แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 1044 แม่หม่าตกที่นั่งลำบาก
ตอนที่ 1044 แม่หม่าตกที่นั่งลำบาก
ตอนที่ 1044 แม่หม่าตกที่นั่งลำบาก
เช้านี้หลินม่ายนำอาหารมาให้เย่เหลียงเฉินตามปกติ
แต่ไม่ว่าจะขับรถวนไปมาอยู่หลายครั้ง เธอก็ยังไม่พบเขาเลย
หลินม่ายเห็นกลุ่มคนจำนวนมากรวมตัวกัน จึงนึกสงสัยและเข้าไปใกล้ ตอนนี้ก็มีคนพูดขึ้นว่า “ผู้ชายจรจัดคนนี้ใกล้ตายแล้วเหรอ รีบโทรหาตำรวจให้พาเขาไปดีกว่า”
หลินม่ายหยุดรถก่อนจะออกไปดู เธอเบียดเสียดเข้าไปในกลางวงอย่างมุ่งมั่น
ตอนนี้เองเธอก็เห็นเย่เหลียงเฉินนอนอยู่บนพื้น สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
เธอหันมาพูดกับทุกคนว่า “ใครก็ได้ช่วยอุ้มเขาไปที่รถของฉันที”
ทันใดนั้นหนุ่มสาวหลายคนกระตือรือร้นที่จะตอบ “ฉัน!”
ชายหนุ่มหลายคนทำงานอย่างหนักเพื่ออุ้มเย่เหลียงเฉินไปที่รถ
หลินม่ายขับรถไปที่โรงพยาบาลด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่จะทำได้
เย่เหลียงเฉินเป็นไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน และโชคดีที่ได้รับการผ่าตัดทันเวลา หากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงและยังไม่ถูกรักษา เขาจะต้องตกอยู่ในอันตรายแน่นอน
เย่เหลียงเฉินได้รับการผ่าตัดไส้ติ่งก่อนจะถูกส่งตัวไปที่ห้องพักฟื้น หลังจากเขาตื่นขึ้นมา เขาบอกกับพยาบาลว่าต้องการพบหลินม่าย
ตอนเที่ยง หลินม่ายมาหาเขาที่เตียงผู้ป่วย
เย่เหลียงเฉินบอกว่าเขาต้องการแจ้งความถึงอาชญากรรมคราวนั้น และถามหลินม่ายว่าจะส่งเขาไปที่สถานีตำรวจได้ไหม
หลินม่ายรู้สึกดีใจมาก แต่เธอยังไม่ยอมรับคำขอของเย่เหลียงเฉินในทันที
เขาเพิ่งได้รับการผ่าตัด และยังอ่อนแอมาก
หลินม่ายต้องการให้แผลของเขาหายสนิทก่อน หากเดินได้แล้ว วันนั้นก็ยังไม่สายที่จะไปแจ้งความ
วันนี้ไม่มีอะไรต้องกังวล
แต่เย่เหลียงเฉินบอกว่าเขากลัวว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้าเขาจะไม่กล้าแจ้งความเรื่องนี้ ควรจะพาเขาไปในตอนที่เขายังกล้าหาญอยู่
สุดท้ายก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะพาเขาไปสถานีตำรวจ เพียงแค่เขาขยับตัว เขาจะต้องเจ็บปวดมากแค่ไหน?
หลินม่ายจึงติดต่อไปยังสถานีตำรวจ ตำรวจดำเนินการอย่างยุติธรรมและส่งเจ้าหน้าที่สองคนมาถึงเตียงผู้ป่วยของเย่เหลียงเฉิน
แม้เย่เหลียงเฉินจะรายงานคดีนี้ แต่จูซิ่งเซิ่งและหม่าฉุนต่างไม่ยอมรับสารภาพ
พวกเขารู้ว่าคดีของตระกูลเย่แตกต่างจากคดีเจตนาฆาตกรรมพ่อไป๋มาก หากยอมรับ พวกเขาจะถูกยิงเป้าทันที
พวกเขาถูกข้อหาพยายามฆ่ากับพ่อไป๋ แต่คดีนี้กลับรุนแรงยิ่งกว่าเพราะพวกเขาลงมือฆ่าถึงสามคน และยังบีบบังคับให้พี่ชายของผู้ตายแกล้งเป็นบ้าอยู่หลายปี โทษที่รออยู่มีเพียงประหารชีวิตเท่านั้น
ครอบครัวของหม่าฉุนยังคงมีอำนาจ
แม้หม่าฉุนจะถูกจับ แต่พ่อแม่ของหม่าฉุนก็ลำบากใจมาก พวกเขายังไม่สามารถใช้เส้นสายปู่ของหม่าฉุนได้ เพราะจะเป็นการดึงดูดความสนใจของผู้คนมากเกินไป
แม้หม่าฉุนและจูซิ่งเซิ่งจะจ้างฆาตกรให้ลงมือสังหารพ่อไป๋ แต่พ่อไป๋ก็ยังไม่ตาย และทั้งสองจะถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตเท่านั้น
ตราบใดที่พวกเขารอดพ้นจากโทษประหารชีวิตได้ และลูกชายยังมีชีวิตอยู่ พ่อหม่าและแม่หม่าก็ไม่คิดหวาดกลัว
หลังจากผ่านไปไม่กี่ปี ผู้คนก็ลืมเลือนคดีนี้ไปแล้ว จากนั้นค่อยขอร้องให้คุณปู่หม่าเปลี่ยนโทษตลอดชีวิตเป็นลดหย่อนโทษ แล้วค่อยฉวยโอกาสจากความเงียบงันออกจากคุก
หม่าฉุนสามารถกลับมามีอิสรภาพได้อีกครั้ง เขาจะมีภรรยาและลูก ตระกูลหม่าจะไม่สูญสิ้นทายาทสืบทอด
แต่ตอนนี้หากใช้อำนาจของคุณปู่หม่า มันจะกลายเป็นจุดสนใจของผู้คนทันที และเมื่อถึงคราวนั้นจะไม่มีใครช่วยเหลือหม่าฉุนได้ อีกทั้งยังลากคุณปู่หม่าลงน้ำไปด้วย
อย่างไรก็ตาม โศกนาฎกรรมของตระกูลเย่กลับทำให้พ่อหม่าและแม่หม่าสับสน
ฆ่าสามศพ โทษนั้นคือประหารชีวิตอย่างแน่นอน
แม่หม่ารีบวิ่งไปที่บ้านของพ่อแม่เพื่อขอความช่วยเหลือ
คุณปู่ของจูซิ่งเซิ่งมีตำแหน่งใหญ่กว่าคุณปู่หม่า และเขายังประกาศตัดขาดสัมพันธ์กับหลานชายไม่รักดีอย่างจูซิ่งเซิ่งเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม จูซิ่งเซิ่งทำผิดมากเกินไป มากจนเขาสามารถสูญเสียตำแหน่งใหญ่โตและอาจจะถูกจำคุกได้ สิ่งที่รออยู่คือโทษประหารชีวิต
คุณปู่หม่าจะกล้าก่อเรื่องวุ่นวายเพื่อช่วยเหลือหลานชายได้อย่างไร?
พวกเขาไม่เพียงแต่จะไม่ช่วยเหลือ แต่ยังขับไล่แม่หม่าออกจากบ้าน และไม่ได้รับอนุญาตให้มาที่บ้านของพ่อแม่อีก
แม่หม่าหมดหวัง และวิ่งไปขอร้องหลินม่าย
บ่ายวันนั้น หลินม่ายขับรถกลับมาที่บ้าน และเห็นว่ามีรถสีแดงจอดอยู่ที่หน้าประตู
แต่เธอไม่สนใจ ก่อนจะบีบแตรบอกน้าถูว่าเธอกลับมาแล้ว และให้อีกฝ่ายเปิดประตูบ้าน
ชายคนหนึ่งเดินลงจากรถสีแดงเข้ม ก่อนจะเดินมาที่หน้าต่างรถของหลินม่ายแล้วพูดว่า “คุณหลิน มีคนอยากพบคุณ ช่วยไปนั่งบนรถของผมได้ไหม?”
หลินม่ายกลอกตามองเขา
ถ้าใครอยากจะเจอเธอ ก็สามารถได้เจองั้นเหรอ? น่าขัน
หลังจากนั้นเธอหันกลับมามองป้ายเลขทะเบียนรถสีแดงนี้ด้วยความสนใจ
ขณะนั้นเอง น้าถูก็เปิดประตูลานบ้าน หลินม่ายเคลื่อนรถเข้าบ้านทันที
น้าถูรีบปิดประตูตาม ไม่ยินดีให้ชายคนนั้นติดตามเข้าไป
ชายคนนั้นจึงหันกลับมาที่รถ
ผู้หญิงที่นั่งอยู่ในรถคือแม่หม่า และหล่อนก็อยากเจอหลินม่าย
หล่อนหรี่ตามองคนขับด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว “อะไร? คนแซ่หลินไม่ยอมมาพบฉันเหรอ?”
ชายคนนั้นพยักหน้า
แม่หม่ากัดฟันแน่นก่อนจะออกคำสั่ง “กลับ!”
ขณะเดียวกันภายในห้อง หลินม่ายกำลังโทรถามสำนักงานขนส่งว่ารถสีแดงเข้มนั้นเป็นรถส่วนตัวหรือของหน่วยงานไหน
หากเป็นรถของหน่วยงาน เธอก็อยากรู้ว่ามาจากหน่วยงานไหน
พนักงานที่รับโทรศัพท์บอกกล่าวกับเธออย่างรวดเร็วว่านั่นเป็นรถจากหน่วยงาน โดยอิงจากหมายเลขทะเบียนรถที่เธอแจ้งไป
และเขายังบอกหลินม่ายว่าเป็นรถประจำสำนักงานที่ดินของรัฐ
หลินม่ายได้ยินอย่างนั้นจึงนึกในใจ แม่ของหม่าฉุนไม่ใช่ผู้ยิ่งใหญ่ในสำนักงานที่ดินหรอกเหรอ?
ครั้งที่เหมาฉงตรวจสอบจูซิ่งเซิ่งและหม่าฉุน เขายังตรวจสอบลามไปถึงญาติใกล้ชิดคนสนิทของสัตว์ร้ายสองตัวนี้ด้วย แน่นอนว่าหลินม่ายทราบข้อมูลทั้งหมด
เพราะก่อนหน้านี้เธอไม่รู้ว่าเป็นแม่หม่าที่อยากพบ เธอจึงมีความลังเลและระมัดระวังตัว
หลังจากเลิกงานในวันถัดมา รถสีแดงเข้มก็ปรากฏขึ้นหน้าบ้านของหลินม่ายอีกครั้ง
คราวนี้หลินม่ายเข้าไปนั่งบนรถของแม่หม่าอย่างไม่ลังเล
แม่หม่าหยิบซองหนาออกมายื่นให้หลินม่ายและบอกว่าในนี้มีเงินจำนวนหนึ่ง
โดยมีเพียงคำขอเดียวคือให้เย่เหลียงเฉินล้มเลิกที่จะแจ้งความดำเนินคดีครอบครัวหล่อน
หลินม่ายแตะซองนั้นก่อนจะพูดว่า “เงินเท่าไหร่คะ? ถ้าน้อยเกินไปฉันคงทำงานไม่สะดวก”
“ไม่มาก แค่หนึ่งแสนหยวน แล้วฉันก็ยังมีสมบัติล้ำค่าอีกหนึ่งชิ้น”
แม่หม่าหยิบวัตถุโบราณออกมายื่นให้หลินม่าย
หลินม่ายไม่ทราบเกี่ยวกับวัตถุโบราณนัก เธอแค่หยิบมันขึ้นมาและพยายามมองดูอย่างใกล้ชิด แต่ก็สัมผัสไม่ได้ถึงความล้ำค่าอะไรเลย และรู้สึกว่าไม่ต้องการมัน
แม่หม่าทิ้งไพ่ใบสุดท้ายเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่คิดสนใจ “ตราบใดที่คุณยอมช่วยเหลือฉัน หากวันข้างหน้าว่านทงกรุ๊ปมาที่สำนักงานที่ดิน ฉันจะจัดการอำนวยความสะดวกให้กับคุณอย่างเต็มที่ คุณจะได้สิทธิ์การจัดสรรแบบรัฐวิสาหกิจ ซึ่งจะไม่ต้องเสียเงินจำนวนมากเพื่อซื้อที่ดิน”
หลินม่ายถูกล่อลวงทันที เธอรับเงินและวัตถุโบราณเอาไว้ก่อนจะถามว่า “คุณถึงกับขอให้ฉันบอกเย่เหลียงเฉินเพื่อถอนแจ้งความ? แล้วก่อนหน้านี้คุณทำให้เขากลัวได้ยังไง?”
ในที่สุด เมื่อเห็นว่าหลินม่ายยินดีช่วยเหลือ แม่หม่าก็ดีใจมาก ก่อนจะพูดขึ้นว่า “คุณบอกเย่เหลียงเฉิงไปว่าคุณเกือบจะประสบอุบัติเหตุจนเกือบตายหลายครั้งในช่วงวันที่ผ่านมา คุณจึงสงสัยว่าตระกูลหม่ากำลังเคลื่อนไหว เย่เหลียงเฉินเป็นคนขี้กลัว ถ้าเขาได้ยินอย่างนั้น เขาจะต้องถอนแจ้งความแน่นอน แต่ถ้าเขายังไม่อยากถอนแจ้งความ ก็ควรพูดเพื่อโน้มน้าวเขาต่อสักหน่อย”
หลินม่ายเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “มันไม่ดูแปลกไปหน่อยเหรอคะ? แจ้งความแล้วถอนแจ้งความแบบนี้?”
แม่หม่ากล่าวต่อ “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ตราบใดที่เย่เหลียงเฉินยอมถอนแจ้งความ ฉันตกลงกับตำรวจได้ และฉันจะไม่ยุ่งกับคุณและเย่เหลียงเฉินอีกต่อไป คุณเพียงบอกกับเย่เหลียงเฉินว่าตราบใดที่เขายอมถอนแจ้งความ ฉันจะชดใช้ค่าเสียหายให้เขา 50,000 หยวน ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องตกอยู่ในอันตรายแน่นอน”
หลินม่ายพยักหน้า “เข้าใจแล้ว รอฟังข่าวจากฉันแล้วกันค่ะ”
แม่หม่าถามต่อ “นานแค่ไหน?”
“ภายในห้าวัน ฉันจะตอบกลับว่าสำเร็จไหมนะคะ”
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะถึงเวลาห้าวัน วันถัดมาในช่วงเที่ยง เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับบุกเข้ามาที่สำนักงานของแม่หม่าแล้วขับไล่พนักงานทั้งหมดออกไป
พนักงานเหล่านั้นหวาดกลัวมากว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาเคาะประตูบ้านของตัวเอง
แม่หม่าเองก็ไม่เป็นที่ยกเว้น หล่อนกล่าวถามด้วยใบหน้าซีดเซียว “มีอะไรกับฉันคะ?”
ตำรวจกล่าวตอบ “สหายหลินม่าย ประธานว่านทงกรุ๊ปแจ้งว่าคุณพยายามติดสินบนหล่อน แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ข่มขู่ผู้อื่น ครอบครองวัตถุโบราณของพระราชวังที่สูญหายไป เอาล่ะครับ กรุณาไปกับพวกเราด้วย”
ได้ยินอย่างนั้น แม่หม่าก็เข่าอ่อนแทบทรุด ตำรวจผู้รับผิดชอบคดีทั้งสองจึงพยุงหล่อนขึ้นรถและมุ่งหน้าสู่สถานีตำรวจทันที
เมื่อมาถึงกองปราบ ตำรวจคนหนึ่งเล่นเทปการสนทนาระหว่างหล่อนกับหลินม่ายที่ถูกลอบบันทึกไว้เมื่อวานนี้
ใบหน้าของแม่หม่าชุ่มด้วยเหงื่อเย็น
หล่อนยิ่งนึกเสียใจสุดซึ้ง
ก่อนที่หล่อนจะคิดติดสินบนหลินม่าย สามีของหล่อนเคยพูดไว้แล้ว
เห็นชัดว่าหลินม่ายต้องการให้หม่าฉุนตาย แล้วเธอจะยอมให้หล่อนติดสินบนได้อย่างไร?
แม้อุบัติเหตุทางรถยนต์ของพ่อไป๋จะไม่เกี่ยวข้องกับหม่าฉุน แต่ด้วยทรัพย์สินของหลินม่ายตอนนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะยอมรับสินบนเล็กน้อย
หล่อนเพียงต้องการช่วยชีวิตลูกชาย และตัดสินใจทำเรื่องโง่เขลาลงไป สุดท้ายจึงต้องพบจุดจบของตัวเอง
หล่อนคิดว่าการใช้เรื่องที่ดินของรัฐมาเป็นสินบน หลินม่ายจะต้องยินดีช่วยเหลือตนแน่นอน
แต่ตอนนี้พังหมดแล้วทุกอย่าง ทั้งไม่สามารถช่วยลูกชายได้ และตัวเองก็ยังตกที่นั่งลำบาก
ตำรวจสอบปากคำหล่อนอย่างเข้มงวด และถามว่าผิดจริงหรือไม่ หล่อนทำได้เพียงพยักหน้ารับ
เทปบันทึกเสียงจัดเป็นหลักฐานที่ไม่อาจหักล้างได้ และหล่อนก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ
ตำรวจกล่าวถามอีกครั้งว่าหล่อนเอาเงินมาจากไหนเพื่อติดสินบนหลินม่าย
แม่หม่าบอกเป็นเงินที่ตนยักยอกมา
เวลานี้หล่อนทำได้เพียงสารภาพทุกอย่างออกไป เพื่อลดโทษหนักให้เป็นเบา
ตำรวจถามอีกครั้งว่าวัตถุโบราณที่หล่อนมอบให้หลินม่ายนั้นได้รับมาจากไหน
แม่หม่าไม่มีทางเลือก หล่อนสารภาพตามตรงว่าได้รับมาจากนักธุรกิจชาวฮ่องกงหลังจากที่ขายที่ดินให้กับนักธุรกิจคนนั้นอย่างผิดกฏหมาย
…………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เกมเลยจ้า ช่วยลูกในทางที่ผิด ไปติดสินบนเขา เจอเขาฟ้องกลับแถมมีหลักฐานชัดเจนด้วย