และเป็นที่ตัดสินใจกันแล้วว่าพวกเราจะไปพูดคุยกับทางร้านที่ว่าจ้างผมให้เป็นคนเฝ้าหน้าร้าน เพื่อเป็นการขออภัยที่ต้องพาตัวลูกชายที่หนีออกมากลับไปอย่างเร่งด่วน ทางคนคุ้มกันของบริษัทการค้าจะเข้ามาทำหน้าที่แทนผมสำหรับคืนนี้ในฐานะคนเฝ้าหน้าร้าน
ในท้ายที่สุด ผมถูกห้ามไม่ให้ไปยังร้านอาหารที่ผมทำงานในช่วงตอนกลางวัน และไม่แม้แต่จะสามารถไปกล่าวคำอำลาพวกเขาก่อนออกมาด้วยซ้ำ
ที่จริงแล้ว นั่นก็เพื่อความปลอดภัยด้วย พวกเขาอาจจะถามผมว่าผมนั้นเป็นบุตรชายของตระกูลพ่อค้าที่หนีมาจริงหรือ มีความเสี่ยงมากพอที่การแสดงละครของพวกเราจะถูกเปิดโปงว่าเป็นของปลอม
จึงได้ถูกเกลี้ยกล่อมว่าหนทางที่ปลอดภัยที่สุดคือการที่ผมไม่ต้องไปพบพวกเขาอีกเป็นครั้งที่สอง
ไม่มีใครที่จะหมกมุ่นกับผมมากพอจนมานั่งสงสัยในความน่าเชื่อถือเรื่อง ‘บุตรชายขุนนางที่หลบหนีมา’ ของพวกเราและพยายามสืบเรื่องราวหาความจริงหรอก แต่แอนนาและเหล่าสายลับก็ดูจะคิดคนละอย่าง
มันคงจะเป็นการเสียมารยาทหากจะออกไปโดยไม่ได้ไปบอกลา แต่ก็คงช่วยไม่ได้ ยังไงผมก็จำเป็นต้องคิดถึงและเคารพต่อเกียรติยศของตระกูลแวร์แวรี่กับเซเว่นสเวิร์ธ
***
แอนนาตัวติดกับผมบนรถม้าในระหว่างที่พวกเราเดินทางกลับ
ถ้าหากเป็นก่อนหน้านี้ เธอคงจะรักษาท่าทางที่เข้ากับคุณหนูขุนนางและนั่งตรงข้ามผมอย่างสง่างามไปแล้ว
ผมไม่ค่อยแน่ใจว่าเธอคิดอะไรอยู่ แต่เธอขยับให้ระยะห่างระหว่างเราใกล้กัน(ซึ่งแค่การอยู่บนรถม้าก็ใกล้มากพออยู่แล้ว) และยืนกรานขอจับมือของผมไว้
เธอน่ารักน่าเอ็นดูมากเสียจนช่วยไม่ได้ที่ผมจะอุทานออกมาว่า ‘โอ้ แอนนา! นี่เธอจะน่ารักไปถึงไหนกันเนี่ย!?’ แต่กลับทำให้น้ำตาของแอนนาระเบิดออกมา ภาพเธอที่กำลังร้องไห้นั้นทำเอาผมทำอะไรไม่ถูกเลย
“ฉะ-ฉันมีความสุขมาก มากจริงๆค่ะ แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของฉันจะเปลี่ยนไปแล้ว แต่ท่านก็ยังคงบอกว่าฉันนั้นน่ารักอยู่”
น้ำตาของแอนนาไหลลงมาบนแก้มแม้เธอจะยังคงยิ้มอยู่
พอรอยปูดโปนบนใบหน้าของเธอได้หายไป เธอคงจะเป็นกังวลว่ารูปลักษณ์ภายนอกของเธอในตอนนี้จะไม่ถูกใจผม
“หน้าตาของคุณไม่สำคัญหรอก แอนนา คุณน่ะน่ารักอยู่แล้ว”
เมื่อผมพูดออกไปเช่นนั้น น้ำตาของแอนนาก็ยิ่งเอ่อล้นออกมามากกว่าเก่า
“ฉันฝันถึงเรื่องนั้นเสมอเลยค่ะ ฉันฝันว่าท่านจิโน่จะเอ่ยชมว่าฉันน่ารักอีกครั้งเสมอเลย”
แอนนาพูดพร้อมรอยยิ้มในขณะที่น้ำตาไหลลงมายังแก้มราวกับน้ำตก
แม้หลังจากนั้นเธอก็ยังคงจับมือผมต่อไป
การที่แอนนาแสดงความรักออกมาอย่างนี้ก็น่ารักมาก จนผมทำได้เพียงบอกว่า ‘น่าร๊าก’ ซ้ำแล้วซ้ำอีกในระหว่างที่กระหน่ำจูบและโอบกอดเธอ
แต่ถึงอย่างนั้น บริดจ์เจ็ตที่นั่งอยู่กับพวกเราก็ได้มาหยุดผมเอาไว้หลังจากผ่านไปสักพัก
นี่มันก็ผ่านมาครึ่งปีแล้วตั้งแต่ที่พวกเราเจอกันครั้งสุดท้าย แต่พอเป็นผมแล้วเธอก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้เลยจริงๆ
ผมเชื่อมั่นในความซื่อสัตย์ของบริดจ์เจ็ตที่มีต่อแอนนาจากใจจริง
บริดจ์เจ็ตคอยเอาผ้าเช็ดน้ำขึ้นมาซับดวงตาที่แดงก่ำของเธออยู่เรื่อยๆ ในขณะที่จ้องมองไปยังแอนนาที่กำลังนอนหลับอย่างมีความสุขกับรอยยิ้มพร้อมเอาศรีษะมาพิงกับไหล่ของผม มือของพวกเรายังคงเชื่อมถึงกันอยู่อย่างนั้น
◆◆◆◆◆
พวกเรามาหยุดพักในหมู่บ้านระหว่างการเดินทาง ตระกูลแวร์แวรี่ได้ส่งม้าเร็วมาเพื่อส่งมอบเสื้อผ้า เครื่องประดับตกแต่ง และสิ่งอื่นๆของผมมาให้ผม
ท่านพ่อเลี้ยงแวร์แวรี่เองยังได้ส่งจดหมายมากับของพวกนั้นด้วย
เขาบอกผมว่าผมควรจะตรงไปยังคฤหาสน์ของตระกูลเซเว่นสเวิร์ธก่อน เพราะว่าตระกูลแวร์แวรี่นั้นยังรอได้
เพราะอย่างนั้นในตอนนี้ผมจึงได้มาอยู่ที่คฤหาสน์ของเซเว่นสเวิร์ธโดยสวมเครื่องแต่งกายขุนนางของแวร์แวรี่
นี่เป็นสถานที่แห่งแรกที่พวกเราได้มุ่งหน้ามาหลังจากที่มาถึงยังเมืองหลวงแล้ว
ท่ายดยุคและดัชเชสต่างรอคอยผมอยู่ในห้องนั่งเล่น
แอนนาไม่ได้อยู่กับพวกเราด้วย
เธอดูจะเหนื่อยหลังจากการเดินทางอันยาวนาน ซึ่งเธอไม่ค่อยชินเสียเท่าไหร่ ผมจึงบอกให้เธอไปพักผ่อนก่อน
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะจ๊ะ จิโน่”
ผมรู้สึกหวั่นไหวเมื่อได้ยินดัชเชสเรียกผมว่าจิโน่
การหมั้นหมายของผมกับแอนนาได้ถูกยกเลิกไปแล้ว
ท่านควรที่จะเรียกผมเหมือนครั้งแรกว่า “จิโนเรียส” แทน
แต่ว่าบุคคลคนนี้ยังคงเรียกผมราวกับว่าผมนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลของท่านอยู่
ผมตัดสินใจที่จะเรียกท่านว่าท่านแม่ด้วยเช่นกัน
ผมคุกเข่าขวาลงไปและวางมือซ้ายไว้บนหัวใจและก้มหัวลง
“กระผมขออภัยอย่างสุดซึ้งขอรับ”
การขออภัยด้วยท่าทีเช่นนี้นับได้กับการขออภัยด้วยความจริงใจอย่างถึงที่สุด เทียบเท่ากับโดเกสะ (* เป็นการขอโทษโดยการลดตัวลงมาเสมอดิน เป็นการขอโทษโดยการลดตัวลงมาเสมอดิน) หรือโข้วโถว (* การคำนับแบบจีนโดยคุกเข่าลงเอาหน้าผากแตะพื้น) ในโลกใบก่อนของผม
“ในที่สุดก็กลับมาบ้านได้สักทีนะ ไอ้เจ้าบ้า”
“ไม่ใช่อย่างนั้นสิคะ ที่รัก? ไม่ใช่ว่าคุณมีอะไรที่จะต้องบอกกับเขาหรือคะ หืม?”
ท่านแม่ส่งตามองพร้อมรอยยิ้มไปยังท่านดยุคที่หน้าบูดบึ้งบอกบุญไม่รับ
ท่านดยุคดูอึดอัดชอบกล
“ลุกขึ้นแล้วนั่งบนโซฟาก่อนเถอะจ้ะ เรามาดื่มชาด้วยกันดีไหมจ๊ะ?”
ท่านแม่เชื้อเชิญผม ผมจึงนั่งลงบนโซฟาอย่างว่าง่าย
ท่านพูดกับพวกเราเหมือนอย่างทุกครั้งที่ครอบครัวมาอยู่ด้วยกัน
มันก็สักพักแล้วสินะ ที่ผมได้เคยสัมผัสเรื่องนี้
มันทำผมมีความสุขเอามากๆ
“อือ นั่นสิ ข้า… ขอโทษ”
“ท่านดยุค เหตุใดท่านถึงต้องมาขอโทษผมล่ะครับ?”
“ตายจริง แอนนาไม่ได้บอกอะไรเลยหรือจ๊ะ?”
“ครับ ผมไม่ได้ฟังรายละเอียดจากเธอมา ผมต้องการที่จะทราบเหตุผลว่าทำไมการถอดผมออกจากตระกูลถึงได้ถูกยกเลิก และตระกูลเซเว่นสเวิร์ธถึงได้ต้องการหมั้นหมายอีกครั้งจากทั้งท่านดยุคและท่านแม่ พวกเรายังมีสิ่งต่างๆ อีกมากมายที่ต้องพูดคุยกันในระหว่างช่วงเวลาหกเดือนที่พวกเราไม่ได้พบหน้ากันครับ”
ในระหว่างทางมายังเมืองหลวง แอนนาบอกกับผมว่าคุณเคตต้องการให้ผมกลับมาและเป็นประธานบริษัทอีกครั้ง
เธอต้องการที่จะคืนหุ้นหกสิบเปอร์เซ็นต์ของบริษัทเพื่อที่ผมจะได้กลับมาบริหารจัดการบริษัท
ดูเหมือนว่าคุณเคตมีหุ้นอยู่แค่สี่สิบเปอร์เซ็นต์และเป็นรองประธานก็เพียงพอแล้ว
เธอบอกว่าเธอนั้นอยากที่จะดูแลเรื่องงานธุรกิจต่างๆ ทั้งหมดในขณะที่ดำรงตำแหน่งนั้น และเธอยังต้องการให้หน้าที่จัดการและพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นของผม
เธอคงจะตัดสินใจได้แล้วว่านั่นจะให้กำไรกับเธอมากกว่าถ้าหากผมเป็นคนที่คอยบริหารจัดการบริษัทและพัฒนาปรับปรุงสินค้าต่างๆ ด้วยความรู้ของผมจากในชาติก่อน มากกว่าที่จะมานั่งบริหารจัดการด้วยตัวของเธอเอง
แหม นั่นก็สมเป็นเธอดีนั่นล่ะ ยังไงคุณเคตก็เป็นคนประเภทที่ว่าจะให้ความสำคัญกับผลประกอบการมากกว่าสถานภาพอยู่แล้วนี่นะ
ผมได้รับข้อมูลมากมายขนาดนั้นมาจากแอนนา
แต่ถึงอย่างนั้น สีหน้าเธอก็ไม่ค่อยยินดีสักเท่าไหร่เมื่อเธอเห็นว่าผมนั้นจะช่วยเหลือในข้อเสนอของคุณเคต
พวกเราพูดคุยกันเรื่องเกี่ยวกับการบริหารจัดการบริษัท แต่แล้วจู่ๆ เธอก็เปลี่ยนหัวข้อเรื่องไปยังขนาดหน้าอกของคุณเคต
“ท่านจิโน่คะ ท่านชอบผู้หญิงที่มีหน้าอกหน้าใจอย่างคุณเคตสินะคะ?”
แอนนากล่าวออกมาทั้งที่แก้มป่อง
หน้าอกของแอนนาเองก็มีเกินกว่าผู้หญิงโดยเฉลี่ยอยู่แล้ว แล้วไหนเธอจะยังมีรูปร่างหน้าตาที่งดงามสะสวยเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ อีก ผมจึงไม่คิดว่าเธอจะมีปัญหาอะไรในเรื่องบริเวณนั้น
แล้วด้วยเหตุผลบางประการ เธอดูเหมือนมีปมด้อยต่อเรื่องนี้ขึ้นมา
พอพูดถึงคุณเคตทีไร อารมณ์ของแอนนาจะหมองลงทุกครั้ง
และดังนั้นแล้ว ผมจึงตัดสินใจมาพูดคุยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุณเคตที่คฤหาสน์ตระกูลเซเว่นสเวิร์ธแทน
ผมอธิบายเรื่องนั้นให้กับท่านพ่อท่านแม่ของเธอฟัง
“ตายจริง เป็นเด็กที่ช่วยไม่ได้อะไรอย่างนี้นะ”
ท่านแม่ขำคิกคัก
“เอาล่ะจ้ะถ้างั้น ให้ข้าได้อธิบายให้เธอฟังแล้วกันนะ จิโน่จ๊ะ เธอน่ะถอนหมั้นและหายตัวไปเพราะคนแถวนี้บอกเธอว่าแอนนาควรที่จะขึ้นเป็นองค์ราชินีหลังจากที่รักษาโรคสำเร็จแล้ว ถูกต้องไหมจ๊ะ? เป้าหมายของเธอนั้นเพื่อให้ไม่องค์ชายลำดับที่หนึ่งก็องค์มกุฎราชกุมารได้อภิเษกสมรสกับแอนนาสินะจ๊ะ?”
“ใช่แล้วครับ”
“นั่นอาจจะเป็นสิ่งที่คนแถวนี้พูดออกมา แต่ฉันอยากให้เธอลืมเรื่องทั้งหมดนั้นไปจ้ะ ตระกูลเซเว่นสเวิร์ธของเราต้องการให้แอนนาหมั้นกับจิโน่แม้เธอจะรักษาหายแล้วจ้ะ”
“…ผมไม่เชื่อว่ามีข้อดีอะไรที่ต้องเลือกผมนะครับ”
==================
*หากแปลผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้
*สามารถติ/คอมเมนต์ความเห็นกันได้ที่ด้านล่าง
แปลไทยโดย: MountainIbex
พิสูจน์อักษรโดย: Rain K.
MANGA DISCUSSION