แม่มดสาวมุ่งมิ่ง ตอนที่ 40 ตัดสินใจ
ตอนที่ 40 ตัดสินใจ
เหลียงเสี่ยวจื่ออธิบายให้มารดาฟังอย่างนุ่มนวลว่า
“แม่ครับ! ผู้หญิงคนนี้เราเจอเธอที่สวนสาธารณะไงล่ะครับ! เธอเป็นแม่มดและเธอสามารถช่วยรักษาแม่ให้หายได้ครับ”
” แม่มดเหรอ?” หลิงจินจ้องมองไปยังฮันเปาเม่ยด้วยความรู้สึกแปลกใจและเอ่ยถามอีกครั้งว่า
” หนู…เธอเป็นแม่มดเหรอ?”
ฮันเปาเม่ยพยักหน้าพร้อมกับกล่าวว่า
“ฉันกําลังร่ายเวทมนต์! อย่าเพิ่งรบกวน..!”
หลังจากกล่าวเช่นนั้นแล้ว ฮันเป่าเมียก็เริ่มใช้พลังของแม่มดทําพิธีโดยในฉับพลันดวงตาทั้งสองข้างของเด็กสาวได้กลายเป็นสีดําสนิทที่ไม่มีนัยน์ตาสีขาวอยู่เลย อีกทั้งยังมีลําแสงสีดําฉายผ่านออกมาอย่างน่าอัศจรรย์
จากนั้นเส้นใยสีดําขนาดเท่านิ้วก้อยของมนุษย์ก็พุ่งออกมาจากปามือของแม่มดสาวโดยปลายข้างหนึ่งพุ่งตรงไปยังร่างของเหลียงจ้าวเชิ้นส่วนปลายอีกด้านหนึ่งก็พุ่งตรงเข้าหาหลิงจินในชั่วพริบตา
ทันทีที่เส้นใยสีดําเข้าสู่ร่างกายของมารดาเหลียงเสี่ยวจื่อแล้วเธอก็มีความรู้สึกราวกับมีคนมาถามตนเองว่าต้องการให้วิญญาณร้ายนี้หลุดออกไปจากร่างกายของเธอหรือไม่
ซึ่งแน่นอนว่าเธอเต็มใจอย่างยิ่ง เพราะในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมานี้เธอถูกทรมานด้วยวิญญาณร้ายดวงนี้จนแทบจะอยากฆ่าตัวตายตลอดเวลา
เกือบทันทีที่เธอสัมผัสถึงปัญหานี้ เธอก็เห็นด้วยโดยไม่รู้ตัว
ต่อมาลําแสงสีแดงก็ถูกดูดออกมาจากร่างกายของเธออย่างต่อเนื่องและเมื่อเห็นภาพนี้เหลียงเสี่ยวงื่อก็ถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนก
และภาพเหตุการณ์นี้มันทําให้เขาเชื่ออย่างสมบูรณ์ว่า ทักษะลับของตระกูลแม่มดสามารถขจัดวิญญาณร้ายออกจากจิตวิญญาณของมนุษย์ได้จริง
ต่อมาเมื่อวิญญาณร้ายถูกดึงดูดออกไปแล้ว หลิงจินก็รู้สึกสบายใจอย่างที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อน และความรู้สึกกระหายเลือดหรือความหงุดหงิดที่มีก่อนหน้านี้ก็มลายหายไปทันที แต่ภายในเสี้ยววินาทีเธอก็ค้นพบความผิดปกติบางอย่าง
“อาจ๋อ! พ่อของลูกอยู่ที่ไหน?” เธอกล่าวพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบห้องด้วยความประหลาดใจ
” พ่อมีงานด่วนที่องค์กรครับแม่…”เหลียงเสี่ยงจื่อกล่าวด้วยเหตุผลที่เขาเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
หลิงจินขมวดคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยและมองไปยังปลายอีกด้านหนึ่งของเส้นใยสีดํา
“ใครอยู่ที่ปลายเส้นอีกด้าน?”
บุตรชายของเธอมีอาการตัวแข็งในทันที และไม่กล้าแม้แต่จะสบตามารดาอีกทั้งยังไม่กล้าที่จะเอ่ยปากสักคํา
” หนู…แม่มด…ช่วยบอกหน่อยได้หรือเปล่าว่าใครเชื่อมต่ออยู่ที่ปลายสายอีกข้าง?” หลิงจินเอ่ยถามฮันเปาเมีย
” หนุ่มน้อย! แม่ของเธอมีความรู้สึกสงสัยและไม่เต็มใจที่จะทําให้เสร็จพิธีฉันเคยบอกแล้วไงว่าสัญญาจะบรรลุผลก็ต่อเมื่อทั้งสองฝ่ายต้องสมัครใจ…ในเมื่อตอนนี้ฝ่ายหนึ่งรู้สึกเสียใจ ฉันจึงไม่สามารถบังคับให้เกิดการโอนถ่ายได้!”
หลังจากนิ่งไปชั่วครู่ ฮันเปาเม่ยก็เน้นย้ําว่า
“อย่างไรก็ตาม…ต้องจ่ายเงินอยู่ดี!”
แม่มดสาวได้เริ่มพิธีแล้วและสูญเสียพลังเวทมนตร์ไปมากมายดังนั้นไม่ว่าสัญญาจะแล้วเสร็จหรือไม่ เธอก็ต้องเก็บค่าธรรมเนียมผู้ว่าจ้างซึ่งสิ่งนี้คือกฎเหล็กของเธอ
แม่ว่าตอนนี้เหลียงจ้าวเชิ้นจะซ่อนตัวอยู่อีกห้องแต่เขาก็ยังให้ความสนใจกับสถานการณ์ภายนอกและเมื่อทราบว่าตัวตนของเขาถูกเปิดเผยดวงตาของเขากลายเป็นสีแดงกําด้วยน้ําตาที่คลอเบ้า
แม่มดสาวถอนหายใจและชี้นิ้วไปยังกลุ่มควันสีดําที่ลอยอยู่บนอากาศพร้อมกับกล่าวอย่างดุดันว่า
” จะเอายังไงก็ว่ามา! วิญญาณร้ายกําลังรอคําตอบอยู่นะ!”
หลังจากที่หลิงจินปราศจากวิญญาณร้ายแฝงตัวอยู่ในร่างกายแล้วรูปลักษณ์ของเธอก็มีแต่ความสวยงามและอ่อนโยน โดยในตอนที่เธอหัวเราะลักยิ้มก็จะปรากฏขึ้นที่แก้มข้างขวาด้วยดวงตาที่หรี่ลงซึ่งเผยให้เห็นแสงแห่งความสุข
แต่รูปลักษณ์เช่นนี้ เหลียงจ้าวเชิ้นไม่ได้เห็นมันมานานกว่าสิบปีแล้วเนื่องจากสภาวะทางจิตใจของหลิงจินถูกวิญญาณร้ายครอบงําทําให้เขาต้องร่ายมนต์ทุกวันเพื่อปราบปรามภรรยาของตนเอง
ซึ่งมันสามารถทําให้เธอสงบลงและหลับไปนานถึงยี่สิบชั่วโมง อย่างไรก็ตามการนอนนิ่งเป็นเวลานานโดยร่างกายไม่ได้รับอาหารและน้ําดื่มอีกทั้งยังมีสภาพจิตใจที่หดหูนั้น ส่งผลให้ร่างกายของห ลิงจินทรุดโทรมลงทุกวันจนเธอไม่สามารถเดินได้ในที่สุด
“ พี่เฟื้นคะ?”ภรรยาเรียกชื่อของสามีอย่างอ่อนโยน
” อาจิน! ได้โปรดฟังผม..ขอให้เชื่อผมสักครั้ง!” เหลียงจ้าวเชิ้นกล่าวอย่างอ้อนวอนว่า
” ผมมีคาถาป้องกันตัวเองได้ ดังนั้นผมจึงสามารถระงับวิญญาณนี้ได้ด้วยตนเอง!”
หลิงจินส่ายหน้าพร้อมกับกล่าวว่า
“แม้ว่าคุณจะสามารถย้ายวิญญาณออกจากร่างฉันได้ แต่ร่างกายของฉันที่ถูกกัดกร่อนไปแล้ว ซึ่งคงไม่สามารถกลับมาดีเหมือนเดิมได้”
” อย่างน้อยเธอก็ยังมีโอกาสได้มีชีวิตใหม่” เหลียงจ้าวเชิ้นกล่าวอย่างตื่นเต้น
หากภรรยาของเขาเสียชีวิตเนื่องจากวิญญาณร้ายตัวนี้ หลังจากหมดลมหายใจแล้ววิญญาณของเธอก็จะกลายเป็นปีศาจและจะสูญเสียโอกาสในการกลับชาติมาเกิดตลอดไป
“คุณไม่อยากให้ฉันกลายเป็นปีศาจร้าย แต่คุณจะให้ฉันทนดูคุณกลายเป็นปีศาจร้ายแทนอย่างนั้นเหรอ?”
เหลียงจ้าวเพิ่นกํามือแน่นด้วยอาการตัวสั่นสะท้าน และเหตุผลที่เขาต้องการซ่อนตัวจากภรรยา เพราะเขาทราบดีว่าเมื่อหลิงจินทราบความจริงทั้งหมดแล้วเธอจะต้องไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน
“อาจิน…เราต้องการให้เธอหายจากอาการนี้สักที!” เหลียงจ้าวเซินกล่าวอย่างแผ่วเบาอีกว่า
“ร่างกายของเธออ่อนแอเกินกว่าจะทนต่ออารมณ์โกรธแค้นที่รุนแรงแบบนั้นได้ แต่ฉันไม่เหมือนกัน ถ้าวิญญาณร้ายมาอยู่กับฉัน..ฉันรู้วิธีที่จะจัดการกับมันโดยที่ฉันยังคงสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนทั่วไป
และถ้าเธอโอนวิญญาณร้ายนั้นมา เธอจะสามารถยืนขึ้นได้อีกครั้ง อีกทั้งเราทั้งคู่ยังจะได้อยู่ด้วยกันอีกนานจนสามารถเห็นอาจอแต่งงานและมีลูก
ไม่ต้องสนใจชีวิตหลังความตายอีกต่อไปแล้ว…อยู่กับปัจจุบันจะดีกว่า!”
น้ําตาจากดวงตาของหลิงจินหยุดไหลรินทันที ขณะที่แม่มดสาวเหลือบมองดูพวกเขาและกําลังรอค่าตอบแทนอย่างใจเย็น โดยกลุ่มหมอกควันสีดํายังคงหมุนวนอยู่รอบศีรษะของหลิงจิน
แต่ทันใดนั้นกลุ่มหมอกควันก็หมุนวนเร็วขึ้นด้วยความรุนแรงทําให้สีหน้าของแม่มดสาวเปลี่ยนไปทันทีพร้อมกับยื่นมือออกไปยังทิศทางของกลุ่มควันสีดํานั้น
” พวกคุณรีบตัดสินใจเถอะ!เดี๋ยวมันจะสายเกินไป”
การทําพิธีในครั้งนี้ต้องใช้พลังเวทมนต์อย่างมากในการสะกดวิญญาณ ดังนั้นยิ่งปล่อยเอาไว้นานเท่าไหร่ พลังของฮันเปาเม่ยก็จะยิ่งสูญเสียมากเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าสีหน้าของฮันเปาเม่ยเริ่มผิดปกติ เจ้าแมวสีขาวจึงกระโดดขึ้นไปบนบ่าของนายหญิงและกระซิบว่า
“นายท่าน! เรายกเลิกพิธีก่อนจะดีหรือเปล่า? ให้พวกเขากลับไปคิดก่อน!”
จังหวะนั้นบุตรชายของทั้งสองคนก็อดไม่ได้ที่จะกระตุ้น
” พ่อครับ..แม่ครับ!”
เหลียงจ้าวเชิ้นรู้สึกกังวลใจมากเช่นกัน เนื่องจากเขาไม่ต้องการพลาดโอกาสนี้และไม่ต้องการให้ภรรยาของตนทนทุกข์ทรมานกับวิญญาณร้ายอีกต่อไป
MANGA DISCUSSION