โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง - ตอนที่ 149 ตลอดหลายปีที่รู้จักกับคุณฮั่ว
อันหรันตกตะลึงเมื่อได้ทราบว่าไม่มีใครนำอาหารมาให้ฮั่วเทียนหลัน
ตั้งแต่มานอนโรงพยาบาล เรื่องนี้ก็เหมือนกับถูกลืม
เพราะว่าเมื่อก่อนแม่ของฮั่วเทียนหลันเป็นผู้ที่ทำอาหาร และอันหรันเป็นคนนำมาส่ง อันหรันก็เริ่มฝึกฝนในการทำอาหาร และสุดท้ายเธอก็ทำอาหารได้
แต่ว่าอันหรันก็รู้ว่าฮั่วเทียนหลันรังเกียจตนเอง ดังนั้นเธอจึงกำชับกับแม่ของฮั่วเทียนหลันว่าไม่ให้บอกว่าเธอเป็นคนทำอาหารเหล่านี้
อันหรันพูดด้วยท่าทีลังเลว่า “ไม่ใช่นะ คุณแม่เป็นคนทำ คุณแม่เป็นคนทำนะ”
คำพูดรวมถึงน้ำเสียงของเธอ ไม่ต้องเอ่ยถึงฮั่วเทียนหลันแม้แต่ป้า Ding ยังรู้ว่าอันหรันกำลังโกหก
แต่ฮั่วเทียนหลันเพียงแค่มองเธอพูดคุยกัน ทานอาหารต่อไปโดยไม่ได้ใส่ใจอะไร
อันหรันถอนหายใจยาวๆ รู้สึกเหมือนกระโดดหนีออกมาได้
และเธอก็คิดไม่ถึงว่า อาหารหกอย่างที่เธอทำมาจะรสชาติถูกปากฮั่วเทียนหลัน ซึ่งเขาก็ทานมันจนหมด
มองไปบนโต๊ะ อาหารถูกทานจนหมดเหลือแต่จานเปล่า เธอรู้สึกเหมือนราวกับฝันไป
เขากินหมดเลยหรอ
ฮั่วเทียนหลันพอทานอาหารเสร็จ ก็ไปรับโทรศัพท์ ซึ่งก็ดูเหมือนว่าเป็นเรื่องที่เร่งด่วนมาก
ระหว่างที่กำลังเก็บโต๊ะนั้น เขาก็รีบร้อนเดินออกไป
อันหรันจะไปล้างทำความสะอาด แต่ป้า Ding บอกไม่ต้องทำ ถ้าล้างมือนุ่มๆของสาวๆอย่างเธอจะลอกและแห้งเสีย
อันหรันกลับมาบนตึก มองไปบนวิวหน้าต่างของระเบียง ก็รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างที่ทุกข์ร้อนใจ
ฮั่วเทียนหลันไม่ชอบเธอ แถมบางทียังอาจจะรู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นคนทำอาหารมาให้ ทำไมถึงกินจนหมดนะ
นี่จะใช่สัญลักษณ์ที่แสดงว่าเราสองคนกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและความสัมพันธ์กันหรือเปล่า
นี่มันช่างเป็นเรื่องราวที่คุ้มค่าที่ควรจดจำ และอันหรันก็เตรียมพร้อมที่จะจดบันทึกมันไว้
เธอเปิดไดอารีส่วนตัว เปิดผ่านและกวาดตามองไปยังหน้าที่เธอบันทึกความทรงจำที่ผ่านทุกข์และสุขมา
อันเฮามาที่บ้านของเขาครั้งแรก เขาดูกลัวมากๆ
พ่อและแม่พาเธอและอันเฮาออกไปเที่ยวเล่น เมื่อถึงที่กาสิโนพวกเขาก็เล่นกันตามอำเภอใจ เธอสนุกสนานไปกับมันมาก
ครั้งแรกที่ได้พบกับหยางจื่อหยิม หยางจื่อหยิม สารภาพรักกับเธอ เธอและเขาจูงมือกันท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่นในฤดูใบไม้ร่วง
พ่อกับแม่เกิดอุบัติเหตุ ครอบครัวอันเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อันหรันกับอันเฮาสวมชุดขาวนั่งคุกเข่าอยู่ในห้องโถงที่มีแสงสลัวๆ
เธอถูกไล่ออกจากบ้าน เธอกำเงินไปเช่าห้องเล็กๆ ที่สภาพชำรุดทรุดโทรม
อันเฮาป่วยหนักมาก ทรมานจนหน้านิ่วคิ้วขมวด
เมื่อได้พบกับฮั่วเทียนหลัน…..
ในไดอารี่ส่วนตัวของเธอนั้น เธอมักจะติดรูปถ่ายแนบไว้ด้วย
แต่ว่าเมื่อถึงตรงส่วนของฮั่วเทียนหลัน บันทึกก็เหมือนเสียงที่ถูกตัดขาดหายไป
ฮั่วเทียนหลันทำให้ชีวิตของอันหรัน กลับตาลปัตร
บางเรื่องก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วจนอันหรันไม่แม้แต่จะบันทึก ทั้งเรื่องเปลี่ยนงาน การตั้งครรภ์ การต้องจากเมืองzไป การใช้ชีวิตอย่างสงบที่เมืองw การต้องไปหางานทำใหม่ การเลี้ยงดูลั่นลาน …..
หลายปีที่ผ่านมาก็ผ่านเรื่องราวมาเยอะแยะมากมาย
อันหรันเปิดตู้เพื่อค้นหาคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ซึ่งด้านบนมันยังคงติดรูปของสาวสวยภาพหนึ่ง
ซึ่งคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงที่ตั้งใจของอันหรัน
สเปคและคุณภาพของเครื่องไม่สูงมาก แต่ว่าอันหรันก็ใช้งานมาได้หลายปี
นับแต่มันไม่สามารถลงโปรแกรมเพื่อใช้งานได้ อันหรันก็ไม่ได้แตะต้องมันอีกเลย
เธอเหม่ออยู่สักพัก ก็เริ่มเขียนไดอารี่ส่วนตัว
ชื่อของไดอารีเล่มนี้คือ ตลอดหลายปีที่รู้จักกับคุณฮั่ว
อันหรันจำวันที่ไม่ได้แล้ว ดังนั้นเธอจึงเขียนแบ่งออกเป็นรายปีแทน
ปีแรก
เพื่อที่จะช่วยอันเฮา ฉันจึงจำเป็นทำอาชีพขายบริการ
แต่พอได้เจอกับไอ้แก่อ้วนหมูตอน ฉันก็รู้สึกสำนึกผิด
ฉันวิ่งหนี วิ่งหนีโดยที่ไม่มีหนทางที่จะไป และฉันก็ได้พบกับชายที่มีจิตใจคนหนึ่ง
เขาปกป้องฉัน และนำเงินให้ฉัน
ค่าผ่าตัดของอันเฮาก็เพียงพอที่จะชำระ แต่ทว่าหลังจากผ่าตัด มันกลับไม่ได้ผลอะไร
และเขาก็กำลังจะไปอาศัยอยู่ต่างประเทศแล้ว คุณป้าจางมาแล้ว ฉันก็ได้แต่ทนความเจ็บด้วยที่ทำให้เขาเข้าใจผิด และฉันก็เดินจากไปพร้อมกับคุณป้าจาง
เสี่ยวเจี๋ยหวังว่าเธอจะให้อภัยฉัน
คุณป้าจางให้เงินฉันมาห้าแสน ฉันมีเงินคืนให้กับเขาแล้ว
แต่ฉันก็ไม่คิดเลยว่า ตั้งแต่ได้พบกับเขาในครั้งนั้น เขาจะทำกับฉันแบบนี้
ไม่เห็นมีอะไรเลย ก็คิดซะว่าตอบแทนบุญคุณแล้วกัน เงินฉันก็ให้เขาไปแล้ว
ในที่สุดฉันก็รู้จักชื่อเขา เขาชื่อว่า ฮั่วเทียนหลัน
แต่ทำไมกันนะ ทำไมต้องเป็น มู่เหว่ย
ทำไมเธอถึงกลายเป็นแฟนของฮั่วเทียนหลัน
ฉันพบว่าฉันตั้งครรภ์ คนในบริษัทก็รับรู้ หรือว่าฉันต้องไปจากที่นี่แล้ว
ปีที่สอง
ฉันมาถึงเมืองแห่งใหม่ ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนบ้านใหม่ ครอบครัวของคุณป้าดีกับฉันทุกคน หวังถิงเป็นลูกสาวของคุณป้า เธอเป็นเพื่อนใหม่ของฉัน
ท้องของฉันก็เริ่มใหญ่ขึ้นทุกวัน จะทำอะไรก็เริ่มลำบาก
ฉันคิดออกแล้ว ถ้าเป็นลูกสาว จะให้ชื่อว่าลั่นลาน แต่ถ้าเป็นลูกชายล่ะก็ ให้ชื่อว่า เทียนเทียน
ฉันดีใจมากๆ ที่รู้ว่าฉันได้ลูกสาว แต่ว่าตอนตั้งชื่อ จะให้ใช้นามสกุลใครดีหล่ะ
ฉันปรึกษากับหวังถิงและคุณป้า พวกเค้ายินดีที่จะให้ลั่นลาน ใช้นามสกุลของครอบครัวเฉิน
แต่ว่าลั่นลาน ควรจะใช้นามสกุลฮั่วหรือไม่นะ
……
อันหรันร้องไห้น้ำตาไหลร้องไห้ตลอด จนหูตาพร่ามัว มองอะไรไม่เห็น
เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ และวางมือลงจากการเขียน
และยังย้อนนึกถึงความทรงจำในอดีต ซึ่งทุกคนล้วนแล้วแต่จะต้องมีเรื่องราวให้รำลึกถึง
เธอเริ่มเขียนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปีนี้
ฉันแต่งงานกับคุณฮั่ว แต่เขาไม่รู้จักลั่นลาน แถมยังเข้าใจผิดฉัน
คุณนายฮั่วดีกับฉันมาก คนในครอบครัวทุกคนล้วนให้อภัยฉัน
คุณฮั่วได้เจอกับลั่นลาน แล้ว เป็นครั้งแรกที่พ่อลูกได้เจอกัน บางทีอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายก็ได้
วันนี้ คุณฮั่วรู้ว่าอาหารที่นำมาให้ทุกวันเป็นอาหารที่ฉันทำ เขากินจนหมด
อันหรันจัดการปิดเครื่อง พับคอมพิวเตอร์ และนำมันกลับไปไว้ในตู้ดังเดิม
บางที่นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้สรุปเรื่องราวต่างๆ หรืออาจจะรออีกครั้ง ก็คือตอนที่จากฮั่วเทียนหลันไป และกลับไปยังเมืองw
ความสุขบางทีก็ก็มาเพียงช่วงระยะสั้นๆ ซึ่งอันหรันก็รู้ดี ดังนั้นเธอจึงไม่ค่อยอาลัยอาวรณ์กับเรื่องราวในอดีต
ที่บ้านครอบครัวฮั่ว รถลิมูซีน ลินคอล์น สเตรทช์ มุ่งหน้าเข้าสู่คฤหาสน์ พร้อมกับจอดเทียบบริเวณประตู
หญิงผู้สง่างามก็กำลังช่วยชายชราผมขาวลงจากรถ
หลี่รูยา มารอรับถึงหน้าประตู พร้อมเอ่ยขึ้นว่า “ลุงหลี่มาแล้ว”
เธอยิ้มให้กับหญิงคนดังกล่าว ซึ่งหญิงคนนั้นแม้ในใจจะไม่พึงพอใจ แต่รู้ดีถึงความแตกต่างของสองครอบครัว ก็เลยต้องฝืนยิ้มตอบ
พวกเขาเหล่านั้นต่างเดินไปนั่งที่ห้องรับแขก แล้วหลี่รูยา รินน้ำชาให้กับคุณปู่หลี่
“ลุงหลี่ลมอะไรถึงพัดท่านมาได้คะนี่?” หลี่รูยา ไม่ทราบว่าคุณปู่หลี่มาด้วยเหตุผลใด แต่เมื่อเห็นท่าทีที่ดูก้าวร้าว ก็เกรงว่าอาจจะมีเรื่องราวบางอย่างเกิดขึ้น
“เธอไม่รู้จริงๆเหรอ ” คุณปู่หลี่ยังไม่ทันเอ่ยปากพูด คุณนายหลี่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา
หลี่รูยา มองเข้าไปในนัยน์ตาของเธอ และก็ไม่ได้สนใจท่าทางที่หยาบคาย
ที่เมืองZ ต่างก็ไม่มีใครที่กล้าพูดจากับเธอแบบนี้
คุณนายหลี่ก้มหัวลงและเงียบลงอยู่ในอาการสงบ
“ฉันก็ไม่รู้จริงๆว่าเกิดอะไรขึ้น,หรือลูกของฉันไปก่อเหตุอะไรขึ้นหรือคะ”หลี่รูยา กล่าว
คุณปู่หลี่ถอนหายใจเฮือก ชายชราพูดขึ้น “ก็ก่อเรื่องน่ะสิ! ลูกชายคนที่สองของเธอ ทำร้ายหลานของฉันเกือบตาย ตอนนี้ยังนอนอยู่โรงพยาบาลอยู่เลย!”