แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก - ตอนที่ 75 ไปรับข้อมูลเกี่ยวกับคดีของเฉินเหวินกัง
ทุกครั้งที่นายน้อยโกรธ หรืออารมณ์ไม่ดีเขาจะขับรถ บูกัตติ เวย์รอนออกไปแข่งรถ และครั้งนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น
จางกู้เป่ยผู้กำกับการสำนักสันติบาลของนครเซี่ยงไฮ้เป็นสามีของมู่เฉินเหยาลูกพี่ลูกน้องของมู่เฉินฮ่าว เขารู้ว่ามู่เฉินฮ่าวจะมารับข้อมูลของเฉินเหวินกัง เขาจึงออกมาทักทายด้วยตนเอง ทั้งยังใช้สายตาส่งสัญญานบอกผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา เพื่อให้ความร่วมมือกับนายน้อยมู่เป็นอย่างดีอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ จางกู้เป่ยเป็นเพียงนายตำรวจเล็ก ๆ ในแผนกข่าวกรองของสำนักสันติบาล การที่เขาสามารถขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งนี้ได้ก็ด้วยความช่วยเหลือจากพี่เขยของเขา
ทำไมพี่เขยต้องช่วยเขาขนาดนี้น่ะหรือ ? ก็เพราะเขาได้เมียดีไงล่ะ
สิบนาทีต่อมา มู่เฉินฮ่าวก็ออกมาจากสำนักสันติบาล ในมือของเขาถือถุงเอกสารซึ่งเต็มไปด้วยข้อมูลต่าง ๆ
หลังจากขึ้นรถแล้ว มู่เฉินฮ่าวก็เริ่มอ่านรายละเอียดต่าง ๆ เขาเอื้อมมือออกไปกวักเรียกอาเจิ้งที่นั่งอยู่ในรถคันหลัง
อาเจิ้งลงจากรถ ก้าวไปหามู่เฉินฮ่าว
“นายน้อย”
“ไปที่ตระกูลฉี รับพวกเขาทั้งสามคนจากตระกูลฉีไปส่งที่บ้านตระกูลมู่”
“นายน้อย ว่าจะไปรับเองไม่ใช่หรือครับ ?”
มู่เฉินฮ่าวคว้าถุงเอกสารตบศีรษะของอาเจิ้ง ยามนี้ใบหน้าหล่อเหลาของเขากำลังเหลืออด
“ถ้าฉันสั่งให้นายไป นายก็ต้องไป จะถามอะไรมากมายนักเล่า”
เซี่ยฉิงกงนอนหลับสนิท ครั้นเธอตื่นขึ้นอีกครั้ง ฟ้าก็มืดแล้ว
เซี่ยฉิงกงสะบัดศีรษะอย่างแรงเรียกสติ ครั้นเธอเปิดประตูออกมา เตรียมตัวจะลงไปชั้นล่าง เธอก็เห็นหมั่นโถวยืนรออยู่ที่ประตู
“นายหญิงน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอะไรมั้ย ?”
ดวงตาของหมั่นโถวบวมเล็กน้อย ขณะมองท้องเซี่ยฉิงกง
“ไม่ล่ะ”
เซี่ยฉิงกงส่ายหน้า เธอรู้สึกไม่อยากอาหารเลย
ครั้นหวนนึกถึงสิ่งที่อาเจิ้งพูด เมื่อตอนที่อาเจิ้งกลับมาในช่วงบ่าย เรื่องคดีของเฉินเหวินกังที่เหมือนมีบางอย่างน่ากังขา หากแต่ข้อมูลดังกล่าวยังอยู่ในสำนักสันติบาล เซี่ยฉิงกงจึงถามว่า
“หมั่นโถว ฉันได้ยินอาเจิ้งพูดเมื่อบ่ายวันนี้ว่า คดีของเฉินเหวินกังมีบางอย่างน่ากังขา เธอรู้หรือไม่ว่าข้อมูลเหล่านี้อยู่ที่สำนักสันติบาลไหน ?”
“น่าจะเป็นฝ่ายบริหารทั่วไปค่ะ”
“เธอรู้จักไหม ? พาฉันไปเอาข้อมูลที่นั่นหน่อยสิ”
วันนี้เธอขัดใจมู่เฉินฮ่าว มู่เฉินฮ่าวคงโกรธ และคงไม่เต็มใจที่จะช่วยสืบสวนคดีนี้แล้ว ดังนั้นเซี่ยฉิงกงจึงควรต้องการจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง
ไม่ว่าจะเพราะเหตุใด ตอนนี้เธอก็เป็นคู่หมั้นของมู่เฉินฮ่าวแล้ว แม้จะเป็นเพียงในนามก็ตามที
เธอเดาได้ว่า เรื่องนี้ต้องเกี่ยวพันถึงแม่เลี้ยงของเธอ หากแต่ยังไม่มีหลักฐาน และตอนนี้เธอก็ต้องการยืนยันความคิดของเธอว่าถูกต้องหรือไม่ ?
หมั่นโถวจับมือเซี่ยฉิงกงพร้อมกับพูดว่า
“นายหญิงน้อย ไม่เป็นไร ฉันพาคุณไปหาข้อมูลนั่นเอง แต่ตอนนี้คุณต้องกินข้าวก่อน คุณยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เที่ยง และหากคุณยังไม่กินอาหารค่ำอีก สุขภาพของคุณก็จะย่ำแย่เอาได้”
“ฉันกินไม่ลงจริง ๆ …”
ซี่ยฉิงกงไม่รู้สึกหิวเลยจริง ๆ
แน่นอนว่า เธออาจจะหิวมากเกินไป จนหายหิวเองตอนนอนหลับ
“นายหญิงน้อย ฉันรู้ว่าคุณกับนายน้อยทะเลาะกัน เป็นเรื่องธรรมดาของคนนอนร่วมเตียงเดียวกัน หากคุณยังฝืนไม่กินอะไร นายน้อยคงทุกข์ใจมากแน่ ๆ ”
เซี่ยฉิงกงนึกในใจว่า.. เขาจะไม่รู้สึกแบบนั้นหรอก
“อย่างไรก็ตาม นายหญิงน้อย ทางห้องครัวก็ได้เตรียมอาหารไว้พร้อมแล้ว และฉันก็ได้เตรียมขนมไว้ให้คุณด้วย คุณก็กินนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ยังดี ไม่เช่นนั้นฉันจะไม่พาคุณออกไปข้างนอก”
หมั่นโถวไม่สามารถโน้มน้าวเซี่ยฉิงกงได้ เธอจึงจำต้องต่อรองเช่นนี้
ไม่มีรถประจำทาง หรือแท็กซี่ผ่านเข้าใกล้คฤหาสน์มู่ ดังนั้นหากต้องการออกไปข้างนอก ก็มีแต่จะต้องขับรถออกไปเองเท่านั้น
เซี่ยฉิงกงขับรถไม่เป็น เธอต้องพึ่งพาหมั่นโถว หากว่าเธอต้องการจะออกไปข้างนอก
นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่มู่เฉินฮ่าวสั่งให้หมั่นโถวคอยอยู่ข้างกายเซี่ยฉิงกง
***จบตอน ไปรับข้อมูลเกี่ยวกับคดีของเฉินเหวินกัง***