ตอนที่ 19 รับมอบบ้าน
ในทันใดเจ้าตุ๊กตาตัวนั้นก็เริ่มขยับและปีนป่ายไปตามกิ่งก้านของต้นไม้โดยมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่เจ้าแมวดำด้วยท่าทางคล่องแคล่วและรวดเร็วและในพริบตามันก็ไปถึงจุดที่เจ้าแมวอยู่
เจ้าแมวดำยกกรงเล็บขึ้นทันทีเพื่อต้องการฉีกตุ๊กตาตัวนั้นด้วยอุ้งเท้า แต่ทันใดนั้นตุ๊กตาเวทมนตร์ก็อ้าปากงับเข้าไปที่ต้นคอของคู่ต่อสู้ก่อนที่ตนเองจะโดนตะปบ
“เหมียว…!!!”
เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของแมวดำดังก้องไปที่บริเวณ หลังจากนั้นก็มีบางอย่างตกลงมาจากบนต้นไม้ขณะที่อาจารย์หนุ่มจ้องมองโดยไม่วางตา
ตอนนี้แมวดำกำลังชักดิ้นชักงอด้วยอาการทุรนทุรายอยู่บนพื้นหญ้าขณะที่เจ้าตุ๊กตาตัวนั้นใช้แขนทั้งสองข้างกดแมวดำและใช้ปากกัดที่ลำคอคู่ต่อสู้อย่างรุนแรงและโหดเหี้ยม
“ปล่อย…ปล่อยข้า” เสียงร้องโอดครวญของเจ้าแมวดำเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวัง
อาจารย์ซือฮานยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งตุ๊กตาตัวนั้นกระโดดถอยหลังและปล่อยแมวดำ แต่จังหวะนั้นมีกลุ่มเงาดำกลุ่มหนึ่งถูกดึงออกมาขณะที่แมวดำหยุดการเคลื่อนไหวอย่างสิ้นเชิง
ในเวลานี้ตุ๊กตาตัวนั้นได้ยื่นมือทั้งสองข้างออกมาจับกลุ่มเงาดำโดยตรงและบีบมันอย่างชำนาญ ราวกับเด็กที่กำลังบีบดินน้ำมันและปั้นมันให้เป็นก้อนกลม ๆ จากนั้นก็ยัดมันเข้าปากไปในทันที
มันกลืนกินเข้าไป!!!
หลังจากกลืนกินวิญญาณชั่วร้ายเข้าไปแล้ว ตุ๊กตาก็แสดงอาการเรอออกมาเหมือนมนุษย์และในที่สุดก็วิ่งไปที่ด้านข้างเด็กสาวอย่างสบายอกสบายใจ
“อิ่มหรือยัง?!” แม่มดสาวเอ่ยถาม ขณะที่เจ้าตุ๊กตาทำเพียงพยักหน้าตอบรับ
เมื่อเสร็จธุระแล้วฮันเป่าเม่ยก็ต้องการจะเดินกลับออกไป แต่ทันใดนั้นอาจารย์หนุ่มก็ได้ยับยั้งทันที
“หยุดก่อน!”
แม่มดสาวหันกลับมาเอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า
“มีอะไร?”
“สิ่งนั้นคืออะไร?” อาจารย์หนุ่มเอ่ยถามพร้อมกับชี้ไปยังตุ๊กตาที่อยู่ในมือของแม่มดสาว
“ตุ๊กตาเวทมนตร์!”
หลังจากที่เห็นการต่อสู้ของตุ๊กตากับเจ้าแมวดำแล้ว อาจารย์หนุ่มก็ทราบได้ทันทีว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเด็กสาวที่มีท่าทางแปลกประหลาดคนนี้เลย
ซือฮานอดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปยังตุ๊กตาเวทมนตร์อย่างระมัดระวังและสังเกตว่ามันมีลักษณะพิเศษอย่างไรบ้างเพื่อที่เขาจะได้บรรยายให้อาจารย์ทราบ
แต่ทันใดนั้นเจ้าตุ๊กตาเวทมนตร์ก็หดตัวพร้อมกับแสดงรอยยิ้มที่น่าหวาดกลัวให้เขาเห็นอย่างกะทันหัน…
“มีอะไรอีกหรือเปล่า?” ฮันเป่าเม่ยตะโกนถาม
“เอ่อ…ไม่มีแล้วครับ?” ซือฮานกล่าวพร้อมกับจับดาบไม้ในมือแน่น
“อย่างนั้นฉันไปแล้วนะ!”
แม่มดสาวโบกมืออย่างร่าเริงพร้อมกับเดินจากไปทำให้อาจารย์หนุ่มเห็นเพียงด้านหลังของเธอที่มีความสง่างามมาก
หากคนอื่นที่ไม่รู้จักเธอก็คงคิดว่าเด็กสาวคนนี้เป็นเด็กนักเรียนหญิงที่น่ารักและมาสวนสาธารณะแห่งนี้เพื่อชื่นชมธรรมชาติ ซึ่งผู้คนคงคาดไม่ถึงว่าจะได้เห็นภาพเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวและแปลกประหลาดเมื่อครู่
ทันใดนั้นเสียงร้องของแมวก็ดังขึ้น
“เหมียว…เหมียว”
ด้วยเสียงนี้อาจารย์ซือฮานก็ถึงกับเกิดอาการตื่นตระหนกอีกครั้งและเหลือบมองไปทางต้นเสียงทำให้พบว่ามันคือแมวดำตัวที่ถูกวิญญาณร้ายเข้าสิงเมื่อครู่
อย่างไรก็ตามตอนนี้ดวงวิญญาณของแมวดำตัวนี้ได้กลับมาเป็นปกติแล้วและแมวตัวนั้นได้ส่งเสียงร้องอีกหลายครั้งด้วยความสับสนราวกับมันกำลังคิดว่าตนเองอยู่ที่ไหน…จากนั้นมันก็สะบัดหางและเดินออกไปอย่างเชื่องช้า
อาจารย์หนุ่มเดินอย่างรวดเร็วไปนั่งที่ม้านั่งตัวนั้นพร้อมกับวางเข็มทิศกับดาบไม้ในมือลงด้านข้างและหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาหาเบอร์โทรของอาจารย์หยวนเหลยแต่เมื่อจะโทรออกเขาก็เห็นร่างที่คุ้นเคยเดินกลับเข้ามา
“เธอ…เธอกลับมาทำไม?” อาจารย์หนุ่มเอ่ยถามพร้อมกับซ่อนโทรศัพท์ไว้ข้างหลัง
“ลุงมาที่นี่เพื่อจับวิญญาณร้ายใช่หรือเปล่า?” ฮันเป่าเม่ยเอ่ยถาม
“ใช่!..”
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะมอบวิญญาณร้ายนี้ให้คุณ!”
แม่มดสาวกล่าวพร้อมกับยื่นตุ๊กตาในมือให้เขา ขณะที่อาจารย์หนุ่มหยิบแผ่นกระดาษออกมาแปะที่หน้าผากตุ๊กตาด้วยความตื่นเต้นเพื่อดูดวิญญาณออกมาจากร่างตุ๊กตา
แต่ทันใดนั้นเจ้าตุ๊กตาก็แสยะยิ้มอย่างน่ากลัวพร้อมกับดึงแผ่นกระดาษนั้นออกมาและบ่นอย่างหงุดหงิดว่า
“ทำอะไร? อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวทำเอง” ตุ๊กตาน้อยตะคอกพร้อมกับยื่นกระดาษสีเหลืองที่มีตัวอักษรสีแดงปรากฎอยู่คืนไปที่เขา
เมื่ออาจารย์หนุ่มรับสิ่งนั้นมา ในฉับพลันเจ้าตุ๊กตาก็อ้าปากกว้างเพื่อพ่นวิญญาณร้ายออกมาและชั่วอึดใจมันก็หัวเราะเสียงดังอย่างน่ากลัว
“ฮ่าฮ่าฮ่า!!!”เรียบร้อยแล้ว!”
โดยอาจารย์หนุ่มอยู่ในท่าเตรียมพร้อมที่จะชักดาบไม้ออกมา ทำให้แม่มดสาว
กล่าวออกมาด้วยความลำบากใจว่า
“ฉันต้องขอโทษด้วยที่ทำให้คุณลุงกลัว!”
“ไม่เป็นไร…”อาจารย์หนุ่มแสร้งทำเป็นผ่อนคลายและเก็บดาบมาไว้ข้างตัวแต่ยังคงจับมันไว้แน่น
“แล้วอยู่ดี ๆ ทำไมถึงมอบวิญญาณร้ายนี้ให้ฉัน?”อาจารย์หนุ่มสงสัย
“ฉันขี้เกียจดูแล…” แม่มดสาวกล่าวยังเรียบเฉย
“ขอบคุณมาก! แต่ฉันมีเรื่องจะขอร้อง!”
“ว่ามา…”
“เจอกันคราวหน้าเรียกฉันว่าพี่ซือนะ!…ห้ามเรียกลุงเด็ดขาด!” ชายหนุ่มกล่าวอย่างหงุดหงิด
หลายวันต่อมาผู้จัดการธนาคารหยวนเหอเหรินก็ได้ส่งข้อความไลน์มาบอกว่าหากเธอต้องการย้ายบ้านเมื่อไหร่สามารถแจ้งให้เขาทราบเพื่อที่เขาจะได้ส่งคนงานและรถสำหรับขนย้ายสิ่งของมาช่วย
จากนั้นหนึ่งสัปดาห์ทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อยภายใต้การต้อนรับอย่างอบอุ่นของคุณหลี่หยู บิดาของหลี่หลิงเจิ้นที่แม่มดสาวเคยช่วยชีวิตเธอเอาไว้เมื่อเดือนก่อน
“ยินดีต้อนรับครับคุณฮัน” หลี่หยูยิ้มอย่างยินดีและหันไปกล่าวกับเด็กสาว
“เป็นยังไงบ้างครับ!บ้านน่าอยู่หรือเปล่า?”
“น่าอยู่มากค่ะ!”เป่าเหมยที่กำลังประคองคุณย่ากล่าวอย่างมีความสุข
“ขอบพระคุณคุณหลี่มากนะคะ”หญิงชราดีใจจนน้ำตาคลอเบ้า
“ไม่เป็นไรเลยครับคุณป้า เพราะถ้าไม่ได้คุณเป่าเม่ย…ลูกสาวผมคงแย่”
เจ้าของโครงการหมู่บ้านจัดสรรหันมากล่าวกับเด็กสาวอีกว่า
“นี่เอกสารสิทธิ์ทั้งหมดครับ…ผมเปลี่ยนชื่อเจ้าของบ้านเป็นของคุณฮันจ้าวหยางเรียบร้อยแล้วนะครับ”
——
MANGA DISCUSSION