ตอนที่ 17 มันไม่ใช่คน
ปกติแล้วในตอนที่อยู่ในโลกคู่ขนานแม่มดสาวไม่มีความจำเป็นต้องทานอาหารเพราะเธอฝึกฝนตนจนถึงจุดที่อิ่มทิพย์ได้แล้ว
แต่เมื่อวิญญาณของเธอเข้ามาอยู่ในร่างของเด็กสาวที่อวบอ้วนคนนี้ เธอก็จำเป็นต้องรับประทานอาหารเพื่อที่ระบบภายในร่างกายจะได้สามารถทำงานได้ตามปกติ
หลังจากผู้จัดการขับรถไปรับอาหารแล้วเขาก็ไปส่งเธอที่บ้านพักและนำอาหารเหล่านั้นเข้าไปส่งเธอที่บ้าน
อย่างไรก็ตามอาการปวดที่บริเวณคอและหลังของเขาได้หายเป็นปกติแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่สามารถมองเห็นในสิ่งที่เด็กสาวกล่าวถึงได้แต่เขาสามารถสัมผัสได้ เนื่องจากอาการเจ็บปวดที่แสนจะทุกข์ทรมานเหล่านั้นได้หายไปเป็นปลิดทิ้ง
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!
“คุณเป่าเม่ย…ขอบคุณมากนะครับ! เอาไว้คราวหน้าผมจะหาโอกาสมาเยี่ยมอีกนะครับ”
“ค่ะ แต่ถ้าคราวหน้ามาที่นี่คงจะไม่เจอหนูแล้ว”
“อ้าว! ทำไมล่ะครับ?”
“พอดีเมื่อวานมีคนมอบบ้านหลังใหม่ให้…ดังนั้นหนูกับครอบครัวคิดว่าจะย้ายไปอยู่ที่นั่นค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ! ผมมีเบอร์โทรติดต่อที่คุณให้ไว้ตอนเปิดสมุดบัญชีแล้วครับ”
“อ๋อ! ค่ะ”
แม่มดสาวหิ้วถุงอาหารเดินเข้าบ้านอย่างพะรุงพะรัง และเมื่อมารดาเห็นดังนั้นจึงร้องทักว่า
“หอบอะไรมาลูก? เยอะแยะเชียว!”
“อาหารเย็นค่ะแม่…มาทานข้าวเย็นกันเถอะ! หนูหิวจะแย่แล้ว”
“โอ้โห!กินหอมจังเลยมัน” มารดากล่าวด้วยดวงตาเป็นประกายและหันมาเอ่ยถามบุตรสาวอีกว่า
“เป่าเม่ยมีเงินเหรอลูก?! เมื่อวานนี้เอาเงินให้แม่หมดแล้วไม่ใช่หรอ?”
“อาหารพวกนี้คุณหยวนคนที่เป็นเพื่อนของคุณตาเกาซื้อให้ค่ะ”
“ทำไมเขาใจดีจังเลย?!”
“หนูช่วยรักษาอาการปวดหลังให้เขาน่ะคะ”
“จริงเหรอ! ช่วยรักษาให้ย่ามั่งสิ! ย่าก็ปวดหลังเหมือนกัน” หญิงชรายิ้มหวานก่อนจะหันไปกล่าวกับหลานสาวอีกว่า
“พอดีเมื่อวานนั่งเล่นไพ่นกกระจอกนานไปหน่อย”
“… …” เป่าเม่ย
ช่วงนี้หากฮันเป่าเม่ยมีเวลาว่างเธอก็มักจะเล่นโทรศัพท์และตรวจสอบข่าวสารประจำวันกับคลิปวีดีโอต่าง ๆ เพื่อประโยชน์สำหรับการใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์
นอกจากนี้แม่มดสาวก็จะเย็บตุ๊กตาตัวเล็กขนาดเท่าฝ่ามือด้วยเสื้อผ้าเก่า ๆ เพื่อใช้เป็นอาวุธวิเศษสำหรับดูดวิญญาณ
ส่วนในตอนกลางคืนนั้นกิจวัตรของแม่มดสาวกับเจ้าแมวจอมหงุดหงิดก็คือการขี่ไม้กวาดท่องเที่ยวไปรอบเมือง เพื่อหาช่องทางกลับบ้านและไม่ลืมที่จะใช้เวทมนตร์อำพรางตัว เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดปัญหาเหมือนกับข่าวในครั้งที่แล้ว
“จับแน่น ๆ นะ!!! ข้ากำลังจะลงจอดแล้ว”
“จะไปไหน?”
“หิวแล้ว! เห็นในทีวีโฆษณาว่า วันนี้ซื้อบะหมี่หนึ่งถ้วยแถมน้ำอัดลมหนึ่งกระป๋อง!”
หลังจากไม้กวาดจอดตรงหน้าร้านสะดวกซื้อแล้ว เจ้าแมวน้อยก็รีบเลยถามว่า
“เจ้านายขอรับ! น้ำอัดลมคืออะไร?!”
“ไม่รู้เหมือนกัน รอตรงนี้แป๊บนะ”
ผ่านไปสักครู่แม่มดสาวก็เดินกลับออกมาจากร้านสะดวกซื้อพร้อมกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในมือและกระป๋องน้ำอัดลม
“อยากลองชิมมานานแล้ว..เคยเห็นแต่ในทีวี”
“ขอชิมมั่ง ขอชิมมั่ง” แมวน้อยกล่าวด้วยดวงตาเป็นประกาย
หลังจากเปิดกระป๋องน้ำอัดลมและยกกระดกเข้าปากแล้ว แม่มดสาวก็อ้าปากกว้างด้วยความรู้สึกสดชื่น
“โอ้! ซ่าส์…รสชาติล้ำลึกมากจริง ๆ ….อ่ะ! ชิมสิ”เธอกล่าวพร้อมกับยื่นกระป๋องในมือให้กับเจ้าแมวน้อย หลังจากใช้ลิ้นสัมผัสกับของเหลวนั้นเพียงครั้งเดียวเจ้าแมวน้อยก็ถึงกับอ้าปากค้าง
“เจ้านายครับ อร่อยมากเลย!”
“เดี๋ยวนี้พูดจารื่นหูนะเนี่ย! ใครสอน?”
“ดูจากในทีวีน่ะสิ!” แมวน้อยกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“ฮ่าฮ่าฮ่า” แม่มดสาวหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ
เสร็จสิ้นจากเรื่องฆาตกรรมต่อเนื่องแล้วตอนนี้ก็เริ่มมีข่าวแพร่สะพัดเกี่ยวกับการตายของสัตว์เลี้ยง อาทิแมวและสุนัขที่ตายอย่างไร้ความปราณี
โดยมันจะถูกผ่าท้องเพื่อควักตับ,ไต,ไส้,พุงหัวใจและเครื่องในทั้งหมดไป แต่พบว่าร่องรอยนั้นไม่ได้เกิดจากการถูกมีดกรีด
เมื่อเห็นข่าวปรากฏทางทีวี คุณย่าของฮันเป่าเม่ยก็เอ่ยถามว่า
“ฆาตกรที่ฆ่าคนเอาหัวใจไป ถูกจับแล้วไม่ใช่เหรอเป่าเม่ย?”
“ใช่ค่ะย่า!”
“อ้าว! แสดงว่านี่เป็นฆาตกรอีกคนน่ะสิ?!” คุณย่าสงสัย
“น่าจะใช่…แต่ไม่น่าจะเป็นคนนะคะ!”
“รู้ได้ยังไง?”
“ลางสังหรณ์มันบอกค่ะ!” แม่มดสาวกล่าวอย่างมั่นใจ
“อย่างนั้นเหรอ?” คุณย่าเอ่ยถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ค่ะ!”
อันที่จริงแล้วในเมืองนี้นอกจากจะฮันเป่าเม่ยแล้วยังมีอาจารย์ลัทธิเต๋าอีกท่านหนึ่งที่มีความรู้เกี่ยวกับเวทย์มนตร์และไสยศาสตร์ ซึ่งเขามีนามว่า ‘อาจารย์หยวนเหลย’
อาจารย์ผู้นี้อาศัยอยู่บนเขาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก และลูกศิษย์ของเขาที่มีชื่อว่า’ซือฮาน’ มักจะมาทำธุระในเมืองทุกสัปดาห์ และครั้งนี้หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจแล้วเขาก็เดินไปที่สวนสาธารณะเพื่อจัดการกับอะไรบางอย่าง
ซือฮานในชุดเสื้อคลุมยาวสีเทายืนอยู่ด้านข้างน้ำพุบริเวณทางเข้าสวนสาธารณะ และอาจจะเป็นเพราะเสื้อผ้าของผู้ชายคนนี้มีความแตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไป คนที่เดินผ่านไปมาจึงให้ความสนใจกับเขามากเป็นพิเศษ
ผู้ชายคนนี้คือเข็มทิศไว้ในมือข้างหนึ่ง ขณะที่อีกข้างหนึ่งถือขวดแก้วและกวาดสายตามองไปโดยรอบราวกับว่ากำลังมองหาอะไรบางอย่าง
“อยู่นี่เอง!!!” ในที่สุดเข็มทิศก็ล็อคตำแหน่ง
อาจารย์ซือฮานเดินไปตามทิศทางของเข็มทิศ และประมาณสามสิบนาทีต่อมาเขาก็มาถึงต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ข้างทะเลสาบอันงดงามซึ่งอยู่ใจกลางสวนสาธารณะ
MANGA DISCUSSION