โชคชะตาที่ล่วงหล่น - ตอนที่ 21 ช่วยเคารพแฟนของฉันด้วย
คำถามของลู่หยวนทำให้เจิ้งเยว่หน้าแดงขึ้นในทันทีและทำให้เธอรู้สึกประหม่า
คำตอบซึ่งชัดเจนว่านี่เป็นเพียงแค่กลยุทธ์ของเธอที่ต้องการจะกระตุ้นเป่าห่าวเท่านั้น
ไม่มีทางที่เจิ้งเยว่จะยอมบอกความจริงกับลู่หยวน
ไม่เพียงแค่ไม่สามารถบอกความจริงกับลู่หยวนได้เท่านั้น แต่ตอนนี้เจิ้งเยว่ได้โยนเป่าห่าวทิ้งลงถังขยะไปแล้วอย่างสิ้นเชิง
ในตอนนี้เจิ้งเยว่คิดถึงคำนี้ขึ้นมา เล่นปลอมๆแต่ดันได้จริงๆ
เดิมที่เจิ้งเยว่คิดว่าเด็กหนุ่มที่ไป๋หล่านพามาก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆคนนึง แต่ใครจะคิดว่าเขานั้นเป็นถึงรุ่นที่สองที่ร่ำรวยโคตรๆ แล้วเธอจะพลาดโอกาศนี้ไปได้อย่างไร
อย่าพูดถึงการที่ได้เป็นแฟนของลู่หยวนเลย เจิ้งเยว่ยอมทุกอย่างขอแค่ได้เข้าไปอยู่ในชีวิตของลู่หยวนเท่านั้น
“เหตุการณ์ครั้งนั้นที่ฉันเจอกับคุณลู่ที่ธนาคารวันนั้น หลังจากนั้นฉันก็เสียใจมาตลอดที่ตัวเองแสดงท่าทางแบบนั้นออกไป ฉันจึงตัดสินใจที่จะแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่ดีของตัวเอง ด้วยเหตุนี้มาตรฐานในการหาแฟนของฉันก็เปลี่ยนไป ฉันไม่ได้มองคนที่ฐานะหรือหน้าตาอีกต่อไป ฉันขอเพียงผู้ชายธรรมดาๆที่รักฉันและซื่อสัตย์กับฉันเท่านี้ก็พอใจแล้ว ฉันจึงได้ขอให้ไป๋หล่านช่วยในครั้งนี้”
เจิ้งเยว่มีไหวพริบที่ดีเธอจึงรวบรวมเหตุผลดีๆเพื่อที่จะใช้เป็นคำตอบให้กับลู่หยวน
“จริงเหรอ?” ลู่หยวนยิ้มและมองไปที่เจิ้งเยว่
“ใช่แล้วค่ะคุณลู่ สิ่งที่ฉันพูดนั้นเป็นความจริงทั้งหมด ถ้าฉันโกหกขอให้ฉันโชคร้ายไปตลอดชีวิต”
เอ่อ…ทำไมประโยคนี้ฟังดูคุ้นหู ลู่หยวนยิ้ม ประโยคนี้หลี่เมิ่งเหยาก็เพิ่งพูดกับเขาเมื่อเช้านี้เช่นกัน
“ฉันเชื่อที่คุณพูด” ลู่หยวนพูด “อย่างไรก็ตามคุณรู้ว่าจริงๆแล้วตัวตนของฉันนั้นเป็นอย่างไร เกรงว่าฉันคงจะไม่ใช่ผู้ชายแบบที่คุณตามหา”
เจิ้งเยว่ไม่มีทางยอมให้ตัวเองพลาดโอกาสนี้ไปแน่ๆ เธอได้ตั้งลู่หยวนไว้เป็นเป้าหมายแล้วในใจ ผู้ชายคนเดิมคนนี้หลังจากที่เธอต้องเสียใจให้กับเขาอยู่หลายวันกับเหตุการณ์ครั้งนั้น ครั้งนี้เธอจะไม่ยอมปล่อยเขาไปเป็นครั้งที่สองแน่นอน!
เจิ้งเยว่ตัดสินใจคุกเข่าลงต่อหน้าลู่หยวนอย่างอ้อนวอน
“คุณลู่ได้โปรดช่วยร่วมมือกับฉันสักครั้ง ตอนนี้มีผู้ชายชื่อว่าเป่าห่าวคอยไล่ตามฉันอยู่ ผู้ชายคนนี้อาศัยที่ตัวเองทำงานเป็นผู้จัดการบริษัทที่มีอำนาจมาล่วงเกินฉัน เขากำลังรุกรานฉัน แม้ว่าเขาจะเป็นคนรวยแต่สิ่งที่ฉันต้องการตอนนี้ไม่ใช่เงินแต่เป็นคนที่รักฉันจริงๆ แถมเป่าห่าวก็ยังมีนิสัยหยิ่งยโสและเอาแต่ใจอีกด้วย ฉันไม่ชอบเขาเลยแต่ว่าพ่อแม่ของฉันต้องการที่จะให้ฉันแต่งงานกับเขา ดังนั้นทางเลือกสุดท้ายของฉันก็คือการขอให้ไป๋หล่านแนะนำผู้ชายสักคนที่ซื่อสัตย์และดีให้กับฉัน”
ในตอนนี้เจิ้งเยว่ถึงกับหลั่งน้ำตา “คุณลู่ฉันรู้ว่าฉันไม่ดีพอสำหรับคุณฉันไม่สามารถเป็นแฟนตัวจริงของคุณได้ แต่ฉันขอแค่คุณช่วยฉันและแสร้งทำเหมือนว่าเป็นแฟนของฉันในช่วงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น ขอเพียงแค่ให้เป่าห่าวเลิกยุ่งกับฉันก็พอ เถอะนะคุณลู่ ฉันขอร้องได้โปรดช่วยฉันครั้งนี้ด้วยเถอะ ฉันไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว”
เดิมทีผู้หญิงคนนี้น่ามองและเธอก็สวยมาก แต่ตอนนี้เปรียบดั่งดอกโบตั๋นที่เปียกปอนไปด้วยสายฝนฃ
เมื่อลู่หยวนเห็นอย่างนั้นเขาก็รู้สึกใจอ่อนขึ้นมา
“เอ่อ….ก็ได้ๆ”
ลู่หยวนพยักหน้าเบาๆ
“แต่ว่าฉันจะยอมช่วย โดยมีเงื่อนไขข้อหนึ่ง”
“ได้เลยค่ะคุณลู่ แค่บอกฉัน” เจิ้งเยว่รู้สึกดีใจมากๆที่ลู่หยวนตอบตกลง แต่เธอยังคงเก็บอาการเอาไว้
“เธอจะต้องไม่บอกไป๋หล่านว่าจริงๆแล้วตัวตนของฉันนั้นเป็นอย่างไร”
ลู่หยวนคิดสักพักแล้วพูด
“ได้ค่ะ ฉันให้สัญญา!” เจิ้งเยว่พยักหน้าอย่างรีบร้อน
อันที่จริงถึงแม้ว้าลู่หยวนจะไม่ได้บอกให้เธอเก็บเป็นความลับ แต่เธอก็วางแผนที่จะไม่บอกไป๋หล่านอยู่แล้ว เกี่ยวกับเรื่องตัวตนที่แท้จริงของลู่หยวน
ผู้หญิงบางคนถึงแม้ว่าจะสนิทกัน แต่เมื่อมีเรื่องผู้ชายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั้น พวกเธอก็อาจจะมีจริตเล็กๆน้อยๆของตัวเอง เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเหนือกว่า
เจิ้งเยว่คิดว่าไป๋หล่านนั้นช่างเป็นคนโง่ซะจริงเธอไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของลู่หยวนมาเป็นเวลานานแล้ว หากเธอบอกความจริงกับไป๋หล่านว่าลู่หยวนนั้นรวยมาก แน่นอนว่าเธอก็ต้องสนใจในตัวลู่หยวนเป็นแน่ และไป๋หล่านก็จะกลายเป็นอีกหนึ่งคู่ต่อสู้ของเธอน่ะสิ!
และยิ่งไปกว่านั้นไป๋หล่านก็ยังอยู่ในชมรมเดียวกันกับลู่หยวนอีกด้วย โอกาสที่จะใกล้ชิดกันนั้นก็มีมากกว่าเธอ
เธอจะไม่ยอมปล่อยให้ไป๋หล่านรู้เรื่องนี้เด็ดขาด!
ถึงแม่ว่าลู่หยวนจะแค่แกล้งเป็นแฟนให้เธอเท่านั้น เธอคิดว่าน้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังกร่อน นับภาษาอะไรกับใจคน และเธอจะใช้โอกาศนี้เพื่อพิชิตใจลู่หยวนให้ได้
คุณลู่ คุณเสร็จฉันแน่!!
หลังจากที่ทั้งสองได้ตกลงกันแล้วก็กลับไปนั่งที่โต๊ะ ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เจิ้งเยว่เดินกลับมาที่โต๊ะ โดยมีลู่หยวนเดินตามมาทีหลัง
“นายนี่มันไร้ประโยชน์จริงๆเลย ฉันบอกให้นายไปเร่งพนักงานให้รีบมาเสิร์ฟอาหารให้ฉัน แต่มันนานมากจนฉันต้องไปเร่งด้วยตัวเอง!” ไป๋หล่านพูดอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นลู่หยวนเดินกลับมา
ไป๋หล่านมีนิสัยส่วนตัวอยู่อย่างหนึ่งซึ่งติดตัวเธอมาตลอด
นั่นก็คือการเหยียบหัวคนอื่นให้’ต่ำลง’เพื่อยกให้ตัวเองดู’สูงขึ้น’
เพื่ออวดให้ลูกพี่ลูกน้องของเธอเห็นว่า ฉันนั้นเก่งและเป็นคนสำคัญมาก
“หล่านหล่านช่วยระวังน้ำเสียงหน่อย!”
เจิ้งเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อยและมองไปที่ลูกพี่ลูกน้องของเธอ จากนั้นก็พูดกับลู่หยวนด้วยรอยยิ้ม “ลู่หยวน รีบทานสิ อาหารน่ากินมากเลย”
ในขณะที่ทั้งสามคนกำลังรับประทานอาหารกันนั้น ไป๋หล่านก็ไม่วายที่จะระบายอารมณ์กับลู่หยวน เธอสั่งให้ลู่หยวนไปหยิบขวดพริกไทยดำให้เธอ ทั้งๆที่เธอสั่งข้าวอบกุ้งชีสซึ่งมันไม่เข้ากันเลย และต่อมาก็ใช้ให้ลู่หยวนไปหยิบทิชชู๋มา เธอทำเหมือนกับว่าลู่หยวนนั้นเป็นคนใช้
เธอเคยชินกับการที่สั่งให้ลู่หยวนทำอะไรต่อมิอะไรให้เธอมาตลอด
ลู่หยวนก็ทำให้เธอโดยที่ไม่ได้ขัดอะไรเพราะเขาเห็นว่ามันเป็นแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆเท่านั้น แต่ในตอนนี้เจิ้งเยว่เริ่มขมวดคิ้วและคิดว่าสิ่งที่ไป๋หล่านทำนั้น เธอกำลังเล่นกับคนที่ไม่ควรเล่น เธอกล้ามากที่ปฏิบัตินตัวต่อคนรุ่นสองที่รวยอันดับต้นๆแบบนี้!
“อืม…เป็นอย่างไรบ้างพี่สาวหลังจากที่ได้ลองทำความรู้จักกับลู่หยวน พี่โอเคหรือเปล่า?”
ในที่สุดหลังจากที่ทานอาหารไปได้สักพักเจิ้งเยว่ก็แอบขยิบตาให้ไป๋หล่านเพื่อเป็นการส่งซิกให้เธอทำอะไรบางอย่าง
“ลู่หยวนเขาก็น่ารักดีนะ” เจิ้งเยว่คิดว่าลู่หยวนนั้นโคตรเพอร์เฟคเลยด้วยซ้ำ แต่เธอไม่สามารถพูดออกมาได้ ทำได้เพียงแค่เก็บไว้ในใจและพูดออกมาอย่างเก็บอาการ
“แล้วนายล่ะลู่หยวน คิดยังไงกับลูกพี่ลูกน้องของฉัน” ไป๋หล่านหันหน้าไปถามลู่หยวน
แน่นอนว่าไป๋หล่านนั้นคิดว่าคำถามนี้ ลู่หยวนจะต้องตอบไปในทางที่ดีอย่างแน่นอน
“ก็ดีนะ เธอก็โอเคดี” ลู่หยวนพยักหน้าก่อนจะตอบ
เนื่องจากเขาสัญญากับเจิ้งเยว่ไว้แล้วว่าจะช่วยเธอในครั้งนี้ จึงทำเหมือนกับว่าเขามีความสนใจในตัวเจิ้งเยว่
“โอเคดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะเข้ากันได้ดีนะ” ไป๋หล่านยิ้มเล็กน้อยและพูดกับลู่หยวนอย่างหยิ่งยโส “อย่างไรก็ตามฉันขอบอกนายไว้ก่อนเลยนะลู่หยวน ว่าพี่สาวของฉันเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวยไม่เหมือนกับนาย คนที่จะมาเป็นแฟนของพี่สาวฉันจะต้องเป็นคนที่มีฐานะเท่าเทียมกันหรือไม่ก็ต้องร่ำรวยมาก ซึ่งมันไม่ตรงกับนายเลย เพราะฉะนั้นนายต้องทำตามที่พี่สาวฉันต้องการทุกอย่างเพื่อเป็นการทดแทน เข้าใจมั้ย!”
หลังจากพูดจบไป๋หล่านก็หันไปยิ้มให้เจิ้งเยว่อย่างมีชัย ราวกับว่าพี่สาวของเธอนั้นสูงส่งมากเมื่อเทียบกับลู่หยวน
แต่ในตอนนี้เจิ้งเยว่รู้สึกไม่พอใจอย่างมากกับสิ่งที่ไป๋หล่านทำ
เพราะลู่หยวนไม่ได้เป็นแค่คนธรรมดาจนๆอย่างที่ไป๋หล่านนั้นเข้าใจ
แต่ว่าเขาเป็นถึงรุ่นที่สองที่ร่ำรวยอันดับต้นๆ และเจิ้งเยว่ก็รู้สึกดีใจมากที่จะได้เป็นแฟนของลู่หยวนแม้ว่าจะปลอมๆก็เถอะ
“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกไป๋หล่าน!”
เจิ้งเยว่พูดอย่างรีบร้อน
เธอไม่สามารถเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของลู่หยวนได้ ดังนั้นเธอจึงสามารถพูดได้แค่นี้
“จากนี้ไปนายจะต้องยอมพี่สาวฉันทุกอย่าง และต้องดูแลเธอเป็นอย่างดี ห้ามขัดคำสั่งเธอเด็ดขาดรู้ไหม!” ไป๋หล่านยังคงพูดต่อ
คิ้วของเจิ้งเยว่เริ่มขมวดแน่น
“นอกจากนี้ในระหว่างที่คบกับลูกพี่ลูกน้องฉัน นายห้ามแสดงความเป็นเจ้าของจนทำให้เธอรู้สึก
รำคาญเด็ดขาด นายไม่สามารถกอดเธอได้ แม้แต่มือก็ห้ามจับ!”
ใช่แล้วไป๋หล่านรู้ดีว่าพี่สาวของเธอแค่ต้องการจะใช้ประโยชน์จากผู้ชายคนนี้ เธอจะไม่ยอมให้เขามาเอาเปรียบพี่สาวของเธออย่างแน่นอน
ประโยคนี้ทำให้เจิ้งเยว่รู้สึกไม่พอใจมากยิ่งขึ้น
ไม่ต้องพูดแต่ถึงการกอดหรือจับมือเธอหรอก มากกว่านั้นเธอก็ยอมให้ได้
แต่ตอนนี้ไป๋หล่านยังห้ามแตะต้องตัวเธอ แล้วจะมีอะไรคืบหน้าในความสัมพันธ์ล่ะ?
“เอาล่ะไป๋หล่าน เลิกพูดเถอะ การเป็นแฟนกันมันจะมีกฎมากมายขนาดนี้ได้ยังไง?”
เจิ้งเยว่หันไปมองและเพิ่มน้ำเสียงของเธอ
กลับกันในตอนนี้ไป๋หล่านไม่รู้เลยว่าลูกพี่ลูกน้องของเธอกำลังโกรธมาก เธอเข้าใจว่าสิ่งที่เธอกำลังทำนั้นจะทำให้ลูกพี่ลูกน้องของเธอนั้นพอใจ เธอคิดว่าอาการตอบสนองของเจิ้งเยว่นั้นเป็นเพียงแค่การแสดง
ด้วยเหตุนี้มันยิ่งทำให้ไป๋หล่านพูดอย่างใส่อารมณ์มากขึ้น
“และที่สำคัญที่สุดลู่หยวน ถึงแม้ว่านายกับพี่สาวของฉันจะเป็นแฟนกัน แต่นายก็ยังต้องให้พื้นที่ส่วนตัวกับเธอ”
“หมายความว่ายังไง?” ลู่หยวนกล่าว
“นั่นหมายความว่า แม้ว่าพี่สาวของฉันจะไปกินข้าวและเดินจับมือกับคนอื่น นายก็ห้ามโกรธ แต่ต้องทำเป็นไม่เห็นมัน!”
ไป๋หล่านพูดเผื่อไว้ก็เพราะหวังดีกับเจิ้งเยว่
เธอรู้ว่าจุดประสงค์ของเจิ้งเยว่ไม่ได้ต้องการที่จะรักกับลลู่หยวนจริงๆ แต่ต้องการใช้ลู่หยวนเป็นเครื่องมือในการยั่วให้เป่าห่าวหึงหวงก็เท่านั้น
ตราบใดที่แผนการดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น เมื่อท่าทีของเป่าห่าวเป็นไปตามที่พี่สาวของเธอต้องการ มันก็ต้องมีบ้างที่เจิ้งเยว่จะออกไปกินข้าวกับเป่าห่าวเป็นเรื่องเป็นธรรมดา
ดังนั้นที่เธอบอกกับลู่หยวนแบบนี้ เพื่อตัดปัญหาเวลาลู่หยวนมาตามตื้อเจิ้งเยว่ และมันเป็นเหตุผลที่ดีในการกำจัดลู่หยวนเมื่อถึงเวลานั้น
“เธอหมายความว่าฉันกับลูกพี่ลูกน้องของเธอเป็นแค่แฟนกัน ดังนั้นจึงไม่สมควรที่จะแตะเนื้อต้องตัวกัน แต่ในขณะเดียวกันผู้ชายคนอื่นสามารถทำแบบนั้นกับลูกพี่ลูกน้องของเธอได้โดยที่ฉันห้ามเข้าไปยุ่ง ฉันเข้าใจถูกไหมประธาน?” ลู่หยวนคิดสักพักแล้วพูด
“ถูกต้อง!” ไป๋หล่านกล่าวอย่างกล้าหาญ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
ในตอนนี้เจิ้งเยว่ไม่สามาถทนได้อีกต่อไป เธอตบไปที่หน้าของไป๋หล่านเข้าอย่างแรง
ไป๋หล่านรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า
แม้ว่าเธอจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับไป๋หล่าน แต่เจิ้งเยว่ก็ต้องการที่จะจับลู่หยวนเช่นกัน ถ้าเธอทำสำเร็จละก็ชีวิตของเธอก็จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เธอจะกลายเป็นภรรยาของเศรษฐี
และสิ่งนี้มันก็สำคัญกับชีวิตของเธอมาก!
ดังนั้นเมื่อเจิ้งเยว่ได้ยินทัศนคติของไป๋หล่านที่มีต่อลู่หยวนยิ่งแย่ๆลงเรื่อยๆ ไม่เหมาะสมมากขึ้นเรื่อยๆ เธอกลัวว่ามันจะทำให้ลู่หยวนนั้นมองเธอไม่ดี และมันทำให้เธอเป็นกังวลอย่างมาก เธอจึงตัดสินใจตบไป๋หล่านเพื่อที่เธอจะได้หยุดพูดแบบนั้นสักที
ไป๋หล่านไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังเป็นปัญหาของเจิ้งเยว่
“เธอกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่ไป๋หล่าน ตอนนี้ลู่หยวนเป็นแฟนของฉันแล้ว โปรดช่วยเคารพแฟนของฉันด้วย” เจิ้งเยว่พูดเสียงแหลมและจ้องไปที่ไป๋หล่าน
ทันใดนั้นบรรยากาศก็ตึงเครียดขึ้นมาทันที
ลูกค้าในร้านกาแฟก็ตื่นตระหนกกันทั้งร้าน บางคนก็หันหน้ามามองว่าเกิดอะไรขึ้น
พนักงานเสิร์ฟสองสามคนเริ่มมองมาที่โต๊ะ ราวกับว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นต่อจากนี้ พวกเขาก็พร้อมที่จะเชิญพวกเธอออกไปทันที
()