โชคชะตาที่ล่วงหล่น - ตอนที่ 11 ขอโทษที่มาสาย
ผู้หญิงคนนี้หุ่นดีมาก!
กระโปรงสั้นสีขาวพอดีกับส่วนโค้งของบั้นท้ายที่สมบูรณ์แบบ น่องเรียวตรงและเรียบเนียน ต้นขาขาวอวบอิ่มและเรียบเนียนโดยเฉพาะหน้าอกที่อวบอึ๋ม
เมื่อผู้หญิงคนนั้นหันกลับมาในลิฟต์ลู่หยวนก็เห็นรูปลักษณ์ของเธอชัดเจนขึ้น
สาวสายคนนี้อายุประมาณ 25-26 ปีแก่กว่าลู่หยวนนิดหน่อย แต่อายุประมาณนี้กำลังดีไม่มีความอ่อนโยนของเด็กผู้หญิงและดูมีสเน่ห์มากกว่าที่ผู้หญิงควรจะมี
เป็นลักษณะสาวสวยที่ผู้ชายส่วนใหญ่นั้นใฝ่หา
เมื่อประตูลิฟต์กำลังจะปิดลู่หยวนก็รีบเข้าไป
หญิงสาวมองไปที่ลู่หยวนอย่างไม่พอใจเล็กน้อยราวกับจะตำหนิว่าลู่หยวนที่ทำให้เธอเสียเวลา
แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร
ในลิฟต์มีแค่ผู้หญิงคนนั้นและลู่หยวน
กลิ่นจากผู้หญิงคนนั้นอบอวลไปทั่วลิฟต์ กลิ่นหอมจากตัวเธอทำให้ลู่หยวนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นตัว
ผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ข้างหน้าและลู่หยวนยืนอยู่ข้างหลัง มุมนี้ดีมากทำให้มองเห็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของผู้หญิงคนนั้น
แม้ว่าลู่หยวนจะเอาแต่พูดในใจว่าห้ามมองห้ามมอง! ต้องเป็นสุภาพบุรุษสิ
แต่เมื่อต้องเผชิญกับผู้หญิงน่าหลงใหลเช่นนี้เขาก็ไม่สามารถบังคับตัวเองได้
ทันใดนั้นผู้หญิงคนนั้นก็หันกลับมามองลู่หยวนด้วยสีหน้าไม่พอใจ “คุณกำลังทำอะไรอยู่!”
“เปล่านี่! ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย” ลู่หยวนกลับมาในรูปลักษณ์ของสุภาพบุรุษทันที
“นายไม่ได้แอบมองฉันอยู่หรอกเหรอ?” ผู้หญิงคนนั้นยิ้มเยาะ จะไม่ยอมรับงั้นเหรอ?
เขาช่างซื่อบื้อจริงๆ ลิฟต์เรียบมากและผนังก็เหมือนกระจกเธอสามารถมองเห็นทุกการเคลื่อนไหวของลู่หยวนที่อยู่ข้างหลังเธอจากในกระจก
“ฉัน ฉันไม่ได้แอบมอง”
ลู่หยวนรู้สึกผิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้หญิงคนนี้ดูร้อนแรงและสง่างามเธอดูโตกว่าเขาด้วยและน้ำเสียงของเธอทำให้ลู่หยวนรู้สึกประหม่า
ในขณะที่เขาพูดลู่หยวนก็รู้สึกถึงความร้อนในจมูกของเขาและดูเหมือนว่ามีบางอย่างออกมาจากจมูกของเขา
“ฮ่าฮ่า คุณยังไม่ได้แอบมองอะไรเลยเหรอ”
ผู้หญิงคนนั้นชี้ไปที่ลู่หยวน “แต่เลือดกำเดาไหลแล้วนะน้องชาย”
หือ?
ลู่หยวนรีบเช็ดจมูกก็เห็นว่าเลือดออกจริงๆ มันน่าอายมาก
อันที่จริงก็ไม่ควรตำหนิลู่หยวนเพราะผู้หญิงคนนี้หน้าตาดีจริงๆและตอนนี้เมื่อผู้หญิงคนนั้นหันกลับมาเธอก็หันหน้าไปทางลู่หยวนและลิฟต์ก็แคบลู่หยวนสามารถมองเห็นผิวขาวบนหน้าอกของเธอได้อย่างชัดเจน ต้องบอกว่าผู้หญิงคนนี้สวยจริงๆมันยากที่จะบังคับไม่ให้หัวใจของผู้ชายหวั่นไหว
ไม่แปลกที่ลู่หยวนตอบสนองอย่างกะทันหัน
ทันทีที่ลู่หยวนแตะที่จมูก เขาก็รู้สึกคันที่จมูก และแล้ว…..
“ฮัดเช้ย!”
ลู่หยวนจามอย่างรุนแรง
หญิงสาวส่งเสียงอุทานออกมา
ปรากฎว่าเลือดกำเดาของลู่หยวนฉีดตรงไปที่หน้าอกของผู้หญิงคนนั้นอย่างแม่นยำ
“ฉันขอโทษ”
ลู่หยวนกรีดร้องในใจมันช่างน่าอายจริงๆ เขาพยายามหาทิชชู่ แต่พบว่ามันไม่มีและนี่ไม่ใช่เวลาที่จะคิด ตอนนี้เขาได้ยื่นมือออกมาเพื่อไปช่วยผู้หญิงคนนี้เช็ดเลือด
“คุณจะทำอะไร!” ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นแสดงถึงความตกใจ
“ฉันจะเช็ดเลือดให้คุณ” ลู่หยวนพูดโดยไม่รู้ตัวและหลังจากพูดเขาก็ตะลึงเช่นกัน
ตอนนี้เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหันเขาไม่ได้คิดอะไรมากเขาจึงยืนมือไปที่หน้าอกของเธอเพื่อเช็ดเลือด แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงคนนั้นเขาก็รู้สึกตัวขึ้นมา
“ไอ้ลามก!”
ผู้หญิงคนนั้นตบลู่หยวนและเปิดประตูลิฟต์ออกไป
ตบนี้ค่อนข้างหนัก
ลู่หยวนสัมผัสแก้มที่เจ็บแต่ไม่มีอะไรจะพูดหลังจากนั้น เขาได้แตะหน้าอกของผู้หญิงคนนั้น การถูกตบในครั้งนี้ก็คุ้มค่าเช่นกันเมื่อนึกถึงความรู้สึกของมือในตอนที่ได้สัมผัสมันเป็นสิ่งที่น่าจดจำจริงๆ
ลิฟต์มาถึงชั้นบนสุดแล้ว
เจียงหนานชุนรอมานานแล้ว นอกจากเจียงหนานชุนแล้วยังมีคนอื่นๆที่มาจากสถาบันเจียงหนานอีก โดยทั่วไปอายุเฉลี่ย 40-50 ปี ทุกคนดูมีภูมิฐานที่มันคงสวมชุดสูทอย่างเป็นทางการ
แต่เมื่อพวกเขาเห็นลู่หยวนทุกคนก็โค้งคำนับและแสดงความเคารพ
“นายน้อยสาม ยินดีอย่างยิ่งที่ได้พบท่าน”
เจียงหนานชุนในวัยสี่สิบเขากล่าวด้วยท่าทางนิ่ง ๆ เขาดูฉลาดและไม่ธรรมดาเหมาะสมแล้วที่เป็นหัวหน้า
ที่นั่นบริกรเริ่มเสิร์ฟอาหารและไวน์อีกครั้ง
ในระหว่างการประชุมเจียงหนานชุนได้รายงานให้กับลู่หยวนได้รับรู้เหมือนการรายงานสำหรับผู้บังคับบัญชา เขาบอกลู่หยวนเกี่ยวกับอำนาจของตระกูลและอุตสาหกรรมในจินหลิงว่าปัจจุบันอุตสาหกรรมเหล่านี้บริหารโดยเจียงหนาน
เมื่อลู่หยวนได้ยินเช่นนั้นเขาก็แอบประหลาดใจ ปรากฎว่าอุตสาหกรรมที่คุ้นเคยที่จินหลิงนั้นเป็นของครอบครัวของเขาเอง
นี่เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก
แม้ว่าลู่จะเกิดในตระกูลที่ร่ำรวยแต่เขาก็ไม่ชอบสไตล์ของคนรุ่นที่สองที่ร่ำรวย นอกจากนี้ทางตระกูลก็ยังควบคุมเขาอย่างเข้มงวด ดังนั้นประสบการณ์ของลู่หยวนจึงคล้ายคลึงกับคนทั่วไปส่วนใหญ่
“ทำไมหัวหน้าหยางยังไม่มา?”
เจียงหนานชุนมองไปที่นาฬิกาของเขาและพูด
ทันทีที่เขาพูดจบก็มีเสียงฝีเท้าวิ่งเข้ามาด้วยรองเท้าส้นสูงด้านหลังลู่หยวน จากนั้นก็มีเสียงพูดว่า “ขอโทษค่ะที่มาสาย”
“เป็นอะไรไปเสี่ยวหยาง วันนี้นายน้อยสามก็มาที่นี่ด้วยทำไมคุณถึงมาสาย” เจียงหนานชุนตำหนิ
“ขอโทษค่ะผู้อำนวยการ ฉันจะไม่มาสายถ้าหากไม่เกิดอุบัติเหตุในลิฟต์ ฉันไปเข้าห้องน้ำมาและมันทำให้ล่าช้าไปหน่อย” เป็นผู้หญิงและเสียงนี้คุ้นๆเธอคือสาวสวยที่เพิ่งเจอในลิฟต์!
การเต้นของหัวใจของลู่หยวนเร็วขึ้นและเขาไม่ได้คาดหวังว่าผู้หญิงเซ็กซี่คนนี้จะมาจากสถาบันเจียงหนาน
แม้ว่าในใจเขาจะมีความสุขมาก แต่เขาก็ยังรู้สึกอายอยู่บ้างที่จะได้เจอเธออีกครั้งในตอนนี้!
“เอาล่ะมาพบกับนายน้อยสาม”
เจียงหนานชุนไม่คิดอะไรมากและพาผู้หญิงคนนั้นไปหาลู่หยวน
“สวัสดีนายน้อยสาม หยางหมินจากหน่วยข่าวกรองของสถาบันเจียงหนานทำความเคารพนายน้อยสาม!”
ผู้หญิงคนนั้นเดินมาหาลู่หยวนและโค้งคำนับอย่างสุดซึ้ง
ในตอนนี้ลู่หยวนไม่สามารถควบคุมมันได้อีกต่อไป
เดิมที่หน้าอกของหยางหมินก็มีขนาดใหญ่พอสมควร แต่ตอนนี้เธอยังคงก้มลงและโค้งคำนับ ระยะทางนั้นใกล้แค่เอื้อม และทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของลู่หยวน!
หลังจากที่หยางหมินโค้งคำนับแล้วเธอก็เงยหน้าขึ้นและเมื่อเธอเห็นลู่หยวนเธอก็ตกตะลึง
ไอ้นายลามกคนนี้คือนายน้อยสามเหรอ?
“กระดาษทิชชู่”
จู่ๆลู่หยวนก็ปิดจมูกและตะโกน
เจียงหนานชุนรีบไปที่โต๊ะด้วยตัวเองหยิบทิชชู่ออกมาสองสามชิ้นแล้วส่งให้ลู่หยวนอย่างรวดเร็ว
ลู่หยวนหยิบกระดาษทิชชู่และกดลงใต้จมูกของเขาราวกับเช็ดจมูก เขาเช็ดมันอย่างระมัดระวังหลังจากนั้นก็ขยำกระดาษทิชชู่เป็นลูกบอลแล้วโยนลงถังขยะ
“อืม เมื่อเร็วๆนี้ฉันไม่สบายนิดหน่อยและมีน้ำมูกไหลอยู่ตลอดเวลาฮ่าฮ่า” ลู่หยวนอธิบาย
ดวงตาของหยางหมินกระพริบและมองไปที่ลู่หยวนอย่างสุขุมจากนั้นเธอก็ปิดปากและยิ้มเบาๆ
เมื่อลู่หยวนเห็นหยางหมินยิ้มใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่าหยางหมินรู้ทัน
ใช่แล้ว ลู่หยวนไม่ได้เช็ดจมูกแต่ความเป็นจริงในตอนที่หยางหมินก้มหัวให้ลู่หยวนนั้นก็เริ่มมีเลือดออกอีกครั้งมันทำให้เขารู้สึกอาย เพื่อที่จะไม่ให้เจียงหนานชุนและคนอื่นๆรู้เขาจึงต้องพูดไปแบบนั้น
ลู่หยวนเช็ดเลือดกำเดาออกทั้งหมดด้วยกระดาษทิชชู่โดยอ้างว่าเขาไม่สบายจมูก
อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้หลอกลวงผู้อื่นได้ แต่มันไม่สามารถหลอกลวงหยางหมิน
ท้ายที่สุดหยางหมินนั้นรู้อยู่ในใจว่าเขาโกหก
นอกจากนี้เธอยังเคยเห็นเลือดกำเดาที่ไหลของลู่หยวนในลิฟต์
ลู่หยวนรู้สึกอายเล็กน้อยที่จะกินอาหารมื้อนี้ ในแง่หนึ่งมันเกี่ยวกับตัวเขาเอง และเรื่องหยางหมินในลิฟต์อีก เพราะว่าหน้าอกของเธอนั้นเด่นมากซึ่งมันมองเห็นได้ชัดเกินไป
อย่างไรก็ตามหยางหมินกำลังพูดคุยและหัวเราะอย่างมีความสุข เธอดูน่ามองอย่างฝืนไม่ได้ เธอแก่กว่าลู่หยวนแค่ไม่กี่ปีแต่ประสบการณ์ทางสังคมมากมาย
ในที่สุดมื้ออาหารก็สิ้นสุดลง
“นายน้อยสามท่านต้องการไปที่คลับเฮาส์เพื่อพักผ่อนหรือไม่?” เจียงหนานชุนถาม เนื่องจากพวกเขาต้องการจะเลี้ยงรับรองในครั้งนี้ตามปกติเพื่อให้ความบันเทิงแก่ลู่หยวน
คลับเฮาส์?
ลู่หยวนผงะ สถานที่ที่มีสาวสวยสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นอยู่ล้อมรอบตัว?
“ไม่ดีกว่า” ลู่หยวนพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำ
หยางหมินมองดูลู่หยวนหน้าแดงอยู่ข้างๆเธอ มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากและดวงตาของเธอ
เจียงหนานชุนพยักหน้า ขณะนี้โต๊ะที่เต็มไปด้วยผู้คนกำลังรออยู่
พวกเขาจะยืนขึ้นได้ก็ต่อเมื่อลู่หยวนลุกขึ้นก่อน
อย่างไรก็ตามลู่หยวนไม่ได้ยืนขึ้นเป็นเวลานานไม่เพียงแต่พวกเขาไม่ยืนขึ้น และยังคงจ้องมองไปที่จานบนโต๊ะ
“นายน้อยสามท่านต้องการให้บริกรมาเสิร์ฟอาหารเพิ่มหรือไม่ครับ?”
หัวใจของเจียงหนานชุนขยับและรีบพูดอย่างรีบร้อนเขาตำหนิตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าในใจ ‘ฉันไม่ได้พูดอะไรผิดไปใช่ไหม?ทานข้าวยังไม่อิ่มจะให้ความบันเทิงได้อย่างไร!‘
“บริกรเอาเมนูมา!”
คนอื่นๆก็เหงื่อแตกเช่นกันพวกเขาเข้าใจว่านายน้อยยังคงกินไม่อิ่ม!
“ไม่เป็นไร ฉันอิ่มแล้ว”
ลู่หยวนชี้ไปที่ผลไม้บนโต๊ะ “ฉันเห็นทุกคนไม่ได้กินผลไม้พวกนี้เลยนึกเสียดายมัน ฉันแค่สงสัยว่าเป็นไปได้ไหมที่จะบรรจุมันกลับด้วย”
………. ทุกคนแทบจะเป็นลม
ให้ตายเถอะปรากฎว่านายน้อยสามนั้นแค่ต้องการจะแพ็คของที่เหลือ!
นี่มันเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเกินไป
ใครเคยเห็นรุ่นสองของคนรวยกินไม่หมดแล้วแพ็คกลับบ้าน?
ยิ่งไปกว่านั้นรุ่นที่สองที่ร่ำรวยคนนี้ เป็นรุ่นสองที่ร่ำรวยโคตรๆ
แต่นั่นทำให้ในใจของพวกเขาทุกคนชื่นชมลู่หยวนมากยิ่งขึ้น
ตระกูลร่ำรวยมาก แต่ไม่มีร่องรอยของความเย่อหยิ่งและความหรูหราเขาต้องเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากแน่นอน!