส่งให้เธอก็ได้” ทุกคนส่ายหัวและถอนหายใจ
ลู่หยวนนั้นรู้สึกสงสารผู้หญิงคนนี้อยู่ในใจ
ถึงแม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะเติบโตมาอย่างดีมีหน้าตาทีสวยงาม แต่เธอก็เป็นคนที่ฟุ่มเฟือยเกินไป และที่สำคัญครอบครัวของเธอก็คงไม่ได้ร่ำรวย แถมเธอยังเอาเงินบริจาคมาใช้อย่างสิ้นเปลืองอีกด้วย
ทันใดนั้นทุกสายตาก็เปลี่ยนเป้าหมายมาจ้องที่ลู่ยวน
“อ๊ะ!…ยังมีคนประเภทนั้นอีกหนึ่งคนอยู่ที่นี่!” เด็กสาวทั้งสามมองไปที่ลู่หยวนอย่างดูถูก
เมื่อลู่หยวนเห็นสายตาของพวกเธอ เขาก็รู้ทันทีว่า คนพวกนี้คิดว่าตัวเองนั้นเป็นเหมือนกับผู้หญิงคนนั้น
เป็นเรื่องน่าอาย ที่ถูกผู้คนจำนวนมากจ้องมองด้วยสายตาเอือมละอา
ลู่หยวนจึงเลิกต่อแถวและเลือกเดินไปตามทางที่โจวหยุนเดินออกไปเมื่อกี้นี้…..