ตอนที่ 10 ฆาตกร
ช่วงนี้พลังงานทางจิตวิญญาณของแม่มดสาวเสื่อมถอยไปมาก ดังนั้นเธอจึงบำเพ็ญเพียรโดยการเข้าสมาธิและรวบรวมลมปราณจนถึงรุ่งเช้าทุกวัน
เช้าวันถัดมาเด็กสาวก็มาทำงานปกติเหมือนกับทุกวันพร้อมด้วยน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋สำหรับชายชรา
“คุณตาคะ…อาหารเช้าค่ะ…หนูรู้ว่าคุณตาเบื่ออาหารที่นี่?”
“ขอบใจแม่สาวน้อย”
“ไม่เป็นไรค่ะ…อ้อ…แล้วตอนกลางวันอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ?”
“อย่าลำบากเลย…ตากินอะไรก็ได้”
หลังจากเกาป๋อฉานรับประทานอาหารเช้าแล้ว เด็กสาวก็ทำงานเสร็จเรียบร้อยพอดีจึงมีเวลามานั่งสนทนาด้วย
“เดินคล่องหรือยังคะคุณตา?”
“ตอนนี้ต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุงไปก่อน…แต่อีกไม่นานก็คงจะวิ่งได้แล้ว… ฮ่า ๆ ๆ”
“เก่งจังเลยค่ะ”
“อ้อ..เป่าเม่ยเลิกงานแล้วอย่าถเลไถลนะ! เพราะตอนนี้ไอ้ฆาตกรต่อเนื่องมันกำลังออกอาละวาด!”
“หนูอ่านข่าวแล้วค่ะ…คุณตาไม่ต้องเป็นห่วง”
“คนเราสมัยนี้ทำไมถึงทำกันได้ลงคอ….ช่างโหดเหี้ยมผิดมนุษย์”
“แล้วเขาจะเอาเครื่องในพวกนั้นไปทำไมคะ?”
“ตาก็ไม่รู้เหมือนกัน”
หลังจากได้รู้จักกับฮันเป่าเม่ย ชายชราก็เปลี่ยนแปลงไปมากโดยเขาเริ่มมีมนุษย์สัมพันธ์กับผู้อื่น ชายชรามักจะอารมณ์ดีอยู่เสมอและยังรู้จักทักทายเพื่อน ๆ ที่อยู่ในบ้านพักคนชราด้วยกันทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก
กลางดึกคืนนั้นเมื่อทุกคนเข้านอนแล้ว เป่าเหมยผู้รอคอยเวลานี้ก็ลุกขึ้นจากเตียงนอนอย่างกระปรี้กระเปร่าและกล่าวกับเจ้าแมวน้อยคู่บารมีว่า
“มุ้งมิ้ง…เราไปสำรวจโลกมนุษย์ในยามค่ำคืนกันเถอะ!”
“ได้เลยเจ้านาย”
เพียงชั่วอึดใจไม้กวาดประจำตัวก็มาปรากฏในมือของแม่มดสาวด้วยการร่ายเวทมนต์เพียงสองสามประโยค หลังจากขึ้นนั่งบนไม้กวาดแล้วทั้งสองชีวิตก็พุ่งออกทางหน้าต่างของบ้านหลังนี้ด้วยความเร็วสูงสุด
แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้วแต่ความสว่างไสวของแสงไฟในยามราตรีก็สามารถทำให้มองเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน
“ว้าว! โลกมนุษย์ตอนกลางคืนมันช่างสวยงามเสียจริง ๆ “แมวน้อยกล่าวอย่างตื่นเต้น
“จริงด้วย! มาอยู่ที่นี่เป็นเดือนแล้วเพิ่งจะรู้ว่าโลกนี้ก็น่าอยู่เหมือนกันนะ” แม่มดสาวกล่าวพร้อมกับหัวเราะคิกคัก
“ดูถนนสิ! โล่งมาก…ไม่มีรถสักคันเดียว” แมวน้อยเริ่มสงสัย
“ก็คงจะกลัวไอ้ฆาตกรต่อเนื่องละมั้ง”
แม้ท้องฟ้าคืนนี้ไม่มีเมฆมาบดบังแต่ก็แทบจะมองไม่เห็นดวงดาวที่พร่างพราวอยู่ทั่วท้องฟ้าเพราะแสงไฟที่สว่างมากโอบล้อมเมืองอันเงียบสงบนี้เอาไว้
ตอนนี้บนท้องถนนว่างเปล่า ผิดกับตอนกลางวันที่มีรถราแล่นพลุกพล่านอย่างกับเป็นคนละโลก ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่น่าหลงใหลอีกมุมหนึ่ง ซึ่งอาจจะไม่ได้พบเจอบ่อยนัก
“จ๊อก…จ๊อก”
“เสียงอะไรอ่ะ?”แมวน้อยเอ่ยถามด้วยความรีบร้อน
“ท้องข้าเอง…หิวอ่ะ!” แม่มดสาวตอบอย่างช่วยไม่ได้
“…โน่นไง!…ตรงนั้นมีร้านสะดวกซื้อ”
“โอเค…จะลงแล้วนะ!”แม่มดสาวกล่าวทันที
ทันทีที่ไม้กวาดจอดลงสนิทหญิงสาวแค่ตบมือเบา ๆ ไม้กวาดนั้นก็หายไปในทันใด
“รอตรงนี้นะ…จะไปซื้อบะหมี่กินซะหน่อย…วันนั้นเห็นในทีวีบอกว่ามีรสต้มยําออกใหม่!”
“ก็ได้…”
หลังจากนั่งทานบะหมี่ที่ริมทางเดินอิ่มแล้ว ทั้งสองก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินผ่านมาด้วยท่าทางมีพิรุธขณะที่ในมือของเขาถือกระติกน้ำขนาดใหญ่ใบหนึ่ง
ผู้ชายคนนี้รูปร่างสูงโปร่งผิวขาวแต่งกายด้วยเสื้อคลุมสีดำแบบมีฮู้ดและกางเกงกีฬาขายาวสีดำกับรองเท้าผ้าใบสีดำ แต่ไม่สามารถเห็นใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจนเพราะเขาสวมแมสปิดบังใบหน้าที่แท้จริงอยู่
อย่างไรก็ตามเป่าเมยสามารถสังเกตเห็นพลังหยินเป็นรัศมีแผ่ออกมาจากร่างกายของเขาได้และด้วยความไวของจมูก ทันใดนั้นแม่มดสาวก็ได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วบริเวณนี้
แต่สิ่งที่ทำให้ต้องตกใจคือมีเงาดำทะมึนคล้ายกับร่างของมนุษย์เดินตามมาทางด้านหลังของผู้ชายคนนี้
ผู้ชายคนนี้เป็นใคร?
แล้วเงาดำที่เดินตามหลังมาคืออะไร?
และด้วยความอยากรู้อยากเห็นในฉับพลันแม่มดสาวก็เริ่มร่ายเวทย์มนต์เพื่อตรวจดูสถานการณ์ที่อยู่ภายในใจของผู้ชายตรงหน้าคนนี้และต้องการทราบว่าเงาสีดำที่ติดตามมานั้นคือใครกันแน่
ไอ้หย่า! มันคือฆาตกรนี่หว่า!
“มุ้งมิ้ง…มันเป็นฆาตกรเอาไงดี?”
“โทรแจ้งตำรวจสิ”แมวน้อยเสนอแนะ
“เบอร์อะไรล่ะ?” แม่มดสาวเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ก็คุณตาเขาบอกว่า ถ้ามีปัญหาอะไรให้ถามแอปอากู๋ไม่ใช่เหรอ?” แมวนอนเริ่มหงุดหงิดและกล่าวอีกว่า
“หัดจำซะมั่งสิ!”
“เออ!…ใช่ ๆ”
MANGA DISCUSSION