แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก - ตอนที่ 65 คุณคิดถึงเขาแล้วหรือ ?
“ห้ามขยับ”
มู่เฉินฮ่าวหลับตา พลางวางแขนที่แข็งแรงของเขาโอบรอบเอวของเซี่ยฉิงกง หากแต่ก็ไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆ ต่อ
ครั้นง่วงนอนมากเข้า เซี่ยฉิงกงก็ปรับตำแหน่งการนอนให้สบาย และหลับไปในไม่ช้า
โชคดีที่บาดแผลบนแขนของเซี่ยฉิงกงนั้นอยู่ข้างเดียวกับมู่เฉินฮ่าว หาไม่การนอนท่านี้อาจจะกดบาดแผลของมู่เฉินฮ่าว หรือไม่ก็กดบาดแผลของเซี่ยฉิงกงแทน
วันถัดมา
ครั้นเซี่ยฉิงกงตื่นขึ้นมา ก็เป็นเวลาประมาณแปดโมงกว่าแล้ว มู่เฉินฮ่าวไม่ได้อยู่ที่นั่นอีกต่อไปแล้ว
หลังจากพลิกตัว เพื่อปรับเปลี่ยนทิศทาง ปลายจมูกของเธอก็ยังคงได้กลิ่นของมู่เฉินฮ่าว
ไม่คาดคิดเลยว่า เธอจะหลับสบายทั้งที่มีคนนอนอยู่ข้างเธอเช่นนี้ได้
กลิ่นดีมากเลย เป็นกลิ่นลมหายใจที่เป็นเอกลักษณ์ของมู่เฉินฮ่าว
เซี่ยฉิงกงลูบหมอนของมู่เฉินฮ่าว จากนั้นก็ล้มตัวลงนอนต่อไปสักพัก ก่อนจะลุกขึ้น
หลังจากอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว เธอก็เปิดประตูก้าวออกจากห้อง เธอเห็นหมั่นโถวรออยู่ที่ประตู
“หมั่นโถวความจริงเธอไม่จำเป็นต้องรอฉันที่ประตูตลอดเวลาก็ได้ ไว้ฉันลุกขึ้นเมื่อไหร่ ฉันก็จะเรียกหาเธอเอง”
เซี่ยฉิงกงพบว่า ทุกวันที่เธอผลักประตูออกมา เธอก็จะเห็นหมั่นโถวยืนรออยู่ที่ประตู เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าไม่จำเป็น และเธอก็ไม่ใช่คนที่ต้องการให้ใครมารอเธอตลอดเวลา !
“ไม่เป็นไรค่ะ นายหญิงน้อย นี่เป็นหน้าที่ของฉัน”
เซี่ยฉิงกงส่ายหน้าอย่างจนปัญญา ก่อนจะลงไปชั้นล่าง จากนั้นพ่อครัวก็นำอาหารเช้าที่เตรียมไว้แล้วออกมาเสริฟ์
เซี่ยฉิงกงดื่มนม กินแซนด์วิชไปพลางเหลือบมองหมั่นโถวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ไปพลาง
“หมั่นโถวดีขึ้นไหม ?”
“ฉันไม่เป็นไร นายหญิงน้อยไม่ต้องเป็นห่วง”
“บ้าจริง แม่ของมู่เฉินฮ่าวโหดร้ายเหลือเกิน ไม่น่าจะทำร้ายใบหน้าคนอื่นแบบนี้ ทีกับใบหน้าตัวเองล่ะดูแลอย่างดี”
หลังจากกินแซนด์วิชแล้ว เซี่ยฉิงกงก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มบ่น
หมั่นโถวแกว่งหมัด เงยหน้าขึ้นพลางพูดว่า
“หากคน ๆ นั้นไม่ใช่แม่ของนายน้อยแล้วมารังแกคุณล่ะก็ ฉันคงทุบเขาให้จำแม่ตัวเองไม่ได้ไปแล้ว”
ใบหน้าเล็ก ๆ ยังบวมอยู่นิดหน่อย หากแต่ก็ยังดีกว่าเมื่อวานมาก
เซี่ยฉิงกงหัวเราะเบา ๆ
“คราวหน้าจะคอยดูว่า การทุบคนอื่นจนจำแม่ตัวเองไม่ได้น่ะเป็นยังไง ?”
“คุณเคยเห็นหมูมั้ย ? แบบนั้นแหละ คุณคิดว่า พวกมันจำแม่มันได้หรือเปล่าล่ะ ?”
“ฮ่า ๆ ๆ ”
เซี่ยฉิงกงรู้สึกขำหมั่นโถว เธอหัวเราะจนเจ็บท้อง
คุยกับหมั่นโถวหลังอาหารเช้าแล้ว เซี่ยฉิงกงพลันนึกขึ้นได้ว่ามู่เฉินฮ่าวมักจะหายตัวไปทุกเช้า ก่อนที่เธอจะตื่นขึ้นมา และนั่นเริ่มทำให้เธอรู้สึกสงสัยเล็กน้อย
“หมั่นโถว..เธอรู้มั้ยว่า ทำไมนายน้อยถึงออกไปข้างนอกแต่เช้าทุกวัน ฉันตื่นขึ้นมาไม่เห็นเขาทุกเช้าเลย”
“นายหญิงน้อย นายน้อยจากไปแค่ชั่วโมงเดียว คุณก็คิดถึงเขาแล้วเหรอ ?”
“อยากโดนดีใช่มั้ย ?”
เซี่ยฉิงกงกลอกตามองหมั่นโถว แม่สาวใช้คนนี้กล้าล้อเลียนเธอ
“นายน้อยงานยุ่งมากจริง ๆ ตั้งแต่ปีที่แล้วที่นายท่านมู่มอบตำแหน่งประธานกลุ่มธุรกิจมู่ให้นายน้อย นายน้อยเพียงคนเดียวต้องบริหารบริษัทย่อยทั้งขนาดใหญ่ และขนาดเล็กหลายร้อยแห่งทุกวัน และปกตินายน้อยก็เป็นคนจริงจัง อีกทั้งมีความรับผิดชอบมากอยู่แล้ว ทุกโครงการจะได้รับการตรวจสอบเป็นการส่วนตัว เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีปัญหาใด ๆ ก่อนการดำเนินการ”
“โอ้โห ขนาดนั้นเลย”
เซี่ยฉิงกงครุ่นคิด ไม่น่าแปลกใจเลยที่มู่เฉินฮ่าวมักจะจับจ้องหน้าจอโน้ตบุ๊คของเขา เซี่ยฉิงกงเคยเห็นข้อมูลบนจอเหล่านั้น หากแต่เธอก็ไม่ค่อยเข้าใจ
“อย่ามองว่านายน้อยอยู่ในตำแหน่งที่สูง เพราะในความเป็นจริงยังมีอีกหลายคนที่กำลังจับตามองตำแหน่งของเขา และต้องการดึงเขาลงจากเก้าอี้ ตัวอย่างเช่น มู่จื่อเหิงผู้ซึ่งเป็นอารองของเขา”
“สถานการณ์เป็นอย่างไร ? บอกฉันให้ละเอียดกว่านี้หน่อยสิ”
หมั่นโถวส่ายศีรษะ
“ฉันเองก็ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางนัก ฉันรู้เพียงว่ามีความไม่ลงรอยกันระหว่างอารองของนายน้อยกับคุณพ่อของนายน้อย พวกเขาขัดแย้งกันอย่างลับ ๆ มาหลายสิบปีแล้ว”
“หือ..”
ฉันคิดว่ามู่เฉินฮ่าวอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมของครอบครัวที่ดีมาตั้งแต่ยังเด็ก อยากจะทำอะไร อยากจะได้อะไรก็ย่อมต้องได้ทุกสิ่งทุกอย่าง เขาเลยมีนิสัยอย่างที่เป็นทุกวันนี้
ไม่คาดคิดว่าตระกูลมู่ และตระกูลเซี่ยจะเหมือนกันทุกประการ
แน่นอนว่า ยิ่งตระกูลร่ำรวย และทรงอิทธิพลมากเท่าไร ก็ยิ่งแล้งน้ำใจ
ความรักในครอบครัวมีค่าน้อยกว่า ‘ขี้’
***จบตอน คุณคิดถึงเขาแล้วหรือ ?***