ตอนที่ 13 นักข่าว
อันที่จริงหญิงสาวที่ประสบกับเหตุการณ์จมน้ำนั้นเป็นบุตรสาวของนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรหลายโครงการในเมืองนี้
อีกทั้งเธอยังเป็นบุตรสาวคนเดียวของตระกูลหลี่และมีชื่อว่า หลี่หลงเจิ้น แต่วันที่เกิดเหตุเธอแอบหนีออกมาเที่ยวตามลำพัง เนื่องจากบิดาของเธอเป็นห่วงบุตรสาวคนนี้มากจึงไม่ยอมให้เธอออกไปไหนตามลำพัง
“ทำไมถึงหนีออกไปเที่ยวแบบนี้?!” หลี่หยูตะคอกด้วยความโกรธอีกว่า
“เกือบตายแล้วเห็นหรือเปล่า? ดีนะที่เด็กผู้หญิงคนนี้ช่วยลูกเอาไว้”
“หนูขอโทษค่ะคุณพ่อ” หญิงสาวกล่าวด้วยอาการตัวสั่นเทา
“แล้วรู้หรือเปล่า ว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?”
“ไม่ทราบค่ะ…หลังจากช่วยหนูแล้วเธอก็รีบร้อนกลับไปเลย”
เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อไปถึงที่ทำงานชายชราก็ร้องตะโกนมาที่แม่มดสาวด้วยความตื่นเต้นว่า
“เป่าเม่ย! รู้ตัวหรือเปล่าว่าเราน่ะดังใหญ่แล้ว”
“ดังเหรอคะ?”
“ใช่! ก็คลิปที่หนูช่วยชีวิตผู้หญิงคนนั้นน่ะสิ ตอนนี้มีคนกดไลค์กดแชร์เป็นแสนแล้วนะ”
“จริงเหรอคะ?”
“อ้าว! ไม่ดีใจเหรอ?” ชายชราเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องดีใจนี่คะ…ว่าแต่ขาของคุณตาหายดีแล้วหรือยังคะ?”
“ดีขึ้นมากแล้ว…วันนี้ว่าจะลองวิ่งรอบสนามหญ้าด้านหลังสักหน่อย!”
“ดีใจด้วยนะคะคุณตา”
เมื่อกลับถึงบ้านตอนเย็น หลังจากรับประทานอาหารค่ำแล้วแม่มดสาวก็นั่งอยู่หน้าทีวีพร้อมกับคนในครอบครัวเพื่อดูทีวีร่วมกัน ขณะที่ตอนนี้อาการของฮันจ้าวหยางก็เริ่มหายเป็นปกติดีแล้ว
“เป่าเม่ย… ดูสิเด็กที่ช่วยคนจมน้ำในข่าวหน้าตาเหมือนลูกเลย” บิดาของเธอเอ่ยขึ้น
“ก็นั่นมันหนูเอง”
“ไม่เห็นเล่าให้ฟังแม่บ้างเลย เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?” มารดาของเธอเอ่ยขึ้นมาบ้าง
“เมื่อวานนี้ค่ะ”
“แล้วลูกว่ายน้ำเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่?” มารดาเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“เอ่อ…” แม่สาวคุณคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวอีกครั้งว่า
“หนูเคยดูในคลิปวิดีโอก็เลยทำตามค่ะ!”
“… …” มารดา
หลังจากดูข่าวจบทุกคนก็ทราบว่าหญิงสาวคนนั้นกับบิดากำลังตามหาตัวสาวน้อยที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้และให้รีบติดต่อกลับไปยังสถานีโทรทัศน์โดยเร็วที่สุด
ทันใดนั้นเองเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอย่างรีบร้อน
“ลี่เจิน! ลี่เจิน…เปิดประตูหน่อย”
“ใครอ่ะ!?” มารดาของเป่าเม่ยร้องตะโกนถามทันที
“ฉันเอง! อาถิง…เพื่อนบ้านที่แสนดียังไงล่ะ”
อู๋ถิงคนนี้เป็นเพื่อนบ้านของครอบครัวฮันมานานหลายปีแล้วดังนั้นพวกเขาจึงมีความสนิทสนมกันมาก อีกทั้งครอบครัวอู๋ยังมีบุตรสาวที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับฮันเป่าเม่ย ที่มีชื่อว่าอู๋เป่ยหลาน แต่เด็กสาวทั้งสองคนก็ไม่ค่อยสนิทกันมากนักเพราะฮันเป่าเม่ยเป็นคนเก็บตัว พูดน้อยและไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร
หลังจากเจ้าของบ้านเปิดประตูให้แล้ว สองแม่ลูกก็พุ่งตรงเข้ามาทันทีด้วยความรวดเร็วพร้อมกับกล่าวว่า
“ลี่เจิน! เมื่อกี้นี้เธอดูข่าวหรือเปล่า?”
“ข่าวอะไร? ใช่ข่าวเป่าเม่ยหรือเปล่า?”
“ก็ใช่น่ะสิ! เป่าเม่ยว่ายน้ำเก่งมาก…เก่งที่สุดในสามโลกเลย” เพื่อนบ้านกล่าวด้วยความยินดีอีกว่า
“เมื่อกี้นี้ฉันได้ยินว่าเขาให้เป่าเม่ยรีบติดต่อกลับไป ฉันก็เลยให้เป่ยหลานส่งที่อยู่ของพวกเธอไปที่เพจของทางสถานีแล้วนะ”
“อ้าวเหรอ? ทำไมถึงรวดเร็วอย่างนั้นล่ะ”
“ก็ฉันหวังดี…เอ่อ…มาบอกแค่นี้แหละกลับแล้วนะ”
“จ้า…จ้า”
ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังสนทนากันฮันเป่าเม่ยก็พยายามค้นหาความทรงจำเกี่ยวกับเพื่อนบ้านของเธอเป็นการด่วน และพบว่าแม่ลูกคู่นี้มีความหวังดีต่อครอบครัวของเธออย่างจริงใจ ดังนั้นแม่มดสาวจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เมื่อเสียงไก่ขันในยามเช้า แม่มดสาวก็แต่งตัวออกไปทำงานพร้อมกับมารดาตามปกติเหมือนดังเช่นทุกวัน ขณะที่แสงแดดยามเช้าค่อยค่อยสาดแสงไปโดยรอบและชายชราหรี่ตามองมาทางเด็กสาวด้วยความประหลาดใจ
“วันนี้ทำไมไม่หยุด?”
“หยุดทำไมคะ?”
“อ้าวก็สถานีโทรทัศน์เขานัดให้หนูไปหาวันนี้ไม่ใช่เหรอ?”
“ขี้เกียจไปค่ะ” เด็กสาวกล่าวอย่างเฉยเมย
“…” ชายชราเกา
ในช่วงเวลานั้นนักข่าวจากทางสถานีโทรทัศน์ก็ได้เดินทางไปพบฮันเป่าเม่ยที่บ้าน แต่ก็ต้องพบกับความผิดหวังและได้พบกับคุณย่ากัยคุณพ่อของเธอแทน นิยาย อ่านนิยาย
หลังจากสัมภาษณ์และถ่ายภาพบ้านอันแสนจะทรุดโทรมเพื่อเตรียมทำหัวข้อข่าวสำหรับเด็กสาวคนนี้แล้ว นักข่าวก็ไม่ลืมที่จะสอบถามถึงสถานที่ทำงานของฮันเป่าเม่ย
*****
“สวัสดีค่ะดิฉันมาจากสำนักข่าวช่องสตาร์นิวส์…ขอพบคุณฮันเป่าเม่ยได้หรือเปล่าคะ?” นักข่าวสาวภาคสนามกล่าวกับเจ้าหน้าที่ของบ้านพักคนชราด้วยความสุภาพ
“อ๋อ…ค่ะ…ค่ะ เชิญทางด้านนี้ค่ะ”
ในตอนนั้นฮันเป่าเม่ยกำลังสนทนาอยู่กับชายชราเกาด้วยความสนุกสนาน แต่เมื่อได้เห็นคนแปลกหน้าเดินเข้ามาพร้อมด้วยไมโครโฟนกับกล้องโทรทรรศน์ เด็กสาวก็เบิกตากว้างด้วยความสนใจทันที
“มาทำอะไรกันหรือคะ?”
“หนูหรือเปล่าที่ชื่อว่าฮันเป่าเม่ย?”
“ค่ะ”
“ดิฉันมาจากสำนักข่าวสตาร์นิวส์ ขอรบกวนเวลาสักครู่นะคะ!”
MANGA DISCUSSION