แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก - ตอนที่ 68 ซุป
ภายในห้องครัว…
หมั่นโถวเหมือนเด็กน้อยที่เฝ้ามองเซี่ยฉิงกงผู้ซึ่งกำลังทำครัวอย่างวุ่นวายด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“นายหญิงน้อย … คุณสุดยอดมากเลย … คุณทำซุปเป็นด้วย”
“ทำไมต้องแปลกใจขนาดนั้นด้วยล่ะ ? ผิดปกติตรงไหนเนี่ย ?”
เซี่ยฉิงกงยิ้มน้อย ๆ ครั้นเธอก้มศีรษะลง ผมของเธอก็แลดูมันเล็กน้อย เธอซับน้ำในมือของเธอจนแห้ง จากนั้นก็รวบมัดผมของตนเอง ก่อนจะนำวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ต้องใช้ในการปรุงซุปมาล้างทำความสะอาด
แท้ที่จริง ซุปที่เซี่ยฉิงกงต้องการทำนั้นง่ายมาก เพราะซุปนั้นคือ ซุปแอปเปิ้ลพุทราและวอลนัท
ทุกสิ่งสามารถหาซื้อได้ทั่วไป อีกทั้งไม่มีสมุนไพรล้ำค่าใด ๆ เลย !
ทว่าประสิทธิผลของซุปนี้กลับล้ำเลิศมาก
เธอยังจำได้ว่า ในช่วงสองสามปีก่อน แม่บุญธรรมของเธอต้องเข้ารับการผ่าตัดเล็ก เนื่องจากเหตุผลทางกายภาพบางอย่าง แม่ของเธอมีอาการเลือดออกมาก
ในครั้งนั้น เซี่ยฉิงกงต้มน้ำซุปนี้ให้แม่บุญธรรมดื่มทุกวัน หลังจากผ่านมาได้ระยะหนึ่ง แม่บุญธรรมก็ฟื้นตัว
ด้วยสภาพร่างกายที่แข็งแรงของมู่เฉินฮ่าว ภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ก็น่าที่จะหายดีจนเกือบเท่าเดิม
แอปเปิ้ลที่ล้างสะอาดแล้วถูกหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ จากนั้นส่วนผสมทั้งหมดก็ถูกเซี่ยฉิงกงโยนลงหม้อ
เธอต้มแอปเปิ้ลพุทรา และวอลนัทด้วยไฟแรง พอเดือดก็ใส่เก๋ากี้ และส่วนผสมอื่น ๆ ลงไป จากนั้นก็ลดไฟลงเหลือเพียงไฟอ่อน เคี่ยวต่อสักครู่ ก่อนจะปิดไฟ
เสร็จสรรพทุกอย่างในรวดเดียว
ต่อไปก็เหลือแค่รอให้มู่เฉินฮ่าวกลับมา
หลังจากล้างมือเรียบร้อย เตรียมตัวที่จะพักผ่อน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เฝ้าตรงประตูก็เข้ามาแจ้งว่า
“คุณหนูใหญ่ตระกูลฉีมาที่นี่..ขอรับ”
ผู้หญิงคนนั้นมาทำอะไร ? เซี่ยฉิงกงโบกมือปัดโดยไม่เสียเวลาคิด เธอเอนตัวลงนอนในสวนอย่างเกียจคร้าน
“ไม่พบ”
อย่างไรก็ตาม ด้วยนิสัยของฉีเหยียนเอ๋อ เซี่ยฉิงกงกลัวว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยน่าที่จะหยุดฉีเหยียนเอ๋อไว้ไม่ได้ ด้วยความที่เซี่ยฉิงกงเป็นนักศึกษาจิตวิทยาด้านการแสดงออกทางจุลภาค เธอจึงสามารถคาดเดาบุคลิกภาพของบุคคลได้จากการพบปะ และสัมผัสเพียงครั้งเดียว
ฉีเหยียนเอ๋อรีบนำซุปที่เคี่ยวอย่างลำบากยากเย็นของซิงเหวินจิ้งมา ไม่เพียงแต่ไม่เชิญเธอเข้าไปดื่มน้ำสักแก้ว แม้แต่จะให้เธอเข้าไปข้างในก็ยังไม่อนุญาต ปล่อยให้เธอรอค้างเติ่งอยู่หน้าประตูที่ปิดสนิทนี่
“ผมต้องขอโทษคุณหนูฉีด้วย นายหญิงน้อยไม่ค่อยสบาย ดังนั้นในวันนี้นายหญิงน้อยจึงไม่อยากพบแขก”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพยายามตอบฉีเหยียนเอ๋ออย่างชาญฉลาด
ฉีเหยียนเอ๋อโกรธมาก
“ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อพบผู้หญิงคนนั้นสักหน่อย ฉันมาที่นี่เพื่อพบพี่เฉินฮ่าวของฉัน !”
“นายน้อยก็ไม่อยู่บ้านครับ”
“แก …”
ฉีเหยียนเอ๋อชี้นิ้วเรียวขาวสั่น ๆ ไปที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เธอจะไม่โกรธได้ไง แม้แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยังล้อเลียนเธอ ?
เธอเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลฉีที่สง่างาม และเธอทำอะไรก็ไม่เคยผิด
ครั้นเห็นใบหน้าที่ค่อนข้างบิดเบี้ยวของฉีเหยียนเอ๋อแล้ว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็อยากจะร้องไห้ ทว่าคำสั่งสั้น ๆ นั้นเขาก็ไม่สามารถฝ่าฝืนได้ เนื่องจากนายหญิงน้อยไม่อยากพบ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจนักว่า
“หรือ ไม่คุณก็รอที่ประตูจนกว่านายน้อยจะกลับมา ?”
ว่าไงนะ ? ให้เธอรอที่ประตูงั้นรึ ? ทำอย่างนี้ได้ไง ? ทำไม ?
ฉีเหยียนเอ๋อก้าวลงจากรถ เดินลงมาด้วยรองเท้าส้นสูง ในมือของเธอถือกระติกใส่ซุป เธอก้าวเข้าคฤหาสน์
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรีบก้าวไปดักหน้า หยุดเธอไว้
“คุณหนูฉี คุณเข้าไปไม่ได้นะครับ !”
“แก.. ออกไปให้พ้นหน้าฉันนะ แกไม่รู้หรือว่าฉันเป็นใคร ? กล้าดียังไงมาห้ามฉัน ฮึ..หากแกกล้าขวางฉัน ฉันเอาเรื่องแกแน่”
ฉีเหยียนเอ๋อตวาดเสียงดัง
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตกใจมาก เขาไม่กล้าห้ามเธออีก
เซี่ยฉิงกงนอนอยู่ในคฤหาสน์ เธอหลับตาลง สัมผัสได้ถึงท้องฟ้าสีคราม ปุยเมฆสีขาว และสายลมที่พัดเอื่อย ๆ
รู้สึกดี และสบายมาก ๆ
แต่แล้วสัมผัสที่ยอดเยี่ยมก็มลายหายไป …
เธอได้ยินเสียงบางอย่างดังมาแต่ไกล หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงแหลมปรี๊ดของฉีเหยียนเอ๋อที่ประตู
หมั่นโถวผู้ซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ เซี่ยฉิงกงอดไม่ได้ที่จะเม้มปาก
“คุณหนูฉีเสียงดังจริง ๆ ดังจนมาถึงข้างในนี่”
***จบตอน ซุป***