ตอนที่ 42 รางวัลใหญ่
ล็อตเตอรี่อย่างนั้นเหรอ?
มันคืออะไร?
โดยไม่รอช้าในชั่วพริบตาแม่มดสาวก็รีบค้นหาคําตอบในดินแดนแห่งความทรงจําของร่างเดิมอย่างเร่งด่วน
อ๋อ! เข้าใจแล้ว!
“เปาเม่ยเดินเล่นอยู่แถวนี้ก่อนก็ได้…เดี๋ยวย่าจะไปเม้าท์มอยกับเพื่อนที่ขายของอยู่ด้านในแป็บนึง เสร็จแล้วเดี๋ยวย่าโทรหานะ!”
” ค่ะ”
หลังจากคุณย่าผู้ร่าเริงเดินเข้าไปในตลาดแล้ว เปาเม่ยก็เดินตรงไปยังแผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในทันที
ตอนนั้นแม้จะมีผู้คนอยู่ปะปนกันมากมาย แต่มีชายวัยกลางคนผู้หนึ่งที่มีความโดดเด่นมากเป็นพิเศษ เนื่องจากร่างกายของเขาถูกปกคลุมด้วยเงาดํา ที่ผู้คนทั่วไปไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ผู้ชายคนนี้น่าสนใจ! ทําไมถึงมีเงาดําคอยติดตามมา!
ฉางหนานชายวัยกลางคนมีอายุประมาณสี่สิบห้าปี ผู้ซึ่งมีรูปร่างอ้วนกลมและหัวล้าน อีกทั้งยังมีสีผิวที่ค่อนข้างคล้ําเอ่ยถามคนขายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่นั่งยิ้มอย่างอารมณ์ดีว่า
“มีหรือเปล่า? เลขที่สั่งเอาไว้น่ะ?”
“มีสิครับคุณฉาง! แต่มันเป็นชุดสิบใบนะคุณจะเอาหรือเปล่า?” คนขายเอ่ยถามด้วยความหวัง
“เอาสิ! ผมฝันดีงวดนี้ผมต้องถูกรางวัลใหญ่แน่นอน”
“ลุงมั่นใจได้ยังไง?” แม่มดสาวกล่าวแทรกอย่างกะทันหัน และยังต่อว่าชายวัยกลางคนผู้นี้ท่ามกลางสายตาของผู้คนหลายสิบคนอีกว่า
“อกตัญญอย่างแกไม่มีทางที่เทพเจ้าแห่งโชคลาภจะเข้าข้างแกหรอก”
“เด็กคนนี้เป็นลูกเต้าเหล่าใคร? ทําไมถึงกล้าพูดกับฉันแบบนี้?” ชายวัยกลางคนร้องตะโกนขี้นอย่างหงุดหงิด
“ลุงชื่อฉางหนานใช่หรือเปล่า? ส่วนแม่ของลุงชื่อเหมยหนิง และเมื่อสองปีก่อนลุงได้แบบพิมพ์ลายนิ้วมือของแม่ที่เป็นโรคความจําเสื่อม ตอนที่เธอกําลังหลับเพื่อโอนทรัพย์สินทั้งหมดให้ มาเป็นของตัวเอง!”
“เธอพูดว่าอะไร? กล้าดียังไงมาใส่ร้ายฉัน?” ลุงฉางหนานโต้ตอบทันควัน ขณะที่ฮันเปาเมียสาวด้วยรอยยิ้มอีกว่า
“เท่านั้นยังไม่พอ หลังจากธุรกรรมเรียบร้อยแล้ว ลุงก็แอบเอาแม่ไปปล่อยไว้ที่ป้ายรถเมล์หน้าบ้านพักคนชรา และหลอกแม่ตัวเองว่าจะกลับไปรับ แต่ป่านนี้ยังไม่กลับไปรับเลย!”
หลังจากจบคํากล่าวของฮันเปาเม่ย ผู้คนรอบข้างต่างก็วิพากษ์วิจารณ์และแสดงความคิดเห็นไปต่าง ๆ นานา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นในความคิดเห็นทางด้านลบ
“เด็กคนนี้พูดเรื่องจริงหรือเปล่า?” หญิงชรากล่าวกับคนที่อยู่ด้านข้างทันที
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ไม่เห็นหน้าป้าเหมยหนิงมานานแล้วนะ!”
“ฉันเคยถามคุณฉางแล้ว เห็นเขาบอกว่าแม่ของเขาอยากย้ายกลับไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด!”
“แล้วจะเชื่อใครดีล่ะ?!”
ทันใดนั้นเจ้าแมวน้อยก็กระโดดขึ้นไปเกาะบนไหล่ของแม่มดสาว แต่ไม่มีใครเห็นมัน โดยมันกระซิบเตือนนายหญิง
“เราอย่าไปยุ่งเรื่องของเขาจะดีกว่า…”
“ไม่ได้! คนชั่วแบบนี้ต้องประจาน!” แม่มดสาวกล่าวอย่างแผ่วเบาและร้องตะโกนใส่หน้าฉางหนานอีกว่า
“คนสันดานแบบนี้ ซื้อให้ตายก็ไม่มีทางถูกรางวัลหรอก!”
“นังเด็กนี่! แกแช่งฉันหรือ?” ชายวัยกลางคนชี้หน้าเด็กสาวอย่างมุ่งร้าย
“อันนี้ไม่ได้แช่ง แต่เป็นการสาป!”
ฉางหนานรู้สึกงุนงงกับท่าทีของเด็กสาวและตัดสินใจที่จะเดินกลับออกไป เนื่องจากไม่ต้องการโต้เถียงเธอ เพราะทั้งหมดนี้คือเรื่องจริง และตอนนี้มารดาของเขาที่ชื่อเหมยหนิงก็ได้จากโลกนี้ไปแล้วด้วยโรคชราในบ้านพักคนชราแห่งนั้น
“ไม่อยากคุยกับคนบ้า! ไม่ซื้อก็ได้โว้ย!”
หลังจากฉางหนานเดินจากไปแล้ว หญิงชราที่อยู่ด้านข้าง ผู้ซึ่งอยู่ร่วมเหตุการณ์เมื่อครู่ตั้งแต่ต้นจนจบ ก็เดินเข้ามาหาฮันเปาเม่ยเพื่อสะกิดเด็กสาวพร้อมกับเอ่ยถามว่า
“หนูรู้เรื่องของคุณฉางได้ยังไง?”
“หนูสามารถรู้ทุกเรื่องที่อยากรู้แล้วป้ามีอะไรหรือเปล่า?”
ฮันเปาเม่ยเอ่ยถามพลางจ้องมองหญิงชราตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า และพบว่าตําแหน่งโชคลาภของหญิงชราผู้นี้เปล่งประกายออกมาจนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจนน่าประหลาดใจ
“เอ่อ…แล้วรู้หรือเปล่าว่าลอตเตอรี่ใบไหนจะถูกรางวัลใหญ่!” หญิงชราที่มีชื่อว่าซีหลันเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น
“ถ้าบอกไป แล้วจะได้อะไรตอบแทน!” ฮันเปาเม่ยเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งชีหลันจึงตัดสินใจกล่าวว่า
” ทุกอย่างที่หนูต้องการ!”
อันที่จริงหญิงชราผู้นี้มีฐานะปานกลาง และไม่ได้มีความยากลําบากในการใช้ชีวิตแต่อย่างใด ทว่าการถูกสลากกินแบ่งรางวัลใหญ่คือความปรารถนาขั้นสูงสุดในชีวิตของเธอ
และนับตั้งแต่เธอสามารถทํางานหาเงินด้วยตนเองได้ ซีหลันก็ไม่เคยลดละความเพียรพยายามในการซื้อสลากกินแบ่งเลย แต่น่าเสียดายที่เธอไม่เคยถูกรางวัลเลยแม้แต่รางวัลที่น้อยที่สุด แม้กระนั้นหญิงชราก็ไม่สิ้นหวังที่จะสู้ต่อไป
“ขอส่วนแบ่งเพียงแค่หนึ่งในสิบก็พอ!” ฮันเปาเม่ยกล่าวด้วยน้ําเสียงเรียบเฉยเลย
“ได้ได้…ตกลง!” ซีหลันตอบตกลงทันควันโดยไม่ต้องคิด
หลังจากเพิ่มเพื่อนในแชทแล้ว ฮันเปาเม่ยได้ส่งเลขบัญชีเข้าไปทางข้อความแล้วแม่มดสาวก็กล่าวว่า
” คุณป้าไปยืนหน้าแผงแล้วหลับตาลงพร้อมกับตั้งสมาธิให้แน่วแน่”
“ได้…ได้!”
แม้จะมีสายตาของฝูงชนจับจ้องมายังตนเอง แต่หญิงชราก็ไม่ใส่ใจและปฏิบัติตามในสิ่งที่เด็กสาวสั่งอย่างเชื่อฟัง
ขณะที่ซีหลันยังคงหลับตาพริ้มอยู่อย่างนั้น ในทันใดแม่มดสาวก็กล่าวอย่างแผ่วเบา
“เอาล่ะ! ยกนิ้วชี้ขึ้นมาแล้วจิ้มลงไปตรงไหนก็ได้บนแผงล็อตเตอรี่ตรงหน้า!”
ซีหลันจิ้มลงไปทันทีตามคําสั่งพร้อมกับเอ่ยปากถามว่า
“ลืมตาได้หรือยัง?”
“ได้แล้ว!” แม่มดสาวกล่าวอย่างอารมณ์ดี
“แค่นี้เองเหรอ?” ซีหลันเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ใช่! แค่นี้แหละ! เสร็จพิธี! แยกย้ายได้ แต่อย่าลืมที่ตกลงกันเอาไว้นะ!”แม่มดสาวเตือนหญิงชรา
“ไม่ลืมแน่นอน!”
หลังจากเดินออกมาจากฝูงชนแล้วเจ้าแมวน้อยมุ่งมึงเอ่ยถามทันที
“นายหญิง! ป้าคนนั้นจะถูกรางวัลจริงเหรอ?”
“จริงสิบไม่เชื่อสายตาฉันเหรอ?” แม่มดสาวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“นายหญิงเห็นอะไรหรือขอรับ?” มุ่งมึงเอ่ยถามกลับด้วยความสงสัย
“ตําแหน่งโชคลาภของผู้หญิงคนนั้นเปล่งประกายสว่างไสว ดังนั้นไม่ว่าเธอจะซื้อใบไหนมันก็ต้องถูกอยู่ดี และจะต้องเป็นรางวัลใหญ่เสียด้วย!”
“โอ้โห! ได้ส่วนแบ่งโดยไม่ต้องลงทุนเลย! ฉลาดนะเนี่ย!”
“ลงทุนสิ! เมื่อกี้นี้ด่าตาแก่คนนั้นซะคอแห้งเลย! ไปหาชานมไข่มุกกระแทกปากสักหน่อยดีกว่า!”
”… …” มุ้งมิ้ง
MANGA DISCUSSION