แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - ตอนที่ 1867 เอาเหล้ามา / บทที่ 1868 ทั่วหล้าไร้ผู้ต้าน
บทที่ 1867 เอาเหล้ามา
ชายร่างผอมเหลือบมองเยี่ยหวันหวั่น “ไม่จำเป็น”
เยี่ยหวันพูดไม่ออก
เยี่ยหวันหวั่นมองสมาชิกของพันธมิตรอู๋เว่ยด้วยใบหน้าสิ้นหวัง “เอ่อ ฉันคอแห้ง มีใครพกเหล้ามาบ้าง?”
คอแห้ง?
สมาชิกของพันธมิตรอู๋เว่ยหลายคนที่ได้ยินเยี่ยหวันหวั่นพูดแบบนั้น ต่างก็ตกตะลึงไม่น้อย คอแห้งควรจะดื่มน้ำเปล่าสิ ทำไมต้องดื่มเหล้า ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าเหล้าสามารถดับกระหายได้
“ผมมี!”
หนึ่งในสมาชิกหัวกะทิของพันธมิตรอู๋เว่ยรีบตอบ
ทันใดนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็ตื่นเต้นดีใจทันที ตอนแรกทำทีรักษาม้าตายประหนึ่งม้าเป็น แต่ไม่คิดมาก่อนว่าจะมีจริงๆ…
เยี่ยหวันหวั่นรับน้ำเต้ามา แล้วจ้องไปยังชายร่างผอมที่อยู่ไม่ไกลนัก “อย่าหาว่าฉันไม่ให้โอกาสนาย ตอนนี้ต่อให้นายวิ่งหนีสุดชีวิตก็ยังสายเกินไป”
เยี่ยหวันหวั่นพยายามจะไม่ดื่มเหล้า เพราะถ้าเมาแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ประเด็นคือผู้ชายคนนี้จำเป็นต้องได้รู้สักหน่อย
เมื่อเห็นว่าชายร่างผอมไม่แยแส เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่พูดพล่ามอีกต่อไป กระดกเหล้าเก่าเข้าปากไปหนึ่งอึก
พอเข้าปาก สีหน้าของเยี่ยหวันหวั่นก็เปลี่ยนไปทันที และโยนน้ำเต้าเหล้าลงบนพื้น “ฉันแม่งขอเหล้า นายให้น้ำเปล่าฉันมาเพื่อ?!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สมาชิกหัวกะทิของพันธมิตรอู๋เว่ยที่ส่งน้ำเต้าให้เยี่ยหวันหวั่นก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วพูดด้วยใบหน้าขุ่นเคืองทันที “ผู้นำ…แต่ผู้นำบอกว่าคอแห้งนี่นา…ผมคิดว่าเหล้าไม่สามารถดับกระหายได้…และผมก็พกน้ำดื่มติดตัวมาพอดี…”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก ‘ถ้าฉันฟาดมือนี้ลงไป นายต้องตายคาที่แน่นอน’
“มา เอาเหล้ามาให้ฉัน…” เยี่ยหวันหวั่นพยายามสงบสติอารมณ์
“โอ้…” สมาชิกหัวกะทิของพันธมิตรอู๋เว่ยรู้สึกสับสน เขาหยิบน้ำเต้าเหล้าออกมาแล้วยื่นให้กับเยี่ยหวันหวั่น
“พวกแก…กำลัง…ดูถูกฉันอยู่เหรอ” ในขณะนั้น ความเยือกเย็นก็ปรากฏขึ้นในแววตาของชายร่างผอม
ในช่วงเวลานี้ เยี่ยหวันหวั่นเมินเฉยต่อเขาโดยสิ้นเชิง เอาแต่ขอเหล้าขอน้ำจากสมาชิกของพันธมิตรอู๋เว่ย เหมือนรอบๆ ไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย…
“ตลก ผู้นำของเราต้องดูถูกแกอยู่แล้ว แกเป็นใครฮะ ต่อหน้าผู้นำของเราแกเทียบไม่ได้กับมดตัวหนึ่งด้วยซ้ำ หัดตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาเสียบ้าง ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับนายว่าอยากอยู่ในสายตาผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยหรือเปล่า?!”
หนึ่งในสมาชิกของพันธมิตรอู๋เว่ยกล่าวอย่างเย็นชา
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก ‘นายคนเก่ง อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของเขา ฉันชื่นชมนายจริงๆ…’
แม้ในใจจะคิดแบบนี้ ทว่าก็ไม่สามารถแสดงความหวาดกลัวออกมาได้แม้แต่น้อย ต้องแสร้งทำเป็นดูถูกชายร่างผอมจริงๆ เพราะตอนนี้ไม่มีทางเลือก
เมื่อเห็นชายร่างผอมปรี่ตรงเข้ามาหาเธอ เยี่ยหวันหวั่นก็รีบเปิดน้ำเต้าเหล้าอย่างว่องไว
อย่างไรก็ตาม ตอนที่เปิดน้ำเต้าเหล้านั้น เยี่ยหวันหวั่นแทบอยากจะเตะสมาชิกของพันธมิตรอู๋เว่ยคนนั้นให้ตายในครั้งเดียว นี่แม่งอะไรวะ…แล้วเหล้าล่ะ?!
เยี่ยหวันหวั่นโยนน้ำเต้าเหล้าลงพื้นโดยไม่รู้ตัว ในนั้นมีเหล้าเหลือแค่ไม่กี่หยด
เมื่อสมาชิกหัวกะทิของพันธมิตรอู๋เว่ยเห็นดังนั้น ก็ทำท่าทางครุ่นคิด “อ๋อ…ใช่แล้ว ผู้นำ ก่อนหน้านี้เหมือนผมจะดื่มไปหมดแล้ว”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก ‘นี่พันธมิตรอู๋เว่ยไม่มีคนที่พึ่งพาได้สักคนเลยเหรอ?’
“ฉันแม่งไม่น่าให้เป่ยโต่วคัดเลือกคนเลย...” เยี่ยหวันหวั่นพูดด้วยสีหน้าที่ดูไม่ได้
เมื่อเห็นชายร่างผอมอยู่ใกล้แค่คืบ เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ชีวิตฉันจบเห่แล้ว…ไม่ได้การแล้ว หรือว่าจะส่งแหวนให้เขาไปให้มันจบๆ…
“หนุ่มน้อย นายมาแย่งของของผู้หญิงตอนกลางวันแสกๆ แบบนี้ มันไม่เข้าท่าเลยนะ”
ก่อนที่เยี่ยหวันหวั่นจะถอดแหวนออก ก็มีเงาร่างสีขาวปรากฏตัวขึ้น
เมื่อเห็นชายที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวต่อหน้าเธอ เยี่ยหวันหวั่นก็ประหลาดใจเล็กน้อย
———————————————————————
บทที่ 1868 ทั่วหล้าไร้ผู้ต้าน
ผมสีเงินยาวสลวยลงมาจนถึงเอว มาพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
“นายเองเหรอ…”
เยี่ยหวันหวั่นนประหลาดใจอย่างหนักเมื่อเห็นบุรุษผมสีเงิน
“โดดเดี่ยวแสวงพ่าย?!” เยี่ยหวันหวั่นพูดออกมา
“โดดเดี่ยวแสวงพ่าย?!”
เมื่อสิ้นเสียงของเยี่ยหวันหวั่น สายตาของสมาชิกพันธมิตรอู๋เว่ยทั้งหมดต่างก็จับจ้องไปยังชายผู้นั้น
“เชี่ย ชื่อนี้…พ่อแม่นายขี้โอ่เกินไปแล้ว!”
“ดูขี้โอ่ไปหน่อยจริงๆ…”
ในโลกนี้ ยังมีคนชื่อโดดเดี่ยวแสวงพ่ายด้วยงั้นเหรอ?! อ่านนิยายกับดูทีวีมากเกินไปแล้ว!
เมื่อเห็นทุกคนมองด้วยสายตาแปลกๆ ชายผู้นั้นก็หน้าแดงและรีบโบกไม้โบกมือ “โดดเดี่ยวแสวงพ่ายอะไรกัน…อย่าพูดมั่วๆ นั่นมันเป็นชื่อในอินเตอร์เน็ตของฉัน…ชื่อในอินเตอร์เน็ต ไม่ใช่ชื่อจริง! อีกอย่าง โดดเดี่ยวแสวงพ่ายนั่นมันเป็นเรื่องในอดีตแล้ว และฉันก็เปลี่ยนชื่อที่ใช้ในอินเตอร์เน็ตแล้วด้วย” ชายผมเงินตอบอย่างรีบร้อน
“เปลี่ยนแล้ว…” เยี่ยหวันหวั่นมองชายผมเงิน และเกือบจะโพล่งออกมา “เปลี่ยนเป็นอะไร?”
“ทั่วหล้าไร้ผู้ต้าน“ ชายผมเงินตอบช้าๆ
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
เหล่าสมาชิกของพันธมิตรอู๋เว่ยก็พูดไม่ออก
นี่แม่ง ยังจะมาทั่วหล้าไร้ผู้ต้าน นี่มันขี้โอ่ยิ่งกว่าโดดเดี่ยวแสวงพ่ายเสียอีก โอเคไหม!
ในตอนนี้เอง เยี่ยหวั่นหวั่นก็พิจารณาชายผมเงินอย่างละเอียด ในตอนนั้นที่ตัวเองยังอยู่ประเทศจีน เคยขับรถชนเขา
อย่างไรก็ตาม แม้จะโดนรถยนต์ชนจนแทบเสียหลัก แต่ชายผมเงินกลับไม่เป็นอะไรเลย ตอนนั้นเธอคิดว่าเจอผีเข้าให้แล้ว หลังจากนั้นชายผมเงินก็ยังช่วยชีวิตเธอจากกองกำลังที่เนี่ยหลิงหลงส่งมาเพื่อตามล่าเธออีกด้วย…
นอกจากนี้ ชายผมเงินยังอ้างว่าเขามีลูกศิษย์คนหนึ่ง ชื่อว่าเสี่ยวอู๋โยว...
เยี่ยหวันหวั่นพลันนึกสงสัยในใจ หรือว่าชายผมเงินผู้นี้จะเป็นเนี่ยอู๋โยว...อาจารย์ของเธอเอง?
แม้จะมีความเป็นไปได้สูง แต่ความทรงจำของตัวเองยังไม่คืนกลับมา จึงไม่มีสิ่งใดสามารถยืนยันได้ในตอนนี้
ชายผมเงินจ้องไปยังชายร่างผอม “หนุ่มน้อย กลางวันแสกๆ แบบนี้ น่าขยะแขยงจริงๆ ที่นายทำเรื่องขี้ขลาดผิดศีลธรรม และทำให้ครอบครัวอับอายขายหน้า”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก รู้สึกว่าคำพูดพวกนี้มันฟังดูประหลาดๆ
“หนุ่มน้อย ฉันอยู่ตรงนี้ จะทนนายได้ยังไง! ถ้านายยังดื้อดึงไม่ยอมรับผิด ถ้ายังไม่ไปละก็…” ในขณะที่พูดก็มีแสงเย็นวาบส่องประกายในดวงตาของชายผมเงิน “ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจ”
กลุ่มสมาชิกของพันธมิตรอู๋เว่ยพูดไม่ออก
เยี่ยหวันหวั่นก็พูดไม่ออก ‘จะแจ้งตำรวจยังต้องพรรณนาเสียใหญ่โตขนาดนี้?!’
ชายร่างผอมมองชายผมเงินแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย “นี่นาย…”
“ประเสริฐ ไม่พบวันนี้ วันหน้าย่อมพานพบ ฉันขอลา” หลังจากชายร่างผอมมองชายผมเงินครู่หนึ่ง เขาก็หันหลังกลับไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในทันที
เมื่อเห็นว่าชายร่างผอมจากไปแล้ว ชายผมเงินก็ยกยิ้มเล็กน้อย “หนุ่มน้อยก็กลัวเกินไป ฉันไม่ได้พกโทรศัพท์ด้วยซ้ำ แต่เขาดันคิดว่าฉันจะแจ้งตำรวจจริงๆ”
เยี่ยหวันหวั่นมองชายผมเงินอย่างเงียบๆ ที่ชายร่างผอมจากไป ไม่ใช่เพราะชายผมเงินจะแจ้งตำรวจแน่นอน ดูเหมือนว่า…เขาจะรู้จักกับชายผมเงิน
เมื่อครู่ ก่อนที่ชายร่างผอมจะจากไป ก็พูดมาหนึ่งประโยคว่า…นี่นาย…
ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นอยากรู้เรื่องราวของชายผมเงินตรงหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ ตัวตนของเขาเป็นใครกันแน่ ความแข็งแกร่งของชายร่างผอมนั้นช่างน่ากลัว แต่ทั้งสองคนกลับไม่ลงมือเลย ชายผมเงินอาศัยฐานะของเขาทำให้ชายร่างผอมกลัวจนต้องถอยไป…ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ
“ผู้นำ ยังต้องการเหล้าอยู่ไหมครับ? ผมจะไปซื้อให้…”
ตอนนี้ หนึ่งในสมาชิกหัวกะทิของพันธมิตรอู๋เว่ยยืนขึ้นและถามเยี่ยหวันหวั่น
……………………………………….