โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 - ตอนที่ 634 - ช่วยไม่ได้ หาเรื่องตายเอง
Ep.634 – ช่วยไม่ได้ หาเรื่องตายเอง
ลาวาม้วนตัวเสมือนคลื่นที่ซัดสาด โถมทับผู้คนกว่าสิบชีวิตจมหายในพริบตา
อุณหภูมิของลาวาแผดเผาร้อนแรงมาก คนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณ ดังนั้นแม้ต้านทานด้วยโล่ปราณกำลังภายใน แต่เพียงเสี้ยววินาทีพวกมันทั้งหมดก็แตกสลาย ลาวาร้อนเหลวท่วมทับบนกาย บนใบหน้าพวกเขา
อุปกรณ์รูนที่สวมใส่ก็ไม่ช่วยอะไร ถูกเผาผลาญในพริบตา ลาวาร้อนเริ่มกัดกินเนื้อหนัง
“อ๊ากกกกก”
เหล่าผู้ใช้วรยุทธโบราณกรีดร้องเสียงหลง แต่ไม่ถึงลมหายใจ เสียงเหล่านั้นก็เหือดหาย เนื่องจากลาวาร้อนกระฉอกเข้าปาก ไหลลงลำคอ!
“อ๊อก ..”
ชีวิตแล้ว ชีวิตเล่าถูกสูบกลืนลงภายใต้เพลิงหนืดอันร้อนแรง
ชั่วพริบตาเดียว กว่าสิบผู้ใช้พลังได้จบชีวิตลง
และชีวิตที่ว่า มันรวมไปถึงพวกระดับสูงของตระกูลโหวกับตี๋ –โหวหยางเจียวกับตี๋เล่ยอีกด้วย
พวกคนที่ยังเหลือรอด ทั้งหมดเป็นมือปืน เนื่องจากพวกเขาต้องคอยโจมตีจากระยะไกล เลยยังไม่ตายในทันที แต่แน่นอน เห็นได้ชัดว่าปีศาจโทรลลาวาเดือดไม่มีเจตนาจะปล่อยคนเหล่านั้นไป มันยกมือขึ้นอีกครั้ง บอลไฟขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางกว่าหนึ่งเมตรส่งเสียงหึ่งหึ่งในอากาศ
“อ๊าไม่! ฉันยังไม่อยากตาย ยังไม่อยากตาย!”
มือปืนยิงโต้ตอบบอลไฟยักษ์ ขณะเดียวกันก็พยายามล่าถอย
ส่วนท่านบรรพชนกับผู้นำตระกูลเลเวล C และระดับสูงของตระกูลที่ถูกกลืนหายลงไปในลาวา คงไม่สามารถช่วยเหลือได้
บรึ้ม!
บอลไฟเกิดการระเบิด หินลาวาภายในมันแตกกระจายไปทุกทิศทาง กระแทกโดนมือปืนสามคน แรงปะทะจากมันทำให้พวกเขาบาดเจ็บสาหัส
“ช่วยฉันด้วย ช่วยฉัน!”
แต่ช่างน่าสงสาร ไม่ทันได้ร่ำร้องไปมากกว่านี้ บอลไฟอีกลูกที่ตามมา กลืนพวกเขาเข้าไปทันที
อำนาจของปีศาจโทรลลาวาเดือดเลเวล C มิใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถต่อกร!
ปุ๋ง!
ณ ตำแหน่งที่โหวหมิงกับตี๋หยวนจิวถูกขว้างลงไป ทั้งสองร่างกำลังดิ้นรนอย่างน่าเวทนา เนื่องจากพวกตนก็มีความแข็งแกร่งในเลเวล C ดังนั้นสามารถยืดชีวิตน้อยๆให้ยังพออยู่รอดต่อไป แม้ในตอนนี้พวกเขายังไม่ตาย แต่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส!
อย่างไรก็ตาม กว่าจะดิ้นรนขึ้นมาจากแอ่งลาวา ปีศาจโทรลก็กำจัดแมลงวันน่ารำคาญคนอื่นๆไปได้พอดี ดังนั้นวกกลับมาสังหารแกะอ้วนทั้งสองตัวนี้
“ก๊าซซซ”
ปีศาจโทรลยื่นสองแขนออกไปอีกครั้ง แต่คราวนี้คว้าจับหัวของทั้งสองและ–
–บิดกร๊อบบบ! คอของทั้งสองม้วนออกไปอีกทางอย่างไร้ปราณี
ส่งไปสู่ความตาย!
เสาหลักของของสองตระกูลผู้ใช้วรยุทธโบราณแห่งรัฐทะเลเหนือ ตกตายลงที่นี่ ตายไปทั้งๆแบบนั้น
สุดท้าย ทีมใหญ่ที่ยกมาอย่างเกรียงไกร ปัจจุบันเหลือเพียงมือปืนสองคนเท่านั้นที่วิ่งหนีออกมาได้
อย่างไรก็ตาม มันยังไม่จบเพียงเท่านี้ ปีศาจโทรลอ้าปากของมัน เริ่มดูดซับพลังงานจากในแอ่งลาวา และอำนาจในการดูดกลืนของมัน รวดเร็วยิ่งกว่าพลังพิเศษดูดกลืนของฉินเฟิงซะอีก
จากนั้น แก่นอบิลิตี้ทั้งสองก็ถูกดูดเข้ามาในตัวของปีศาจโทรลลาวาเดือด
ไม่นานเกินรอ ความแข็งแกร่งของปีศาจโทรลลาวาเดือดตนนี้ จากเลเวล C6 ได้ยกระดับขึ้นเป็น C7 ในเวลาอันสั้น ยังไม่หมด ซากศพนับสิบได้ปรากฏบนพื้นดิน ศพเหล่านี้ มิได้ถูกหลอมละลายโดยสิ้นเชิง หากแต่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยชั้นหินลาวา
ปีศาจโทรลเอื้อมมือหนึ่งออกไป เปลวเพลิงที่ลุกไหม้แตกแขนงเป็นตรวนไฟ เชื่อมโยงศพเหล่านี้เข้าด้วยกัน และค่อยๆลากพวกมันกลับไปยังใจกลางดินแดนลาวาอย่างช้าๆ
ใช้เวลามากถึง 20 นาทีเต็ม ถึงสามารถกลับมายังต้นไม้เพลิงได้ ปีศาจโทรลโยนศพเหล่านั้นเข้าไป ป้อนเป็นอาหารแก่ต้นไม้เพลิง ศพทั้งหมดลุกไหม้ทันที ตามมาติดๆด้วยปรากฏการอันน่าเหลือเชื่อ ดูเหมือนว่าหลังจากโยนศพเข้าไป พลังงานบางอย่างได้กระจายออกมา หลอมละลายเข้ามาในร่างของปีศาจโทรล
“ก๊าซซซ”
ปีศาจโทรลร้องคำรามกู่ก้อง ความแข็งแกร่งของมันดีดตัวขึ้นถึงสามขั้น ก้าวขึ้นสู่เลเวล B อย่างกะทันหัน
ยิ่งไปกว่านั้น ใจกลางต้นไม้เพลิง ผลไม้สะเก็ดไฟกว่า 10 ลูกได้ผุดขึ้นจากกิ่งก้าน ร่วงตกลงสู่พื้น กลายเป็นปีศาจโทรลตัวเล็กนับสิบ
การบูชายัญเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญา ส่งผลดีเยี่ยมต่อการให้กำเนิดลูกปีศาจโทรลลาวาเดือด!
ฉากอันน่าสยองขวัญนี้ ถูกถ่ายไว้โดยโดรน ส่งมาถึงมือของฉินเฟิง
กระทั่งระดับสูงบางคน ก็ยังพลอยได้รับชมมันไปด้วย!
ทั้งหมดสูดหายใจลึกยามรับชมฉากนี้
“ฉินเฟิง พวกเราควรกำจัดเลเวล D สองคนที่ยังรอดมาได้ของตระกูลผู้ใช้วรยุทธโบราณรึเปล่า? ถ้าพวกเขาปล่อยข่าวนี้กระจายออกไป ฉันกลัวว่าที่นี่คงถูกผู้คนรุกราน” โจวฮ่าวเอ่ยปากทำลายความเงียบ
คนอื่นๆยังไม่ทราบว่าผลึกนั่นคืออะไร เนื่องจากต่อให้มองเห็น แต่ด้วยระยะที่ไกลเกินไป และขนาดเท่ากับไข่ไก่ พวกเขาจึงยังไม่อาจสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของมัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นท่าทีตื่นเต้นของโหวหมิงกับตี๋หยวนจิวในวิดีโอ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านั่นคงเป็นสิ่งมีค่ามาก และผู้ใช้พลังเลเวล D ทั้งสองคนที่กำลังหลบหนี มีแนวโน้มเป็นไปได้สูงว่าจะแพร่กระจายข้อมูลนี้ออกไป ถึงเวลานั้น ทุกคนจะแห่แหนกันมา
ฉินเฟิงกล่าวอย่างไม่แยแสว่า “ไม่จำเป็นต้องขัดขวางพวกเขา ในเมื่อมีใครบางคนอยากแส่หาที่ตาย ทำไมฉันต้องไปหยุดพวกเขาด้วย? แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะต้นไม้เพลิงยังต้องการอาหารบำรุงอีกมาก!”
อาหารบำรุง?
เมื่อได้ยินสองคำนี้ ฉากเหตุการณ์ที่ปีศาจโทรลบูชายัญศพมนุษย์เมื่อครู่ได้วาบผ่านเข้ามาในจิตใจของฝูงชน
ที่ฉินเฟิงกล่าวแบบนี้ แสดงว่าต้องการให้ผู้ใช้พลังมากมายมาที่นี่ แล้วกลายเป็นเครื่องสังเวช เพิ่มจำนวนพวกปีศาจโทรลอย่างงั้นหรือ?
ช่างเป็นความคิดที่น่าหวาดกลัวอะไรเช่นนี้!
ในอดีตที่ผ่านมา วิธีการของฉินเฟิงแม้รุนแรงแต่ก็ไม่โหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ แต่ตอนนี้พวกเขาตระหนักแล้ว ว่าฉินเฟิงเองก็มีด้านมืดเช่นกัน เพียงแต่ที่ผ่านมา พวกเขาไม่เคยประสบกับมันตรงๆ
ฉินเฟิงไม่สนใจความคิดของคนเหล่านี้ เขากล่าวต่อว่า “ในอนาคต เมืองนี้จะต้องรุ่งเรืองเติบใหญ่ ประสบความสำเร็จอย่างงดงามเพราะพวกปีศาจโทรลลาวาเดือด ดังนั้นเมืองใหม่ของพวกเรา จะถูกเรียกว่าเมืองหัวเหยียน*!”
*(火岩 = หินอันร้อนแรง = แต่จะตั้งตามชื่อโทรล ดังนั้นต่อจากนี้ไปจะเขียนชื่อเมืองว่าลาวาเดือด เพื่อง่ายต่อการจดจำนะครับ)
และไม่มีใครเลยที่คัดค้าน ทั้งหมดเข้าใจความคิดของฉินเฟิง ดังนั้นถือว่ายอมรับกันโดยปริยาย
“ฉันขอตัวไปพักผ่อนก่อน ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรมาปลุกได้” ฉินเฟิงกล่าวพลางควงไป๋หลีจากไป
“อา นายไปเถอะ”
“ผู้การฉินเดินทางปลอดภัย”
“ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราเอง ท่านประธานโปรดวางใจ เชิญพักผ่อนได้เต็มที่!”
ทุกคนพยักหน้า เฝ้ารอจนกระทั่งฉินเฟิงเดินจากไป ทั่วบริเวณถึงได้ส่งเสียงฮือฮา ระเบิดเสียงสนทนากันอีกครั้ง
บางคนก็บอกว่ารับไม่ได้ บางคนก็คอยจับตาดูข่าวสารไปก่อน
แล้วตระกูลโหวกับตี๋ก็ตอบสนองอย่างรวดเร็วจริงๆ สองเลเวล D ที่รอดชีวิต ได้รับการคุ้มกันโดยหลายคนจากตระกูล กลับมายังฐานหลักได้สำเร็จ
เมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงจุดนี้ ทั้งหมดต่างแตกตื่น ความปั่นป่วนเริ่มลุกลาม ข้อมูลนี้แพร่กระจายไปในตระกูลโหวอย่างรวดเร็ว
แน่นอน ตระกูลโหวกับตระกูลตี๋ในเวลานี้ กำลังอยู่ในช่วงเดือดพล่านที่สุด
“ฉินเฟิง! นี่ต้องเป็นแผนของฉินเฟิงแน่นอน ที่นั่นอันตรายมาก แต่เขากลับไม่เตือนพวกเรา ทั้งยังจงใจล่าถอย เพราะแค่อยากจะเฝ้าดูพวกเราตายโดยไม่ช่วยเหลือ!”
“ถูกต้อง เขาต้องการกำจัดตระกูลโหวของพวกเรามาตั้งนานแล้ว”
“พวกเราจะปล่อยฉินเฟิงเอาไว้แบบนี้ไม่ได้!”
“ส่งข้อมูลนี้ออกไปยังเครือข่ายนักสู้ บอกว่ามูลค่าของผลึกนั่น มีค่าเท่ากับแก่นอบิลิตี้ธาตุไฟระดับราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล C แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทุกคนคลุ้มคลั่ง”
ยิ่งคนนอกรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกสะใจเหมือนได้เอาคืนฉินเฟิงมากเท่านั้น ดังนั้นเร่งระดมส่งข้อมูลออกไป ไม่ช้าก็มีหลายคนสังเกตเห็น
ภายในเมืองลาวาเดือด ทุกคนไม่ได้พักผ่อน คอยตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวนี้ บางคนก็เกิดความเมตตาสงสาร เร่งเข้าไปแจ้งเตือนคนที่หมายปองผลึกปีศาจโทรล ว่าหากยังเลเวลไม่ถึง B อย่ามาจะดีที่สุด
แต่เห็นได้ชัดว่าคำเตือนเหล่านี้ถูกเพิกเฉย ไม่มีใครสนใจจะรับฟังเลย บางคนกระทั่งด่ากลับมา
“เจ้าพวกที่มาเตือนพวกนี้เป็นคนของรัฐทะเลเหนือ พวกแกอยากให้ผู้การรัฐได้ฉกฉวยผลประโยชน์ไปคนเดียวล่ะสิ ไม่อยากแบ่งปันให้พวกเราใช่ไหม?”
“มีของดีก็มักจะปิดบังกัน เป็นซะแบบนี้ แล้วเมื่อไหร่มนุษยชาติจะก้าวหน้า? หากมีเจ้าสิ่งนี้ ผู้คนมากมายจะสามารถยกระดับความแข็งแกร่งได้ คุณรู้ไหมว่าถ้ามีคนแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น มันจะสามารถช่วยชีวิตมนุษย์ด้วยกันได้มากแค่ไหน? พวกคุณห้ามไม่ให้พวกเราเข้าไป แบบนี้ไม่ต่างจากฆาตกร!”
“อย่ามัวสนใจพวกหางแถวเลย พวกมันก็ต้องการฮุบสมบัติเอาไว้เองนั่นแหละ!”
แม้ไม่ใช่ทุกคนที่ด่าแบบสุดโต่งรุนแรงกลับมา แต่ผู้คนส่วนใหญ่จากรัฐอื่นล้วนเห็นด้วยกับพวกมัน เมื่อต้องเผชิญกับหนึ่งคำชมสิบคำด่า ก็มากพอแล้วที่จะทำให้คนของรัฐทะเลเหนือรู้สึกแย่
“พวกเราเตือนดีๆ แต่พวกมันด่าพวกเรา ตอบแทนความหวังดีกลับมาแบบนี้ได้ยังไง!”
“ก็แค่พวกแส่หาความตาย ลูกพี่พูดถูกแล้ว ในเมื่อพวกมันต้องการจะตาย ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีใครหยุดพวกมันได้”
“เอาเลย! อยากมาก็มา ถึงเวลาก็กลายเป็นอาหารบำรุงต้นไม้ไปก็แล้วกัน!”