แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - ตอนที่ 1685 งั้นผมล่ะ / บทที่ 1686 อยากชำระล้างสำนัก
บทที่ 1685 งั้นผมล่ะ
เรื่องนี้จะใหญ่ก็ใหญ่จะเล็กก็เล็ก ถ้านายของอาชูร่าไว้หน้าเขา แบบนั้นก็ไม่เป็นไรแล้ว…
ผู้อาวุโสกงกำลังรีบร้อนพูดเข้าข้างเพื่อลูกศิษย์คนเล็กบ้านตัวเอง แต่วินาทีถัดมาเยี่ยหวันหวั่นกลับรีบเอ่ยปาก “ไม่มีมารยาทงั้นเหรอ หนูพูดความจริงนะ! คนงามคุ้นตามากจริงๆ! แถมในชีวิตเขาก็ขาด…”
“ศิษย์ไม่รักดี ยังไม่หุบปากให้อาจารย์อีก!” ผู้อาวุโสกงโกรธจนหน้ามืดแล้ว เจ้าเด็กหมีนี่ไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือไง!
ผู้อาวุโสเหลยเฮ่อนึกไม่ถึง เยี่ยหวันหวั่นยัยเด็กสมควรตายนี่ถึงกลับรนหาที่ตายเอง เขาพลันเอ่ยอย่างดีใจบนความทุกข์ของคนอื่น “ผู้อาวุโสกง นายสั่งสอนลูกศิษย์อย่างนี้เหรอ เหลยผู้นี้วันนี้ได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ!”
วันนี้ยัยเด็กนี้ถึงกับกล้าไม่เคารพนายของอาชูร่าต่อหน้าทุกคน ต่อให้ทั้งโรงเรียนชื่อเยี่ยนก็ปกป้องเธอไม่ได้ นับประสาอะไรกับผู้อาวุโสกงคนเดียว!
นึกถึงตรงนี้ เหลยเฮ่ออารมณ์ดีมาก อาศัยโอกาสเอ่ยปากทันที “นายของอาชูร่า โรงเรียนมีกฎของโรงเรียน เด็กสาวคนนี้กล้าทำโดยพลการ วันนี้ก่อปัญหา ทั้งหมดต้องโทษเธอ อาศัยตำแหน่งของคุณ โรงเรียนทหารรับจ้างชื่อเยี่ยนจะไม่มีทางปกป้องเด็ดขาด!”
ผู้อาวุโสกงได้ยินดังนั้นก็พลันหน้าเปลี่ยนสี คิดอยากเอ่ยปากแต่กลับหาคำพูดมาโต้แย้งเหลยเฮ่อไม่เจอ
ปัญหาใหญ่ขนาดนี้ ต่อให้เป็นโรงเรียนก็รับผิดชอบไม่อยู่…
“ท่านนายของอาชูร่า…ศิษย์คนเล็กไม่เข้าใจเรื่องราวและไม่มีเจตนาเสียมารยาท…ขอท่านโปรดอย่าคิดเล็กคิดน้อยเลย…”
ผู้อาวุโสกงก็ไม่รู้ทำไม ครั้งแรกที่เห็นเด็กสาวคนนี้หัวใจก็เกิดความคุ้นเคย เห็นเธอก่อปัญหาใหญ่ชีวิตไม่ปกป้องก็ย่อมปวดใจเหลือคณา นึกถึงตรงนี้ เหงื่อเย็นก็ท่วมร่างแล้ว เขารีบร้องขอชีวิตให้เธอ
แต่ทว่ายังไม่ทันพูดจบ ที่ด้านข้างก็พลันมีเสียงหัวเราะเบาๆ ปานอาบลมวสันต์ของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นมา
“หึ…” เห็นแค่ว่าจี้ซิวหร่านวางฝาถ้วยชาในมือลง ก่อนจะหัวเราะน้อยๆ และมองไปทางหญิงสาว
ปลายหูของเยี่ยหวันหวั่นกระดิกน้อยๆ ถูกเสียงอ่อนโยนจนตัวชานี้ดึงดูดเข้าไปหา
หลังเห็นชายหนุ่มที่เอ่ยเสียงชัดเจน ใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่นก็นิ่งค้างอีกครั้งอย่างเห็นได้ชัด
เห็นท่าทางจ้องตัวเองไม่วางตาของหญิงสาว จี้ซิวหร่านก็ยิ้มบางเอ่ยปากอย่างหน้าไม่เปลี่ยนสี “รู้สึกคุ้นตาแค่นายของอาชูร่าเหรอ”
เยี่ยหวันหวั่นยังคงนิ่งค้าง
จี้ซิวหร่านพูดต่อ “งั้นผมล่ะ”
ดวงตาของเยี่ยหวันหวั่นพลันเปล่งประกาย จ้องใบหน้าที่เสมือนปลอบประโลมจิตใจทำให้คนพลันสงบราวกับร่างกายอยู่ในแดนบริสุทธิ์นั้นของชายหนุ่ม เธอพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว “คุ้น…คุ้นตา…คุ้นตาเหมือนกัน…”
นายของอาชูร่านิ่งเงียบ
ผู้อาวุโสเหลยเฮ่อนิ่งเงียบ
ผู้อาวุโสกงก็นิ่งเงียบ
อารมณ์ของทุกคนยากจะเอ่ย
ไม่มีใครสักคนสังเกตเห็นว่านายของอาชูร่าที่อยู่ด้านข้าง สีหน้าแทบจะทะมึนลงในพริบตา
จี้ซิวหร่านหลุบตาก่อนจะยิ้มอีกครั้ง ใบหน้าไร้ความไม่พอใจที่ถูกเสียมารยาทใส่แม้แต่น้อย เขาหันไปเอ่ยกับเหลยเฮ่อ “แค่นักเรียนดื่มมากไปเลยพูดล้อเล่นตามใจปาก ไม่จำเป็นต้องคิดจริงจัง”
น้ำเสียงของจี้ซิวหร่านผ่อนคลาย แต่ในดวงตากลับมีความกดดันที่ไม่ยอมให้คลางแคลง
ผู้อาวุโสกงที่อยู่ด้านข้างเห็นจี้หวงออกมากู้สถานการณ์ก็พลันถอนหายใจโล่งอก
เขาเกือบลืมไปว่าเด็กคนนี้เป็นคนที่จี้หวงแนะนำมา ย่อมต้องมีมิตรภาพกับจี้หวงอยู่บ้าง โชคดีไป
เนี่ยหลิงหลงที่สังเกตการณ์อยู่ด้านข้างด้วยสายตาเย็นชาตั้งแต่เมื่อครู่นี้ ตอนเห็นจี้ซิวหร่านช่วยกู้สถานการณ์เพื่อเยี่ยหวันหวั่น แววตาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
จี้ซิวหร่านสนิทสนมกับผู้หญิงคนนี้ขนาดนี้ แถมยังช่วยกู้หน้าให้เธอครั้งแล้วครั้งเล่า หรือว่าเขารู้จักตัวตนของผู้หญิงคนนี้แล้ว
แต่ไม่ใช่ว่าจี้ซิวหร่านเกลียดเนี่ยอู๋โยว กระทั่งยกเลิกการหมั้นหมายอย่างไม่ลังเลเหรอ
ผู้อาวุโสเหลยเฮ่อจะเลิกราได้ยังไง เขาหันไปหานายของอาชูร่าทันที หวังให้นายของอาชูร่าจะออกหน้าได้
————————————————————————————————
บทที่ 1686 อยากชำระล้างสำนัก
“นายของอาชูร่า…เรื่องที่คนชราพูดเมื่อกี้…”
ชายหนุ่มวาดสายตามองเหลยเฮ่อแวบหนึ่ง จากนั้นแววตาก็ตกลงบนตัวของเด็กสาวที่ด้านหน้าโดยตรงและเอ่ยปากอย่างเรียบเฉย “งั้นเหรอ แค่คุ้นหน้าฉันเท่านั้น?”
ผู้อาวุโสเหลยเฮ่อพูดไม่ออก
ผู้อาวุโสเหลยเฮ่อยังนึกว่านายของอาชูร่าจะต่อว่า นึกไม่ถึงว่าพอรอถึงประโยคนี้จริงๆ เขาก็พลันตกตะลึงอยู่ตรงนั้นแล้ว
นี่หมายความว่ายังไง
นายของอาชูร่าถูกยัยเด็กน่าเกลียดหยามเกียรติต่อหน้าแบบนี้แต่กลับยังไม่คิดจะต่อว่า กระทั่งว่า…ยังถามประโยคที่กระตุ้นคนให้คิดไปไกลแบบนี้…
หรือว่าระหว่างทั้งสองคนมีอะไรอยู่?
ผู้อาวุโสเหลยเฮ่อเพิ่งคิดแบบนี้หางตาก็เหลือบไปเห็นใบหน้าน่ากลัวนั้นของเยี่ยหวันหวั่น แล้วก็สลายความคิดนี้ไปในทันที
เยี่ยหวันหวั่นหันหัวน้อยๆ จากจี้ซิวหร่านกลับมาทางนายของอาชูร่าดัง ‘ฟึ่บ’ “เอ่อ…”
หน้าตา…หน้าตาไม่เพียงแค่คุ้นตาเท่านั้นนะ…
เยี่ยหวันหวั่นชี้นายของอาชูร่าและมองอยู่ครึ่งค่อนวัน จากนั้นก็พลันโพล่งขึ้นเสียงดัง “เฮ้ คนงาม…คุณไม่ใช่แฟนฉันเหรอ”
นายของอาชูร่านิ่งเงียบ
จี้ซิวหร่านนิ่งเงียบ
ผู้อาวุโสเหลยเฮ่อก็นิ่งเงียบ
ทุกคนนิ่งงัน
เวลานี้ผู้อาวุโสเหลยเฮ่อ ผู้อาวุโสกง พวกหลี่ซิน โจวฝู โจวเทาที่อยู่ด้านล่างเวทีคนทั้งโรงเรียนมีสีหน้าเปี่ยมความเวทนาเกินจะทนดู
ต่อให้เธอเปี่ยมกามตัณหาเห็นคนงามก็ควบคุมตัวเองไม่อยู่ กล้าจีบแม้กระทั่งนายของอาชูร่ากับจี้ซิวหร่าน แต่ดีเลวเธอก็ควรส่องกระจกดูก่อนไหม!
ให้ตาย! ตาจะบอดอยู่แล้ว!
ผู้อาวุโสกงเวลานี้แม้แต่คำขอโทษยังแทบจะไม่มีหน้าพูดออกไปแล้ว อยากจะชำระล้างสำนักตัวเองให้รู้แล้วรู้รอด
ยังดีที่ก่อนเยี่ยหวันหวั่นจะพูดคำพูดที่น่ากลัวยิ่งกว่านี้ออกมา หลี่หานเฟิงก็กระโจนเข้าไปดึงศิษย์น้องเล็กไว้ก่อนแล้ว
“นายของอาชูร่า จี้หวง! ขออภัยๆ ศิษย์น้องเล็กดื่มเหล้าเมาแล้ว!”
หลี่หานเฟิงขอโทษต่อเนื่องพลางรีบฉุดเยี่ยหวันหวั่นลงไปพลาง
หลังถูกหลี่หานเฟิงดึงลงจากที่นั่งกิตติมศักดิ์ เดิมทีหลี่หานเฟิงยังอยากให้เยี่ยหวันหวั่นพักที่ด้านล่างเวทีสักครู่ แต่ใครจะรู้ว่า เยี่ยหวันหวั่นกลับปีนขึ้นเวทีอีกแล้ว
เห็นดังนั้น หลี่หานเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่กลับไม่พูดอะไรมาก
“ขวางหูขวางตา ไปซะ”
เห็นศพของเมิ่งเทียนบนเวที เยี่ยหวันหวั่นก็ตวัดเท้าเตะศพลงจากเวที
การกระทำของเยี่ยหวันหวั่น ทำให้คนไม่น้อยส่งเสียงตื่นตระหนก
ผ่านไปไม่เท่าไร คนของสมาคมบังคับกฎก็มาถึงที่นี่
เกี่ยวกับการกระทำทั้งหมดที่เยี่ยหวันหวั่นทำให้งานแลกเปลี่ยนวิทยายุทธ์ ประธานบังคับกฎได้ฟังเรียบร้อยแล้ว พฤติกรรมของเยี่ยหวันหวั่นเลวร้ายถึงขีดสุดและไม่อาจให้อภัยได้
“ผู้อาวุโสบังคับกฎยังไม่จับนังเดรัจฉานนี่ไปอีก!”
เห็นผู้อาวุโสบังคับกฎ เหลยเฮ่อก็ยืนขึ้นเอ่ยปากกับที่ด้านล่างทันที
ได้ยินคำพูดนี้ของเหลยเฮ่อ ประธานบังคับกฎก็เหลือบมองเหลยเฮ่อแวบหนึ่ง จากนั้นสายตาก็ตกลงบนตัวของเยี่ยหวันหวั่น
ข้างเท้าของผู้อาวุโสบังคับกฎ คือศพของเมิ่งเทียนที่ยังไม่เย็นโดยสมบูรณ์ที
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อาวุโสบังคับกฎเอ่ยปากถาม
ถึงแม้ได้ยินมาแล้วบ้าง แต่ยังไงคนก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ผู้อาวุโสบังคับกฎก็กลับไม่รู้แน่ชัด
“เรื่องคืออย่างนี้ครับ…”
เวลานั้นทหารรับจ้างระดับสูงหลายคนขึ้นหน้ามาเล่าต้นสายปลายเหตุให้ผู้อาวุโสบังคับกฎฟัง
“เข้าใจแล้ว” ผู้อาวุโสบังคับกฎพยักหน้าน้อยๆ จากนั้นหางตาก็เหลือบมองเหล่าสมาชิกบังคับกฎและเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง “พาตัวไป”
ได้ยินคำพูดนี้ สมาชิกบังคับกฎหลายคนก็พยักหน้า จากนั้นก็เดินขึ้นเวที เข้าโอบล้อมเยี่ยหวันหวั่นอย่างระมัดระวัง
…………………………………………….