แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 1202 ตอนพิเศษบทที่ 8 การตายของโก่วเวิน
ตอนที่ 1202 ตอนพิเศษบทที่ 8 การตายของโก่วเวิน
เวลาผันผ่านไปอย่างรวดเร็วจนเข้าสู่ปี 2005
หลินม่ายติดต่อกับบุตรชายของหัวหน้าชนเผ่าแอฟริกันหลายคนในสหรัฐอเมริกา หนึ่งในนั้นชื่อมัลคอล์ม เขาจะสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าเผ่าเมื่อเดินทางกลับมายังประเทศบ้านเกิด
มัลคอล์มได้รับการศึกษาแบบตะวันตก และหวังอุทิศตนเพื่อการพัฒนาประเทศเมื่อเขากลับบ้าน
ประเทศของเขาล้าหลังเกินไปในทุกด้าน ยากต่อการพัฒนาโดยอิสระ
แต่โชคดีที่ประเทศของมัลคอล์มอุดมไปด้วยทรัพยากรแร่ เขาจึงต้องการเรียนรู้จากดูไบ ขายทรัพยากรเพื่อเงิน แล้วจึงพัฒนาประเทศอย่างจริงจัง
มัลคอล์มเสนอราคาเหมืองแร่เหล็กสองถึงสามรายการก่อน
เมื่อหลินม่ายทราบข่าว จึงส่งคนเข้าร่วมการประมูล
เดิมทีเธอแค่ลองเสี่ยงโชค แต่ไม่คาดคิดว่ามัลคอล์มจะจำอดีตเพื่อนร่วมชั้นแบบเธอได้ และปล่อยให้เธอชนะการประมูลเหมืองเหล็ก
หลินม่ายให้ความสำคัญกับการลงทุนลงงานในแอฟริกาเป็นครั้งแรกเพื่อขุดแร่เหล็กเป็นอย่างยิ่ง
หากเธอทำงานได้ดี บางทีมัลคอล์มอาจจะยังคงมอบสิทธิ์การขุดแร่โครงการอื่น ๆ กับเธอต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้เธอยังไม่เคยไปแอฟริกาเลย เธอจึงอยากท่องเที่ยวเพื่อหาประสบการณ์ขณะอยู่ที่นั่น
เมื่อพวกเขามาถึงประเทศอังโกลาที่เป็นประเทศเกิดของมัลคอล์ม ทุกอย่างก็ราบรื่นดี หลินม่ายเริ่มงานและสร้างฐานอย่างรวดเร็ว
ในวันนี้ หลินม่ายจะไปตรวจสอบสถานที่ก่อสร้างเพื่อดูว่ามีการใช้มาตรการความปลอดภัยหรือไม่
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับการทำเหมืองคืออุบัติเหตุ ซึ่งหมายถึงการสูญเสียชีวิตแรงงาน ดังนั้นมาตรการด้านความปลอดภัยจึงมีความสำคัญมาก
หลินม่ายเพิ่งออกจากประตูโรงแรมพร้อมบอดี้การ์ด แต่ก่อนที่เธอจะขึ้นรถ หญิงสาวเนื้อตัวสกปรกและดูวิกลจริตก็วิ่งตะโกนเข้ามา “ม่ายจื่อ ช่วยฉันด้วย!”
บอดี้การ์ดทั้งสองคนหยุดผู้หญิงวิกลจริตทันที และป้องกันไม่ให้หล่อนเข้าใกล้หลินม่าย
หลินม่ายสังเกตตัวตนของอีกฝ่ายระมัดระวัง ก่อนพบว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากโก่วเวินที่หายตัวไปหลังวันคริสต์มาส
ไม่คาดคิดเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะสามารถมาถึงประเทศในแถบแอฟริกาที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักแห่งนี้ได้
แต่ไม่ว่าโก่วเวินจะไปอยู่ที่ไหน มันก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของหลินม่าย เธอละสายตาอย่างไม่แยแสและขึ้นรถจากไป
ขณะอยู่ในรถ คนขับเหลือบมองกระจกมองหลังเป็นครั้งคราวแล้วรายงานหลินม่ายว่า “คุณหลิน ผู้หญิงสกปรกคนนั้นวิ่งตามรถมาตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว”
หลินม่ายตอบกลับอย่างใจเย็น “ไม่ต้องไปสนใจค่ะ”
แต่หลังจากนั้นเธอยังคงสืบหาข้อมูลว่าทำไมโก่วเวินถึงมาอยู่ในทวีปแอฟริกา
ปรากฏว่าหลังจากวันคริสต์มาสในปีนั้น โก่วเวินหนีไปซ่อนตัวในสถานที่ห่างไกลในสหรัฐอเมริกา
ในตอนแรกหล่อนเอาตัวรอดด้วยการเก็บอาหารจากถังขยะ หลังจากหายจากอาการบาดเจ็บแล้วก็เปลี่ยนมาทำอาชีพค้าประเวณี
ในช่วงเวลาดังกล่าวหล่อนบังเอิญได้พบกับนักเรียนต่างชาติผิวดำชื่อบูน
นักเรียนต่างชาติผิวดำโกหกว่าเขาเป็นลูกชายของผู้นำประเทศอังโกลาที่อยู่ในทวีปแอฟริกา โก่วเวินปิดบังตัวตนของหล่อนในฐานะผู้ขายบริการทางเพศ และบอกเพียงว่าตนเองเป็นนักเรียนที่ได้รับทุนจากรัฐบาลจีน
แม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้พึงพอใจซึ่งกันและกันก็ตาม
โก่วเวินไม่ชอบบูนที่เป็นคนผิวดำ หล่อนต้องการแต่งงานกับชายผิวขาว แต่ไม่มีชายผิวขาวคนใดชอบหล่อน
ส่วนบูนไม่ชอบโก่วเวินเพราะคิดว่าหล่อนน่าเกลียด แต่เขากับโก่วเวินต่างก็เผชิญกับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบเดียวกัน เพราะไม่มีผู้หญิงที่สวยกว่าโก่วเวินคนไหนที่ชอบเขา
เมื่อคนสองคนจากโลกเดียวกันมารวมตัวกัน ทั้งคู่ต่างก็โลภในตัวตนของกันและกัน
ตราบใดที่โก่วเวินสามารถแต่งงานกับลูกชายผู้นำประเทศ หล่อนก็จะกลายเป็นพระชายา
ในอนาคตเมื่อเยือนประเทศจีนกับบูน หล่อนก็จะได้อวดเบ่งพลังอำนาจต่อหน้าหลินม่าย แค่คิดแบบนี้ก็รู้สึกตื่นเต้นจนอธิบายไม่ถูก
สิ่งที่บูนสนใจคือสถานะของหล่อนในฐานะนักเรียนที่ได้รับทุนจากรัฐบาลจีน
ว่ากันว่านักเรียนจีนที่เรียนต่อต่างประเทศโดยทุนรัฐบาลนั้นเก่งมาก
เขาต้องการภรรยาต่างชาติที่ดีมาเลี้ยงดูเขา
คนสองคนซึ่งมีวาระซ่อนเร้นอยู่ในใจต่างตัดสินใจอยู่ด้วยกัน โก่วเวินติดตามบูนกลับประเทศอังโกลาหลังจากนั้น
ทันทีที่ลงจากเครื่องบิน โก่วเวินก็พบว่าเธอถูกหลอก
บูนไม่ใช่ลูกชายของผู้นำประเทศ เขาเป็นเพียงสวะผู้เปี่ยมวาทศิลป์ซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านบนภูเขาที่ยากจน
หมู่บ้านบนภูเขาแห่งนี้ด้อยพัฒนายิ่งกว่าพื้นที่ชนบทที่ล้าหลังที่สุดในประเทศจีน
นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายที่สุด สิ่งที่เลวร้ายมากกว่านั้นคือ บูนได้แต่งงานมีภรรยาสองคนและลูกสามคนแล้ว โก่วเวินถูกรับเข้ามาเป็นภรรยาน้อยเท่านั้น
โก่วเวินต้องการหนี แต่บูนได้สัญชาติของหล่อนเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้เขายังมีบัตรประจำตัวประชาชนและเอกสารอื่น ๆ ทั้งหมดของหล่อนอยู่ในมือ ซึ่งทำให้หล่อนเคลื่อนไหวลำบาก
บูนไม่ทำงาน ส่วนแม่และภรรยาสองคนของเขาทำงานบ้านเท่านั้น ภาระเลี้ยงดูครอบครัวจึงตกมาอยู่ที่โก่วเวินคนเดียว
หล่อนทำงานคนเดียวสี่งานอย่างเหน็ดเหนื่อยทุกวี่วัน เมื่อกลับไปบ้านก็ต้องดูแลทั้งครอบครัวอีก
เท่านั้นไม่พอ หล่อนมักถูกแม่สามีและภรรยาทั้งสองรังแกบ่อยครั้ง เพราะใครใช้ให้หล่อนมาเป็นภรรยาน้อย?
หัวใจของโก่วเวินเต็มไปด้วยความขมขื่น คิดว่าหลังการแต่งงานกับบูน อย่างน้อยในฐานะชาวต่างชาติ ครอบครัวของบูนจะดูแลหล่อนบ้าง
ในประเทศจีน มีลูกสะใภ้ชาวต่างชาติคนไหนบ้างที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากแม่สามี!
มีแค่หล่อนเท่านั้น ซึ่งน่าเวทนาเกินไปแล้ว!
บูนหัวเราะจนแทบตายเมื่อได้ยินความคิดของหล่อน และพูดว่า “ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าเธอเป็นโสเภณี แล้วยังคิดว่าตัวเองสมควรได้รับสถานะในครอบครัวอีกเหรอ?”
โก่วเวินปิดปากแน่นในทันที
หล่อนคิดมาโดยตลอดว่าบูนไม่รู้ข้อมูลสกปรกของตน แต่กลับกลายเป็นว่าเขารู้ทุกอย่าง
โก่วเวินรู้จากหนังสือพิมพ์เมื่อเดือนที่แล้วว่าหลินม่ายมายังประเทศอังโกลา
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา หล่อนก็หยุดทำงานหนักและมองหาโรงแรมที่หลินม่ายพักอยู่
ในที่สุดหล่อนก็หาจนเจอเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่กลับถูกบอดี้การ์ดกีดกันไว้
อีกทั้งหลินม่ายยังเพิกเฉยต่อหล่อน
โก่วเวินร้องไห้ด้วยความโศกเศร้า ขณะเดียวกันก็แค้นเคืองหลินม่าย
ท้ายที่สุดพวกหล่อนเป็นเพื่อนร่วมชาติและเคยเรียนมาด้วยกัน แต่อีกฝ่ายกลับปฏิเสธที่จะช่วยเหลือหล่อน
ฤดูร้อนของแอฟริกานั้นร้อนมาก และมียุงเยอะ
ช่วงเดือนที่สองของหลินม่ายในแอฟริกา ไข้เลือดออกเริ่มระบาด
ประเทศอังโกลาล้าหลังมาก สุขอนามัยย่ำแย่ ไม่ต้องพูดถึงการรักษาพยาบาล โรคระบาดได้แพร่กระจายไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว
ไข้เลือดออกรักษาได้ง่ายในประเทศจีนตราบใดที่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
อย่างไรก็ตามในประเทศเล็ก ๆ ของแอฟริกาแห่งนี้ มันมีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก ซึ่งล้วนเป็นเด็กและผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ
โชคดีที่หลินม่ายนำยาติดตัวมาด้วยจำนวนหนึ่งก่อนออกเดินทาง รวมถึงยารักษาโรคไข้เลือดออกด้วย
เธอดูแลพนักงานของตัวเองก่อน จากนั้นแจกจ่ายยาเพิ่มเติมให้กับคนยากไร้ในท้องถิ่นโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
หากยาไม่เพียงพอ เธอจะขอให้ฟางจั๋วหรานส่งยาจากประเทศจีนมาเพิ่ม
การกระทำอันมีน้ำใจนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกซาบซึ้ง ตั้งแต่ระดับผู้นำอย่างมัลคอล์มไปจนถึงคนยากจนที่อยู่ชั้นล่างสุด
บริษัทของหลินม่ายไม่ใช่บริษัทต่างชาติแห่งเดียวที่กำลังทำเหมืองในประเทศอังโกลา แต่ยังคงมีอีกหลายบริษัทจากหลายประเทศกำลังทำเหมืองในประเทศแห่งนี้
อย่างไรก็ตามมีเพียงว่านทงกรุ๊ปของหลินม่ายที่ก้าวออกมาทำการกุศลและช่วยเหลือคนยากจนในประเทศอังโกลาช่วงที่เกิดโรคระบาด
ในวันนี้หลินม่ายพาพนักงานของบริษัทไปบริจาคยาตามท้องถนนเป็นการส่วนตัว โก่วเวินเดินไปหาหลินม่ายและพนักงานโดยใช้ไม้เท้าค้ำยันเพื่อขอรับยาฟรี
หล่อนเป็นไข้เลือดออกเช่นกัน และยังสาหัสมากด้วย
ไม่มีใครในครอบครัวสามีใส่ใจอาการเจ็บป่วยของหล่อน ดังนั้นหล่อนจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องเอาชีวิตรอดให้ได้โดยการมาขอรับยาฟรี
หลินม่ายเห็นโก่วเวินจากระยะไกล เธอจึงขอให้พนักงานเก็บของเพื่อที่จะไปแจกจ่ายยาที่อื่น
ไม่ว่าเธอจะต้องการช่วยเหลือผู้คนมากแค่ไหน เธอจะไม่ช่วยโก่วเวินเด็ดขาด ผู้หญิงคนนี้เลวร้ายเกินไปและไม่คุ้มค่าที่จะช่วยเหลือ
ขณะที่โก่วเวินเดินมาเกือบถึงแล้ว หลินม่ายเดินออกไปพร้อมกับพนักงานที่แจกจ่ายยารักษา
แม้โก่วเวินจะอยากร้องไห้แค่ไหน แต่สุดท้ายก็ไม่มีน้ำตา หล่อนหมดสติไปด้วยความแค้นใจและเสียชีวิตจากอาการป่วยไม่กี่วันต่อมา
หลินม่ายไม่แยแสเมื่อได้ยินข่าวของอีกฝ่าย
เธอไม่ได้ฆ่าใคร เพียงแค่เลือกที่จะไม่ช่วยเหลือ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องแบกรับความรู้สึกผิด
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ตายอนาถไปอีกหนึ่ง แต่ตอนที่มีชีวิตอยู่ก็สร้างวีรกรรมไว้แสบมากเหมือนกัน
ไหหม่า(海馬)