โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 - ตอนที่ 636 - ผู้คนคับคั่ง
Ep.636 – ผู้คนคับคั่ง
“ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ในอนาคตเมืองลาวาเดือดก็จะรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปอีก”
ระหว่างคิด ฉินเฟิงก็เดินมาถึงส่วนบนของชั้นตรวจการแล้ว
บนผนังของที่นี่ เต็มไปด้วยจอภาพถูกติดตั้งเอาไว้รอบด้าน สามารถตรวจสอบสถานการณ์รอบๆต้นไม้เพลิงอย่างไม่ตกหล่น
อย่างไรก็ตาม ต้นไม่เพลิงอาจมีพลังสมาธิอยู่ในตัว ดังนั้นไม่สามารถควบคุมโดรนให้เข้าใกล้มากเกินไป แต่สำหรับปีศาจโทรล พวกมันมีภูมิปัญญาค่อนข้างต่ำ ดังนั้นยากนักจะสังเกตเห็นโดรน อุปกรณ์เฝ้าระวังเหล่านี้เลยสามารถทำหน้าที่ของมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
และตอนนี้ ปรากฏคนหลายกลุ่มเข้าไปยังดินแดนของปีศาจโทรลแล้ว
“ฉันว่าเดี๋ยวคนพวกนี้คงถูกกลืนหายไปกับความตายอีกรอบ”
“หึ! เป็นเพราะตระกูลโหวกับตระกูลตี๋ไม่ได้บอกข้อมูลพวกเขาทั้งหมด คนพวกนี้ไม่รู้จักพฤติกรรมของปีศาจโทรลด้วยซ้ำ สุดท้ายคงเอาชีวิตตัวเองมาทิ้งที่นี่”
“ก็ขอให้พวกเขาโชคดีแล้วกัน เพราะฉันคงไม่คิดเตือนอีกแล้ว”
“แต่ในบรรดาหลายกลุ่มที่เข้าไป เหมือนจะมีบางคนมาจากกองกำลังมืดด้วยนะ แต่พวกมันไม่ได้เข้ามาในเมืองของพวกเรา”
“ระวังเอาไว้บ้างก็ดี อย่าปล่อยให้พวกมันเข้ามาในเมืองระหว่างที่เรากำลังก่อสร้างปรับปรุงเมืองอยู่”
ฝูงชนกระซิบกระซาบ สนทนากันและกัน แต่พอฉินเฟิงปรากฏตัวทั้งหมดก็ออกมารับหน้าทันที
“ท่านผู้การรัฐ!”
“ท่านประธาน!”
“ได้พักผ่อนเต็มที่แล้วใช่ไหมครับ?”
“มาถึงที่นี่ ไม่ทราบว่ามีอะไรให้พวกเรารับใช้”
ฉินเฟิงพยักหน้ารับคำทักทายของพวกเขา จากนั้นเอ่ยปากว่า “ถามซูซิงฝูให้หน่อย ว่าได้เริ่มเตรียมผลิตกระสุนปืนใหญ่น้ำแข็งรึยัง? จัดตั้งสายพานการผลิตแล้วใช่ไหม? ตอนนี้ถึงเวลาที่พวกเราต้องวางขายมันแล้ว!”
เนื่องจากฉินเฟิงไม่ได้เปิดเผยข้อมูลก่อนหน้านี้ ดังนั้นเลยยังไม่มีการจัดตั้งโรงงานในเมืองลาวาเดือด แต่เมื่อกลับมาจากสนามรบ ฉินเฟิงได้ขอให้ซูซิงฝูขนส่งกระสุนปืนใหญ่น้ำแข็งมาจำนวนหนึ่ง และขายสูงกว่าราคาตลาด
เพราะเมื่อมีผู้คนเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งเหล่านี้ย่อมกลายเป็นรายได้อีกทางไปโดยปริยาย
“จัดส่งมาถึงแล้ว และทางเรากำลังทำการโฆษณา ส่วนในเรื่องสายการผลิตกำลังจะเสร็จสิ้นในเร็วๆนี้” โกวก๋วนตอบ
ฉินเฟิงพยักหน้าด้วยความพอใจ ส่วนคนอื่นๆอดรู้สึกชื่นชมฉินเฟิงไม่ได้ ณ เวลานี้ ฉินเฟิงยังไม่ได้ขายผลึกปีศาจโทรล แต่เลือกที่จะขายกระสุนปืนใหญ่น้ำแข็งแทน ถือเป็นกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
วังเฉินก้าวออกมาและกล่าว “ลูกพี่ หัวหน้าตระกูลตี๋กับตระกูลโหวก็ตายไปแล้ว ตอนนี้ในตระกูลพวกมันเหลือปลาใหญ่อีกแค่ไม่กี่ตัว คุณอยากส่งคนของเราไปยึดธุรกิจของพวกมันไหม? ถ้าขืนยังมัวชักช้า สุดท้ายคงเป็นตระกูลหยางที่ฮุบกิจการทั้งหมดไป”
ฉินเฟิงขมวดคิ้ว กล่าวเสียงเย็น “ผมอยากกินเนื้อชิ้นใหญ่มากกว่า ฉะนั้นอย่าไปยุ่งกับพวกเขาเลย ส่งคนไปบอกแค่ว่าเตรียมจ่ายภาษีให้ดีก็พอ”
ตระกูลหยางไม่ได้ล่วงเกินฉินเฟิง ดังนั้นมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ก่อนหน้านี้พูดถึงเรื่องภาษี ตระกูลหยางก็ยังยอมรับอย่างว่าง่าย ครั้งนี้เมื่อเกิดเรื่องดีๆขึ้น เลยเป็นธรรมดาที่ฉินเฟิงจะยอมแบ่งปันชิ้นเค้กเล็กๆสักชิ้นให้พวกเขา
ทุกท่านคงไม่คิดหรอกกระมัง ว่าแค่ฉินเฟิงร่ำรวยเพียงคนเดียว แล้วจะสามารถพัฒนารัฐทะเลเหนือได้ ?
กระเป่าของพวกตระกูลผู้ใช้วรยุทธโบราณ เวลานี้ฉินเฟิงยังจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากมัน ดังนั้นปล่อยปละละเว้นไป
“เข้าใจแล้วลูกพี่ ฉันเข้าใจแล้ว” วังเฉินรีบไปจัดการทันที ส่วนฉินเฟิง เขาหันกลับมาดูภาพบนจอเฝ้าระวังอีกครั้ง ฉินเฟิงพบว่าหลังตนหลับไหลไปกว่า 12 ชั่วโมง มีปีศาจโทรลลาวาเดือดกำเนิดขึ้นใหม่กว่า 3,000 ตัว และจากทั้งหมดมีอีกกว่า 1,000 ตัวที่สามารถยกระดับขึ้นเป็นเลเวล C ได้ เมื่อก้าวสู่เลเวล C พวกมันจะมีความสูงมากถึง 4 เมตร ส่วนโทรลเลเวล B มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 20 ตัว
และโทรลเหล่านี้ ล้วนปรารถนาจับมนุษย์ไปบูชายัญทั้งสิ้น
แต่สิ่งที่ทำให้ฉินเฟิงต้องขมวดคิ้วก็คือ ในช่วงที่เขาหลับ อาณาเขตของปีศาจโทรลขยายกว้างออกมาอีกถึง 1 กิโลเมตร ต้นไม้ ใบหญ้า ก้อนหินล้วนถูกพวกมันขุดรากถอนโคนจนหมดสิ้น
และประเด็นก็คือ พวกมันไม่มีความรู้สึกเหน็ดเหนื่อย มุ่งมั่นตลอดทั้งวันคืน ทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง
ส่งผลให้ปัจจุบันต้นไม้เพลิงสูงถึง 200 เมตรแล้ว มันมีขนาดใหญ่โตมาก อาจเป็นเพราะเหตุผลนี้เช่นกัน ที่ทำให้มีลูกโทรลกำเนิดขึ้นเป็นจำนวนมาก
“ให้สามเรือเหาะคอยเฝ้าเมืองลาวาเดือดไว้ ส่วนไป๋หลีก็รอสนับสนุนจากเบื้องหลัง คอยจับตาดูให้ดี ครั้งนี้ฉันจะไปเก็บกวาดด้วยตัวเอง”
“รับทราบท่านประธาน”
“ขอท่านประธานเดินทางโดยสวัสดิภาพ”
“พวกเราพร้อมสนับสนุนตลอดเวลา!”
ฉินเฟิงตอบรับคำหนึ่ง ก่อนเดินขึ้นไปชั้นดาดฟ้าของตึก จากนั้นเรียกเมฆครามออกมา และขับไปยังต้นไม้เพลิง
ช่วงเวลานี้ มีมนุษย์บุกเข้าไปไม่น้อย แต่เมื่อฉินเฟิงมาถึง พวกปีศาจโทรลก็สังเวยศพมนุษย์ไปไม่น้อยเช่นกัน ต้นไม้เพลิงในปัจจุบันดูเหมือนจะดูดซับพลังงานได้มากพอแล้ว สะเก็ดเชื้อไฟปะทุแปลบปลาบ มองคล้ายกับงานรับชมดอกไม้ไฟ
ฉินเฟิงขับเมฆครามมา ลอยลำอยู่ไม่ไกลนักจากรัศมีเชื้อไฟของมัน
เขาลดความเร็วเมฆครามลง ให้ลอยนิ่งอยู่กลางอากาศ เฝ้ามองเชื้อไฟที่กำลังปลิวว่อนไปทั่วฟ้า ไม่นานก็ร่วงตกลงกระทบกับพื้น แต่คราวนี้เชื้อไฟที่ว่ามิได้ให้กำเนิดลูกโทรล แต่กลับสร้างลาวาบนพื้นดิน พวยพุ่งขึ้นมาแทน
ช่วงเวลานี้ พื้นดินที่จากเดิมรกร้างแห้งแล้ง ปัจจุบันภมูิประเทศได้เกิดการเปลี่ยนแปลง แปรสภาพเป็นแอ่งลาวาน้อยใหญ่ กระจัดกระจายกันไป เห็นได้ชัดว่าพวกปีศาจโทรลชอบสภาพแวดล้อมแบบนี้มาก พวกมันพากันเดินลงไปแช่ในแอ่งลาวาจน จุ่มตัวเองจมหายลงไป
เฝ้ารอจนกระทั่งเชื้อไฟที่ปลิวว่อนในอากาศหมดลง ฉินเฟิงถึงค่อยขับเมฆครามมุ่งหน้าลึกเข้าไปอีกครั้ง
และเนื่องจากที่นี่มีผู้คนอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นหลังลงจากฮอลศึก ฉินเฟิงจึงไม่ได้ใช้เกราะศักดิ์สิทธิ์โจมตี แต่ทำการติดตั้งปืนใหญ่ที่แขนซ้ายแทน มันเปี่ยมไปด้วยพลังงาน ทั้งยังติดตั้งกระสุนปืนใหญ่เยือกแข็งเอาไว้
ส่วนแขนข้างขวาของฉินเฟิงติดตั้งปืนสลายอนุภาค นี่คือปืนสลายอนุภาคอันทรงประสิทธิภาพของมือปืนเลเวล C หากอาศัยความแข็งแกร่งของฉินเฟิง นำพวกมันออกมาใช้ ก็พอแล้วสำหรับการกำจัดปีศาจโทรลลาวาเดือด
ฉินเฟิงวิ่งเข้าหาสระลาวาอย่างรวดเร็ว ยกมือซ้ายขึ้นยิงกระสุนปืนใหญ่ออกไป แอ่งลาวาแข็งตัวในพริบตา แปรเปลี่ยนเป็นดินสีส้ม จากนั้นผลึกไฟขนาดเท่าไข่นกกระทา ก็ปรากฏขึ้นสู่สายตา มันกองอยู่ท่ามกลางผืนดิน
นี่คือแร่ธาตุจากเชื้อไฟลาวาที่ปลิวออกมาจากต้นไม้เพลิง เป็นพลังงานที่คอยหล่อเลี้ยงพวกโทรล เมื่อเย็นตัวลงอย่างกะทันหัน มันจะเกาะตัวกันเปลี่ยนรูปเป็นผลึกขนาดเล็ก แต่ก็ยังถือว่ามีคุณภาพอยู่ในเลเวล C มูลค่าเทียบเท่ากับหนึ่งส่วนห้าของผลึกปีศาจโทรล นั่นคืออยู่ที่ก้อนละ 5,000 ล้าน
แต่ประเด็นก็คือ ผลึกไฟที่ว่านี้สามารถกลั่นจากแอ่งลาวาที่เกิดจากเชื้อไฟได้เลยโดยตรง ไม่จำเป็นต้องต่อกรกับปีศาจโทรลลาวาเดือด เป็นการเก็บเกี่ยวสมบัติง่ายๆที่แทบไม่ต้องออกแรง
และข้อมูลดังกล่าว ยังไม่มีใครทราบเกี่ยวกับมัน
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงรู้ทุกอย่าง ในความทรงจำของฉินเฟิง เขายังจดจำได้ดีถึงเหตุการณ์ครั้งใหญ่ในดินแดนลาวาที่ตนเคยรับชมผ่านเครือข่ายนักสู้
มันคืออะไรน่ะหรือ?
มันคือภาพของพื้นดินที่เต็มไปด้วยธารลาวาอย่างไรเล่า! ในอดีตมีผู้ใช้พลังทำการตรวจสอบอย่างรอบคอบก็จริง แต่กว่าผู้คนจะสังเกตเห็นถึงเรื่องนี้มันก็ผ่านไปนานพอสมควรแล้ว หนึ่งเพราะการตรวจสอบเป็นไปอย่างยากลำบาก พวกเขาเกรงว่าในสระลาวา อาจมีปีศาจโทรลโผล่ขึ้นมาได้ทุกเมื่อ
แน่นอน ว่าสุดท้ายแอ่งลาวาพวกนี้จะหายไป กระทั่งต้นไม้เพลิงยังถูกกำจัดอย่างสิ้นซาก แต่นั่นเป็ยเรื่องในอีกหลายเดือนให้หลัง
ปัจจุบัน ที่ฉินเฟิงต้องทำคือการใช้ประโยชน์จากสถานที่แห่งนี้ ดึงดูดผู้คนเข้ามา สร้างรายได้ให้มากที่สุด จากนั้นนำเม็ดเงินไปพัฒนาเมืองลาวาเดือด
เชื่อว่าอีกไม่กี่เดือนต่อมา สถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นพื้นที่ยอดนิยมมากกว่าสมรภูมิหลงฉวน!
แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้จะเกิดขึ้นในภายหลัง สิ่งที่ฉินเฟิงต้องทำตอนนี้ คือเก็บเกี่ยวเข้าตนให้ได้มากที่สุด
ครั้งนี้ ฉินเฟิงจะเป็นคนแรกที่ได้กินเนื้อปูหวานฉ่ำ!
…
อาณาเขตทั้งหมดของโทรลลาวาเดือดมีขนาดกว้างใหญ่มาก ฉินเฟิงเดินไปได้ไม่ไกล ก็พบเห็นเงาร่างของหลายคน
และปรากฏว่าสมาชิกกลุ่มนี้ ดันเป็นคนของกองกำลังมืดที่เขาเคยเห็นผ่านมอนิเตอร์อย่างกะทันหัน
อีกฝ่ายสวมตราผู้ใช้พลังก็จริง แต่ตราสัญลักษณ์กลับเป็นสีดำ อุปกรณ์สื่อสารที่ใช้ก็แตกต่างจากของฉินเฟิง ไม่ใช่ที่ออกแบบวางขายกันตามท้องตลาด ทว่าผู้คนเหล่านี้ไม่ได้ปกปิดตัวตนแต่อย่างใด พวกเขาปรากฏกายอย่างผ่าเผย
เมื่อฉินเฟิงเจอพวกเขา พวกเขาก็ย่อมสังเกตเห็นฉินเฟิงเช่นกัน
ดวงตาที่คล้ายเก็บงำความชั่วร้ายเอาไว้ เบนมาตกลงบนร่างของฉินเฟิง