แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก - ตอนที่ 87 ไปที่บ้านเก่าสกุลมู่เพื่อชิงตัว
หมั่นโถวเหลือบมองเวลาในโทรศัพท์
“ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มสี่สิบเจ็ดนาที เร็วที่สุดก็ห้าทุ่มสิบนาทีก็จะถึงบ้านสกุลมู่หลังเก่าได้ค่ะ”
“ไปกันเถอะ ไปพาคนของเรากลับมา”
เซี่ยฉิงกงไม่รีรอ เธอรีบเปิดประตูรถตรงเข้าไปนั่งในตำแหน่งข้างคนขับ ส่วนหมั่นโถวก็ก้าวขึ้นรถอย่างรวดเร็ว
รถถูกสตาร์ท และขับออกจากโรงรถใต้ดินด้วยความเร็วราวกับเหาะ
มีบางอย่างบอกเซี่ยฉิงกงว่าเรื่องในวันนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน การที่คนตระกูลฉีทั้งสามคนไปรวมตัวกันอยู่ที่บ้านสกุลมู่ แล้วหลังจากอาหารเย็น มู่เฉินฮ่าวผู้ซึ่งกำลังจะกลับบ้านก็เป็นลม ? นอกจากนี้ฉีเหยียนเอ๋อยังขอดูแลเขาเองอีกด้วย ?
ชั่วขณะนั้น ศีรษะของเซี่ยฉิงกงพลันปวดแปลบขึ้นมาทันที หากแต่ความคิดของเธอกลับยิ่งชัดเจนมากขึ้น
“นายหญิงน้อย ไม่ต้องเป็นกังวล ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นายท่านกับคุณผู้หญิงก็ยังอยู่ที่บ้านหลังเก่าของสกุลมู่ด้วย”
ขณะที่หมั่นโถวขับรถไปนั้น เธอก็ปลอบโยนเซี่ยฉิงกงไปด้วย
ครั้นเห็นเซี่ยฉิงกงขมวดคิ้ว หมั่นโถวก็เป็นกังวล
เซี่ยฉิงกงส่ายหน้า
“ไม่..ฉันกำลังคิดว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ และฉันควรทำอย่างไร หากว่าไปถึงบ้านสกุลมู่ แล้วเกิดนายท่านของเธอไม่พอใจฉันขึ้นมาล่ะ เธอรู้หรือไม่ว่า ฉันยังไม่เคยพบคุณพ่อของเขามาก่อนเลย แล้วคนตระกูลฉีทั้งสามก็อยู่ที่นั่นในวันนี้ด้วย”
หมั่นโถวเป็นคนฉลาด เธอเข้าใจได้ทันทีว่าเซี่ยฉิงกงหมายถึงอะไร
“นายหญิงน้อย เรื่องนี้น่าที่จะเป็นแผนการชั่วของฉีเหยียนเอ๋อ แต่ว่าตอนนี้นายน้อยก็เป็นลมอยู่นี่ เธออาจแค่ดูแลเขา ? หรือว่าเธอจะขึ้นคร่อมเขาแล้วโยกเองเลย ?”
“พุ่ฟ”
เส้นประสาทที่กำลังตึงเครียดของเซี่ยฉิงกง ถูกหมั่นโถวทะลุทะลวงจนสลายไปในทันที
“หมั่นโถว ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะลามกขนาดนี้”
“ลามกวันละนิดพอให้จิตแจ่มใสค่ะ ตอนที่ฉันอยู่ในกองทัพ ฉันเคยฟังพวกทหารเล่าเรื่องทะลึ่ง พวกเขาคุยกันลามกยิ่งกว่านี้ซะอีก”
หมั่นโถวเม้มปากเอ่ยกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
รถแล่นไปบนทางหลวงอย่างรวดเร็ว กระทั่งมาถึงประตูบ้านสกุลมู่หลังเก่าในเวลา 11:07 น. เร็วกว่าที่หมั่นโถวคาดไว้สามนาที
อาเจิ้งดักรอพบพวกเธออยู่ที่ประตู ครั้นเห็นเซี่ยฉิงกง และหมั่นโถวมา หัวใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ ของเขาพลันโล่งในทันที
“นายหญิงน้อย ในที่สุดคุณก็มาถึงแล้ว”
“อืม ไปกันเถอะ ไปพานายน้อยของพวกเธอกลับบ้านกัน”
“ผมรู้ว่านายน้อยอยู่ที่ไหน ? พวกเราจะไปหานายน้อยกันเลยมั้ย ?” อาเจิ้งถาม
“ไม่..ไปที่ห้องรับแขกกันก่อน จากนั้นก็ให้คนรับใช้ไปตามคนทั้งหมดจากตระกูลฉีและตระกูลมู่มา”
เซี่ยฉิงกงพูดหลังจากไตร่ตรองเรียบร้อย
เนื่องจาก ฐานะในตอนนี้ของเธอก็คือคู่หมั้นของมู่เฉินฮ่าว ดังนั้นเธอจึงมีเหตุผลพอที่จะพามู่เฉินฮ่าวกลับบ้าน หากแต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เธอก็ต้องเตือนผู้อาวุโสทั้งสองของตระกูลฉีว่า มู่เฉินฮ่าวเป็นคนที่มีสัญญาการแต่งงานแล้ว ไม่ควรปล่อยให้ลูกสาวของพวกเขาเข้ามาพัวพันอย่างไร้ยางอายเช่นนี้ !
หากเธอตรงไปที่ห้องของมู่เฉินฮ่าว และบังคับให้มู่เฉินฮ่าวออกมา ก็อาจเป็นการสร้างความประทับใจที่ไม่ดีให้กับว่าที่พ่อสามีของเธอได้
เซี่ยฉิงกงไม่เคยพบมู่จื่อหมิงพ่อของมู่เฉินฮ่าวมาก่อน เธอเพียงเคยได้ยินเรื่องซุบซิบมาจากหมั่นโถวเท่านั้น เมื่อเธอยังเด็ก พ่อของเขาชอบแม่ของเธอ และการแต่งงานครั้งนี้ก็เป็นสัญญาของมู่จื่อหมิงเช่นกัน
ดังนั้นเซี่ยฉิงกงจึงอยากจะลองเสี่ยงดูว่า มู่จื่อหมิงจะต้องไม่เหมือนซิงเหวินจิ้ง และเขาจะอยู่ข้างเดียวกับเธอ
แม้ว่ามู่เฉินฮ่าวกับเธอจะยังไม่ได้แต่งงานกัน ทว่าก็เป็นหน้าที่ของเธอที่จะต้องดูแลเขา เกี่ยวอะไรกับฉีเหยียนเอ๋อด้วยล่ะ ?
อาเจิ้งคุ้นเคยกับบ้านเก่าของตระกูลมู่เป็นอย่างดี ทั้งสามคนมาถึงห้องรับแขกอย่างรวดเร็ว ภายในห้องโถงมีคนรับใช้บางคนกำลังเก็บกวาดอาหารที่เหลือ และทำความสะอาด หลังจากการดื่มกินของตระกูลฉีและตระกูลมู่ในคืนนี้
“พ่อบ้านจาง เชิญนายท่านกับคุณผู้หญิงมาที่นี่หน่อย เรียนพวกท่านว่าคุณหนูตระกูลเซี่ย ‘เซี่ยฉิงกง’ มาที่นี่”
ในสายตาของคนรับใช้ของตระกูลมู่ อาเจิ้งเป็นคนคุ้นเคยของมู่เฉินฮ่าว พ่อบ้านจางจึงไม่กล้าลังเล เขารีบตอบรับ และรีบสั่งการคนรับใช้สองคนที่อยู่ข้าง ๆ เขา คนหนึ่งให้ไปเชิญนายท่านที่ห้องหนังสือ ส่วนอีกคนก็ให้ไปเชิญคุณผู้หญิงที่สวน
***จบตอน ไปที่บ้านเก่าสกุลมู่เพื่อชิงตัว***