นิยาย แม่มดสาวมุ่งมิ่ง
ตอนที่ 43 ถูกรางวัล
กว่าจะกลับมาถึงบ้านก็เป็นเวลาบ่ายโมงแล้ว ฮันเป่าเมียจึงขอตัวเข้าห้องโดยอ้างว่าอยากพักผ่อนแต่เด็กสาวกลับเข้ามาเพื่อนั่งเย็บตุ๊กตาเวทมนตร์ให้กับเป่าจือ
หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ดวงวิญญาณของเป่าจอก็เข้าไปอยู่ในตุ๊กตาตัวน้อยและสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ตามปกติ
วันต่อมาหลังจากเลิกงานแล้ว ฮันเป่าเม่ยก็รีบกลับบ้านโดยไม่แวะที่ไหน ทันใดนั้นเสียงเตือนข้อความก็ดังขึ้น
[ตึ๊ง…]
เมื่อเห็นข้อความที่ส่งมาแล้วฮันเป่าเม่ยก็ยิ้มกว้างอย่างที่พึงพอใจ เป็นเหตุให้เจ้าแมวน้อยเกิดความสงสัยดังนั้นเด็กสาวจึงกล่าวว่า
“คุณป้าหมันส่งข้อความมาบอกว่าเธอถูกรางวัลที่หนึ่ง!”
“ห้า! จริงเหรอ!” แมวน้อยกล่าวอย่างไม่เชื่อ
“จะโกหกทำไม? ป้าซีหลันบอกว่า ถ้าน่าสลากไปขึ้นรางวัลแล้วจะรีบโอนเงินมาให้!” แม่มดสาวกล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นมากอตอกด้วยความภาคภูมิใจ
“เท่าไหร่อ่ะ?” แมวน้อยสงสัย
“สับล้าน!”
“โอ้โห! อย่างนั้นคุณป้าถูกรางวัลร้อยล้านเลยเหรอ?”
“ช่าย.. เห็นบอกว่าถูกแจ็คพอตด้วย… จำนวนเงินมันก็เลยเยอะ!”
“ดี ๆ…อย่างนั้นเย็นนี้กินปลาแซลมอนนะ! ” แมวน้อยกล่าวพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคออย่างโหยหัวเมื่อนึกภาพโฆษณาทางทีวีที่เคยดู
“พรุ่งนี้ป้าถึงจะโอนมา ให้ไม่ใช่วันนี้!” แม่มดสาวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ก็ได้ แต่ห้ามลืมนะ” แมวน้อยเน้นย้ำ
“เออ …
หลังจากรับประทานอาหารค่ำแล้วทุกคนก็มารวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่นบริเวณหน้าจอโทรทัศน์
“เป่าเม่ย! ลูกต้องอยู่คนเดียวประมาณหนึ่งอาทิตย์หรือบางทีอาจจะนานกว่านั้น เพราะพ่อแม่กับย่าต้องไปธุระด่วนที่ต่างจังหวัด มารดาของฮันเป่าเมียแจ้งข่าวบุตรสาว
“ธุระอะไรคะแม่?” ฮันเป่าเม่ยเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ญาติของพ่อที่ต่างจังหวัดเสียชีวิตกะทันหัน พวกเราก็เลยต้องไปช่วยเขาเตรียมงานศพ แต่หนูคง
ไปไม่ได้เพราะต้องทำงาน มารดาอธิบาย
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูอยู่ได้ไ สบายมาก” ฮันเป่าเม่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ดีมาก! โตแล้วต้องหัดรับผิดชอบตัวเอง… ดูแลตัวเองดี ๆ ล่ะ!” ฮันจ้าวหยางกล่าว
“ค่ะพ่อ”
หลังจากได้ยินบทสนทนาของเจ้าของบ้าน เป่าจอที่อยู่ในร่างของตุ๊กตาเวทมนตร์ตัวใหม่ก็ยิ้มอย่างมีความสุข
เช้าวันต่อมาแม่มดได้น่าตุ๊กตาเวทมนตร์ตัวที่กลืนกลั้นวิญญาณร้ายออกมาจากกล่อง เพราะเห็นว่าตอนนี้ไม่มีคนอยู่ในบ้าน จึงต้องการให้มันกระโดดโลดเต้นอย่างเป็นอิสระบ้าง
“เจ็บปวด! สิ้นหวัง! อยากตายใช่มั้ย?…ฮ่า ๆ ๆ” ตุ๊กตาเวทมนตร์ยังคงกล่าวประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำมา
ฮันเป่าเมียรู้สึกคุ้นเคยกับประโยคเหล่านี้แล้ว ทำให้เธอไม่รู้สึกว่ารำคาญมากนักแต่ผู้ที่ต้องอยู่กับมันตลอดเวลาคือเป่าจอผู้น่าสงสาร
และวิธีแก้ปัญหาของเขาคือการนั่งอยู่หน้าจอแอลซีดีขนาดครั้งผนังที่มีระบบเสียงเต็มรูปแบบในห้องนั่งเล่น ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ฮันจ้าวหยางซื้อมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
และสิ่งที่เป่าจอชื่นชอบอีกอย่างคือตู้เย็นขนาดใหญ่ที่มีสองประตู ซึ่งดูเหมือนตู้เสื้อผ้าแต่ภายในเต็มไปด้วยขนม ผลไม้ เครื่องดื่มทุกชนิดรวมถึงนมเปรี้ยวและไอศครีมที่เขาโปรดปรานด้วย
“ไปตายซะ! ไปตายซะ! ฮ่า ๆ ๆ”
ดูเหมือนเจ้าตุ๊กตาต้องการจะสนทนาด้วย แต่เป่าจอรู้สึกเศร้าใจเหลือเกินในขณะนี้
“แม่มดครับ! ผมไม่อยากอยู่กับพี่ตุ๊กตา…ตอนนี้พี่เขาน่ากลัวมากเลย…”
“เป่าจอ! เธอเป็นผนะ! เธอยังจะกลัวอะไรอีก?” แม่มดสาวเหลือบมองเขา
เป่าจอไม่ทราบว่าจะตอบโต้อย่างไร แต่เขาไม่กล้าที่จะยั่วโมโหแม่มดสาว ดังนั้นเขาจึงทาได้เพียงก้มศีรษะลงอย่างเจ็บปวด ซึ่งถือว่านั่นคือการยอมรับชะตากรรมของตนเอง
“อยากตายเหรอ? ฮ่า ๆ ๆ” ตุ๊กตาเวทมนตร์กล่าวเสริมสำหรับโอกาสนี้โดยเฉพาะและเมื่อเห็นว่าเป่าจอมหน้าตาเศร้าสร้อย แม่มดสาวจึงกล่าวว่า
“อะ! อย่างนั้นเอาโทรศัพท์นี้ไว้เล่นเกม จะได้ไม่ต้องสนใจพี่ตุ๊กตา! ถ้ามีอะไรโทรหาฉันได้ตลอดเวลานะ
ฮันเป่าเมียมีโทรศัพท์สองเครื่อง เพราะเธอต้องการทราบว่าโทรศัพท์ที่ใช้ระบบแอนดรอยด์กับไอโอเอสมีความแตกต่างกันอย่างไร จึงจะซื้อเพิ่มอีกเครื่องหลังจากที่คุณลุงเกาป้อฉานมอบให้เธอแล้วหนึ่งเครื่อง
“ขอบคุณครับ…” เป่าจอรับโทรศัพท์มาด้วยความตื่นเต้น
“ฉันร่ายเวทมนตู้เก็บเสียงแล้ว ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าคนอื่นจะได้ยินเสียงของพวกเธอ…สนุกกันให้เต็มที่เลยนะจ๊ะเด็ก ๆ..ฮ่า ๆ ๆ”
กล่าวจบแล้วแม่มดสาวก็เดินออกจากบ้านไปพร้อมกับแมวคู่บารมี
เมื่อพวกเขาจากไปแล้วเป่าจอก็นิ่งเงียบไปครู่หนึ่งเพื่อไว้อาลัยให้กับชะตากรรมที่น่าเศร้าของตนเองแต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นเห็นทีวีเขาก็ลืมความทุกข์โศกไปจนหมดสิ้น
“อ่า.. ในที่สุดเราก็ได้ดูการ์ตูนแบบสบายใจสักที”
“ไปตายไป! ไปตายไป.. ฮ่า ๆ ๆ” ตุ๊กตาเวทมนต์ยังไม่ยอมหยุด
เมื่อถึงเวลาสิบเอ็ดโมงเช้เป่าเม่ยที่กาลังทานอาหารกลางวันก็ได้ยินเสียงเตือนข้อความเข้าจากโทรศัพท์มือถือ เธอจึงเหลือบมองอย่างไม่ได้ตั้งใจและพบว่าเป็นข้อความส่าหรับชำระเงินด้วยบัญชีธนาคาร ฮัน เป่าเมียรู้สึกตกใจจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียด
“ซื้อกลับบ้านเหรอ?”
ฮันเป่าเมียขมวดคิ้วและหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ตระหนักว่าเป่าจอคงจะสั่งอาหารมาทานที่บ้าน
โทรศัพท์มือถือที่ฮันเป่าเมียให้ไว้กับเป้าจอเมื่อเช้านี้เป็นโทรศัพท์อีกเครื่องที่แอปพลิเคชั่นในเครื่องนั้นทั้งหมดเหมือนกับในเครื่องที่เธอใช้อยู่
ไม่แปลกใจพี่เป่าจอสามารถชาระเงินออนไลน์และสั่งอาหารกลับบ้านได้ แต่เขาเป็นผี! แล้วตอนกินเขาจะทำอย่างไร?
ในเวลาเดียวกันร้านอาหารที่สามารถสั่งทางออนไลน์ได้ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณสามก็โลเมตรก็ได้รับคำสั่งซื้อให้ไปส่งอาหาร โดยมีหมายเหตุในตอนท้ายว่าจะต้องไปส่งให้ตรงเวลา
ดังนั้นเด็กส่งอาหารจึงรีบไปในทันทีหลังจากอาหารที่อาหารปรุงเสร็จเรียบร้อยและเห็นตัวอักษรชนิดหนาในใบคำสั่งซื้อระบุว่า
[โปรดติดต่อเมื่อคุณมาถึง]
หลังจากคนส่งอาหารขับรถจักรยานยนต์มาถึงบ้านสองชั้นที่สวยงามหลังที่เป็นเจ้าของคำสั่งซื้อ เขาก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา
เนื่องจากจำหมายเหตุที่ระบุเอาไว้ในคำสั่งซื้อได้ จากนั้นจึงโทรออกและสายก็ถูกเชื่อมต่ออย่างรวดเร็ว
“ใช่คนส่งอาหารหรือเปล่า?” เสียงของเด็กจากทางปลายสายเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น
“ครับ ตอนนี้ผมอยู่หน้าบ้านแล้วครับ…จะออกมารับเองหรือจะให้เอาวางไว้ที่ไหนครับ?” พนักงานส่ง อาหารสอบถาม
“ผลักประตูรั้วเข้ามาเลยครับ” เป่าจอกล่าวอย่างสุภาพ
“อ่อ! ครับ!”
พนักงานส่งอาหารทางานมาแล้วหลายปี ดังนั้นจึงไม่แปลกใจส่าหรับศาสังเช่นนี้จากนั้นเขาก็เริ่มกวาดสายตามองหาสถานที่สำหรับวางอาหารที่เหมาะสม
“ทางขวามือมีชั้นวางของอยู่ ผมเอาวางไว้บนนี้เลยนะครับ”
“เดียวครับพี่! พี่ช่วยผมอีกเรื่องได้หรือเปล่าครับ?” เป่าจอกล่าวอย่างรีบร้อน
พนักงานส่งอาหารเหลือบมองดูนาฬิกาข้อมือตนเอง ก่อนที่จะกล่าวด้วยความสาบากใจว่า
“ผมมีเวลาไม่มาก.. ถ้ามันยุ่งยากผมอาจจะทำให้ไม่ได้!
“ไม่มีอะไรยุ่งยากเลยครับ…ผมขอเวลาพแค่ส์บวินาที ถ้าพี่ช่วยได้ ผมจะกดให้พี่ห้าดาวเลยในช่องแสดงความคิดเห็น
MANGA DISCUSSION