“ท่านพ่อ ท่านแม่ หนูต้องการที่จะไปพบกับท่านจิโน่อีกครั้งค่ะ เขารักษาหนูจากโรคประหลาดที่ไม่มีแม้แต่ชื่อได้ ในฐานะสมาชิกของตระกูลเซเว่นสเวิร์ธ หนูควรที่จะเดินทางไปกล่าวขอบคุณเขาค่ะ”
สองสัปดาห์หลังจากการรักษาโรคร้ายของฉัน ฉันได้พูดคุยเรื่องนี้กับท่านพ่อท่านแม่ของฉันในมื้อค่ำ
“ท่านพ่อคะ ท่านพ่อพอจะรู้ไหมว่าท่านจิโน่อยู่ที่ไหน?”
ท่านพ่อหันไปหาพ่อบ้านในตอนที่ฉันถามออกไป ก่อนพยักหน้าตอบกลับ
“พ่อไม่รู้ว่าหมอนั่นอยู่ไหน แต่พ่อรู้ว่าคู่ชู้ของหมอนั่นอยู่ที่ไหน นั่นคือสิ่งเดียวที่พวกเรารู้อยู่ในตอนนี้”
คู่ชู้เหรอ…
เธอคงจะเป็นคุณหนูเคต ผู้หญิงที่แต่งชุดสีม่วงของดวงตาท่านจิโน่
ฉันรู้สึกหดหู่นิดหน่อยเมื่อฉันได้ยินว่าฉันจะต้องไปพบกับคนที่ท่านจิโน่นอกใจไปหา แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังตัดสินใจที่จะไป
ท่านจิโน่อาจจะรู้สึกปลาบปลื้มยินดีที่ได้รู้ว่าการรักษาของเขาประสบผลสำเร็จ
เขาอาจจะไม่ยอมให้เราได้เห็นความยินดีนั้นกับตาของเราเองก็ได้
ถึงอย่างนั้น เราก็ต้องการที่จะทำให้เขามีความสุข
ฉันมีเหลืออยู่น้อยสิ่งที่จะสามารถนำพาความสุขมาให้เขาได้
“อื้ม ถ้าหากว่าลูกจะไปหานังชู้นั่น งั้นช่วยฝากไปบอกด้วย ข้ายกโทษให้เขากับการกระทำที่ดูถูกที่เขาได้ทำต่อตระกูลเซเว่นสเวิร์ธจากการที่เขารักษาโรคของแอนนาแล้ว ถ้าหากว่าข้าใช้ให้ข้ารับใช้ไปบอกเขา เขาอาจจะยังระแวงและหลบเลี่ยงข้าก็ได้ แต่ถ้าหากว่าเป็นลูก เขาคงจะเชื่อลง แล้วก็คงจะเผยตัวออกมา”
…นี่เราพึ่งได้ยินอะไรไปเนี่ย?
นี่ท่านพ่อบอกว่าได้ตามหาท่านจิโน่เพื่อที่จะทำร้ายเขางั้นเหรอ?
นี่ท่านจิโน่รับรู้ถึงภัยคุกคามนี้จึงหลบซ่อนตัวงั้นหรือ?
“ท่านพ่อคะ! อย่าบอกนะคะว่าคิดจะทำร้ายท่านจิโน่น่ะ!?”
“ปะ-เปล่าซะหน่อย เพราะงั้นข้าถึงได้บอกว่ายกโทษให้แล้วไง”
ท่านพ่อลนลานด้วยสายตาคุกคามจากฉัน
ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่ปล่อยให้ดิ้นหลุดรอดไปได้หรอก!!
“ฟังให้ดีนะคะ ท่านพ่อ! ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับท่านจิโน่ หนูจะไม่มีวันให้อภัยท่านพ่อ ไม่มีวันเด็ดขาด! ถ้าหากท่านพ่อกล้าไปแตะต้องท่านจิโน่ล่ะก็ หนูจะหนีไปที่โบสถ์แล้วถวายตัวเป็นแม่ชีอยู่ที่นั่นเพื่อชดเชยกับสิ่งที่ทำกับเขาลงไป! หนูจะไม่มาเจอท่านพ่ออีก! ไม่ว่าท่านพ่อจะอยากพบหนูแค่ไหน หนูก็จะไม่มาให้เห็นหน้าอีก!!”
ฉันจะต้องเลี่ยงไม่ให้ท่านพ่อทำร้ายท่านจิโน่ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม
ฉันจึงได้ขู่ท่านด้วยคำเหล่านั้น
“ไม่ใช่นะ ลูกรัก พ่อก็บอกไปแล้วนี่ว่าจะยกโทษให้เขาน่ะ เนอะ? อีกอย่าง พ่อไม่ได้คิดจะทำร้ายเขาซักหน่อย พ่อแค่ต้องการที่จะจับตัวแล้วก็สอบปากคำหมอนั่นเท่านั้นเอง”
“ท่าน พ่อ เข้า ใจ สิ่ง ที่ หนู จะ สื่อ สิ นะ คะ ?”
“จะ-จ้ะ พ่อสาบานว่าจะไม่ทำร้ายแม้แต่ปลายผมเลย”
ท่านพ่อสาบานแล้ว ฉันจึงโล่งใจได้ในที่สุด
เหล่าขุนนางจะไม่หักหาญคำปฏิญาณของตน
ด้วยการให้สัตย์สาบานนี้จะไม่มีภัยร้ายใดไปถึงท่านจิโน่
ถึงอย่างนั้น ด้วยสิ่งนี้ ฉันจำเป็นที่จะต้องไปพบกับผู้หญิงที่เขานอกใจไปหาจริงๆ
การใช้ชีวิตแบบหลบๆซ่อนๆคงจะลำบากมากสำหรับเขา
ฉันจะต้องไปบอกเขาทันทีเรื่องความตั้งใจของทางตระกูลเพื่อที่เขาจะได้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
◆◆◆◆◆
คุณหนูเคต คู่หมั้นของท่านจิโน่ในตอนนี้ กำลังทำงานอยู่ที่สาขาหลักของบริษัทเลอร์แวนในเมืองหลวง
บริษัทการค้าเลอร์แวนนั้นเป็นของท่านจิโน่
ถ้าหากท่านพ่อไม่ได้มีความคิดชั่วร้ายกับเขา พวกนั้นอาจจะได้เป็นคู่ค้าและดำเนินธุรกิจร่วมกันในตอนนี้ไปแล้วก็ได้
ฉันลงจากรถม้าและเข้าไปในร้าน หนึ่งในพนักงานเดินเข้ามาและถามถึงธุระจากฉัน
“ฉันอยากที่จะพูดคุยกับคุณหนูเคตค่ะ เธอดูเหมือนกำลังไปรับรองลูกค้าคนอื่นอยู่ งั้นฉันจะรอเธออยู่ตรงนี้แหละค่ะ”
ฉันยืนรออยู่ในมุมหนึ่งของร้านค้าให้คุณหนูเคตเสร็จสิ้นภารกิจ
ฉันพยายามที่จะไม่สนใจเธอ แต่ด้วยเหตุผลบางประการ สายตาฉันมักจะถูกดึงไปที่เธอเสมอ
คุณหนูเคตหัวเราะบ่อยครั้งประกอบกับรอยยิ้มที่ไร้ความกังวล
เธอดูเป็นคนที่ร่าเริง
บางทีอาจจะเพราะบุคลิกที่ดูเป็นคนสบายๆของเธอ แต่เธอยังทำให้เหล่าลูกค้าผู้ชายหัวเราะไปกับมุกต่างๆของเธอได้
มันช่างชัดเจนว่าเธอนั้นเป็นคนที่สดใสและมีชีวิตชีวาที่หัวเราะอยู่เสมอ แล้วเธอยังเป็นสุดยอดนักพูดด้วย
เธอเป็นเหรียญคนละด้านกับฉันโดยสิ้นเชิง — ฉันที่สงบเสงี่ยม เหนียมอาย และไม่ค่อยเข้าหาผู้คน ไม่สามารถที่จะหัวเราะได้เพราะปมด้อมที่มีต่อรูปลักษณ์ของตัวเอง ฉันไม่สามารถที่จะเล่าเรื่องตลกได้ด้วยซ้ำ เรานี่มันเป็นผู้หญิงที่น่าเบื่อโดยแท้จริง
จะเป็นใครต่างก็เห็นว่าระหว่างเราสองคนใครที่มีเสน่ห์น่าดึงดูดกว่ากันสินะ?
ยิ่งไปกว่านั้น คุณหนูเคตยังมีหน้าอกหน้าใจที่มากกว่าที่ฉันมี
ฉันได้ยินมาว่าผู้ชายชอบผู้หญิงที่มีหน้าอกใหญ่
ท่านจิโน่เองก็เป็นผู้ชาย
เขาเองก็คงจะรักหน้าอกที่อุดมสมบูรณ์อย่างของเธอแน่
ฉันยังไม่ได้พูดคุยกับคุณหนูเคตเลย แต่ฉันก็ได้รู้สึกเศร้าและอนาถเสียแล้ว ความรู้สึกพ่ายแพ้ได้กดทับลงมาที่ตัวฉัน
ถ้าหากเราต้องคุยกับเธอในตอนนี้แล้วได้ยินจากปากเธอว่าเธอมีความสุขขนาดไหนที่ได้อยู่กับท่านจิโน่ล่ะก็ — ฉันอาจจะทนรับมันไว้ไม่ไหว ฉันคงจะเสียใจเกินกว่าจะหาใครเปรียบ
เราจะสามารถรักษาท่าทีเอาไว้ได้ไหมนะ? ฉันไม่มีความมั่นใจว่าจะทำได้เลย
“ขอโทษที่ให้คอยค่ะ มีอะไรให้ฉันช่วยหรือคะ?”
คุณหนูเคตเสร็จธุระของเธอกับเหล่าลูกค้าแล้ว ในที่สุดเธอจึงมาหาฉัน
ในตอนนี้ที่เธอเข้ามาในระยะประชิด ฉันเห็นได้ถึงใบหน้าอันน่ารักกับตาแป๋วดวงโต
เธอเป็นผู้หญิงที่ท่านจิโน่ถูกใจ เป็นคนที่อุ้มท้องลูกของท่านจิโน่
ท่านจิโน่กับเราคงจะไม่มีวันมีความสัมพันธ์… แบบนั้นได้หรอก
ผู้หญิงคนนี้รู้จักท่านจิโน่ในด้านที่ฉันไม่เคยได้เห็นมาก่อน
ดวงตาของฉันถูกดึงไปยังหน้าท้องของเธอที่อุ้มท้องลูกของท่านจิโน่เอง และความรู้สึกอิจฉาและพ่ายแพ้ที่ขาดลอยได้ท่วมท้นและอึดอัด
“นี่คงเป็นครั้งแรกที่พวกเราพบกันสินะคะ? ให้ฉันได้แนะนำตัวเองอีกครั้ง ฉันชื่ออนาสตาเซีย บุตรีคนโตของตระกูลเซเว่นสเวิร์ธ ถือเป็นเกียรติที่ได้พบคุณค่ะ”
ฉันรวบรวมความกล้าที่เหลืออยู่เพื่อทักทายเธอออกไปด้วยรอยยิ้มที่งดงาม คุณหนูเคตมองกลับมาที่ฉันอย่างประหลาดใจ
บางที เธอคงจะไม่คิดว่าผู้หญิงที่ถูกทิ้งแบบเราจะกล้าโผล่มาเจอเธอสินะ?
“เออออออออ๋!? คุณคือเจ้าหญิงของท่านจิโน่น่ะเหรอ!? คุณดูต่างไปโดยสิ้นเชิงเลย อย่างกับคนละคนแน่ะ!!”
โอ๊ะ
พอมาคิดแล้ว รูปลักษณ์เราในตอนนี้ก็ห่างไกลจากตัวเราตอนงานเลี้ยงเต้นรำสำเร็จการศึกษานี่นะ
งั้นบางทีเธออาจจะรู้สึกฉงนเพราะรูปลักษณ์ของเราก็ได้
ฉันรู้สึกตัวเองได้อย่างหนักหน่วงเพราะสายตาของผู้หญิงที่เอาชนะฉันในเรื่องความรัก มากเสียจนฉันลืมเรื่องยิบย่อยนี้ไปเลย
ไม่เพียงเท่านั้น คุณหนูเคตยังเรียกท่านจิโน่ด้วยชื่อเล่นของเขาอีก
ความสัมพันธ์ของพวกเขาคงลึกซึ้งน่าดู พอคำนึงว่าพวกเขาได้ทำเรื่องอย่างว่าที่เกิดขึ้นระหว่างชายหญิงไปแล้ว
สายสัมพันธ์ชองเธอและท่านจิโน่คงจะเหนียวแน่นกว่าเรามาก จึงคงจะเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอที่จะเรียกเขาอย่างเสน่หาด้วยชื่อเล่น
แต่ละคำที่คุณหนูเคตได้เอ่ยออกมาและทุกอากัปกิริยาที่เธอทำได้ทำให้เราเจ็บปวด
ฉันรู้สึกว่าฉันนั้นเกินกว่าที่จะเยียวยาหัวใจที่พังทลายนี้ไปแล้ว
==================
*หากแปลผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้
*สามารถติ/คอมเมนต์ความเห็นกันได้ที่ด้านล่าง
แปลไทยโดย: MountainIbex
พิสูจน์อักษรโดย: Rain K.
MANGA DISCUSSION