แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - ตอนที่ 2453 เรื่องชุลมุนในงานแต่ง 7 / บทที่ 2454 เรื่องชุลมุนในงานแต่ง 8 [จบบริบูรณ์]
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- ตอนที่ 2453 เรื่องชุลมุนในงานแต่ง 7 / บทที่ 2454 เรื่องชุลมุนในงานแต่ง 8 [จบบริบูรณ์]
บทที่ 2453 เรื่องชุลมุนในงานแต่ง 7
“แม่คะ หนูกลัว หมีใหญ่ถูกโดนัลด์ดั๊กทุบหัว…”
จากนั้น ‘ปิกาจู’ ฉบับมินิตัวหนึ่งก็คว้าหางของ ‘ปิกาจู’ ไว้ แล้วเอ่ยอย่างหวาดๆ
พอปิกาจูเห็นปิกาจูน้อยก็ตกใจ พลันโมโหขึ้นมาแล้ว
มองเห็น ‘ปิกาจู’ ลูบหัว ‘ปิกาจูน้อย’ จากนั้นตะคอกใส่ ‘การ์ฟิลด์’ ด้วยความโกรธเกรี้ยวจากทรวงใน “เลิกตีกันซะ ถ้าตีกันอีกนายก็ไม่ต้องแต่งงานแล้ว!”
พอ ‘ปิกาจู’ พูดจบ ‘การ์ฟิลด์’ ก็ผงะไปแวบหนึ่ง และด้วยการผงะไปแวบนี้ จึงถูก ‘สพันจ์บ็อบ’ ดึงหู และถูก ‘แพทริค’ หยิกจมูก
“แม่ง…วันนี้ฉันแต่งงาน ไม่อยากจะมีเรื่อง…พวกแกมาทำไมกัน” ‘การ์ฟิลด์’ เอ่ย
“น้องสาวฉันจะแต่งงาน!” ‘แพทริค’ เนี่ยอู๋หมิงพูด
“แม่ของลูกศิษย์ฉันจะแต่งงาน” ‘สพันจ์บ็อบ’ อี้สุ่ยหานบอก
คนที่แต่งตัวด้วยชุดมาสคอตผักกาดขาวคนหนึ่งเดินเข้าไปหาปิกาจูสองตัวที่หนึ่งเล็กหนึ่งใหญ่ และเอ่ยกับทุกคน “เข้าใจผิดกันหมดแล้ว ทุกท่านโปรดยั้งมือ!”
“หยุดให้หมด เลิกสู้กันได้แล้ว!” เยี่ยหวันหวั่นก็ตะโกนขึ้นอย่างหมดคำพูดแล้วเช่นกัน
ทุกคนเลยทำได้แค่หยุดมือลง
“นายมันไอ้หมีน่าตาย” ‘โดนัลด์ดั๊ก’ จ้อง ‘หมีแบรมเบิล’ พลางร้องด่าออกมา
“นายมันไอ้เป็ดตายซาก!” ‘หมีแบรมเบิล’ เป่ยโต่วก็ไม่ยอมอ่อนให้
โดนัลด์ดั๊กเงียบลง
เป็ดเหรอ ฟังดูแปลกๆ นะ…
ทำไมรู้สึกเหมือนเขาเสียเปรียบเลยล่ะ
หลังจากทุกคนยอมหยุมด เยี่ยหวันหวั่นถึงได้ชี้แจงถึงต้นสายปลายเหตุของเรื่องราว
ที่แท้อี้สุ่ยหานมางานผิดที่ นึกว่าเจ้าสาวในชุดเจ้าหญิงเป็นตัวเธอ และ ‘การ์ฟิลด์’ เป็นซือเยี่ยหาน
แต่ผลคือ…มากินมาดื่มอยู่ที่นี่น่ะไม่ว่าหรอก ยังก่อความวุ่นวายในงานแต่งที่ใกล้จะจบลงแล้วของชาวบ้านเขาอีก ปั่นป่วนไปหมด จึงทำได้แค่เริ่มกันใหม่หมดอีกครั้ง
“ขอโทษด้วยค่ะ…ขอโทษมากๆ เลย ตอนแรกพวกเราเหมาเอาไว้แล้ว…สพันจ์บ็อบนึกว่าที่นี่มีแต่ครอบครัวเรา”
ไห่ถังเอ่ยกับ ‘ปิกาจู’
“ไม่เป็นไรค่ะ เข้าใจผิดกันทั้งนั้น พวกเราก็ทำไม่ถูกเหมือนกัน พวกคุณรีบไปเถอะค่ะ อย่าเสียเวลาเลย” ‘ปิกาจู’ เอ่ย
“แม่ง ไอ้ตัวไม่มีมือ ไอ้ตัวตาบอด อย่าให้ฉันเจอพวกนายอีกนะ” การ์ฟิลด์พูด
เนี่ยอู๋หมิงผู้ไร้มือตอกกลับ “ไอ้อ้วน อย่างให้ฉันเจอแกอีกแล้วกัน เจอนายหนึ่งครั้งก็จะทุบแกหนึ่งที”
อี้สุ่ยหานผู้ตาบอด “อืม”
….
หลังจากศึกใหญ่อันแสนวุ่นวายของเหล่ามาสคอตจบลง ทุกคนต่างก็กลับไปยังปราสาทในธีมงานของตัวเอง
พอเข้าปราสาทไป เสียงเพลงอันเร้าใจก็ดังขึ้นทันที
“ฉันเดินอยู่บนถนนสายเล็กในแถบชานเมืองเพียงลำพัง ฉันจะเอาเค้กไปให้คุณยายชิม บ้านของคุณยายทั้งไกลทั้งเปลี่ยว ฉันกังวลว่าจะมีหมาป่าตัวโตอยู่แถวนี้รึเปล่า พอพระอาทิตย์ตกดิน ฉันต้องรีบกลับบ้าน เข้านอนฝันหวานพร้อมกับคุณแม่
ฉันเดินอยู่บนถนนสายเล็กในแถบชานเมืองเพียงลำพัง ฉันจะเอาเค้กไปให้คุณยายชิม บ้านของคุณยายทั้งไกลทั้งเปลี่ยว ฉันกังวลว่าจะมีหมาป่าตัวโตอยู่แถวนี้รึเปล่า…”
“เวรเอ้ย…หนูน้อยหมวกแดงเวอร์ชั่นร็อคงั้นเหรอ?!” ใบหน้าของหลินเชวียสับสน “ทำไมฟังแล้วพิลึกขนาดนี้ แปลก!”
“ยอดไปเลย…” เป่ยโต่วยกนิ้วให้ “หนูน้อยหมวกแดงฉบับพี่เฟิง จะไม่พิลึก ไม่แปลกได้เหรอ เป็นหนูน้อยหมวกแดงที่ถือมีดสปาต้าขี่บิ๊กไบค์กระดกขวดเหล้าไงละ!”
หลุดโลกได้ถึงขนาดนี้เลยจริงๆ!
“เอ่อ อันที่จริงก็ไม่เท่าไรหรอก เพลงธีมในงานแต่งของการ์ฟิลด์ตัวนั้นใช้เพลงเคเอฟซีด้วยซ้ำ…พวกนายไม่ได้ฟังรึไง”
ทุกคนในงานต่างก็พูดไม่ออกแล้ว…
“พ่อครับ แม่ครับ ขอให้บ่าวสาวมีความสุข ครองรักกันร้อยปี” มาสคอตหมาป่าน้อยตัวหนึ่ง ค่อยๆ เดินเข้ามาหาเยี่ยหวันหวั่นกับซือเยี่ยหาน แล้วเอ่ยด้วยเสียงอ้อแอ้
เยี่ยหวันหวั่นลูบหัวหมาป่าน้อย จากนั้นก็อุ้มหมาป่าน้อยเข้าสู่อ้อมแขน “ขอบใจจ๊ะลูกรัก แม่รักลูกที่สุดเลย!”
….
—————————————————————————————
บทที่ 2454 เรื่องชุลมุนในงานแต่ง 8 [จบบริบูรณ์]
“ต่อไป ถังถังก็สามารถยืดอกพูดอย่างภาคภูมิใจได้แล้วว่าว่าเขาเคยไปงานแต่งของพ่อกับแม่เขามาแล้ว” เยี่ยมู่ฝานหัวเราะแหะๆ
หลังจากหัวเราะเสร็จ เยี่ยมู่ฝานก็อยากร้องไห้อยู่บ้าง ถ้าเกิดเขากล้าท้องก่อนแต่ง พ่อแม่คงหักขาเขาไปนานแล้ว แต่พอรู้ว่าลูกของหวันหวั่นโตขนาดนี้แล้ว พ่อแม่ไม่ใช่แค่ไม่ด่าเลยสักคำเท่านั้น แต่ยังดีอกดีใจจนหลั่งน้ำตา เฉลิมฉลองทั้งวันทั้งคืนอีก!
ไม่นาน หนูน้อยหมวกแดงเวอร์ชั่นร็อคก็จบลง และเพลงงานแต่งอย่างเป็นทางการก็ดังขึ้นมา เยี่ยหวันหวั่นที่เปลี่ยนไปสวมชุดเจ้าสาวและเสื้อคลุมจับมือกับซือเยี่ยหานเดินขึ้นสู่เวที รับคำอวยพรจากทุกคน
พิธีการเสร็จสิ้นแล้ว
หลังจากงานแต่งใกล้จะสิ้นสุดลง ไห่ถังก็เดินเข้าไปหาเยี่ยหวันหวั่น “อู๋โยว...มีของบางอย่าง ถึงเวลาต้องส่งมอบให้เธอแล้ว”
เยี่ยหวันหวั่นฟังแล้วผงะไปเล็กน้อย “ของอะไรเหรอ”
ไห่ถังหยิบแฟลชไดรฟ์อันหนึ่งออกมา แล้วยื่นให้เยี่ยหวันหวั่น “ยังมีคำอวยพรสำหรับงานแต่งของเธอจากใครบางคนด้วย”
“ใครกัน” เยี่ยหวันหวั่นถาม
“จี้ซิวหร่าน” ไห่ถังตอบ
“จี้ซิวหร่าน…” เยี่ยหวันหวั่นพึมพำ
ผู้ชายคนนั้น จนถึงปัจจุบันนี้ ก็ยังไม่ปรากฏตัวขึ้นอีกเลย
เยี่ยหวันหวั่นสบตากับซือเยี่ยหาน จากนั้นซือเยี่ยหานก็ลูบไล้เรือนผมของหญิงสาว แล้วเสียบแฟลชไดร์ฟเข้าที่พอร์ต
ท่ามกลางสายตาของทุกคน จอภาพขนาดใหญ่ด้านหลังค่อยๆ สว่างขึ้น
ผู้ชายคนหนึ่งคล้ายจะอยู่ในโกดังที่ไหนสักแห่ง สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ใบหน้าด้วยประดับรอยยิ้มดั่งสายลมฤดูใบไม้ผลิที่ทำให้ผู้คนคุ้นเคยมาก
มองแค่แวบเดียว เยี่ยหวันหวั่นก็จำได้แล้ว นี่คือเกาะที่ใช้กักขังผู้คนไว้ก่อนหน้านี้
“สวัสดี น้องหวันหวั่น”
พอได้ยินคำที่จี้ซิวหร่านใช้เรียกตัวเอง เยี่ยหวันหวั่นก็แปลกใจอยู่บ้าง
จี้ซิวหร่านเรียกตัวเองว่าอู๋โยวมาตลอด แล้วทำไมถึงเรียกเธอว่าหวันหวั่นล่ะ
เขาน่าจะคาดการณ์ได้ว่าตัวเองจะจัดงานแต่งที่จีนสินะ
เยี่ยหวันหวั่นฟังต่อไป
มุมปากของจี้ซิวหร่านยกโค้งขึ้นนิดๆ “ถ้าฉันเดาไม่ผิดละก็ วันนี้เธอคงจะแต่งงานแล้ว…”
พอพูดประโยคนี้จบ ชายหนุ่มก็จ้องมองกล้อง ทว่าเงียบงันอยู่เนิ่นนาน
“ยินดีกับเธอด้วยที่หาแหล่งพักพิงอย่างแท้จริงของตัวเองเจอแล้ว และฉันเชื่อว่าอีกครึ่งหนึ่งของเธอ จะอยู่กับเธอไปชั่วชีวิต ปกป้องเธอไปทั้งชาติได้” ผ่านไปครู่หนึ่ง ชายหนุ่มจึงเอ่ยต่อไปด้วยรอยยิ้ม
“ขอโทษด้วยมากๆ และเสียดายมากๆ ที่ฉันไม่สามารถไปร่วมงานแต่งของพวกเธอด้วยตัวเองได้ แต่ยังโชคดีที่ทางนี้มีอุปกรณ์บางส่วนอยู่บ้าง ทำให้ฉันทิ้งของบางอย่างไว้ได้ ทำให้ฉันมอบคำอวยพรให้พวกเธอได้”
“ส่วนทางฉัน ไม่จำเป็นต้องกังวลหรอก อันที่จริง เมื่อนานมาแล้วฉันมีคนที่ตัวเองชอบพออยู่ ตอนแรกฉันอยากทำให้เธอไร้กังวลไปชั่วชีวิต แต่น่าเสียดายสิ่งที่ฉันแบกรับไว้มีมากมายเกินไป ในช่วงครึ่งแรกของชีวิตเลยไม่สามารถทำตามคำสัญญาของตัวเองได้…เพียงแต่ฉันคิดมาดีแล้ว ครึ่งชีวิตที่เหลือ ฉันจะกลับไปอยู่ข้างๆ เธอ ไม่ทอดทิ้งไม่แยกจาก แม้ความตายก็พรากไปไม่ได้”
“ตัวฉันในตอนนี้ น่าจะออกจารัฐอิสระไปอยู่กับเธอแล้ว เธอชอบความสงบเรียบง่าย ไม่ฝักใฝ่ทางโลก นี่ก็เป็นชีวิตที่ฉันปรารถนาเหมือนกัน”
“ซือเยี่ยหาน ของบางอย่างไม่ง่ายเลยกว่าจะได้มา หวังว่านายจะถนอมเอาไว้ให้ดี ถ้ามีวันไหนนายกล้ารังแกน้องสาวฉัน ฉันจะเผานายให้กลายเป็นเถ้าแน่”
“หวันหวั่น จำไว้นะ ไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ก็ต้องยิ้มเอาไว้นะ”
“ลาก่อน”
….
ไห่ถังที่ดูอยู่ด้านล่างเวทีทอดถอนใจ
ท้ายที่สุดแล้วจี้ซิวหร่านก็ยังคงไม่อาจละวางห้วงสุดท้ายนั้นได้
ไม่อย่างนั้นแล้ว ทำไมในวิดีโออวยพรนี้ถึงเรียกเธอว่าหวันหวั่น ไม่ใช่อู๋โยวกันเล่า
ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังทนเรียกเจ้าสาวของคนอื่นว่า…อู๋โยวไม่ได้…
[จบบริบูรณ์]
—————————————————————————————