แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก - ตอนที่ 3 เป็นคุณหนู..ใหญ่จริง ๆ
ผู้ชายที่มากประสบการณ์เช่นนี้ ต่อต้านไปก็คงไม่เป็นผล ท่าทางเขาเป็นคนรักสนุก และเจ้าชู้ไม่เบาเลย !
ครั้นเซี่ยฉิงกงคิดได้เช่นนี้ เธอก็แสร้งทำเป็นโอนอ่อนผ่อนตามเคลิบเคลิ้มไปกับเขา แล้วเมื่อไรที่เขาผ่อนกำลังลง ก็ค่อยอาศัยประโยชน์จากการคลายความระมัดระวังของเขา
พอสบโอกาสเธอก็ยกขาขึ้นทันทีพร้อมกับเตะขึ้นไปด้านบน
หากแต่ในขณะที่มู่เฉินฮ่าวรู้สึกผ่อนคลาย เขาก็รู้สึกได้ว่าต้องมีบางอย่างผิดปกติ เด็กสาวที่ดื้อรั้นเช่นนี้จะเต็มใจง่าย ๆ ได้อย่างไร ? ดังนั้นพอเซี่ยฉิงกงเตะร่างกายบริเวณส่วนล่างของเขา มู่เฉินฮ่าวก็หลบได้อย่างทันท่วงที
“บ้าเอ๊ย !”
เซี่ยฉิงกงเตะไม่โดนจุดยุทธศาสตร์ของเขา ส่วนมู่เฉินฮ่าวก็ผละออกไปยืนอยู่ด้านข้างเสียแล้ว
“ไม่คาดคิดเลย เธอนี่ก็เก่งใช้ได้เลยทีเดียว”
จากนั้นมู่เฉินฮ่าวก็ไม่พูดอะไรต่อ เขาเอื้อมมือไปจับข้อมือของเซี่ยฉิงกงจนเธอรู้สึกเจ็บ
“คุณจะทำอะไรปล่อยฉันนะ !”
“ปล่อยเธอไปเหรอ ? ที่มานี่ก็เพื่อล่อลวงฉันไม่ใช่เรอะ ?”
มู่เฉินฮ่าวดึงตัวเธอขึ้น จากนั้นก็กดเธอติดกับกำแพง เขาใช้มือข้างหนึ่งจับคางเล็ก ๆ และงดงามของเซี่ยฉิงกงไว้แน่น
“คุณ…”
แคว่ก !
ก่อนที่เซี่ยฉิงกงจะทันได้พูดอะไร เธอก็รู้สึกเย็นวาบที่บริเวณหน้าอก ครั้นเธอก้มลงมอง เธอก็เห็นมู่เฉินฮ่าวกำลังฉีกทึ้งเสื้อของเธอออกเป็นชิ้น ๆ เผยให้เห็นชุดชั้นในสีขาวที่ซ่อนอยู่ด้านใน
เซี่ยฉิงกงกรีดร้อง เธอรีบยกมือขึ้นปิดหน้าอกของตนเองทันที เธอพลันคิดได้ว่ายังมีสัญญาซ่อนอยู่ที่บริเวณบั้นเอว เธอรีบยื่นมือออกมากุมเอวตนเองอย่างรวดเร็ว มู่เฉินฮ่าวมองการเคลื่อนไหวของเธออย่างเย็นชา เขายังคงยืนยันที่จะทำตามความปรารถนาในใจ มือของเขายังคงฉีกทึ้งเสื้อผ้าที่เหลือของเธอไปเรื่อย ๆ
“ชุดยูนิฟอร์มของผับคราวน์นี่ใช้ได้เลยนะ ให้อารมณ์ดีเหมือนกัน”
“คนสารเลว !”
มู่เฉินฮ่าวหัวเราะเยาะ เขาออกแรงเพียงเล็กน้อยเสื้อผ้าในมือของเขาก็ขาดเป็นรูขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
เซี่ยฉิงกงได้แต่ตื่นตระหนก เธอพยายามปกปิดร่างของตนเองเต็มที่
มู่เฉินฮ่าวขยับมือไปเรื่อย ๆ กระทั่งตอนนี้รอยขาดก็ร่นลงมาจนถึงเอวของเธอ ทว่าเซี่ยฉิงกงกลับยังไม่ยอมปล่อยมือที่เกาะกุมบั้นเอวของตน หยาดน้ำตาแห่งความกังวลพลันไหลรินลงมา
หมอนี่กินยาผิดมาใช่มั้ย ! วันนี้ฉันไปทำอะไรกับใครไว้เหรอ ? ทำไมต้องมาเจอปีศาจนรกคนนี้ด้วย !
หรือพรหมจรรย์ของฉันจะป่นปี้ลงที่นี่แล้ว ?
ยิ่งฉิงกงปกปิดร่างของเธอมากเท่าไหร่ ? มู่เฉินฮ่าวก็ยิ่งจับมือของเธอไว้แน่นขึ้น จนทำให้เธอขยับไม่ได้เลย
ครั้นเห็นเซี่ยฉิงกงหน้าแดงเพราะความกังวล ดวงตาสีเข้มของมู่เฉินฮ่าวก็ยิ่งฉายแววแปลก ๆ ยามนี้เขาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่เร่าร้อน
จะทำไงดี ? วันนี้จะต้องเสียตัวให้ชายแปลกหน้าคนนี้จริง ๆ เหรอ ? คงไม่เลวร้ายขนาดนั้นใช่มั้ย ? …
ฉันยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่เลยนะ
ปัง !
“คุณหนูใหญ่ !”
ในขณะที่เซี่ยฉิงกงกำลังตื่นตระหนกอยู่นั้น เธอก็ได้ยินเสียงกระแทกประตูเปิดออก พร้อมกันนั้นเสียงหนักแน่นกังวานก็ดังก้องเข้ามา
“คุณหนูใหญ่ ?”
มู่เฉินฮ่าวหยุด เขามองเซี่ยฉิงกงซึ่งยังคงถูกกดติดกับกำแพง
ครั้นเซี่ยฉิงกงเห็นกลุ่มคนกำลังเดินเข้ามา เธอก็ผงะไปชั่วขณะ จากนั้นแววตาของเธอก็สงบลง … สายตาแห่งความสิ้นหวังพลันจางหายไป … ไม่ต่างจากท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ถูกเมฆดำปกคลุมไปทั่วจนดำมืด แล้วจู่ ๆ หมู่ดาวก็สาดส่องประกายลงมา
มู่เฉินฮ่าวยังคงรู้สึกสงสัยอยู่เล็กน้อย
ทำไมถึงเรียกเธอว่า ‘คุณหนูใหญ่’ ?
ชายในชุดสูทสวมแว่นตากรอบทอง เห็นเซี่ยฉิงกงพยายามใช้มือรวบเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งของเธอ ใบหน้าของเขาก็กระตุกเล็กน้อย แต่แล้วเมื่อเขาเห็นว่าเป็นมู่เฉินฮ่าว เขาก็ต้องฝืนสงบความโกรธในใจลง
“คุณชายมู่ ยินดีที่ได้พบ ไม่ทราบมีเรื่องเข้าใจผิดอะไรกับคุณหนูของเราหรือเปล่า ?”
“ไม่มี”
มู่เฉินฮ่าวลดมือลง และปล่อยเซี่ยฉิงกงไป
เซี่ยฉิงกงเหลือบมองมู่เฉินฮ่าวด้วยสายตาว่างเปล่า เธอผลักเขาออก จากนั้นก็ชี้ไปที่บอดี้การ์ดด้านหลังชายสวมแว่นกรอบทอง พร้อมกับตวาด
“ถอดมา !”
***จบตอน เป็นคุณหนู..ใหญ่จริง ๆ***