แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก - ตอนที่ 77 เพื่อนสนิทฉีเหยียนเอ๋อ
เสิ่นหรงเจียรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจ เมื่อมีคนมาหาเธอด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้
“เว่ยต้าฉี นายทำงานที่นี่มากี่ปีแล้ว เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นี้นายก็ต้องมาถามกับฉันงั้นหรือ ? ไม่รู้เลยหรือว่าควร หรือไม่ควรทำอย่างไร ?”
หลังจากกล่าวจบ เสิ่นหรงเจียก็ก้มหน้าก้มตาส่งข้อความถึงเพื่อนสาวคนสนิทของเธอต่อ
“หรงหรง เธอไม่รู้หรอกว่า นังผู้หญิงคนนั้นน่ารำคาญแค่ไหน ~”
“เอาล่ะ เหยียนเอ๋ออย่าเพิ่งโมโห ไหนเธอบอกว่าวันนี้เป็นวันรวมญาติของครอบครัวเธอ และตระกูลมู่ไม่ใช่หรือ ? งั้นก็อาศัยโอกาสนี้แหละ อย่าลืมใช้ของที่ฉันเตรียมไว้ให้ด้วยล่ะ”
“ฮ่าฮ่า .. ฉันรู้แล้ว ฉันบอกแม่บุญธรรมของฉันไปแล้ว แม่บุญธรรมรับปากแล้วว่าจะช่วยฉัน …”
“ถูกต้องแล้ว นายน้อยมู่คงไม่ต้องการหมั้นกับผู้หญิงตระกูลเซี่ยอะไรนั่นจริง ๆ หรอก เพียงตอนนี้เขาเพิ่งพบเจออะไรแปลกใหม่ก็เท่านั้น จักรพรรดิที่คุ้นเคยกับการเสวยอาหารอันโอชะ ย่อมต้องการกินผักป่าบ้างเป็นครั้งคราว เธอเข้าใจใช่มั้ย ?”
ครั้นเว่ยต้าฉีได้ยินเช่นนี้ เขาก็รู้สึกขมขื่น เขาไม่สามารถทำให้ทั้งสองฝ่ายขุ่นเคืองใจได้
แม้ว่ายัยป้าที่อยู่ตรงหน้าเขา จะยังทั้งสาวทั้งสวย หากแต่เธอก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นรองผู้กำกับ หลังจากที่เธอเข้ามาปฏิบัติงานที่สำนักสันติบาลแห่งนี้เพียงสองปี ภูมิหลังของครอบครัวเธอแข็งแกร่ง ทั้งไม่อาจประมาทได้
ทั้งนิสัยของเธอก็แสนดื้อรั้น หากมีอะไรทำให้เธอไม่พอใจ คนที่มีปัญหากับเธอก็จะมีจุดจบที่ไม่สวย
“ไม่ ท่านรองเสิ่น ผู้หญิงสองคนข้างล่างน่าที่จะไม่ธรรมดาเลย คนหนึ่งบอกว่าเธอชื่อลู่หมั่น และขอพบผู้กำกับจาง ส่วนอีกคนก็คือนายหญิงน้อยสกุลมู่”
“นายหญิงน้อยสกุลมู่ ?” “สกุลมู่ไหนกัน ?”
แซ่มู่กระทบใจเสิ่นหรงเจีย เธอวางโทรศัพท์ลง เงยหน้าขึ้นถามทันที
“น่าที่จะเป็นคู่หมั้นของนายน้อยมู่ประธานกลุ่มธุรกิจมู่หรือเปล่า ? มีข่าวลือเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่านายน้อยมู่หมั้น”
ยกเว้นตระกูลมู่นี่ เว่ยต้าฉีก็นึกถึงตระกูลมู่อื่น ๆ ที่จะกล้ามายังสำนักสันติบาล เพื่อขอข้อมูลเช่นนี้ไม่ออกเลย
ผู้หญิงคนนั้นคือคนที่หายตัวไปจากตระกูลเซี่ยตั้งแต่เด็ก ทั้งยังเติบโตมาในสลัมอย่างที่ฉีเหยียนเอ๋อได้บอกไว้หรือเปล่านะ ?
ฉีเหยียนเอ๋อ และเสิ่นหรงเจียเป็นเพื่อนที่เติบโตมาด้วยกันแต่เด็ก และพวกเธอก็ยังเป็นเพื่อนสนิทที่สุดกระทั่งโตเป็นสาว
ทั้งคู่ต่างเป็นลูกสาวที่น่าภาคภูมิใจของครอบครัว คนหนึ่งเป็นคุณหนูจากครอบครัวนักวิชาการที่อยู่ในแวดวงการเมืองมานานหลายชั่วอายุคน ส่วนอีกคนก็เกิดในครอบครัวที่มีฐานะมั่นคง ทั้งพ่อและปู่ของเธอเคยดำรงตำแหน่งผู้กำกับสำนักสันติบาลประจำจังหวัดมานานกว่าสิบปี
ดังนั้นนิสัยของเธอทั้งสองจึงคล้ายกัน คือเย่อหยิ่งและเอาแต่ใจ เป็นคุณหนูที่เจ้าอารมณ์
ในฐานะเพื่อนที่ดี เสิ่นหรงเจียจึงรู้เรื่องราวความรักของฉีเหยียนเอ๋อที่มีต่อ มู่เฉินฮ่าว และเธอก็ช่วยคิดกลอุบายมากมายให้เพื่อน
หากแต่คนอย่างนายน้อยมู่ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาทั่วไป อุบายทุกอย่างจึงไม่เคยใช้ได้ผลเลย
ต่อมาฉีเหยียนเอ๋อได้ไปศึกษาต่อที่อังกฤษ และทุกครั้งที่เธอโทรหาเสิ่นหรงเจีย เธอก็มักจะบ่นว่าเธอคิดถึงมู่เฉินฮ่าว
เสิ่นหรงเจียเคยเห็นท่าทางที่สง่างามของนายน้อยมู่ เธอเห็นด้วยกับฉีเหยียนเอ๋อ ผู้ชายคนนั้นหล่อมาก หล่อจนเธอไม่กล้ามองหน้าเขาตรง ๆ จมูกโด่งริมฝีปากบางเซ็กซี่ หากแต่แววตาของเขามักจะเย็นชา เหมือนอยู่ห่างออกไปไกลหลายพันไมล์ และนั่นทำให้ผู้คนหวาดกลัวที่จะเข้าใกล้เขา
ที่ผ่านมา แม้ว่าฉีเหยียนเอ๋อจะไม่สามารถทำให้มู่เฉินฮ่าวพอใจได้ หากแต่รอบกายมู่เฉินฮ่าวก็ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหน
ด้วยเหตุนี้ทุกครั้งที่ฉีเหยียนเอ๋อเป็นกังวล เสิ่นหรงเจียก็จะปลอบใจฉีเหยียนเอ๋อว่า ผู้หญิงคนเดียวที่เหมาะสมกับมู่เฉินฮ่าว ก็คือฉีเหยียนเอ๋อ
ยิ่งไปกว่านั้น แม่ของมู่เฉินฮ่าวก็ชอบฉีเหยียนเอ๋อมาก ทั้งฉีเหยียนเอ๋อยังนับถือพ่อแม่ของมู่เฉินฮ่าวเป็นพ่อบุญธรรมกับแม่บุญธรรมด้วย นอกจากนี้ทั้งสองครอบครัวก็ยังเป็นเพื่อนกัน และยังมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาก
น่าเสียดายที่ความคาดหวังทั้งหมดต้องล่มสลายลงกลางคัน
***จบตอน เพื่อนสนิทฉีเหยียนเอ๋อ***