แซก แซก
“ นั้นคือทางลงไปยังหมู่บ้านครับ… ”
“ อ่า… เปลี่ยนไปจริงๆแหะ ”
เจ้าลิงที่ถูกมาสั่งนั้นก็ได้พาเขามายังทางลงไปยังชั้นที่ 100 ทว่าทันทีที่มาถึงเขาก็เห็นว่าอะไรหลายๆอย่างมันเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปจากแบบแปลนที่มาร์จำได้ เพราะในตอนที่เขาสร้างทางลงนี้นั้นมันควรจะเป็นเพียงซุ้มประตูหินขนาดใหญ่คล้ายประตูทางเข้าศาลเจ้า ทว่าตอนนี้มันกลับมีการตั้งแนวป้องกันไว้อย่างแน่นหนา เป็นกำแพงล้อมรอบทางลง แถมตรงซุ้มประตูก็มีประตูไม้ขนาดใหญ่มายึดติดไว้อีก
เจี๊ยกๆๆๆ อูก้า อูก้าอู้!!
[ อืม… อืม… แบบนี้ถ้าบุกเข้าไปตรงๆ ยังไง คอนเซนเทลก็ตายแหงๆ ]
และนอกจากกำแพงไม้พวกนั้น มาร์ก็ได้เห็นว่าบนกำแพงเองก็กำลังมีฝูงลิงลาดตระเวนอยู่อีกด้วย โดยพวกมันทุกตัวล้วนแล้วแต่ถือปืนมากมายหลายชนิดเอาไว้ แต่ไม่ว่าจะชนิดไหนเกราะกับอุปกรณ์ที่คอนเซนเทลมีตอนนี้ถ้าโดนเข้าไปก็ไม่รอดอย่างที่เขาว่าแน่ๆ
“ อึก…มีปืนกันหมดแบบนั้น ”
คอนเซนเทลที่ตามมาห่างๆก็มองดูพวกนั้นด้วยความระวัง เขารู้ดีถึงพลังอำนาจของอาวุธปืนประกอบกับจำนวนที่มีอยู่บนนั้นหากเขาวิ่งออกไปตอนนี้คงโดนยิงพรุนเป็นเศษกระดาษแน่ๆ ทว่าอคโตที่กำลังนั่งชันเข่าอยู่ข้างหลังมาร์ เธอเองก็มองดูพวกมันด้วยความระมัดระวัง ก่อนที่เธอจะกระซิบถามกับนายท่านด้วยเสียงที่เบาแสนเบา
“ นายท่านคะ…คิดว่าพวกเราควรจะทำอย่างไรต่อดีคะ ”
“ นั้นสินะ ถ้าบุกเข้าไปผมกับอคโตน่ะไม่น่ามีปัญหาหรอก แต่นั้นน่ะ…อืม นั้นแหล่ะ ต่อให้หลบอยู่แถวนี้ก็มีโอกาสโดนลูกหลงตายอยู่ดี แบบนี้คงต้องเข้าไปแบบ… ”
ฉึบ
“ ท่านมาร์จะ…อุ๊!! ”
“ เงียบๆ… ”
มาร์เขามีแผนอะไรบางอย่าง และแผนนั้นก็ทำให้เขาลุกขึ้นเดินไปตัดพันธนาการของเจ้าลิงที่ยืนเหม่อไม่ได้สติออกแล้วเอาปืนที่เขายึดมายัดใส่มือของมัน ก่อนจะค่อยๆเดินถอยห่างกลับมาซ่อนตัวยังจุดที่อคโตอยู่ ส่วนคอนเซนเทลที่เห็นก็หลุดปากถามทว่าก็ไม่ทันจะได้พูดจบก็ถูกอคโตใช้ปลอกดาบแทงยัดปากจนเขาล้มลงไป
“ …ห๊ะ?!? เห?!? อ่าา… ที่นี้ ที่ไหน เดี๋ยวนะ ทางลงหมู่บ้าน?! ไหงเรามาอยู่นี้ได้ล่ะ?? ”
และเพียงไม่นานเจ้าลิงนั้นก็ได้สติกลับมา ทว่า…มันมองไปรอบๆด้วยความสับสน ซึ่งก็ไม่แปลกที่จะเป็นแบบนั้นเพราะจู่ๆตัวเองมายืนงงๆอยู่ที่ทางลงหมู่บ้าน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไปเจอกับอะไรมาก็ไม่รู้ เป็นใครก็สับสน อย่างไรก็ตามเจ้าลิงนั้นก้มหน้าลงแล้วใช้มือกุมขมับตัวเองก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับพูดออกมาว่า
“ ฝันกลางวันไปเองล่ะมั้ง…นะ? เห้ออ แต่ช่างเหอะ ยังไงวันนี้ก็รอดมาได้ยังไงกลับก่อนก็คงไม่เสียหายอะไร? ”
เจ้าลิงนี้ พอหาคำตอบให้กับตัวเองได้แล้ว ก็เริ่มจะเดินตรงไปยังแนวป้องกันในทันที โดยในระหว่างที่เดินเข้าไป มันก็ได้เก็บเอาปืนที่อยู่ในมือสะพายไปไว้ด้านหลัง แถมยังโบกมือให้กับแนวป้องกันนั้นอีก
“ โอ้ย!! ข้ากลับมาแล้ว!! ”
อูก้า อูก้า อู้?
“ เห้ย! ไอ้เลโอมันกลับมาแล้วเว้ย!! เปิดประตู เปิดประตู! ”
“ อู้ อู้! ”
“ เปิดประตู!!! ”
แกร็ก แกร็ก แกร็ก แกร็ก
“ กลับมาแล้วเหรอวะเลโอ! ”
“ มือเปล่าแบบนี้ แสดงว่าซวยอ่ะเด้! ”
“ อย่าทักงั้นดิวะ ฮ่าๆๆๆ ”
และทันทีที่เห็น พวกมันก็รีบเปิดประตูก่อนจะเข้ามาทักทายกันกับลิงที่มาร์เพิ่งจะได้ปล่อยไป ดูเหมือนว่ามันจะชื่อว่า เลโอ โดยลิงที่เฝ้ายามนั้นก็มีอีกมากมายหลายรูปแบบทั้งขนาดตัวที่ใหญ่เหมือนกอริล้า หรือแม้แต่บางตัวที่มีขนสีแดงคล้ายอุรังอุตัง
แก็ง กึก กึก กึก
“ อ้าว ชิบหาย? ประตูเป็นอะไรวะนั้น ”
“ อืม… เชี้ย เฟืองโดนงัดเห้ย!! ปิดระบบก่อน! เดี๋ยวประตูพังไอชิบหาย!! ”
“ อ้าวๆๆ เออๆ!! ปิดแล้ว! ”
ทว่าทันทีที่ประตูเปิดออกปัญหาบางอย่างก็เกิดขึ้น เพราะแทนที่กลไกของมันจะปิดประตูตามปกติ ก็ต้องสะดุดหยุดลงราวกับว่ามีบางอย่างไปงัดเอาไว้ พวกลิงที่เฝ้ายามพอเห็นเช่นนั้นก็ต่างพากันไปดูแล้วตรวจสอบก็พบว่ามันมีแท่งเหล็กบางอย่างเสียบงัดกับกลไกเอาไว้ พวกลิงก็เลยต้องรีบช่วยกันเอาแท่งเหล็กเล็กๆนี้ออก โดยที่เลโอก็ยืนมองดูอยู่ด้วย
“ ไหนๆ ไปเอาคีมมาซิ ”
“ เห้ออ ไหงมีเหล็กเส้นมางัดได้ล่ะนั้น ”
“ ไม่รู้สิ แต่ว่า ฟืด ฟืด พวกแกไม่ได้กลิ่นอะไรแปลกๆบ้างเหรอวะ? ”
“ กลิ่นอะไรล่ะเลโอ? กลิ่นตัวแกหรือ… เอ่อ ว่ะ กลิ่นไหม้ๆ แหะ ”
“ !!! ”
ตึก ตึก ตึก
“ ไฟไหม้!!! ไฟไหม้กำแพงเว้ย!! ”
อย่างไรเสียความซวยก็เหมือนจะไม่จบเมื่อระหว่างที่แท่งเหล็กนั้นกำลังจะหลุดออกมาได้ กลิ่นไหม้ก็ลอยโชยมาจากด้านนอก นั้นทำให้เลโอรีบวิ่งออกไปดูแล้วก็พบกับไฟที่กำลังไหม้อยู่ตรงแนวป้องกันด้านขวา ห่างออกไปไม่มาก นั้นทำให้เลโอ รีบวิ่งเข้าไปจัดการหาทางดับไฟทันที เช่นกันพวกลิงยามก็กรูกันไปหยิบเอาถังใส่น้ำแล้วก็เริ่มลงมือดับไฟจากด้านในของกำแพง
“ เอาล่ะ ไปกันเลยดีกว่า ”
“ ค่ะ… ”
“ ครับผม! ”
แต่การที่พวกลิงไปรุมกันไปจัดการกับความวุ่นวายอยู่นี้นั้นก็เป็นการเปิดช่องว่างให้กับคนนอก 3 คน ที่ตอนนี้ได้เดินผ่านเข้าไปอย่างง่ายดาย โดยอาศัยมุมอับสายตาจากฝั่งซ้ายของกำแพง
[ อืม ดูถ้าจะวุ่นวายตามที่คิดไว้เลยแหะ ก็นะถ้าไม่รีบดับมีหวังกำแพงไหม้หมดแหง ]
มาร์ที่เดินนำอยู่หน้าสุด ก็คอยหันไปมองรอบๆเพื่อดูสถานการณ์ว่าพวกลิงจะรับรู้ได้หรือไม่ ซึ่งก็ตามที่ได้เห็นพวกลิงไม่อาจสัมผัสได้ถึงตัวของผู้บุกรุกทั้ง 3 เลย อันเกิดจากกลิ่นควันไฟได้กลบกลิ่นของทั้ง 3 คน ไหนจะเสียงของการตักน้ำและการเดินไปเพื่อดับไฟอีก มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกมันจะรับรู้ได้
“ โอ ทางลงก็ไม่มีลิงมากันด้วย เยี่ยม! ”
ตึก ตึก ตึก
จนกระทั่งทุกคนนั้นมาถึงยังทางลง มาร์ก็รีบให้ทั้งสองคนเดินนำไปก่อน ส่วนเจ้าตัวก็เดินตามไปติดๆ แต่ว่าระหว่างที่กำลังจะเดินลงบันได้ไปยังชั้นถัดไปนั้น มาร์ก็แอบหัวเราะอยู่ในใจพร้อมกับหันไปมองยังจุดที่ไฟกำลังไหม้อยู่
[ พวกลิงนั้น คงต้องลำบากหน่อยนะ ถ้ายังเอาน้ำดับไฟนาปาล์มแบบนั้น ]
อธิบายง่ายๆ ตัวเชื้อเพลิงที่มาร์ใช้จุด มันไม่ใช่น้ำมันหรือเชื้อไฟธรรมดา แต่มันคือนาปาล์มสีส้มที่เขาเคยใช้ตอนไปบุกฐานของอัลฟ่า สิ่งนี้นั้นจะเผาไหม้ทุกอย่างที่มันจะเผาหรือเป็นเชื้อเพลิงให้มันได้ และมันก็นาปาล์มเวอร์ชั่นปรับปรุงที่แม้แต่อยู่ในน้ำก็สามารถจุดติดได้ ดังนั้นการเทน้ำดับนาปาล์มจึงไม่ใช่คำตอบที่ดีเลยสักนิด วิธีทีที่ดีที่สุดคงเป็นการหาดินหาทรายมาโปะต่างหาก
ตึก ตึก ตึก
[ ข้างในเองก็ด้วยสินะเนี่ย?? แถมยังมาเป็นเรื่องราวเลยนะ ]
กระนั้นก็ดีระหว่างที่กำลังเดินลงไปยังข้างล่างนั้น มาร์ก็ยังคอยสังเกตุรอบๆแล้วก็ได้เห็นว่าผนังของชั้นบันไดนี้มันไม่เหมือนกับผนังในชั้นก่อนๆ พวกมันที่ควรจะเป็นหินอ่อนเดิมๆ ตอนนี้กลับปรากฎไปด้วยภาพวาดมากมายที่บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่ร่างกายปกคลุมไปด้วยขนทั้งตัว ที่กำลังค่อยๆลุกขึ้นยืน 2 ขาพร้อมกับจับอาวุธต่อสู้กับมอนสเตอร์มากมายโดยไล่เรียงจากสิ่งที่มีรูปร่างคล้ายๆกับตน ไปจนถึงเสือ และหมีที่มีอยู่ในชั้นที่ 80 โดยพวกลิงนี้นั้นต่างก็ใช้หอก ใช้ธนูมาจนสุดท้ายปลายทางภาพวาดทั้งหลายก็เปลี่ยนมาเป็นเหล่าลิงกำลังถือปืนอยู่
[ แบบนี้มัน…หมายความว่ายังไงกัน หรือว่าพวกนี้จะไม่ใช่มอนสเตอร์?? ไม่สิ? ก็ตอนเราสร้างมามันก็… ยังไงกันแน่นะ ]
มาร์เริ่มกังวลใจแล้วว่ามีบางอย่างที่มันแปลกประหลาดเกินไป เพราะยิ่งมองสิ่งที่เกิดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกว่าพวกลิงนั้นมันไม่ใช่มอนสเตอร์ในแบบที่โลกนี้เป็นเลย พวกมันมีอารยธรรม มีการสร้างศิลปะ แต่ในใจลึกๆมาร์ก็มั่นใจว่า พวกนั้นไม่ใช่บีสต์โฟค หรือ วอร์บีสต์แน่ๆ
ต้องอธิบายก่อนว่า บีสต์โฟคนั้นจะมีรูปร่างคลายมนุษย์กึ่งสัตว์ เช่นอาจจะมีหูแมว หางแมว แต่รูปลักษณ์หลายๆอย่าง อาทิใบหน้าก็ยังมีความเป็นมนุษย์อยู่ กระนั้นก็ดีก็มีบางที่ใบหน้าจะออกไปตามสัตว์เหล่านั้น ซึ่งนั้นก็จะทำให้ใกล้เคียงกับการเป็นวอร์บีสต์ เพราะวอร์บีสต์จะมีรูปลักษณ์เป็นสัตว์มากกว่าความเป็นมนุษย์นั้นทำให้ยีนกับทักษะของความเป็นสัตว์โดดเด่น ร่างกายเลยแข็งแกร่งกว่าในทางกายภาพ
ทว่า ลิง พวกนี้นั้นไม่ใช่ พวกมันไม่ได้มีส่วนใดเป็นมนุษย์หรือเหมือนมีส่วนใดเป็นมนุษย์เลย ทั้งแขนที่ยาวกว่า ทั้งใบหน้าที่เป็นลิงอย่างชัดเจน ในจะการเดิน การปีนป่าย ล้วนแล้วแต่ไม่ใกล้เคียงกับวอร์บีสต์เลย ไหนจะเรื่องภาษาที่พวกมันสามารถพูดภาษากลางของโลกนี้ได้อีก มันยิ่งทำให้มาร์สับสน เช่นกันเขาที่มองไปยังอคโตเองก็ได้เห็นริมฝีปากที่กำลังอ้าค้างไวแสดงออกถึงความสับสนบางอย่าง
“ นายท่านคะ ถึงแล้วค่ะ…แต่ว่า ”
แต่มันก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดอีกต่อไป เพราะไม่นานทั้ง 3 ก็ออกมาจากบันไดทางลง แล้วก็ได้พบกับสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดได้ในหอคอยนี้ สิ่งที่มาร์ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ อย่างสิ่งที่เรียกว่า…เมือง เมืองขนาดใหญ่ที่ทำจากต้นไม้ ไม่สิ เมืองที่อยู่ในต้นไม้และในเมืองนั้นก็เต็มไปด้วยฝูงลิงมากมายปีนป่ายไปมาราวกับว่านี้เป็นเมืองของสิ่งมีชีวิตที่มีปัญญาจากด้านบน นั้นทำให้มาร์เดินเข้าไปหาอคโตแล้วกระซิบบอกกับเธอด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า
“ อืม ไว้หลังจากนี้เราคงต้องคุยกันเพิ่มถึงเรื่องในทางลงแล้วล่ะนะอคโต ”
“ รับทราบเจ้าค่ะ ”
………
MANGA DISCUSSION