นิยาย แม่มดสาวมุ่งมิง ตอนที่ 45 เปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 45 เปลี่ยนแปลง
ตอนนี้เวลาล่วงเลยมาสิบห้าวันแล้ว นับตั้งแต่ฮันเป่าเม่ยจัดการกับวิญญาณ ร้ายที่สิงอยู่ในร่างของภรรยาเหลียงจ้าวเซิ่นผู้เป็นประธานองค์กรจิตวิญญาณดังนั้นเจ้าตุ๊กตาเวทมนตร์จึงค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
และเหลียงจ้าวเซินได้ส่งสลิปการโอนเงินเข้ามาให้แม่มดสาวทางข้อความไลน์เป็นที่เรียบร้อยซึ่งสิ่งนี้ถือว่าสัญญาได้เสร็จสมบูรณ์แล้วแต่เขาต้องการพบฮันเป่าเม่ยอีกครั้งจึงนัดพบเธอที่ร้า นกาแฟแห่งหนึ่ง
ทั้งสองคนนั่งอยู่ในมุมส่วนตัวที่เงียบสงบของร้านกาแฟ
“ผมรู้สึกที่งในความสามารถของคุณมาก!” เหลียงจ้าวเชิ้นเอ่ยขึ้นและเมื่อ เห็นว่าฮันเป่าเมียยังคงนิ่งเงียบเขาจึงกล่าวอีกครั้งว่า
“ผมรู้สึกเสียดายความสามารถของคุณหากไม่นํามาใช้ให้เกิดประโยชน์กับคนอื่น”
“……”ฮันเป๋าเม่ย
“ผมมีธุรกิจมานําเสนอ คือว่าองค์กรของเรามีโครงการที่สามารถทําเงินได้อย่างมหาศาลตัวอย่างเช่นผู้เชี่ยวชาญ ด้านฮวงจุ้ยหลายคนในองค์กรของเราสามารถสร้างรายได้เพราะนักธุรกิจที่ร่ํารวย ต้องการคําแนะนําจากพวกเขาและได้ค่าตอบแทนเป็นเงินครั้งละหลายล้านเหรียญ”
“ฮวงจุ้ยอะไร? ฉันไม่เข้าใจ…”ฮันเป่าเม่ยขมวดคิ้ว
“มันเป็นสิ่งที่คุณถนัด…ไม่ต้องเป็นห่วงคุณสามารถทําเงินได้มากมายและด้วยกฎของคุณที่ต้องการค่าธรรมเนียมหนึ่งในสิบของมูลค่าทรัพย์สินบางที่คุณอาจจะสามารถทําเงินได้ถึงร้อยล้าน หรือพันล้านเหรียญซึ่งมันเป็นมูลค่ามหาศาล! “เหลียงจ้าวเชิ้นกล่าวยังตื่นเต้น
“จริงเหรอ?” แม่มดสาวเอ่ยถามพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น
“ผมไม่กล้าพูดเล่นกับคุณหรอกครับ…”เหลียงจ้าวเซินกล่าวอย่างจริง จัง
“ฉันขอคิดดูก่อน” แม่มดสาวตอบกลับ
“ถ้ามีอะไรสงสัยคุณสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมได้จากโจวถังที่ทํางานอยู่บ้านพักคนชราที่คุณทํางานอยู่…เขาเป็นคนขององค์กรจิตวิญญาณ”
เวลาประมาณสองทุ่มแม่มดสาวเหลือบมองเป่าจ่อที่นั่งอยู่บนเตียงในห้องนอนของเธอ
“เป่าลื่อ! อ้วนขึ้นหรือเปล่า?
“ผมเป็นผีนะ! จะอ้วนขึ้นได้ยังไง?”เป๋าจ่อกัมมองร่างของตุ๊กตาที่ตนเองสิ่งอยู่โดยไม่รู้ตัว
“ดูเหมือนว่าจิตวิญญาณของเธอจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น!” ฮันเป่าเม่ยกล่า
อย่างแผ่วเบา
“ใช่ ๆ…ระยะนี้ผมรู้สึกว่าจิตวิญญาณของผมแข็งแกร่งขึ้น” เป่าจอพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
“แล้วช่วงนี้ตุ๊กตาเวทมนตร์ยังส่งเสียงร้องแปลก ๆ อยู่หรือเปล่า?” ฮันเป่าเมียหยิบตุ๊กตาขึ้นมาพร้อมกับเอ่ยถาม
“น้อยลงแล้วครับตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ผมยังไม่ได้ยินพี่ตุ๊กตาพูดอะไร เลย!” เป่าจ่อกล่าว
“หยุดร้องตะโกนแล้วเหรอ? ดูเหมือนว่าตุ๊กตาจะย่อยสลายความโกรธแค้นไปหมดแล้ว” ฮันเป่าเม่ยกล่าวด้วยรอยยิ้มอีกว่า
“ดีใจด้วยนะ พวกเราไม่ต้องปวดหัวกับมันแล้ว! ต่อไปเธอต้องอยู่บ้านกับมุ่งผึ้งนะเพราะฉันจะต้องเอาตุ๊กตาเวทมนตร์นี้ ติดตัวไปด้วย”
หลังจากล่าวจบ เป่าจอก็เหลือบมองไปทางแมวสีขาวขนปุกปุยซึ่งมีดวงตาเป็นประกายที่สาดลําแสงอํามหิตออกมาราวกับว่ามันพร้อมจะจัดการเขาได้ทุกเวลาหากมันต้องการ
แม้ว่าฮันเป่าเม่ยจะยืนยันกับเด็กชายหลายครั้งว่าแมวขาวตัวนี้ไม่สามารถทําร้ายเขาได้แต่เป่าจอก็ยังคงกลัวที่จะขยับร่างกายขณะที่แม่ตัวนั้นยังคงต้องมองเขา
ทําให้เป่าลื่อรู้สึกว่าในเวลานี้ตนเองเป็นเหมือนหนูที่แมวตัวนี้สามารถจับกินได้ตลอดเวลาโดยมันให้ความรู้สึกที่ดอัดมากจริง ๆ
หลังจากนิ่งเงียบอยู่เป็นเวลานานเป่าจ่อจึงรวบรวมความกล้าที่จะชี้ไปยังโทรศัพท์มือถือซึ่งวางอยู่ไม่ไกลนักพร้อมกับกล่าวว่า
“ผม…ผมจะซื้อปลาทูตัวใหญ่ ๆ ให้พี่นะ..เอามั้ย?”
ดวงตาคู่สีเหลืองอําพันกับสีฟ้าสดใสของแมวสีขาวเปล่งประกายออกมาและยืนขึ้นพร้อมกับใช้อุ้งเท้าหน้าตะปบโทร ศัพท์พร้อมกับส่งเสียงร้อง
“เบี้ยวว..”
หลังจากรับประทานอาหารค่ําวันนั้นสมาชิกทุกคนในบ้านก็มารวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่นเพื่อดูละครโทรทัศน์ช่วงค่ํา
“เป่าเม่ย! ผลสอบประกาศเมื่อไหร่?” คุณย่าเอ่ยถามอย่างอารมณ์ดี
“ผลสอบอะไรคะ?” ฮันเป่าเม่ยขมวดคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย
สาเหตุที่แม่มดสาวไม่เข้าใจคําถามนั้นเป็นเพราะวิญญาณของเธอเข้ามาอยู่ในร่างของฮันเป่าเม่ยหลังจากที่เธอผ่านการสอบเข้ามหาวิทยาลัยและอยู่ในช่วงกําลังรอผลสอบ
“อ้าว! ก็ผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยน่ะสิ!” มารดาของเธอกล่าวเสริม
ท่ามกลางความเงียบ เจ้าแมวน้อยก็กระซิบที่ข้างหูนายหญิงว่า
“อายุป่านนี้แล้ว นายหญิงยังจะกลับไปเรียนหนังสืออีกหรือขอรับ?”
“มีอะไรต้องเรียนอีก! รู้หมดทุกอย่างแล้ว!” แม่มดตอบ
เมื่อฮันจ้าวหยางได้ยินบุตรสาวกล่าวเช่นนั้น จึงดุขึ้นทันที
“ต้องเรียนสิ! อย่างน้อยมีใบปริญญาติดตัวซักใบก็ยังดี!”
“เอ่อ…คือ..”
แม่มดสาวนิ่งเงียบโดยไม่รู้ว่าจะตอบโต้ตอบอย่างไรดี แต่หลังจากที่นึกบางอย่างขึ้นมาได้รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ปรากฏขึ้น ที่มุมปากของเธอก่อนที่จะลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหันและยกมือขวาขึ้นมากาง นิ้วออกพร้อมกับกล่าวว่า
“โอม! ในนามของแม่มดต่อไปนี้ทุกคนจะรู้จักฮันเป่าเมียในนามของสาวสวยที่มีอายุยี่สิบสองปีและจบการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้ว”
เมื่อร่ายคาถาจบเรือนร่างอันอวบอ้วนของเด็กสาวก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้น เชิงโดยเธอกลายเป็นผู้หญิงที่มีเรือนร่างบอบบางและสูงโปร่งอีกทั้งยังมีผิวที่ขาวนวลเนียน
เท่านั้นยังไม่พอ เพราะเธอยังมีดวงตาดําขลับที่เปล่งประกายสดใสประดุจดวงดาวบนท้องฟ้าซึ่งสามารถดึงดูดสายตาทุกคู่ที่มองมา และเมื่อนํามารวมกับจมูกที่โด่งพองามกับริมฝีปากอวบอิ่มที่น่า จุมพิตแล้ว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหญิงสาวคนนี้จะมีความน่าหลงใหลมากเพียงใด
ตอนนี้แม้รูปลักษณ์ของเด็กสาวจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว แต่ทุกคนในครอบครัวก็ไม่ได้มีสีหน้าประหลาดใจและเด็กสาว ได้ยินคุณย่าของเธอเอ่ยถามว่า
“เมื่อกี้คุยถึงเรื่องไหนแล้วนะ?”
“…อื้อ! หนูก็ลืมไปแล้วเหมือนกันฮ่า ๆ ๆ” ฮันเป่าเม่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ทันใดนั้นเจ้าแมวน้อยก็กล่าวแทรกขึ้นมาว่า
“โอ้โห! ค่อยยังชั่ว!กลับมาสวยเหมือนเดิมแล้ว!รู้สึกสบายหูสบายตาขึ้นมา บ้าง…”
“….”ฮันเป่าเมีย
[ทําไม! คนสมัยนี้คบกันที่หน้าตาหรือยังไง?]
MANGA DISCUSSION