แม่มดสาวมุ่งมิ่ง ตอนที่ 31 เรียกร้องความเป็นธรรม
ตอนที่ 31 เรียกร้องความเป็นธรรม
แน่นอนว่าเปาจื่อได้ยินทุกถ้อยคําในบทสนทนาของผู้ชายทั้งคู่ จากนั้นเด็กชายตัวน้อยได้ยืนอยู่ข้างเตียงและยื่นมือออกไปเบิดเสื้อของจินจิน ทําให้เห็นรอยเย็บยาวจากตําแหน่งท้องน้อยยาวมาจนถึงบริเวณหน้าอก
“เปาจอ!” ทันใดนั้นตันหลี่หมิงก็เดินกลับเข้ามา
เด็กชายตัวน้อยหันหน้ากลับไปทางต้นเสียงด้วยอาการหวาดกลัว ขณะที่ผู้ชายตรงหน้ากล่าวด้วยน้ําเสียงอ่อนโยนและก้าวเข้ามาหาเปาจื่อ
” เธอกําลังทําอะไร?”
” ผม…ผมจะมาหาจินจินครับ”เปาจื่อกล่าวด้วยอาการสั่น
เทา
“จริงเหรอ?” แล้วทําไมเธอถึงเปิดเสื้อของจินจินขึ้น?
แม้ใบหน้าขอตันหลี่หมิงจะมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนเหมือนเช่นเคยแต่เปาจ่อกลับมีอาการหวาดผวาและขนลุกซูโดยไม่รู้ตัว
“อาป่าตัน…คุณซื้อขายอวัยวะของจินจินเหรอ?”
เมื่อเห็นผู้ชายตรงหน้าก้าวมาประชิดและทําท่าจะจับตัวเขาในทันใดเด็กน้อยก็วิ่งหนีออกไปจากห้องและตรงไปที่บริเวณโกดังเก็บของ แต่โชคร้ายที่เขาสะดุดล้มลงบนพื้นดังนั้นตันหลี่
หมิงจึงสามารถจับตัวเขาได้
เมื่อเปาจื่อดิ้นรนมากขึ้น ตันหลี่หมิงจึงหยิบก้อนหินทุบเข้าไปที่ศีรษะของเด็กชายอย่างรุนแรง ส่งผลให้เขาหมดสติไปในที่สุด
จากนั้นเมื่อเห็นว่าเปาจื่อแน่นิ่งไป เขาก็เกิดอาการตกใจและยกมือขึ้นมาอังบริเวณจมูกและพบว่าเด็กน้อยไม่มีลมหายใจแล้ว
แต่อันที่จริงเขาไม่ทราบว่าเด็กน้อยยังไม่ตาย และเขาได้โยนร่างของเปาจ่อลงไปในบ่อน้ําที่มีความลึกประมาณสิบเมตรซึ่งอยู่บริเวณนั้น ทําให้เปาจื่อตายในที่สุดและเขาบอกกับทุกคนว่าเด็กชายหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
อย่างไรก็ตามทุกครั้งที่มีการผ่าตัดในห้องเก็บของ ตันหลี่หมิงได้แอบตั้งกล้องเอาไว้เพื่อบันทึกภาพส่วนผู้ที่กระทําการผ่าตัดข้อทําการบันทึกภาพของตันหลี่หมิงเอาไว้เช่นเดียวกันเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเปิดโปงซึ่งกันและกัน
แน่นอนว่าสิ่งนี้แม่มดสาวสามารถทราบได้ และทราบด้วยว่าคลิปวิดีโอเหล่านั้นถูกเก็บซ่อนเอาไว้ที่ใดและได้มอบสิ่งนี้ให้กับตํารวจไปหลังจากที่เธอจะถูกประกันตัวออกมา
ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น และประตูก็ถูกเปิดออกทําให้ต้นหลี่หมิงมีสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปและรีบกล่าวคําทักทายทันที
“อ้าว! สวัสดีครับคุณตํารวจ! มีธุระอะไรกับ ผมหรือเปล่าครับ?”
“คุณตันหลี่หมิงตอนนี้เราสงสัยว่า คุณเกี่ยวข้องกับคดีการค้าอวัยวะหลายคดีและเรามีหมายจับมาด้วย”
ตันหลี่หมิงแสดงเอกสารในมือให้กับผู้ต้องสงสัยดูในทันทีขณะที่เขาจ้องมองไปยังชื่อของตนเองในหมายจับยังไม่เชื่อ
“ไม่เป็นไปไม่ได้”
[คนอื่นสามารถรุ่งรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?] ไม่มีใครรู้และเป็นไปไม่ได้ที่ตํารวจจะรู้
ต่อมาคุณตํารวจก็รีบใส่กุญแจมือเขาพร้อมกับกล่าวว่า
“เอาตัวไป!” โดยนายตํารวจที่อยู่ด้านข้างซึ่งมียศน้อยกว่าได้ปฏิบัติตามในทันที
อย่างไรก็ตามแม้ฮันเปาเม่ยจะเห็นสถานการณ์ตรงหน้าอย่างชัดเจน แต่ผู้คนรอบข้างก็ไม่สามารถมองเห็นเธอได้เนื่องจากเธอใช้เวทมนตร์อําพรางตัว
ในที่สุดผู้ต้องหาก็ถูกดําเนินคดี แต่ไม่ทราบว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายที่เขาสติฟันเฟืองก่อนที่จะได้รับโทษ ดังนั้นทางสถานี่ตํารวจจึงนําตัวเขาส่งสถาบันจิตเวชเป็นการด่วน
หลังจากกลับมาถึงบ้านแม่มดสาวพ่ออบรมเปาจื่อเป็นการใหญ่
“ทําไมถึงทําแบบนี้? อดทนรออีกสองเดือนครึ่งไม่ได้หรือยัง
ไง?”
“ผมขอโทษครับ” เปาจ่อกล่าวยังรู้สึกผิดอีกครั้งว่า
“ผมไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ”
แมวน้อยรีบกล่าวแทรกทันทีว่า
“ลืมไปแล้วหรือว่าเจ้ายังมีสัญญาผูกพันอยู่กับนายท่านนี่ยังดีนะที่เราไปช่วยเจ้าเอาไว้ทันเวลา!”
” ต่อไป..ผมไม่กล้าแล้วครับ….ผมขอโทษ!” เปาจื่อกล่าวด้วยอาการสั่นเทา
“เห็นที่ข้าต้องกักขังเจ้าเอาไว้ในตุ๊กตาจนกว่าสัญญาณจะเสร็จสมบูรณ์! มีอะไรขัดข้องหรือเปล่า?” แม่มดเอ่ยถามผีเด็ก
“ไม่มีครับ…”เปาจื่อกล่าวพร้อมกับก้มหน้าลง
หลายวันต่อมาคดีของต้นหลี่หมิงก็ถูกเปิดเผยต่อสา ธารณชนและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคมอีกทั้งผู้ที่เข้าร่วมขบวนการยังถูกจับกุมทั้งหมดและต้องยอมจํานนด้วยหลักฐานที่แม่มดสาวมอบให้กับทางตํารวจ
แม่มดสาวยังคงทํางานที่บ้านพักคนชราตามปกติเนื่องจากเธอไม่ต้องการอยู่บ้านโดยเปล่าประโยชน์และในช่วงบ่ายของวันนั้นเกาปอฉานได้เอ่ยถามเธอว่า
“เปาเม่ย! อ่านข่าวของต้นหลี่หมิงหรือยัง? ชายชรามีอาการตื่นตระหนกเล็กน้อย!
” ยังเลยค่ะ! มีอะไรหรือคะ!” เด็กสาวถามกลับด้วยความสงสัย
“เมื่อเช้านี้ตันหลี่หมิงเจ้าของบ้านเด็กกําพร้าที่เป็นคนบ้าเขาเอาหัวโหม่งกําแพงเพื่อฆ่าตัวตาย!”
“แล้วตายหรือเปล่าคะ!” แม่มดสาวเริ่มอยากรู้อยากเห็น
“ไม่น่ารอด!” ชายชรากล่าวพร้อมกับส่ายหน้าอีกว่า
“เห็นเจ้าหน้าที่ในสถาบันจิตเวชให้สัมภาษณ์ว่า เขาฝันร้ายทุกคืนและมีภาพหลอนตลอดเวลาก่อนที่จะฆ่าตัวตาย!”
” ” แม่มดสาวไม่ได้กล่าวอะไรอีกและทําเพียงยิ้มที่มุมปากอย่างสะใจ
ก่อนหน้านี้วิญญาณและสิ่งชั่วร้ายไม่สามารถทําอะไรเขาได้ เนื่องจากผู้นี้มีลูกประคําพุทธคุ้มครอง
แต่ตอนนี้แม่มดสาวได้มอบสิ่งนั้นให้กับพยาบาลสาวไปแล้วดังนั้นเขาจึงถูกวิญญาณตามหลอกหลอนทั้งกลางวันและกลางคืนจนทนไม่ได้และฆ่าตัวตายในที่สุด
จากนั้นสถานเลี้ยงเด็กกําพร้าที่ตันหลี่หมิงดูแลก็ถูกรัฐบาลเข้ามาตรวจสอบและจัดระเบียบใหม่ทั้งหมดให้ถูกต้องตามกฎหมาย
หลังจากวิญญาณของต้นหลี่หมิงออกจากร่างแล้วด้วยพลังแห่งความโกรธแค้นก็นําพาดวงวิญญาณของเขาไปขอความเห็นใจจากอาจารย์ชื่อฮานผู้ที่เขาสนิทสนม
ต่อมาช่วงดึกของวันนั้นนักบวชลัทธิเต๋พร้อมด้วยเพื่อนร่วมสมาคมก็เดินทางมาหาฮันเปาเม่ยถึงบ้านพักของเธอ ขณะที่แม่มดสาวสัมผัสได้ว่ากลุ่มพลังงานรอบตัวของเธอมีการเปลี่ยนแปลงอย่างประหลาด เธอจึงรอดูสถานการณ์อย่างใจจดใจจ่อพร้อมกับถุงหมาล่าเสียบไม้ที่อยู่ในมือ
เมื่อรออยู่ที่บริเวณหน้าบ้านเป็นเวลานานจึงพบว่ามีผู้ชายสองคนเดินตรงมาและหยุดตรงหน้าแม่มดสาวจึงเอ่ยถามหลังจากกลืนสิ่งที่อยู่ในปากลงคอไปแล้ว
” พวกคุณเป็นใคร?”
MANGA DISCUSSION