แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 1049 ลงคะแนนรอบแรก
ตอนที่ 1049 ลงคะแนนรอบแรก
ตอนที่ 1049 ลงคะแนนรอบแรก
ไม่นานก็มาถึงวันที่ต้องลงคะแนน ทันทีที่กลับมาจากพักเที่ยง ผู้อำนวยการจูเดินเข้ามาที่สำนักงานเพื่อเป็นประธานในการลงคะแนน
ผู้สมัครที่อยู่ในรายชื่อคือ ไช่หานปิง โก่วเวิน และฉีฟาง
หลินม่ายกับจางชานสละสิทธิ์ ส่วนคนอื่น ๆ ในสำนักงานก็ไม่มีวุติการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย จึงไม่ได้เข้าร่วมการคัดเลือก
โก่วเวินและไช่หานปิงแบ่งอาวุโสทั้ง 6 คนในสำนักงานออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน กลุ่มหนึ่งลงคะแนนให้โก่วเวิน ส่วนอีกกลุ่มลงคะแนนให้ไช่หานปิง
หลังจากอาวุโสทั้ง 6 คนลงคะแนนแล้ว กลับกลายเป็นว่าโก่วเวิน ไช่หานปิง และฉีฟางมีคะแนนเท่ากันคือ 2 คะแนน
เป็นเพราะอาวุโสทั้ง 6 ไม่ได้ทำตามที่โก่วเวินกับไช่หานปิงนัดแนะเอาไว้ พวกเขาคิดว่าพวกเขาจะลงคะแนนให้ใครก็ได้ตามต้องการ
ผลประโยชน์ที่ไช่หานปิงและโก่วเวินมอบให้กับอาวุโสเหล่านั้นล้วนแต่ไร้ประโยชน์
และเรื่องนี้พิสูจน์ได้ทันทีว่าฉีฟางไม่ได้ไร้เดียงสาและสัตย์ซื่ออย่างที่คิด หล่อนติดสินบนกับอาวุโสทั้ง 6 คนชัดเจน ไม่อย่างนั้นหล่อนจะไม่มีทางได้รับ 2 คะแนนแน่นอน
เมื่อมีคู่แข่งโผล่มาอีกคน ทั้งโก่วเวินและไช่หานปิงโกรธจัดทันที
ทั้งสองหันกลับมาให้ความสนใจกับหลินม่าย จางชาน และผู้อำนวยการจู เหลือเพียงสามคนนี้เท่านั้นที่ยังไม่ได้ลงคะแนน
คะแนนของทั้งสามถือเป็นการตัดสินชี้ชะตาของพวกเขา และแน่นอนว่าฉีฟางเองก็คาดหวังกับพวกเขาด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะจางชานและหลินม่าย
ไม่ว่าจะเป็นโก่วเวิน ฉีฟาง หรือไช่หานปิง หลินม่ายไม่ชอบใครสักคน เพราะอย่างนั้นเธอจึงงดออกเสียง
โก่วเหวินและอีกสองคนหันมองจางชานด้วยความกังวล หวังว่าถ้าชายคนนี้ยอมลงคะแนนให้ พวกเขาก็จะยิ่งมีโอกาสในการเข้าชิงทุนศึกษาต่อต่างประเทศมากขึ้น
ถึงอย่างนั้นทุกคนกลับต้องผิดหวัง เพราะจางชานก็งดออกเสียงด้วยเช่นกัน
ท้ายที่สุดเหลือแค่ผู้อำนวยการจูเท่านั้นที่ยังไม่ได้ลงคะแนน ผู้ท้าชิงทั้งสามคนจึงหันไปสนใจผู้อำนวยการจูทันที
ผู้อำนวยการจูพลันเป็นกังวล “คุณทั้งสามคนยอดเยี่ยมมาก ผมหนักใจจังเลย”
เขาไตร่ตรองสักครั้งก่อนจะพูดขึ้นว่า “เอาอย่างนี้แล้วกัน ผมจะเขียนชื่อพวกคุณลงในกระดาษแผ่นเล็กพวกนี้
แล้วถ้าผมจับขึ้นมาได้ชื่อคนไหน คนนั้นก็ได้รับคะแนนไป แบบนี้ดีไหม?”
โก่วเวินและฉีฟางเห็นด้วยทันที
หากให้ผู้อำนวยการจูลงคะแนนให้อย่างสมัครใจ เขาจะลงคะแนนให้กับไช่หานปิงแน่นอน
แม้แต่คนตาบอดยังทราบว่าผู้อำนวยการจูค่อนข้างที่จะชื่นชอบไช่หานปิงบ้าง ผู้ชายคนไหนล่ะที่จะไม่ชอบคนสวย?
ไช่หานปิงไม่ค่อยพอใจเท่าใดนัก แต่หล่อนจำต้องยอมฟังเสียงส่วนมาก
ผู้อำนวยการจูขอให้หลินม่ายช่วยจัดการเรื่องใบจับสลาก แต่หลินม่ายปฏิเสธ
โก่วเวินและอีกสองคนไม่มีใครนิสัยดีและใจกว้าง หากผลลัพธ์ออกมาไม่เป็นทีพอใจ เธอจะไม่ตกเป็นจำเลยงั้นเหรอ
ผู้ที่ไม่ได้รับเลือกจะต้องเกลียดชังเธอแน่นอน และอาจสงสัยว่าเธอโกงสลากเหล่านี้ ทำไมเธอจะต้องหาเรื่องให้กับตัวเองด้วยล่ะ?
ผู้อำนวยการจูจี๊ปากเล็กน้อยก่อนจะขอให้จางชานทำสลากให้ จางชานลงมือทำอย่างว่าง่าย
ผู้อำนวยการจูหยิบสลากขึ้นมา เขาเขย่ามันอยู่นานกว่าจะเลือกสักใบ สุดท้ายก็เทมันออกมาบนโต๊ะ มองก้อนกระดาษทั้งสาม และไม่รู้ว่าควรหยิบอันไหน
ในที่สุด เขาก็หลับตาก่อนจะใช้มือสุ่ม ๆ หยิบกระดาษชิ้นเล็ก แล้วยื่นให้พี่เซี่ยช่วยอ่านชื่อภายใน
พี่สาวเซี่ยอ่าน “ไช่หานปิง” และยื่นให้ทุกคนดู
ไช่หานปิงร้องอุทานออกมาด้วยความดีใจ
หล่อนอยากจะสวมกอดโก่วเวินจากสันชาตญาณ แต่ก็นึกได้ว่าเพราะเรื่องนี้ทำให้ตนกับโก่วเวินกลายเป็นศัตรูกันไปแล้ว
เวลานั้นหล่อนจึงคิดจะหันไปกอดหลินม่ายแทน แต่หลินม่ายกลับถอยออกไปอย่างเงียบ ๆ
ก่อนหน้านี้ไช่หานปิงและโก่วเวินพยายามร่วมมือกันสร้างความวุ่นวายให้กับหลินม่ายเสมอมา
แม้หล่อนทั้งสองคนจะไม่สามารถทำอะไรหลินม่ายได้ แต่เธอก็จดจำความแค้นนั้นได้ดี และที่เธอไม่ได้ลงมือแก้แค้นเป็นเพราะเธอยังมีเมตตาเท่านั้น
แต่ไช่หานปิงกลับคาดหวังว่าจะมาเฉลิมฉลองความสุข และได้รับความยินดีจากเธออีกงั้นเหรอ!
การเคลื่อนไหวของหล่อนไม่เพียงแต่จะทำให้ไช่หานปิงประทับใจ แต่ผู้อาวุโสทั้งหมดนอกเหนือจากพี่สาวเซี่ยก็ลอบยกย่องในความมีน้ำใจนักกีฬาของหล่อน
ผู้อำนวยการจูแสดงความยินดีกับไช่หานปิง ก่อนจะกลับมาที่ห้องทำงานของตัวเอง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ไช่หานปิงชวนฉีฟางไปเข้าห้องน้ำ แต่ฉีฟางปฏิเสธ ไช่หานปิงจึงต้องไปเข้าห้องน้ำเพียงลำพัง
ไม่นานนัก หลังจากไช่หานปิงออกจากห้องทำงานไป ฉีฟางก็เดินเข้าไปในห้องสำนักงานใหญ่
หล่อนมองรอบ ๆ ก่อนจะมาหยุดยืนหน้าห้องของผู้อำนวยการจู
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้แล้ว หล่อนเอาหูแนบกับประตู
ชัดเจนว่าภายในห้องสำนักงานนี้ ไช่หานปิงเพิ่งเสร็จกิจกับผู้อำนวยการจู
หล่อนลุกขึ้นจากโซฟาอย่างไม่ยินดี แล้วกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเท่าใดนัก
“ไอ้คนเลวไม่รักษาคำพูด ก่อนหน้านี้คุณตอบตกลงว่าตราบใดที่ฉันยอมนอนด้วย คุณจะรับประกันว่าฉันจะเป็นคนได้ทุนไปเรียนต่อแน่นอน ผลก็คือฉันหลับนอนกับคุณกว่าแปดครั้ง แต่คุณกลับไม่คิดจะช่วยอะไรฉันเลย! ถ้าไม่ใช่ฉันที่โชคดีถูกจับสลากขึ้นมา ฉันจะมีโอกาสได้รับทุนไปเรียนต่อต่างประเทศไหม?”
ผู้อำนวยการจูลูบคลำต้นขาของหล่อนก่อนจะพูดโน้มน้าว “เด็กโง่เอ๋ย คุณเป็นนักศึกษาชั้นยอดของมหาวิทยาลัยชิงหวาเชียวนะ คุณน่ะฉลาดมาก แต่ไม่เข้าใจโลกเสียมากกว่า คุณคิดว่าตัวเองโชคดีจริง ๆ เหรอที่ผมจับสลากชื่อคุณได้? คิดว่าทั้งหมดเป็นการสุ่มจริงเหรอ?”
เขาหยิบลูกบอลกระดาษสองลูกออกจากกระเป๋าส่งให้ไช่หานปิง “เอาล่ะ ลองดูนี่สิ”
ไช่หานปิงเปิดออก และเห็นว่ามีชื่อของหล่อนเขียนอยู่บนกระดาษทั้งสองแผ่น
หล่อนเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจก่อนจะถามว่า “คุณเปลี่ยนโน้ตเล็ก ๆ พวกนี้ที่จางชานทำขึ้นเหรอ?”
“ถ้าไม่ทำอย่างนี้จะรับประกันได้ยังไงว่าคุณจะเป็นคนได้รับทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ 100% และผมก็จะไม่ถูกต่อว่าว่าลำเอียงด้วย”
ไช่หานปิงสวมกอดเขาก่อนจะหอมแก้มเขาอย่างหนักสามครั้ง “เฒ่าลามกจู คุณใจดีกับฉันมากจริง ๆ เป็นฉันที่เข้าใจผิดเอง”
“แล้วทีนี้คุณจะขอโทษผมยังไงล่ะ?”
จากนั้นฉีฟางที่กำลังแอบฟังอยู่ด้านนอกก็ได้ยินเสียงการกระทำไร้ยางอายของหญิงชายในห้อง จึงรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากเลิกงานช่วงบ่าย จางชานเดินออกจากประตูโรงงาน เขาถูกโก่วเวินหยุดเอาไว้แล้วยังกล่าวถามด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด “ทำไมถึงงดออกเสียง? คุณกินและดื่มอาหารของฉันไปตั้งมากมายไม่ใช่เหรอ?”
หากจางชานไม่งดออกเสียง หล่อนจะไม่แพ้ให้กับไช่หานปิงแน่นอน
จางชานตอบกลับอย่างไม่แยแส “ก็เธอชวนฉันไปกินมื้อเที่ยง ฉันไม่ได้บังคับเธอสักหน่อยนี่ แล้วฉันก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ลงคะแนน”
แม้โก่วเวินจะโกรธเท่าไหร่ แต่สิ่งที่จางชานพูดก็เป็นความจริง หล่อนไม่สามารถต่อว่าเขาได้
นับตั้งแต่ไช่หานปิงชนะผลการคัดเลือกระดับแรก ทั้งโก่วเวินและไช่หานปิงที่เคยเป็นมิตรต่อกันก็กลับกลายเป็นศัตรู
โก่วเวินทะเลาะกับไช่หานปิงทุกวันที่มาทำงาน
ไช่หานปิงเองก็ใช่ย่อยเหมือนกัน หล่อนหาเรื่องกับโก่วเวินทุกวันภายในห้องสำนักงาน
โก่วเวินต่อว่าไช่หานปิงว่าเนรคุณ ตอนที่มหาวิทยาลัยคัดเลือกนักเรียนไปศึกษาต่อต่างประเทศ ไช่หานปิงถูกตัดสิทธิ์และหล่อนเป็นคนเดียวที่ออกหน้าพูดช่วยเหลือ
ไช่หานปิงฟังแล้วก็เย้ยหยัน “ออกหน้าเพื่อฉันงั้นเหรอ? หรือทนไม่ได้ที่เห็นหลินม่ายได้รับทุนไปเรียนต่อต่างประเทศกันแน่? เราอยู่ชั้นเรียนเดียวกัน คนอื่นคงไม่รู้ว่าเธอน่ะอิจฉาเพื่อนร่วมชั้นหลินม่ายแค่ไหน แต่ฉันรู้ดี”
เมื่อเห็นว่าไช่หานปิงจงใจลากตัวเองเข้าสู่การวิวาทคราวนี้ หลินม่ายก็ขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดก่อนจะไปทำงานพร้อมกับจางชานและฉีฟาง
ผู้อำนวยการจูเห็นอย่างนั้นจึงสั่งลงโทษไช่หานปิงและโก่วเวิน เพื่อที่ทั้งสองคนจะได้หยุดทะเลาะวิวาทกันภายในห้องสำนักงาน
วันนี้หลินม่ายและคนอื่น ๆ เสนอผลงานชิ้นใหม่ และต้องการให้ผู้อำนวยการจูรับชม
จางชานเป็นคนน่าเบื่อ จึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะออกไปยืนด้านหน้าแล้วกล่าวเสนอชิ้นงาน
ฉีฟางบอกว่าหล่อนขี้อาย และหวาดกลัวที่จะเสนอผลงานต่อหน้าที่ประชุม
หล่อนไม่กล้าไปที่ห้องของผู้อำนวยการจูเพียงลำพัง
ในอดีต โก่วเวินและไช่หานปิงมีหน้าที่รับผิดชอบห้องของผู้อำนวยการจู ไม่ว่าจะมีธุระอะไรทั้งสองคนก็จะจัดการให้เสมอ
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองชอบไปที่ห้องของผู้อำนวยการจูมาก อย่างนั้นจึงสมควรใช้เรื่องนี้ให้เกิดประโยชน์สักที
แต่วันนี้โก่วเวินได้รับมอบหมายงานจากฉีฟางให้กลับไปที่มหาวิทยาลัยเพื่อค้นหาข้อมูล ส่วนไช่หานปิงก็ไม่อยู่ที่นี่ด้วย
นับตั้งแต่ไช่หานปิงผ่านการคัดเลือกในรอบแรก ในทุกวันทำงานหล่อนจะต้องใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงสำหรับการอู้งาน
และเหตุผลของหล่อนในช่วงนี้ก็คือหล่อนกำลังฝึกฝนภาษาอังกฤษอย่างหนักในมุมใดมุมหนึ่งของโรงงานเพื่อเตรียมพร้อมจะไปศึกษาต่อต่างประเทศ
ตอนนี้ฉีฟางจึงกล่าวกับหลินม่ายด้วยความกระอักกระอ่วน “ไปส่งต้นฉบับการศึกษานี้ให้ผู้อำนวยการจูเถอะ”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ว่าแล้วว่ามันต้องมีเรื่องอะไรแบบนี้ ผู้อำนวยการออกจะเฒ่าหัวงูขนาดนั้น
จะเข้าข่ายตาอินตานาแย่งปลา แล้วตาอยู่มาคว้าปลาไปเต็มๆ ไหมหนอ ไม่ต้องมาทำใสซื่อเลยฉีฟาง หล่อนนั่นแหละร้ายที่สุด