แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 417 ยืมดาบ
ชิวเพ่ยโหลวรู้สึกไม่พอใจเอามาก ๆ ความโกรธฉายชัดอยู่ตรงหว่างคิ้วนาง “เฮ้! ตกลงว่าเจ้าเล่นได้ไหมนี่ ถ้าไม่ได้ก็เปลี่ยนให้คนอื่นเล่น ดูเจ้าเล่นไพ่สิ ป้อนไพ่ให้คนต่อไปไปตั้งเท่าไหร่แล้ว เจ้ากับคนต่อไปร่วมมือกันโกงข้างั้นรึ ?… แต่ช่างเถอะ ดูจากสีหน้าของเจ้า เจ้ารู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า ถ้าไม่สบายก็เปลี่ยนคนเถอะ”
หญิงสาวที่ถือเตาทองเหลืองนั่งมองดูอยู่ข้าง ๆ เป็นเวลานานแล้วพยักหน้ารับคำด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ใช่ ๆ ๆ ข้าเองก็เห็นว่าหย่าหรูดูเหมือนคนไม่สบาย ถ้าอย่างนั้นให้ข้าเล่นแทนเองเถอะ”
“อาจเป็นเพราะเมื่อคืนข้ารู้สึกเป็นหวัดเล็กน้อยน่ะ” กงหย่าหรูฝืนยิ้ม นางลุกขึ้นแล้วส่งไพ่ให้กับหญิงสาวที่จะเล่นแทนตัวเอง
ชิวเพ่ยโหลวส่งเสียงออกมาทางจมูกและเลิกสนใจกงหย่าหรู
กงหย่าหรูลอบกัดฟันอย่างลับ ๆ ชีวิตนางไม่ดี สถานการณ์ในครอบครัวก็แย่ลง ๆ เห็นกันอยู่ว่านางเป็นถึงคุณหนูจวนโฮ่วผู้สูงส่ง แต่แม้กระทั่งจดหมายเชิญไปร่วมงานเลี้ยงชมดอกเหมยของจวนองค์ชายหย่งชิน นางยังต้องลงแรงแย่งชิงมันกับพี่น้องในบ้านเลย กว่าจะได้มานั้นไม่ง่ายเลยจริง ๆ
แต่ดูนางบ้านั่น มีสิทธิ์อะไรที่โจรป่าต่ำต้อยคนนั้นมาปรากฏตัวในงานเลี้ยงชมดอกเหมยได้อย่างง่ายดายเช่นนี้!
ทว่าตราบใดที่กงหย่าหรูนึกถึงคืนวันนั้น ตอนที่นางถูกปีศาจเจียงป่าวชิงทำให้ทั้งร่างแข็งทื่อขยับไม่ได้เป็นเวลานาน นางก็ยิ่งรู้สึกว่าเจียงป่าวชิงเหมือนปีศาจโหดร้ายทารุณ
กงหย่าหรูไม่กล้าผลีผลามกระทำการใด นางมองชิวเพ่ยโหลวที่กำลังเล่นไพ่ด้วยหน้าตาแช่มชื่นขึ้นมาเล็กน้อย ทันใดนั้นรอยยิ้มลึกลับปรากฏขึ้นมาบนใบหน้านางและค่อย ๆ จางหายไป
“หย่าหรู เจ้ารู้จักหมอคนเมื่อกี้นี้จริง ๆ รึ ?” มีคนเดินมาพูดคุยกับกงหย่าหรู ราวกับมีคนส่งหมอนได้ทันเวลาพอดี
กงหย่าหรูจงใจแสดงสีหน้าลังเลออกมาให้เห็น “อันที่จริงก็เรียกได้ว่ารู้จักกัน…”
หญิงสาวคนนั้นซักถามอย่างสนใจ “อ้อ หมอคนนั้นนางเป็นใครกันรึ ? ข้าเห็นว่านางรูปโฉมงดงามมากเลยทีเดียว ถ้าพูดอย่างไม่น่าฟังคือนางเกือบเทียบได้กับสาวงามทั้งห้าของเมืองหลวงอย่างเจ้าเลยนะ” หญิงสาวคนนั้นใช้ชายเสื้อปิดปากหัวเราะคิกคัก
กงหย่าหรูพยายามระงับไฟโกรธในใจและแสดงสีหน้าเรียบเฉย แต่จิตใจของนางไม่ค่อยดีในช่วงนี้ สีหน้าเรียบเฉยที่พยายามทำของนางจึงดูเหยเกจนเห็นได้ชัดแจ้งกว่าเดิม “ดูเจ้าพูดสิ ต่อให้แม่นางเจียงจะรูปโฉมงดงามแค่ไหน ตำแหน่งและสถานะของนางก็แสดงให้เราเห็นอยู่ นางจะเทียบกับโหลวเอ๋อร์ได้ยังไง”
แม้ชิวเพ่ยโหลวจะชอบเอาแต่ใจและใช้อำนาจบาตรใหญ่ นางก็ถือเป็นสตรีที่สวยจริง ๆ หน้าตานางงดงามมากตั้งแต่เด็กแล้ว มิเช่นนั้นจวนฉานเฟิงโฮ่วคงไม่ยกนางขึ้นหิ้งไว้นานกว่าสิบปีหรอก
หญิงสาวคนนั้นตกตะลึง เจตนาเดิมของนางคือนางเห็นว่าช่วงนี้กงหย่าหรูมักประจบประแจงชิวเพ่ยโหลวเสมอจึงรู้สึกไม่พอใจและจงใจพูดเหน็บแนมอีกฝ่าย แต่ใครจะไปคิดว่ากงหย่าหรูจงใจบิดเบือนคำพูดของนางเสียจนก่อให้เกิดปัญหากับชิวเพ่ยโหลวเช่นนี้
“เจ้า… เจ้าอย่าพูดเหลวไหล ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” หญิงสาวคนนั้นเลิ่กลั่กมองชิวเพ่ยโหลว เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเพียงแค่หัวเราะอย่างเย็นชา ไม่ได้จะด่าทอแต่อย่างใดจึงรีบลุกออกไปอย่างลุกลี้ลุกลนทันที
กงหย่าหรูยืนอยู่ที่นั่นอย่างเก้อเขินด้วยความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ชิวเพ่ยโหลวสลัดไพ่ออกหนึ่งใบโดยไม่มองกงหย่าหรูแม้แต่น้อย นางเพียงยกยิ้มมุมปากเท่านั้น “เสี่ยวหรู เจ้ากับหมอคนนั้นมีความแค้นต่อกันใช่ไหม ? ถ้ามีเจ้าก็ไปจัดการเอาเองสิ ทำไมต้องดึงข้าเข้าไปเกี่ยวด้วยล่ะ ?”
เหงื่อของกงหย่าหรูไหลลงมาจากบนหน้าผาก นางฝืนยิ้มแล้วเอ่ย “โหลวเอ๋อร์ ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น!”
“ไอ้โย! แต่นี่ทำให้ไพ่ข้าราบรื่นขึ้นแล้ว” ชิวเพ่ยโหลวไม่สนใจกงหย่าหรู นางยิ้มและลงไพ่ติดต่อกันสองสามใบ “เอาล่ะ ฮิ ๆ ๆ ข้าชนะ!”
พวกคนที่เล่นไพ่ด้วยกันกับนางต่างก็มีแต่คนชมนางทั้งนั้น
ชิวเพ่ยโหลวจับมือสาวใช้ลุกขึ้น นางเดินไปด้านข้างศาลาแล้วนั่งพิงหมอนก่อนจะหันไปมองกงหย่าหรูที่ถูกนางเมินอยู่สักพัก “เสี่ยวหรู วงการของตระกูลที่มีอิทธิพลในเมืองหลวงยิ่งใหญ่ขนาดนั้น เราเองก็ถือว่ารู้จักกันตั้งแต่ยังเล็ก ข้ารู้จักนิสัยของเจ้าดี การที่เจ้าคิดยืมดาบของข้า เจ้าไม่กลัวว่ามันจะวกกลับมาตัดแขนของเจ้าเองรึ ?”
กงหย่าหรูฝืนยิ้มแล้วพูดแก้ตัว “โหลวเอ๋อร์ ข้าคิดว่าเจ้าคงเข้าใจอะไรผิดแล้ว ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นจริง ๆ…”
“พอเถอะ” ชิวเพ่ยโหลวปิดปากพลางอ้าปากหาวด้วยท่าทางที่ยังคงดูสง่า “เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนโง่เง่าที่ไม่รู้ความหมายของเจ้าหรือยังไง ?”
เมื่อกงหย่าหรูเห็นว่าชิวเพ่ยโหลวเป็นเช่นนี้ นางตัดสินใจยอมรับไปอย่างตรงไปตรงมา “ข้ารู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นเจียงป่าวชิงคนนั้น… แต่โหลวเอ๋อร์ เจ้าล่ะ เจ้ารู้สึกถูกชะตากับคนอย่างนางหรือ ?”
ชิวเพ่ยโหลวแค่นหัวเราะ นางถูกหมอที่มีสถานะต่ำต้อยข่มขู่ ในใจนางจะรู้สึกถูกชะตาได้อย่างไร
“เจียงป่าวชิงนั่นใช่ไหม ?” ชิวเพ่ยโหลวพูดชื่อนี้กลับไปกลับมา “ตกลงว่านางเป็นใครกันแน่ ?”
กงหย่าหรูพูดขึ้น “เหอะ! ก็แค่หญิงธรรมดาสถานะต่ำต้อยคนนึงเท่านั้นแหละ นางแค่อาศัยความงามของตัวเองเอาไปยั่วยวนผู้ชายตามอำเภอใจ…” ตอนที่พูด นางนึกถึงชายหนุ่มรูปงามแสนเย่อหยิ่งคนนั้น ในดวงตาเขาดูเหมือนมีเพียงเจียงป่าวชิงตลอดเวลา แค่คิดก็รู้สึกเกลียดมากแล้ว
ชิวเพ่ยโหลวมองกงหย่าหรูแล้วปิดปากยิ้มอย่างสงวนท่าที “อืม ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง”
ในตอนที่พวกนางกำลังพูดกันอย่างออกรส องค์หญิงเล็กของจวนองค์ชายหย่งชินก็รีบเดินมาทางนี้ นางมองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรค่อยรู้สึกโล่งใจ
ชิวเพ่ยโหลวโบกมือให้องค์หญิงเล็ก “ยู่หยุน นี่เจ้ากำลังทำอะไร ?”
หลินยู่หยุนองค์หญิงเล็กเดินมาพลางยิ้มอย่างเขินอาย “มีธุระบางอย่างตอนที่อยู่ในงานเลี้ยง ท่านแม่ของข้าเรียกให้ข้าไปหา… พวกเจ้าเล่นกันสนุกไหม ?”
คิ้วสวยของชิวเพ่ยโหลวเลิกขึ้น “จะว่าดีก็ดี จะว่าไม่ดีก็ไม่ดี ต้องรู้ก่อนว่าสาวใช้จวนเจ้าทำกระโปรงข้าพัง นั่นเป็นกระโปรงตัวที่ข้าโปรดปรานเป็นที่สุด มิเช่นนั้นข้าคงไม่ใส่มันออกมาเข้าร่วมงานเลี้ยงของเจ้าในวันนี้หรอก”
หลินยู่หยุนมีนิสัยเขินอายและอ่อนแอ เมื่อได้ยินดังนั้นนางหน้าแดงก่ำทันที “สาวใช้งุ่มง่ามจนทำให้กระโปรงเจ้าเปื้อน แต่ข้าบอกกับท่านแม่แล้ว ท่านแม่ว่ากล่าวข้ายกใหญ่ กลับไปข้าจะไปเปิดห้องเก็บของส่วนตัวของข้าและจะหาผ้าที่ตัดเย็บประณีตงดงามให้กับเจ้าสักสองสามผืนก็แล้วกัน”
“ช่างเถอะ ข้าไม่ได้ขาดแคลนผ้าพวกนั้นซะหน่อย” ชิวเพ่ยโหลวชะงักพลางยิ้ม “แต่จะว่าไป หมอจากจวนของเจ้านั้น ‘ยอดเยี่ยม’ กว่าสาวใช้ที่งุ่มง่ามคนนั้นซะอีกนะ นางกล้าเล่นแง่เอาเรื่องชื่อเสียงมาขู่ข้าด้วย เหอะ ข้าแค่ลงโทษสาวใช้แทนเจ้าเอง ด้วยความสัมพันธ์ของเราสองคน ลงโทษสาวใช้แทนกันแล้วมันจะเป็นอะไรไป แต่นางหมอนั่นกลับโกรธ เยี่ยมจริง ๆ!”
ใบหน้าของหลินยู่หยุนแข็งทื่อไปชั่วขณะ นางพูดแก้ต่างให้เจียงป่าวชิงอย่างประหม่า “เจ้าหมายถึงแม่นางเจียงใช่ไหม ? นางเป็นหมอ บางทีเวลาเป็นเรื่องเกี่ยวกับการช่วยคนนางอาจใจร้อนก็ได้ เพ่ยโหลวเจ้าอย่าได้โกรธนางเลย”
ชิวเพ่ยโหลวมองหลินยู่หยุนพลันรอยยิ้มของนางจางลง “ตกลงว่าเจียงป่าวชิงคนนั้นเป็นใครกันแน่ ยู่หยุน เจ้าไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มาโดยตลอด แต่ทำไมเจ้าถึงพูดแทนนางได้ล่ะ ?”
หลินยู่หยุนอธิบายเสียงเบา “ไม่ใช่ว่าท่านย่าของข้าประชวรหรอกรึ ทักษะรักษาโรคของแม่นางเจียงล้ำเลิศมาก นางมาทำการรักษาท่านย่าของข้า ครอบครัวเราต้องยอมรับความกรุณาของนาง…”
“ยอดเยี่ยมขนาดนั้นเลยรึ ?” ชิวเพ่ยโหลวส่งเสียงออกมาทางจมูก เห็นได้ชัดว่านางไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่นัก “เจียงป่าวชิงคนนั้นเหมือนเพิ่งอายุสิบหกสิบเจ็ดปีเอง หรือว่านางเก่งกว่าปรมาจารย์หมอในวังที่มีประสบการณ์มากมาย ?”