แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 387 ฆ่าคน
เด็กหญิงตัวน้อยกำลูกกวาดไว้ในมือ นางสูดน้ำมูกฟุดฟิดพลางยิ้มไร้เดียงสาและตอบตามประสาเด็กน้อย “พี่ชายช่างเป็นคนดีจริง ๆ ท่านย่าข้าป่วย แม่ไม่ให้ข้าเข้าไปซุกซนวุ่นวายเพราะท่านย่ากำลังนอนหลับอยู่ในบ้านน่ะจ้ะ”
ดูเหมือนว่าอาการป่วยของย่าฉินโผคงดีขึ้นแล้ว
เจียงป่าวชิงครุ่นคิดในใจเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าเด็กหญิงตัวน้อยดีอกดีใจก็หยิบลูกกวาดออกมาจากในกระเป๋ากางเกงอีกหนึ่งเม็ดก่อนจะยัดใส่ในมือของเด็กผู้หญิงตัวเล็กที่กำลังสูดน้ำมูกคนนี้ “อื้ม ตอบได้ดีมาก นี่ลูกกวาดสำหรับขอบคุณเจ้า”
เด็กหญิงตัวน้อยที่ได้รับลูกกวาดมากกว่าเพื่อนคนอื่น ๆ ถือลูกกวาดไว้ในมือ สีหน้าดีอกดีใจราวกับใกล้จะบินได้ก็มิปาน
เจียงป่าวชิงยิ้มส่งท้าย ยืดตัวตรงแล้วเดินถือกล่องยาเข้าไปในบ้านตระกูลซุน
ซุนจงเลี่ยงกำลังสับหญ้าสำหรับให้อาหารหมูอยู่แถวนั้น เมื่อหอบหญ้าหมูออกมาจากเพิงด้านหลัง เขาก็เห็นว่ามีเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาจากหน้าบ้าน เมื่อจ้องมองดูดี ๆ ใบหน้างดงามที่โผล่พ้นจากหมวกคลุมนั้น เขารู้สึกคุ้น ๆ นั่นไม่ใช่ว่าเป็นเด็กผู้หญิงที่มาตรวจดูอาการให้ท่านย่าของเขาในตอนเช้าหรอกรึ
ซุนจงเลี่ยงตกใจจนหญ้าหมูในอ้อมแขนแทบร่วงหล่นลงบนพื้น
แต่โชคดีที่เขาตอบสนองไวจึงเก็บหญ้าหมูขึ้นมา นำไปวางตรงมุมผนังแล้วถึงจะทักทายเจียงป่าวชิงด้วยท่าทางที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ “เจ้าคือ… เจ้าคือแม่นางเจียง… ทำไมเจ้าถึงแต่งตัวเช่นนี้ล่ะ ?”
เจียงป่าวชิงไม่นึกสนใจ “อ้อ ข้าใส่แบบนี้แล้วรู้สึกสะดวกต่อการออกมาข้างนอก ไม่มีอะไรเป็นพิเศษจ้ะ”
“อ้อ…” ซุนจงเลี่ยงตอบรับอย่างลุกลี้ลุกลน “ใช่แล้ว แม่นางเจียงมาหาท่านย่าข้าใช่ไหม…” เขาถึงกับไม่รู้ว่าจะวางมือกับเท้าไว้ตรงไหนเลยทีเดียว “ข้า… ข้าจะพาเจ้าเข้าไปในบ้าน”
เจียงป่าวชิงพยักหน้าแล้วเดินตามหลังซุนจงเลี่ยงเข้าไปในบ้าน หวังชื่อที่ถือน้ำอยู่ ถามฉินโผว่าดื่มน้ำหรือเปล่าด้วยสีหน้ากระตือรือร้น เมื่อเห็นว่าลูกชายพาเด็กหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาในบ้าน นางก็เตรียมดุด่าด้วยสีหน้าบึ้งตึง แต่กลับพบว่าเด็กหนุ่มคนนั้นดูผิดปกติไปเมื่อมองนาน ๆ เข้า
นางดึงสติกลับมาได้อย่างฉับพลัน เด็กหนุ่มคนนี้หน้าตาหล่อเหลาโดดเด่นมาก นี่ไม่ใช่สาวน้อยที่ครูเวินพามาเมื่อตอนเช้าหรอกรึ
“โอ้ ข้าก็คิดว่าใคร ที่แท้หมอเทวดานี่เอง” หวังชื่อพูดพลางทำหน้านิ่ว “ทำไมถึงได้แต่งตัวมีลับลมคมในแบบนี้ ทำซะข้าเกือบจำไม่ได้แน่ะ แม่… แม่คงไม่รู้จักนางใช่ไหม ? นางคือหมอเทวดาที่ครูเวินพามาเมื่อเช้ายังไงล่ะ นางมีฝีมือมากเลยนะ”
คนอย่างหวังชื่อ เจียงป่าวชิงไม่เอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ นางเดินเข้าไปทักทายฉินโผ “ยายฉิน รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยแล้วหรือยังจ๊ะ ?”
ฉินโผค่อนข้างประทับใจเจียงป่าวชิง เพราะถึงอย่างไรใบหน้าที่น่ารักจิ้มลิ้มของเจียงป่าวชิงช่างทำให้คนประทับใจดีจริง ๆ ฉินโผจึงยิ้มกริ่ม “อ้อ เจ้านี่เอง เจ้าคือสาวน้อยคนที่มาด้วยกันกับอาหนานใช่ไหม ?”
ทั้งสองคนต่างก็ไม่สนใจหวังชื่อ ทำให้สีหน้าของหวังชื่อย่ำแย่มาก
เจียงป่าวชิงวางกล่องยาที่หัวเตียงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ใช่จ้ะยายฉิน ข้าเป็นคนที่ครูเวินพามาให้ตรวจดูอาการของยาย อีกเดี๋ยวยายไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ ข้ารักษาให้ยายในตอนเช้าแล้วหนึ่งรอบจ้ะ”
“ข้าไม่กลัวหรอก” ฉินโผยังคงยิ้มกริ่ม “เด็กที่อาหนานหามาจะไม่ทำร้ายข้าอย่างแน่นอน”
หวังชื่อทนดูต่อไปไม่ไหว นางทิ้งท้ายไว้หนึ่งประโยคว่า “ข้าจะไปต้มยาให้แม่” จากนั้นก็ออกไปด้วยสีหน้าย่ำแย่อย่างมาก
“ไม่ต้องไปสนใจนาง วัน ๆ เอาแต่ทำตัวขี้อิจฉา ไม่รู้ว่ากลั่นน้ำส้มสายชูในท้องหรือยังไง” ฉินโผทำเสียงฮึดฮัดทางจมูกด้วยท่าทางไม่แยแสแม้แต่น้อย
ซุนจงเลี่ยงได้ฟังก็รู้สึกเก้อเขินจึงเกาศีรษะอยู่ตรงนั้น “ถ้าอย่างนั้น ข้าไปดูยาด้วยดีกว่า…”
เขาค่อนข้างกลัวว่าถ้าแม่เขาโกรธขึ้นมานางจะไม่ต้มยาให้ดี ๆ น่ะสิ
ซุนจงเลี่ยงไปที่ห้องครัวก็เห็นว่าแม่ตัวเองกำลังยัดฟืนใส่ในเตาอย่างบ้าคลั่ง เขาตกใจรีบเดินเข้าไปแย่งท่อนไม้ออกมาโดยไม่คำนึงถึงความร้อนจากเตา ทันใดนั้นเขารู้สึกปวดหัวอย่างมาก “แม่! แม่บ้าไปแล้วรึ ? ฟืนเยอะขนาดนี้ถ้าต้มยาจนเสียจะทำยังไง ?!”
“ไอ้เด็กบ้า เจ้าต่างหากที่บ้า!” หวังชื่อค้อนกำปั้นใส่ซุนจงเลี่ยงด้วยความโกรธ “เจ้าไม่เห็นท่าทีของย่าเจ้ารึ ทั้งวันเอาแต่พูดหาอาหนานอาหนาน คนที่คอยรับใช้อยู่ตรงหน้านางตลอดทั้งวันคือแม่ของเจ้าซึ่งก็คือข้า! แต่กลับไม่เคยได้ยินนางชมอะไรสักครั้ง ไม่รู้ว่าพ่อเจ้าเป็นลูกแท้ ๆ ของนางหรือไอ้คนแซ่เวินนั่นกันแน่เป็นลูกสาวแท้ ๆ ของนาง!”
“แม่!” ซุนจงเลี่ยงรีบเรียกแม่ตัวเองเสียงเบา “แม่ไม่ต้องพูดแล้ว โชคดีที่พ่อไม่อยู่บ้าน ถ้าหากว่าพ่อได้ยินเข้า ไม่แน่พ่ออาจรู้สึกเป็นทุกข์ก็ได้”
“เป็นทุกข์อย่างนั้นรึ หึ! เป็นทุกข์ก็ให้เขาไปแย่งมาสิ!” หวังชื่ออดค้อนกำปั้นใส่ลูกชายคนเล็กอีกครั้งไม่ได้ “เจ้าดูท่าทางกระตือรือร้นของหญิงชราตระกูลเวินสิ ไม่รู้ว่านางไปหานักต้มตุ๋นหน้าตายั่วยวนแบบนั้นมาจากที่ไหน ครอบครัวเราตกอับแล้ว พวกนางจึงคิดหาวิธีครอบครองเงินของย่าเจ้าและร่วมมือกันหลอกเอาเงินจากย่าเจ้า! แต่เจ้ากลับโง่เง่าเต่าตุ่น ปล่อยให้นางสั่งทำนู่นทำนี่จนหัวหมุนซะได้ ไม่ฉลาดเลย แถมยังมาว่าแม่เจ้าอีก!”
หวังชื่อดุด่าซุนจงเลี่ยงอย่างเหี้ยมโหด “ช่างเป็นลูกที่ไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษจริง ๆ เหมือนกับพ่อที่โง่เขลาของเจ้าไม่มีผิด! ทำไมข้าถึงต้องเกิดคนโง่อย่างเจ้าออกมาด้วย!”
ซุนจงเลี่ยงยังคิดอยู่ในใจว่าป้าเวินไม่ใช่คนเช่นนั้น แต่เขาเป็นคนปากไม่ไว ทำให้พูดสู้แม่ตัวเองไม่ได้ ทำได้เพียงก้มหน้าปล่อยให้หวังชื่อสั่งสอนเขาโดยใช้วิธีดุด่าอยู่ตรงนั้น และเขาก็พูดแก้ตัวให้เจียงป่าวชิงเสียงเบา “แม่… แม่อย่าเอาแต่ว่าแม่นางเจียง ข้าคิดว่าแม่นางเจียงเป็นคนดีมาก ที่ย่าฟื้นขึ้นมาไม่ใช่เพราะว่าแม่นางเจียงเป็นคนช่วยไว้หรอกรึ ?”
“ถุย! เจ้าจะไปรู้อะไร” หวังชื่อด่าซุนจงเลี่ยง “นั่นก็เป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น พวกนางยังมีหน้าหยิบยกเรื่องนี้มาอวดความดีความชอบต่อหน้าย่าเจ้าอีก!” หวังชื่อยิ่งพูดในใจของนางก็ยิ่งรู้สึกว่ามันผิดปกติ “เราสองคนออกมาได้ยังไง ทำไมไม่เหลือใครสักคนไว้ในบ้าน นี่ไม่ใช่ว่าเป็นการเปิดช่องว่างให้กับนางแพศยานั่นเพื่อให้นางได้ประจบย่าเจ้าหรอกรึ ?”
พูดจบ หวังชื่อก็ลุกขึ้นอย่างลุกลี้ลุกลน “ไม่ได้ ข้าต้องกลับห้องไปเฝ้าพวกนาง เลี่ยงจื่อ เจ้าดูยาอยู่ที่นี่นะ ต้มจนเสียก็ไม่เป็นไร แต่อย่าต้มจนไม่มีเหลือก็พอ เพราะว่ายานี้แพงมากเลย!”
แล้วหวังชื่อก็วิ่งออกไปจากห้องครัวอย่างเร่งรีบ แต่ยังผ่านไปได้ไม่เท่าไหร่เสียงหวังชื่อกรีดร้องก็ดังขึ้นพร้อมกับที่นางวิ่งออกมาจากในบ้าน “ฆ่าคน! ฆ่าคนแล้ว!”
ซุนจงเลี่ยงตกใจจนวิ่งตาลีตาเหลือกออกไปข้างนอกโดยไม่สนใจเรื่องดูไฟอะไรอีกแล้ว เขาเห็นว่าแม่ของเขาดูเหมือนกำลังตกใจอะไรบางอย่างและวิ่งออกมาจากในลานบ้านราวกับเป็นบ้า แต่กลับล้มลงอย่างแรงพร้อมทั้งตะโกนไม่หยุด “ฆ่าคน! ฆ่าคน!”
ซุนจงเลี่ยงรีบเข้าไปพยุงแม่ตัวเอง “แม่! นี่แม่เป็นอะไร ทำไมถึงพูดว่าฆ่าคน ?”
เห็นได้ชัดว่าหวังชื่อตกใจกลัวเกินไป มือเท้าของนางสั่นงันงกไม่สามารถควบคุมได้ ปากก็เอาแต่พูดว่า “ฆ่าคน” ด้วยน้ำเสียงแหบแห้งอยู่อย่างนั้น
ลูกสะใภ้คนโตของหวังชื่อที่กำลังทำเสื้อหนาวให้พวกเด็ก ๆ อยู่ในบ้านก็วิ่งออกมาอย่างเร่งรีบด้วยเช่นกัน เมื่อเห็นท่าทางของหวังชื่อที่อยู่ในลานบ้าน นางตกใจตัวสั่น “แม่เป็นอะไร ?!”
ประตูบ้านเปิดออก หวังชื่อตะโกนเสียงดังขนาดนี้ ทำให้พวกเพื่อนบ้านที่อยู่ในบ้านต่างพากันหยิบจอบและพลั่วเข้าไปช่วย “ตระกูลซุน ใครฆ่าคน มันอยู่ที่ไหน ?”
พวกเด็ก ๆ ตกใจกับท่าทางของหวังชื่อจึงพากันร้องไห้และกลับไปหาแม่ตัวเองที่บ้าน หนึ่งในนั้นมีหลานชายและหลานสาวของหวังชื่อด้วย พวกเขาโถมศีรษะใส่ลูกสะใภ้คนโตของหวังชื่อและร้องไห้ตกใจมาก
หวังชื่อชี้ห้องของฉินโผด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา “ข้างใน ข้างในมีการฆ่าคน!”
ทุกคนต่างมองหน้ากันและกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ จากนั้นพากันกระชับเครื่องมือในมืออย่างแน่นหนา มีอีกสองสามคนที่เฝ้าดูอยู่แต่กลับไม่มีใครกล้าเดินไปข้างหน้า
ซุนจงเลี่ยงรีบถามหวังชื่ออย่างรีบเร่ง “แม่ ใครฆ่าใคร นั่นไม่ใช่ห้องท่านย่าหรอกรึ ท่านย่าเป็นอะไร ?!”
เสียงของหวังชื่อแหบแห้ง “เด็กแซ่เจียงคนนั้นมันฆ่าย่าเจ้า! ข้าเห็นกับตา!”