เป็นวันเหมือนกับที่ผ่านมา — ผมเสร็จงานจากการเป็นกุ๊ก ได้เหล่าคุณหนูเลี้ยงข้าวเย็น แล้วก็มุ่งหน้ากลับบ้านหลังจากนั้น
ผมใช้เวลาเรื่อยเปื่อยอยู่ในบ้าน ในตอนนั้นเองที่มีคนมาเคาะประตู
คงจะเป็นคำขอร้องงานคนเฝ้าร้าน ผมมักจะได้รับคำขอพวกนั้นในตอนที่มีคนมาเคาะประตูในช่วงเย็น
เพราะอย่างนั้นผมจึงสวมกำไลข้อมือเอาไว้ก่อน — เพื่อเอาไว้ป้องกันมีด — ก่อนที่จะเปิดประตูออก
แต่คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นกลับไม่ใช่พนักงานร้านที่ทำงานเป็นคนเฝ้าร้านเหมือนกัน แต่เป็นขุนนางสาวสะพรั่งใส่ชุดเดรสงามหรูหราที่ไม่เหมาะกับที่สลัมแบบนี้เลยสักนิด
“คุณเป็นใค…”
ผมหยุดพูดไปกลางประโยคด้วยความตะลึง
ทรงผมของผู้หญิงที่ถูกถักสลับซับซ้อนเปล่งประกายสีเงินน่ารัก
ดวงตาที่มีน้ำตาเอ่อขึ้นมาในทัศนวิสัยของผมนั้นมีสีเขียวสว่าง
เธอทำให้นึกถึงท่านแม่เซเว่นสเวิร์ธ ใจดีและงดงาม
น้ำตาปริมาณมหาศาลเริ่มไหลลงมาบนแก้มของเธอเมื่อยามที่เราสบตากัน
แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังคงมียิ้มที่เปล่งประกาย
“ท่านจิโน่…”
และโผเข้าสู่อ้อมแขนของผมในขณะที่กระซิบชื่อนั้น
“อนา…สตาเซีย คุณหนูอนาสตาเซีย?”
“เรียกฉันว่าแอนนาเถอะค่ะ”
แอนนายังคงอยู่ในอ้อมกอดของผมในตอนที่สะอื้นตอบผมกลับมาเช่นนั้น
“ไม่ครับ นี่มันไม่เหมาะสม ช่วยขยับออกไปเถอะครับ คุณเป็นถึงองค์ราชินีที่ทรงเกียรติในอนาคตเลยนะครับ เดี๋ยวเรื่องนี้จะทำให้กลายเป็นข่าวลือเสียหายได้”
อย่างที่คิดเลย ขุนนางน่ะอยู่คนละชั้นกับสามัญชน ช่องว่างระหว่างเรามันใหญ่หลวงเกินไป
ผมจะยอมให้ตัวผมเองจับและผลักเธอออกไปไม่ได้ ผมจึงพยายามที่จะเกลี้ยกล่อมให้เธอยอมถอยไปจากผม
“ฉันจะไม่มีวันเป็นราชินีหรอกค่ะ”
“เอ๋?”
“ — อย่ายอมแพ้ที่จะมีความสุข — คุณเป็นคนพูดอย่างนั้นกับฉันเองนี่คะ ท่านจิโน่? เพราะอย่างนั้นฉันจะไม่ยอมแพ้ค่ะ ฉันจะต้องกุมหัวใจของท่านเอาไว้อีกครั้งให้ได้”
แอนนายังคงเกาะผมในขณะที่พวกเราพูดคุยกันอยู่
“แต่ว่า… แอนนา… ตอนนี้คุณเองก็มีหน้าตาแบบนั้นแล้วนะ เพราะงั้น…”
ไม่ควรที่จะมีอะไรเหนี่ยวรั้งการแต่งงานของเธอในตอนนี้ได้แล้ว
รอยปูดโปนทั่วร่างกายเธอก็หายไปหมดแล้ว และเธอยังดูเหมือนกับท่านแม่ของเธอ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยด้วย
ถึงแม้เธอจะไม่เป็นราชินีแล้ว ก็ไม่น่าจะมีเหตุผลอะไรสำหรับเธอที่จะเลือกสามัญชนแบบผมที่ก่อเรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่ในวงสังคมขุนนางให้ไปเป็นคู่หมั้น
ไม่ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเลือกผม ไม่มีเลยสักข้อ
เธอจะมีแต่ลงเอยด้วยความสิ้นหวังเท่านั้น
“ใช่ค่ะ หน้าตาและร่างกายของฉันเปลี่ยนไปมาก… แต่ไม่จำเป็นต้องกลัวไปหรอกค่ะ ถ้าหากคุณไม่ชอบหน้าตาของฉันในตอนนี้ จะให้ฉันกลับไปเป็นเหมือนก่อนก็ได้ค่ะ”
“ฮะ?”
“ฉันได้ยินมาจากคุณหมอค่ะ มันยากอย่างถึงที่สุดที่จะลบรอยปูดโปนพวกนั้น แต่การสร้างกลับง่ายเหมือนปอกกล้วย พวกเขาแค่ต้องฉีดของเหลวเข้ามาใต้ผิวหนังของฉัน แล้วพวกเขายังสามารถเลียนแบบสีเขียวด้วยแทททูได้ด้วย ฉันจึงอยากที่จะให้ท่านจิโน่เลือกว่าชอบรูปร่างแบบไหนน่ะค่ะ”
ผมมองไปที่เธอด้วยความว่างเปล่า ตะลึงพึงเพริดต่อสิ่งที่ผมพึ่งได้ยินโดยสมบูรณ์
วุ่นวายชะมัด
แอนนาบอกว่าเธอยอมที่จะกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนเพื่อผม
แต่ถ้าเธอทำอย่างนั้นก็ต้องผ่านเลือกยากลำบากแย่เลยสิ!!
การที่มีหน้าตาน่าเกลียดนั้นช่างเจ็บปวดเกินทน ผมเองก็รู้
แล้วนี่ เธอกลับยอมที่จะฝ่าฟันเรื่องพวกนั้นเพื่อผม นั่นคือสิ่งที่เธอกำลังบอกผมอยู่งั้นเหรอ?
ความรู้สึกลึกๆ ข้างในทั้งหมดทั้งมวลของผมที่มีต่อแอนนาได้บดบังความมีเหตุมีผล จนท้ายที่สุดความมีเหตุมีผลเหล่านั้นก็ได้ถูกขจัดไปจนหมดสิ้น
มือของผมสั่นเทิ้ม และน้ำตาได้พรั่งพรูออกมาเองโดยธรรมชาติ
“ไม่หรอก คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเลย! ผมไม่สนใจเลยว่าคุณจะหน้าตาเป็นยังไง! ผมรักคุณไม่ว่าจะมีหน้าตาเป็นแบบไหนก็ตาม!”
อารมณ์ที่รุนแรงต่างๆได้ปะทุขึ้นมาในตัวและผมก็ได้ตะโกนสิ่งต่างๆ ทั้งหมดทั้งมวลนั้นออกไปด้วยเสียงคำรามที่โกรธเกรี้ยว
ในตอนนั้นเองที่ผมรู้สึกตัว
ทำพลาดครั้งใหญ่ไปเสียแล้ว
ผมสูญเสียความรู้สึกนึกคิดไปกับเหล่าอารมณ์ที่เดือดดาลอยู่ภายในตัว ผมจึงเผลอหลุดสิ่งที่ผมไม่ควรพูดออกไป
ใช่ ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปเลย ผมยังคงมีความรู้สึกมากจนเกินไปเมื่อเป็นเรื่องของแอนนา
“ท่านจิโน่…”
อารมณ์ที่มากเหลือคณานับเองก็ได้แต่งแต้มใบหน้าของแอนนาในตอนที่เธอเงยหน้าขึ้นมาจดจ้องผม
เหล่าน้ำตาที่ได้หยุดไหลไปแล้วก็ได้ระเบิดออกมาราวกับเขื่อนแตกอีกครา ทำให้ดวงตาที่เปล่งประกายของเธอที่หันมาหาผมชุ่มชื้น
ผมอยากที่จะกอดเธอเอาไว้ให้แน่น
ผมต้องการที่จะหยุดริมฝีปากของผมนี้ไว้กับเธอ
แต่ผมควรที่จะหยุดตัวเองไว้ก่อนที่จะทำพลาดครั้งใหญ่อีกครั้ง
เรื่องพวกนั้นไม่ส่งผลดีกับเธอหรอก
บุตรีของแกรนด์ดยุค ที่สามารถจะได้รับตำแหน่งองค์ราชินีในอนาคตถ้าหากเธอปรารถนา ไม่ควรที่จะมาเลือกสามัญชนที่ใช้ชีวิตในย่านสลัมเป็นคู่ชีวิตอีกครึ่งหนึ่งของเธอ
ผมน่าจะยังพอทำอะไรกับเรื่องเสียมารยาทเมื่อก่อนหน้านี้ได้อยู่
ผมดึงแอนนาออกจากผม
“แอนนา ผมรักคุณจากก้นบึ้งของหัวใจ! เพราะอย่างนั้น เพราะอย่างนั้นล่ะ ขอร้อง ผมไม่คู่ควรกับคุณหรอก! คุณเป็นถึงบุตรีของดยุค แล้วผมก็เป็นเพียงแค่สามัญชน! ช่องว่างระหว่างเรามันราวฟ้ากับเหว! ยังมีอนาคตที่สดใสเฝ้ารอคุณอยู่นะ! ได้โปรดลืมเรื่องของคนอย่างผมไปเถอะ! คุณควรที่จะเลือกเส้นทางที่จะทำให้อนาคตของคุณสดใสสิ!!”
“ท่านจิโน่คะ คุณไม่ใช่สามัญชนแล้วค่ะ การถอดคุณออกจากตระกูลแวร์แวรี่ได้ถูกยกเลิกไปแล้วค่ะ”
แอนนายิ้มมาที่ผมทั้งที่ยังคงมีน้ำตา
“เอ๋?… ทำไมกันล่ะ?”
ผมตามไม่ทันแล้ว
ตระกูลแวร์แวรี่ไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่จะยอมเรื่องถอดผมออกนี่นา
“ตระกูลเซเว่นสเวิร์ธเป็นคนไปขอร้องเองค่ะ มันคือความประสงค์ของตระกูลเราที่จะให้ท่านจิโน่และฉันได้หมั้นหมายกันอีกครั้ง”
“หือ?”
ผมทำเรื่องที่น่ารังเกียจลงไป แล้วทำไมพวกท่านยังอนุญาติให้พวกเราได้แต่งงานกันล่ะ?
คุณค่าของผมในสังคมชนชั้นสูงน่าจะดิ่งลงเหวไปแล้วสิ
แล้วทำไมท่านดยุคกับท่านแม่ยายถึงยังได้ให้อภัยผมและอนุญาติให้ผมได้หมั้นกับลูกสาวที่แสนหวงแหนของพวกเขาทั้งที่ชื่อเสียงของผมป่นปี้ไปแล้วกันล่ะ?
ผมได้หมิ่นตระกูลเซเว่นสเวิร์ธไปแล้วแถมยังโจ่งแจ้งเสียขนาดนั้น
ยากที่จะเชื่อว่าท่านทั้งสอง บุคคลอันเป็นต้นแบบของเหล่าขุนนาง จะยอมให้การหมิ่นชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของพวกท่าน ยิ่งไปกว่านั้นเพราะเรื่องแบบนั้นมันราวกับการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของพวกท่าน
อา พวกท่านจะให้อภัยผมหรือไม่ก็ไม่มีความหมายอยู่ดี
องค์ชายลำดับที่หนึ่งนั้นทรงมีรูปโฉมที่งดงาม สถานะทางสังคมของพระองค์ก็ยิ่งใหญ่นัก และพระองค์เองยังมีประสบการณ์เรื่องคอยดูแลเอาใจใส่สตรีเป็นอย่างดี
ผมมั่นใจว่าแอนนาจะมีความสุขยิ่งกว่าในระยะยาวถ้าได้แต่งงานกับพระองค์แทนที่จะมาผูกมัดอยู่กับคนที่อยู่ตัวคนเดียวมาเกือบจะร้อยปีอย่างเรา
ใช่ เป็นแบบนั้นแอนนาจะมีความสุขยิ่งกว่า
“ถึงอย่างนั้น คุณน่าจะสามารถหมั้นกับฝ่าบาท คุณจะมีความสุขยิ่งกว่าคุณแต่งงานกับผมนะ เพราะอย่างนั้นผมถึงได้ไม่คิดจะคืนดีกับคุณ”
มีประกายฉายวาบเข้ามาในดวงตาของแอนนา หลังจากนั้นก็ได้มีสีหน้าที่แน่วแน่ราวกับเธอมุ่งมั่นที่จะทำอะไรสักอย่าง เธอคุกเข่าลงต่อหน้าผม
นี่คุณวางแผนจะทำอะไรกันเนี่ย?
แอนนาจับมือของผมไว้และจูบลงบนหลังมือนั้น
“ได้โปรดแต่งงานกับฉันนะคะ ฉันจะทำให้ท่านจิโน่มีความสุขค่ำ ฉันขอสัญญา เพราะอย่างนั้น ได้โปรด อย่ายอมแพ้ในความสุขของตัวเองนะคะ”
(!!!!)
แอนนาขอแต่งงานงั้นเหรอ!
แล้วเธอยังทำแบบที่ผู้ชายเขาขอแต่งงานกันอีก
อาณาจักรนี้ไม่ได้มีการอนุญาติให้ฝ่ายหญิงขอมือฝ่ายชายในการแต่งงาน เพราะอย่างนั้นจึงไม่มีขนบธรรมเนียมที่ว่าฝ่ายหญิงขอแต่งงานฝ่ายชาย
นั่นเองคงเป็นเหตุผลที่แอนนาขอผมแต่งงานในขณะที่ขอแต่งในท่าทางเหมือนสุภาพบุรุษ
น้ำตาสายใหม่ได้ไหลลงมาจากตาของผมอีกครั้ง
อา ผมถึงขีดจำกัดแล้วล่ะ
ผมหลอกหัวใจตัวเองต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว
ผมโอบแอนนามาไว้ในอ้อมกอดในขณะที่ผมค่อยๆพยุงตัวเธอขึ้นจากการคุกเข่าก่อนที่จะจรดริมฝีปากของผมกับเธอ ราวกับทนที่จะกลืนกินเธอไม่ไหวแล้ว
ด้วยความเสน่หาที่ระเบิดออกมาจากภายใน ผมได้ลิ้มรสริมฝีปากของเธอ
“ผมขอโทษนะ แอนนา ผมจะไม่ปล่อยคุณไปในชีวิตอีกแล้ว”
“ค่ะ เรามาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดไปเถอะนะคะ”
น้ำตาของแอนนาเองก็ไหลรินลงมาในขณะที่เธอยิ้มออกมาอย่างงดงาม ราวกับเธอนั้นอยู่ในความฝัน
ริมฝีปากบรรจบเข้าหากันอีกครั้ง
==================
*หากแปลผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้
*สามารถติ/คอมเมนต์ความเห็นกันได้ที่ด้านล่าง
แปลไทยโดย: MountainIbex
พิสูจน์อักษรโดย: Rain K.
MANGA DISCUSSION