หลังจากเห็นข่าวที่สะเทือนใจบรรดาคุณแม่คุณพ่อที่มีลูกเล็กๆทั้งหลาย จางเสี่ยวก็ละทิ้งความคิดที่จะฝาก “ลูกไว้ที่คนอื่นทันที เพราะนั่นมันก็ต่างอะไรกับการฝากปลาย่างไว้กับแมวสักนิดถ้ากลับบ้านมาแล้วพบว่าลูกเหลือแต่กระดูกถึงเวลานั้นเธอจะไปทวงเอากับใครที่ไหนได้เล่า!?
โดยอย่างยิ่งลูกชายตัวน้อยที่แสนบอบบางของเธอ!!เขาคง
เอาตัวรอดไม่ได้แน่!
ดังนั้นไม่ว่าลําบากยังไงเธอก็จะต้องเอาลูกชายไปถ่ายทําด้วยให้ได้!!
ถึงแม้ในใจจะรู้สึกกังวลมากก็ตาม แต่เธอคิดว่าบางที่อาจจะฝากลูกไว้ที่กองอํานวยการได้ก็ได้ เพราะเบื้องก่องถ่ายคงไม่เลวร้ายเหมือนฉากหน้าที่เอาไว้ถ่ายทําแน่ๆ จากนั้นเธอก็ไปเข้าแสดงส่วนลูกชายก็นั่งดูการถ่ายทําอยู่เบื้องหลัง อ่าแบบนั้นก็ไม่เลวเหมือนกัน!?
จางเสี่ยวไม่รอช้า เธอหยิบมือถือขึ้นมาแล้วโทรไปหาเสี่ยวจิงในทันที
“ฮัลโหลวว คุณจางเหรอ!? มีธุระอะไรด่วนเหรอครับ!?”เสี่ยวจึงรู้นิสัยจางเสี่ยวแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องเก็กให้เสียเวลาอีกต่อไป
“คุณเสี่ยวจิง ฉันจะเอาลูกไปถ่ายทําในรายการด้วย…ได้ไหม!?” จางเสี่ยวพูดตามตรงแบบไม่อ้อมค้อมสักนิด
“ก็ไม่ได้นะสิ!! พวกเราจะไปถ่ายทํารายการเอาชีวิตรอดในโลกอันเลวร้ายกันนะ ไม่ใช่ไปถ่ายวาไร ตี้สุขสันต์วันเด็กล้มเลิกความคิดซะเถอะ! ฉันอนุญาตให้ ไม่ได้!” เสี่ยวจิงตอบเสียงดังพร้อมกับส่ายหัวระวิง ตอนนี้ แม้แต่ผู้ใหญ่ตัวโตๆเขายังไม่รู้จะรับรองความปลอดภัยในราย การให้ได้ไหม!? แล้วนี่เด็ก..แถมยังบอบบางไม่ต่างอะไร จากคนเป็นแม่ด้วย! แค่ลมพัดนิดเดียวเด็กตัวน้อยนั่นอาจจะ ป่วยได้แล้ว
“คุณไม่ต้องห่วง จริงๆแล้วลูกชายฉันนั้นฉลาดมากๆและอีกอย่างหนึ่งคุณก็รู้นี่ว่าฉันเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว จะทอดทิ้งลูกได้ยังไง!?” จางเสี่ยวหยิบน้ําขึ้นมาจิบเพราะรู้ว่าบทสนทนาครั้งนี้คงยาวกว่าครั้งไหนๆ
“เหรอ!? งั้นเธอรู้ไหมว่าสมัยนี้เขามีบริการพี่เลี้ยงออนไลน์หรือโรงเรียนประจํากันแล้ว เคยใช้บริการหรือยัง!?” ยังไงเขาก็ไม่ยอมให้เด็กมาแน่ๆ ถ้าเด็กเป็นอะไรไปเขาคงรับผิดชอบไม่ไหวและอีกอย่างหนึ่งสมัยนี้พ่อแม่ที่งานยุ่งมักจ้างพี่เลี้ยงเด็กเป็นเรื่องปกติ
“เสี่ยวจิง ฉันเป็นห่วงลูกนะ ฉันจะไว้ใจคนอื่นได้ยังไง!? เกิดระหว่างทํางานแล้วพี่เลี้ยงตีลูกชายฉัน แบบนั้นฉันคงไม่มีอารมณ์จะถ่ายทําแน่ๆ แล้วก็นะ ค่าเลี้ยงดูหักจากเงินของ ฉันได้เลย”จางเสี่ยวทุ่มสุดตัวถึงขั้นยอมลดกระทั่งเงินค่าตัวแล้ว
เสี่ยวจิงไม่รู้จะทํายังไงเพราะอีกฝ่ายยืนยันหนักแน่นคงไม่ทางที่เธอจะเปลี่ยนใจอีกแล้ว อีกทั้งสถานการณ์ขาดเงินของจางเสี่ยว เสี่ยวจิงก็รู้เต็มอก ดังนั้นเขาคิดว่ามนุษย์เราควรจะมีจิตใจเมตตาช่วยเหลือกันบ้าง
“ก็ได้ๆ แต่ว่าพวกเราไม่รับผิดชอบเรื่องเด็กนะเกิดอะไรขึ้นกับเขาไม่เกี่ยวกับพวกเรา เธอเอาไปก็ดูแลเอาเองตกลงไหม!?” เสี่ยวจิงตกลงที่จะยอมให้เด็กอยู่ เขาจะให้เด็กไปอยู่ที่กองอํานวยการ แต่แน่นอนว่าภาระดูแลเด็กไม่ใช่หน้าที่ของเหล่ากองถ่าย
“ขอบคุณมากค่ะเสี่ยวจิง” ดังนั้นด้วยวิธีนี้ จางเสี่ยวจึงสามารถแก้ไขปัญหาที่ทําให้เธอนั้นเดือดร้อนได้สําเร็จ และจางซิงเฉินก็บรรลุความปรารถนาที่จะอยู่ร่วมกับเธอด้วย !
“เสี่ยวซิง แม่จะพาลูกไปถ่ายทําที่กองถ่ายด้วยก็ได้แต่!ลูกต้องเป็นเด็กดี ไม่งอแง ไม่ดื้อ ไม่ซน และไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับลุงๆป้าๆที่กองถ่ายเด็ดขาดนะ ถ้าลูกทําไม่ได้แม่จะไม่ลังเลที่จะส่งลูกไปอยู่โรงเรียนประจํา!” แน่นอนว่าประโยคหลังก็แค่คําขู่!
หลังจากวางสาย จางเสียวก็บอกข่าวดีกับจางซิงเฉินและทําข้อตกลงทั้งหมดกับลูกชาย โดยให้เขารับปากว่าจะทําตามอย่างเคร่งครัด
จางซิงเฉินเมื่อได้ยินคําพูดของแม่ก็ดีใจทันทีดวงตากลมโตของเขาปรากฏประกายแสงแห่งความหวังออกมา “จริงเหรอครับคุณแม่!? แม่จะไม่ทิ้งเสี่ยวซิงจริงนะ!?”
จางเสี่ยวพยักหน้าเบาๆ ตอบรับ จางซิงเฉินที่มีนิสัยฉลาดและนิ่งมาตลอดถึงกับลืมภาพพจน์ของตัวเองและกระโดดโห่ร้องด้วยความดีใจ
* ไชโยวววว! เสี่ยวชิงได้อยู่กับแม่แล้ว! เสี่ยวชิงจะไม่โดนแม่ทิ้งแล้ว!”
ในตอนนี้จางซิงเฉินดูทําทางมีความสุขเหมือนเด็ก ๆ คนอื่นๆทั่วไป เขากระโดดไปเรื่อยๆ พร้อมกับชูมือขึ้นลงอย่างดีอกดีใจ…มันช่างต่างกับตอนที่รับมาเลี้ยงใหม่ๆ ชนิดไม่เห็นฝุ่น
จางเสี่ยวมองดูลูกชายตัวน้อยและแสดงอารมณ์ขบขัน “ดีใจมากเวอร์ไปแล้ว เดี๋ยวบ้านๆข้างก็ได้ยินหรอก”
“ก็เสี่ยวชิงดีใจนี่นา เสี่ยวซิงจะได้อยู่กับคุณแม่!” พอพูดจบเสี่ยวซิงก็กระโดดมากอดจางเสี่ยวอย่างแนบแน่น ใบหน้าของเด็กชายสุดเอากลิ่นกายหอมอ่อนๆของแม่มาเต็มอก “แม่ครับเสี่ยวซิงรักแม่
“ฮ่า ฮ่า เด็กผู้ชายเนี่ยปากหวานจริงๆ” จางเสี่ยวลูกหัวลูกชายอย่างอ่อนโยน แล้วครุ่นคิดเล็กน้อย..นี่ลูกชายฉันเขาคือตัวร้ายแน่เหรอ!? เธอนึกไม่ออกเลยว่าลูกชายที่แสนดีจะ “ทุบตีนางเอกจนใบหน้าบวมเหมือนลูกหมูได้อย่างไร!?
“งั้นเสี่ยวชิง วันนี้ลูกคิดว่าพวกเราจะกินอะไรกันดี !? ลูกอยากกินเหมือนเดิม หรือเอาเพิ่มมากขึ้นสักหน่อย?”
เมื่อเห็นว่าเกือบเที่ยงแล้ว จางเสี่ยวก็เต็มไปด้วยความหิวโหย
เมื่อเห็นจางเสี่ยวถามเขาแบบนี้แน่นอนว่าจางซิงเฉินผู้เก่งฉกาจก็ตอบว่า “ แม่ครับ เสี่ยวซิงอยากกินข้าวเยอะ ๆ !”
“ถูกต้อง! ถ้าลูกผอมมาก ลูกก็ควรกินมากขึ้น!”
และแล้วทั้งสองคนก็ออกไปทานอาหารกันหน้าปากซอยชุดใหญ่ โดยที่ 80% ของอาหารนั้นตกไปอยู่ในพุงของจางเสี่ยว
หลังจากทานอาหารเสร็จจางเสี่ยวก็พาลูกชายกลับมาที่บ้านแล้วกําชับลูกชายให้ดีอีกครั้งหนึ่ง “ลูกรัก คืนนี้ลูกใส่จี้หยกเส้นนี้แล้วเข้านอนนะ” ที่ต้องกําชับเพราะเมื่อวาน จางซิงเฉินถอดมันออกมาเล่นแล้วเผลอหลับ
เธอตั้งใจที่จะให้นิ้วทองช่วยขัดเกลาร่างกายของลูกชายเธอให้แข็งแกร่งขึ้น! เพราะอีกไม่นาน เขาจะต้องเดินทางไปพร้อมเธอและตกอยู่ในสถานการณ์ไม่รู้ว่าจะมีอันตรายอะไรเกิดขึ้นกับตัวเขาไหม!?
อะแฮ่ม!! เตรียมตัวอัพสกิลรัวๆแบบนี้ต้องมีนัยสําคัญแน่!!
MANGA DISCUSSION