แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 438 : แม่นางเจิ้ง
ในทีสุดมีหลิวก็เบาใจ นํ้าตาของนางไหลลงมาอย่างอดไม่ได้ภายในห้องทีอบอุ่น แห่งนี้ นางพูดเสียงสะอื้น “ฮึก… ฮือ… แม่นาง… ข้าน้อยกับสุนถาวห้ามคนพวก นั้นไม่ได้ พวกเขาหน้าตาโหดเหี้ยมน่ากลัวมากและเอาแต่จะตามหาตัวแม่นาง อย่างเดียว พอพวกข้าบอกว่าแม่นางไม่อยู่บ้าน พวกเขาก็ไม่เชือและบุกเข้ามาใน บ้าน ข้าน้อยกับสุนถาวพยายามห้ามพวกเขาแต่ถูกผลักจนล้ม…”
เจียงป่ าวชิงทีนิงสงบมาโดยตลอดสูดหายใจเข้าลึก ๆ คล้ายกับกําลังพยายามสงบ จิตใจของตัวเอง “พวกมันคือใคร ?” เจียงป่ าวชิงลองถามดู
มีหลิวนึกแล้วก็ยังรู้สึกกลัวไม่หาย นํ้าตานางไหลพราก “ข้าน้อยไม่ทราบเลยเจ้า ค่ะ พวกเขาแต่ละคนหน้าตาดุร้ายน่ากลัว ดูเหมือนพวกอันธพาลท้องถิน ฮือ… เป็ นเพราะข้าน้อยไม่ดีเอง ได้ยินเสียงทุบประตูแทนทีจะระวังแต่ดันอยากแง้มดูว่า เป็ นใคร ไม่รู้เลยว่าพวกเขาจะบุกเข้ามาในบ้านเช่นนี้เจ้าค่ะ”
เจียงป่ าวชิงปลอบมีหลิวด้วยนํ้าเสียงหนักแน่น “โทษเจ้าไม่ได้หรอก ไม่มีใครคิด ว่าจะมีพวกอันธพาลชัวบุกมาในวันทีอากาศสดใสแบบนี ้”
มีหลิวเหมือนนึกอะไรบางอย่างได้จึงรีบพูดขึ้นอย่างลุกลี้ลุกลน “เอ๊ะ! แล้วของ ในบ้านล่ะเจ้าคะ ?!”
ก่อนหน้านี้ผู้เฒ่าหยุนไห่มอบของขวัญสําหรับการพบเจอกันให้กับเจียงป่ าวชิง และเจียงฉิงมากมาย อีกทั้งเมือวันก่อนจวนองค์ชายหย่งชินก็เพิงให้ของมีค่ามา จํานวนหนึงซึงมีทั้งทรัพย์สมบัติลํ้าค่ากับกล่องเงินทองอย่างละกล่อง
เจียงป่ าวชิงส่ายหน้า “ตอนนี้ในบ้านรกเละเทะไปหมด พวกนั้นน่าจะมารื้อค้น แต่ข้ายังไม่ทันได้ตรวจดูเลยว่าอะไรอยู่อะไรหายไป”
“แม่นาง ไม่ได้นะเจ้าคะ แม่นางรีบไปดูก่อนเถอะเจ้าค่ะ” มีหลิวพยายามคํ้ายัน ตัวลุกขึ้นครึ งหนึง “ในบ้านมีของลํ้าค่าตั้งมากมาย ถ้าหากว่ามีอะไรหายไป เราจะ ได้รีบไปแจ้งพวกเจ้าหน้าทีเจ้าค่ะ”
“ข้าไม่รีบ เหมือนข้าสังเกตเห็นอยู่ว่าของพวกนั้นยังอยู่ทีเดิม ไม่มีใครไปแตะ ต้องมัน” เจียงป่ าวชิงพูดด้วยเสียงหนักแน่น “อีกประเดี๋ยวสุนถาวก็คงฟื้ น เรา ค่อยคุยกันหลังจากทีนางฟื้ นแล้ว”
อันทีจริงเจียงป่ าวชิงสังเกตเห็นแล้วว่าของมีค่าหลายอย่างหายไป แต่นางอยากให้ มีหลิวกับสุนถาวพักให้หายดีก่อนค่อยรู้ความจริง
มีหลิวมองเจียงป่ าวชิงอย่างมึนงง ความหมายของแม่นางเจียงคือพวกนางมีค่ากว่า ของลํ้าค่าเหล่านั้นรึ
เจียงป่ าวชิงเห็นว่ามีหลิวคํ้าตัวและตกตะลึงอยู่ตรงนั้นจึงถอนหายใจ “เจ้าเองก็ไม่ ต้องพยายามฝื นแล้ว พักผ่อนก่อนค่อยว่ากัน”
มีหลิวยังคงอยากพูดอะไรอีก แต่เจียงป่ าวชิงกดตัวนางให้นอนลงอย่างเบามือโดย ทีไม่อธิบายอะไรเพิมเติม
มีหลิวจึงได้แต่นอนลงอย่างว่าง่าย แต่นํ้าตานางไหลลงข้างแก้มอย่างเงียบ ๆ
ผ่านไปไม่เท่าไหร่สุนถาวก็ฟื้ น เดิมทีร่างกายนางอ่อนแออยู่แล้ว แต่ต้องมาหมด สติอยู่บนพื้นหิมะท่ามกลางอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ หน้านางแดงและเห็นได้ชัดว่า ไข้เริมขึ้นอีกครั้ง
แต่โชคดีทีสติสัมปชัญญะของนางยังคงดี ไม่ได้เป็ นไข้จนสติเลอะเลือนถึงขั้นนั้น
เจียงป่ าวชิงดึงเข็มยาออกให้สุนถาว สุนถาวมองนายหญิงของตนโดยไม่พูดอะไร อยู่สักครู่แต่นางตาแดงมาก
เจียงป่ าวชิงถอนหายใจ “เฮ้อ… มาบ้านข้าวันแรกเจ้าก็ต้องมาเจอกับเรืองแบบนี้ เสียแล้ว ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วยจริง ๆ”
สุนถาวส่ายหน้าอย่างแรง แต่การทําแบบนั้นทําให้รู้สึกเวียนศีรษะมาก นางพูดไม่ ออกอยู่ครู่หนึงจนผ่านไปสักพักใหญ่ถึงจะกลับมาเป็ นปกติ
เจียงป่ าวชิงประคองนางขึ้นมาป้อนยา
มีหลิวพูดขึ้นด้วยรอยยิมขมขืน ้ “พวกข้าน้อยมารับใช้แม่นาง แต่ตอนนี้กลับต้อง ให้แม่นางดูแลพวกข้าน้อยซะอย่างนั้น… ข้าน้อยขออภัยมากเลยเจ้าค่ะ”
“ดังนั้นพวกเจ้าต้องรีบหายไว ๆ นะ เมือถึงตอนนั้นข้ายังคาดหวังให้พวกเจ้ารับ ใช้ข้าอย่างดีอยู่” เจียงป่ าวชิงวางถ้วยยาลงบนตู้ข้างเตียง
สุนถาวอยากพูดอะไรบางอย่าง ผ่านไปสักครู่นางค่อย ๆ ก้มหน้าลงพูดด้วยเสียง แหบและเบา “เป็นไปได้ไหมทีจะเป็ น… คนของคุณหนูชิวเอ้อจากจวนฉานเฟิ ง โฮ่ว”
มีหลิวใจเต้นทันที ในหัวพลันนึกถึงเรืองในวันนั้น …แม่นางเจียงของพวกนางมี ปากเสียงเล็กน้อยกับคุณหนูชิวเอ้อทีงานเลี้ยงชมดอกเหมยเพราะสุนถาว
เรืองในวันนี้ หรือว่าจะเป็ นคุณหนูชิวเอ้อทีจงใจหาคนให้มาก่อเรืองเพือแก้แค้น
เจียงป่ าวชิงส่ายหน้า “ไม่หรอก ความเป็ นไปได้น้อยมาก คุณหนูชิวเอ้อจากจวน ฉานเฟิ งโฮ่วคนนั้นทะเลาะกับข้าก็จริง แต่อย่างน้อยก็มีคนจํานวนหนึงในงาน เลี้ยงชมดอกเหมยรู้เรืองนี้ ถ้าหากว่าเกิดเรืองทีบ้านข้า การตกเป็ นทีต้องสงสัยของ นางก็จะมีมากเกินไป”
เจียงป่ าวชิงหยุดชะงักโดยยังมีอีกประโยคหนึงทีไม่ได้พูดออกไป
พระชายาขององค์รัชทายาทสิ้นพระชนม์แล้วและผ่านช่วงไว้ทุกข์แล้ว ตอนนี้มี ข่าวลือทีว่าฮ่องเต้กับฮองเฮากําลังมองหาพระชายาให้กับองค์รัชทายาท ช่วงหัว
เลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ คุณหนูชิวเอ้อที “มีเบื้องหลัง” คนนั้นคงไม่กล้าทําอะไร บุ่มบ่าม
“เช่นนั้นจะเป็ นใครได้ล่ะเจ้าคะ ?” มีหลิวพึมพํา
“อีกเดี0ยวข้าจะไปแจ้งเจ้าหน้าทีรักษาความปลอดภัยบ้านเมือง เมือฝ่ ายราชการจับ ได้ เราก็รู้ว่าเป็ นใคร” เจียงป่ าวชิงพูดขึ้น
เมือได้ยินเจียงป่ าวชิงพูดเช่นนี้ อารมณ์ของมีหลิวกับสุนถาวสงบลงเล็กน้อย มี หลิวยังไม่วาย พยายามบอกให้เจียงป่ าวชิงไปตรวจดูว่ามีอะไรหายไปจากในบ้าน อีกครั้ง
เจียงป่ าวชิงจึงไปตรวจดูตามห้องต่าง ๆ และพบว่ามันเละไม่เป็ นท่าเหมือนกับถูก ปล้นจนเหลือแต่ซาก ของหลายอย่างกระจายอยู่บนพื้นซึงนางรู้สึกว่าพวกเขาจง ใจทํา เครืองเคลือบหลายชิ้นถูกทุบแหลกละเอียดเช่นเดียวกับข้าวของทีจัดวางอยู่ ในห้องตํารา รวมถึงเตาเคลือบทีผู้เฒ่าหยุนไห่เคยมอบให้เจียงหยุนชานก็ถูกโยน ลงบนพื้น ดูก็รู้ว่าคนเหล่านั้นจงใจทําลายข้าวของให้พังเละ
ทีน่าหงุดหงิดคือสากหยกตํายาทีเจียงฉิงเลือกอย่างดีใจเมือวันก่อน ก่อนหน้านี้มัน เคยวางอย่างเป็ นระเบียบอยู่บนโต๊ะหนังสือของเด็กหญิง แต่ตอนนี้ถูกปาลงพื้น จนแตกชนิดทีว่าไม่สามารถซ่อมใหม่ให้เหมือนเดิมได้อีกแล้ว
เจียงป่ าวชิงโกรธมากทว่าสีหน้านางสงบลงเรือย ๆ นางเดินไปรอบ ๆ และตอนที กลับห้องทีมีหลิวกับสุนถาวพักอยู่ สีหน้านางกลับมาเป็ นปกติ นางบอกให้สาวใช้ ทั้งสองพักผ่อนก่อนทีตัวเองจะกลับห้อง นังลงบนเก้ าอี้แล้วส่งเสียงเรียกเจิง้ หนานเบา ๆ
ไม่นานชายหนุ่มรูปงามก็เดินเข้ามาจากนอกลานบ้าน ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ไม่มีใคร เมือเขาเข้ามาในบ้านแล้วก็ปิ ดประตูอย่างแน่นหนา
เจียงป่ าวชิงวางสองมือไว้บนหัวเข่าและนังตัวตรงมาก ดวงตาของนางราวกั บดาว สองดวงในสระนํ้าเย็นยะเยือก เมือมองครั้งแรกจะไม่เห็นคลืนอารมณ์อะไรใน นั้น แต่เมือมองอย่างละเอียดก็ต้องตกใจกับความเยือกเย็นทีซ่อนอยู่เบื้องลึก
เจิ้งหนานทําความเคารพเจียงป่ าวชิง “แม่นางเจียงมีคําสังอะไรหรือขอรับ ?”
เจียงป่ าวชิงพูดขึ้นยิม ๆ ้ “ข้าอยากฝากเจิ้งหนานสักเรืองหนึง ช่วงนี้รบกวนเจ้า ช่วยแอบ ๆ ดูแลคนในบ้านของข้าหน่อยได้หรือเปล่า ?”
ไม่มีสีหน้าอะไรบนใบหน้าของเจิ้งหนาน เขาก้มหน้าลงเล็กน้อย “นายท่านสังไว้ ให้ข้าคอยลอบคุ้มกันแม่นางเจียง อย่างอืนต้องขออภัยเพราะยากจะทําตามคําสัง ขอรับ”
เขาปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมามาก แต่เจียงป่ าวชิงกลับไม่โกรธ นางมองเจิ้งหนาน ก่อนจะพูดถึงอีกเรืองหนึงด้วยเสียงทีเบาและยานคาง “ทีเจ้าดูแลไป๋ จีอยู่ในบ้าน นั้นเมือสามปี ก่อน ข้าดูออกตั้งแต่ตอนนั้นแล้วล่ะ อันทีจริงเจ้า…” นางเอียง ศีรษะแล้วยิมเล็กน้อย ้ “เป็ นผู้หญิงใช่ไหมล่ะ ?”
คําพูดนี้ราวกับเป็ นคําพูดทีสันสะเทือนเลือนลัน เจิ ้งหนานก้าวถอยหลังด้วยความ ตกใจ นีเป็ นครั้งแรกทีใบหน้าทีพูดน้อยแสดงอาการตืนตระหนกทําอะไรไม่ถูก ออกมาให้เห็น เสียงเจิ้งหนานสันเล็กน้อย “แม่นางเจียง… แม่นาง…”
เจียงป่ าวชิงยกนิ้วมาจุ๊ปากเล็ก “ข้ารู้ว่าทีเจ้าปิ ดบังสถานะของตัวเองก็เพราะเจ้ามี ความลําบากใจของเจ้า แต่ข้าไม่ใช่คนประเภททีไปเทียวพูดเรืองส่วนตัวของคน อืนเขาไปทัว เจ้าไม่ ต้องห่วง ข้าจะไม่บอกคนอืน”
เจิ้งหนานเบาใจลงแต่ยังคงมองเจียงป่ าวชิงอย่างตกตะลึงปนกับความสงสัย “แม่ นางเจียง แม่นางคิดจะทํายังไงหรือ ?”
เจียงป่ าวชิงถอนหายใจ “แม่นางเจิ้ง ข้าไม่ได้คิดจะทําอะไร เจ้าเป็ นองครักษ์ทีกง จี้จัดให้มาดูแลข้า ถ้าหากว่าไม่ใช่คนทีไว้ใจได้ เขาคงไม่ให้เจ้ามาดูแลข้าแน่ ตอนนี้ประตูบ้านปิ ดสนิทและเรายังพูดกันเสียงเบามาก กานซุ่ยคงไม่ใช่คนทีชอบ แอบฟังคนอืนคุยกัน นันหมายความว่ าคําพูดเหล่านี้ออกมาจากปากข้าและเข้าไป ในหูของเจ้าเท่านั้น ข้าไม่ชอบทําอะไรปิ ดบังจึงพูดเรืองนี้กับเจ้า อันทีจริงข้าอยาก ฝากให้เจ้าช่วยดูแลคนในบ้านก่อนชัวคราวในช่ วงทีข้าไม่อยู่บ้าน…”