“ มากันเรื่อยๆเลยเนอะอคโต ”
“ เจ้าค่ะนายท่าน พวกคนนอกทยอยเข้ามาเรื่อยๆ อย่างเช่นวันนี้น่าจะมีคนเข้ามาอีกราวๆ พันถึงสองพันคนเจ้าค่ะ ”
บนยอดเขาที่สูงที่สุดบนยูโทเปีย มาร์กำลังมองดูวิวไปทางตัวเมืองด้านหน้า ทั้งเมืองคอนกรีตที่อยู่หลังกำแพงใหญ่และเมืองเล็กที่ทำจากไม้กับหินด้านนอกกำแพง โดยที่ข้างๆนั้นมีอคโตยืนอยู่ด้วย ทว่าเธอนั่นต่างจากปกติเพราะตอนนี้เธอได้ถอดผ้าปิดตาออกแล้วก็มองดูนายท่านของเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสุข
“ อืมมมม นี้ถ้าเกินห้าพันเมื่อไหร่คงต้องหาวิธีจัดการใหม่แล้วล่ะ ”
“ เจ้าค่ะนายท่าน ”
มาร์กวาดสายตาไปเรื่อยจนไปหยุดลงที่ท่าเรือซึ่งห่างออกไปที่ไกลที่สุด ไกลขนาดที่ว่ามันลากยาวลงไปในทะเลเลยทีเดียวซึ่งนั้นก็คือท่าเรือของคนนอก ท่าเรือที่ไม่ได้ถูกสร้างโดยยูโทเปียแต่เป็นการสร้างโดยคนนอกทั้งหมด มันจึงไม่ได้หรูหราเท่าท่าเรือหลักของยูโทเปีย อย่างไรก็ตามที่นั้นเต็มไปด้วยเรือสำเภามากมายวนเข้าออกตลอดเวลา
“ เอาล่ะ ฮึบบบ ปะ ตามข่าวที่ทิเรียหาให้ วันนี้แหล่ะที่คนนอกจะมาถึง ”
“ ตามนัด แคนดิเดตที่ 1 จะมาถึงราวๆเย็นๆวันนี้ที่กิลล์นักพจญภัยสินะเจ้าคะ อืมม สมกับเป็นท่านพี่ทิเรียจริงๆเลยนะเจ้าคะที่หาข้อมูลในพื้นที่ของเราได้เร็วขนาดนี้… ”
อย่างไรก็ดีระหว่างที่อคโตกำลังจ้องมองดูมาร์นั้น เขาก็ได้ยืนขึ้นพร้อมกับหยิบเอากระดาษขึ้นมายื่นให้กับอคโต ซึ่งเธอก็รับเอาไว้ก่อนจะอ่านอย่างเงียบๆแล้วก็เดินตามนายท่านของเธอไปอย่างช้าๆ ไปยังห้องพักของมาร์เพื่อเปลี่ยนชุดที่สวมใส่ มาร์เลือกที่จะใส่ชุดสูทสีดำขนาดพอดีตัวแล้วก็ใส่ซองปืนคาดบ่าก่อนจะปิดด้วยชุดโค้ทสีเทาอ่อน
ทางด้านอคโตเอง เธอก็เปลี่ยนจากชุดเครื่องแบบทหารสีเขียวของเธอ มาเป็นชุดรัดรูปสีดำที่มีแผ่นเกราะเบาสีเทาติดตั้งอยู่ตามจุดสำคัญต่างๆเช่น หน้าอก ต้นแขน ต้นขา อีกทั้งที่เอวเองก็มีซองปืนกับซองไว้ห้อยอะไรสักอย่าง นอกจากนี้เธอก็ได้ถอดผ้าปิดตาออกพร้อมกับสวมแว่นตาที่มีกล้องส่งแสงสีเขียวมากมายออกมาเอาไว้แทนผ้าของตนด้วย
บรื้นนนนนนนนนนนนนนน
ทั้งสองพอเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ขึ้นรถส่วนตัวที่ทิเรียจัดเตรียมทั้งรถและคนขับไว้ให้เพื่อมุ่งตรงไปยังเมืองย่อยที่ 01 โดยตลอดทางมาร์ก็ไม่ได้พูดอะไร เขานั่งเฉยๆพร้อมกับมองดูผู้คนด้านนอกที่กำลังหลีกทางให้กับรถของเขา และก็เพียงไม่นานเลยที่รถจะมาถึงยังที่หมายอาคารใหญ่สีขาวนวลหรูหรา
บรื้นนน ครืดดด ครึก
“ ขอบใจที่มาส่งนะ ”
“ ยินดีครับเสมอท่านมาร์ ยังไงก็ขอให้สนุกกับงานที่ท่านลารวมมอบให้นะครับ ”
“ อ่า…เอ่อ… อืม… หวังว่านะ ”
“ ฮ่าๆๆๆ ยังไงผมขอตัวก่อนนะครับท่าน โชคดีครับผม! ”
มาร์ได้ลงจากรถแล้วก็หันไปขอบคุณคนขับ แน่นอนว่าเขาก็รีบหันมาตอบกลับพร้อมรอยยิ้มก่อนจะขับออกไป ปล่อยให้ทั้งมาร์และอคโตยืนอยู่ที่หน้าทางเข้าของกิลล์โดยมีสายตาจากผู้คนรอบๆจับตามองดูอยู่ เจ้าตัวก็ไม่ได้จะใส่ใจอะไรแล้วก็ได้เดินต่อเข้าไปยังตัวกิลล์ผ่านประตูหน้าสุด โดยผู้คนที่ยืนออกันอยู่ก็ต่างหลีกทางให้เพราะพวกเขารู้ว่าสองคนนี้ไม่ธรรมดา มาโดยรถหรูอันเป็นสัญลักษณ์ของประชาชนระดับสูงแห่งยูโทเปีย
“ ไหนน้า อยู่ไหนน้า? อ่า… ”
และเมื่อเข้ามาแล้วมาร์ก็เริ่มมองหาสิ่งๆหนึ่งแปปเดียวเท่านั้น เขาก็พบกับสิ่งที่ว่า หญิงสาวผมสีทองที่สวมผ้าปิดหน้าเอาไว้ คนที่เขาไม่ได้สนิทด้วยนักแต่แม่ของเขาน่าจะสนิทด้วยมากเป็นพิเศษ วัลคีย์อดีตพนักงานกิลล์ที่พัฒนาตัวเองมาเป็นหัวหน้าใหญ่ผู้คุมกิลล์นักพจญภัยทุกกิลล์ในยูโทเปีย
ตึก ตึก ตึก ตึก
“ เป็นไงบ้างครับพี่วัลคีย์? ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยเนอะ? ”
“ ฮี๊!!!! ท่านลา…อุ๊!! คุณมาร์!! อึก!! ”
“ ตกใจอะไรกันน่ะครับพี่วัลคีย์? ”
“ จะไม่ให้ตกใจได้ยังไงล่ะคะ!! จู่ๆก็โผล่มาแบบนี้!! ไหนจะเหตุการณ์เมื่อวานอีก!! ผู้วัดระดับประจำกิลล์ของดิชั้นโดนคนของคุณอัดจนหมดสภาพแล้วมาทำงานไม่ได้สักคนน่ะค่ะ!! ”
การเข้ามาทักทายของมาร์ในระหว่างที่วัลคีย์ทำงาน ทำเอาเธอหน้าซีดพร้อมกับรีบเดินตรงเข้ามาบ่นใส่มาร์ในทันที ด้วยเหตุนี้เองผู้คนต่างมองมาแต่มาร์ก็ยังคงไม่สนใจ เขาเดินเข้าไปหาวัลคีย์ก่อนจะเอียงตัวหลบอย่างช้าเพื่อให้ได้เห็นคนที่ตามหลังมา
“ ใช่คนนี้หรือเปล่าครับพี่? ”
“ คะ?? คนเมื่อวานเป็นผู้หญิงชุดทหาร สวมผ้า… อ๊ะ!! ”
ตอนแรกวัลคีย์ที่เห็นอคโตในชุดใหม่ก็จำไม่ได้แต่พอได้เห็นว่าผู้หญิงคนนี้สวมอุปกรณ์ที่ปิดตาของเธอเอาไว้ ก็ทำให้เธออ๋อทันที ก่อนจะกลืนน้ำลายแล้วหันไปหยิบซองเอกสารให้กับอคโตทันที
“ ขอบใจ… ”
“ ค ค ค่ะ…คุณอคโต ”
“ อืมม ยังทำงานอยู่สินะครับ ยังไงเดี๋ยวพวกผมไปนั่งรอพี่อยู่ที่โซนรับรองก็แล้วกันนะครับ ”
“ ค ค่ะคุณมาร์ เดี๋ยวจะรีบจัดการงานแล้วรีบตามไปนะคะ ”
เมื่ออคโตรับซองเอกสารมาแล้ว มาร์ก็ได้ขอตัวออกไปเพราะเขาเห็นว่าวัลคีย์ยังทำงานของเธออยู่ เขาและอคโตจึงได้เดินไปนั่งที่โซนระดับสูงซึ่งมีไว้รองรับระดับ A- ขึ้นไป พื้นที่หรูหราที่มีโซฟาอันแสนสบายไว้สำหรับนั่งนอนตามใจอยาก ส่วนอคโตก็เปิดซองเพื่อเอาบัตรของตนออกมาดู บัตรที่แกะสลักสวยงามเกือบจะพรีเมี่ยมสัญลักษณ์ของระดับ A
“ คนเยอะดีจังเลยเนอะ ”
“ นั้นสินะเ…นั้นสินะคะมาร์ แต่ส่วนใหญ่ก็มีแต่ระดับ B เอง ”
“ ก็แหงล่ะนะ นี่เมืองแรกด้วยคงยากแหล่ะที่จะมีระดับ A มาอยู่ที่นี้ หรืออาจจะมีก็ได้แต่คงตะลุยอยู่ด้านล่างล่ะมั้ง? ”
“ ขอโทษนะคะ จะรับอะไรดีคะชาหรือว่ากาแฟ หรือว่าจะเป็นโกโก้ดีล่ะคะ? ”
อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ทั้งสองกำลังนั่งพักอยู่นั้น ก็มีพนักงานสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาสอบถามสิ่งที่ทั้งสองต้องการ ซึ่งมาร์ก็ได้หันไปมองอคโตที่กำลังนิ่งเหมือนกำลังจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่กล้าพูดออกมาสักทีทำให้เขาต้องพูดออกมาแทนด้วยรอยยิ้มที่ไร้เดียงสา
“ อ เอ่อ… เอาเป็น อืมมม ก.. ”
“ เอาเป็นโกโก้กับชาละกันครับคุณพนักงาน ”
“ รับทราบค่ะ ชาหนึ่งที่ โกโก้หนึ่งที่นะคะ ”
พนักงานสาวพอรับทราบถึงออเดอร์แล้วเธอก็โค้งคำนับก่อนจะเดินถอยออกไปเพื่อไปเตรียมเอาชากับโกโก้กลับมา ทว่าระหว่างที่เดินออกไปนั้นเอง มาร์ก็มองเห็นอะไรบางอย่างกำลังเดินตรงเข้ามาหาเขากลุ่มคนจำนวน 6 คน โดยที่เดินนำมานั้นก็เป็นชายในชุดเกราะสีเงินหรูหราที่มีอาวุธเป็นดาบและโล่
“ ดูท่าจะมีคนมาทักทายพวกเราแล้วนะอคโต ”
“ ค่ะ คนที่เจอได้ทั่วในกิลล์นักพจญภัยนี้สินะคะ พวกที่ไม่เจียมตัวน่ะ ”
มาร์นั้นมองออกได้ทันทีว่าทั้ง 6 คนที่กำลังมานั้นไร้ซึ่งความเป็นมิตรสุดๆ สายตาของพวกมันมองมาที่เขาด้วยความรังเกียจ ใช่มองมาแค่ที่เขาคนเดียวเท่านั้น และทางด้านอคโตเองก็พอจะสังเกตุได้และเธอเองก็เตรียมตัวด้วยการค่อยๆลุกขึ้นมายืนอยู่ยังด้านข้างของมาร์
ตึก ตึก ตึก
“ เห้ย! ไอหนู! ลุกออกไปจากตรงนี้เดี๋ยวนี้เลยนะเว้ย! ที่นี้มันที่สำหรับ A- ไม่ใช่ที่สำหรับคุณหนูอย่างแก!! ”
“ เออ!! ลุกออกไปได้แล้ว!! คิดว่ารวยแล้วจะทำอะไรก็ได้หรือไง?? ”
“ หึ ก็คงเป็นแค่คุณหนูอยากลองพจญภัยทั่วไปสินะ? ”
“ เอ้า ยังไม่ลุกอีก!! ”
…
“ เห้อ…เบื่อจริงๆแหะ ไปไหนก็เจอแต่อะไรแบบนี้ตลอดเล้ยย ”
“ จะให้ทำยังไงดีคะมาร์? จัดการเลยดีไหมคะ? ”
“ ใจเย็นก่อนสิอคโต ถึงอยากจะให้จัดการให้มันจบๆไปเลยก็เถอะ ”
แล้วก็จริงอย่างที่มาร์คิด นักพจญภัยพวกนั้นมาเพื่อหาเรื่องกับเขา โดยเหตุผลจากที่ฟังๆมาก็คงเป็นเพราะมาร์ในสายตาคนอื่นนั้นเป็นแค่คุณหนูจะมานั่งโซนระดับสูงได้ยังไง เขามีความสามารถไม่พอแน่ๆ คนที่นั่งได้ในสายตาของพวกนั้นจึงมีเพียงแค่อคโตที่มีบัตรของระดับ A อยู่ในมือเท่านั้น
“ ใจเย็นๆนะ ผมเองก็มีสิทธิมานั่งนะนี้ไง ”
และเพื่อไม่ให้เรื่องมันลำบากกับเขาไปมากกว่านี้ มาร์ก็ได้ทำเป็นหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อ โดยที่จริงๆแล้วด้านในมันไม่มีอะไรเลยนอกจากเงาสีดำ [พื้นที่มิติ] สกิลทำมาหากินของเขานั้นเอง ส่วนสิ่งที่หยิบออกมานั้นก็ไม่ใช่อะไรนอกไปจาก บัตรของเขา บัตรระดับ S ที่หายากยิ่งในหมู่นักพจญภัย
ครึก ครึก กิ๊ง กิ๊ง
“ ขอโทษนะคะทุกท่าน นี้ค่ะโกโก้และชาตามที่สั่งค่ะ ”
“ ขอบคุณครับผม นี้ครับทิปเล็กๆน้อยๆ ”
“ เอ๋!! จะดีเหรอคะ!! ”
“ ดีสิครับ เท่านี้ไม่เท่าไหร่หรอกครับ ”
“ ข ข ข ข ขอบคุณค่ะท่าน ”
ว่าแล้วพอพนักงานมาเสิร์ฟของที่เขาสั่งให้ นิสัยเก่าของมาร์ก็ออก การให้ทิปโดยที่เขาไม่ตั้งใจสักเท่าไหร่ ทิปเป็นเงินสกุลเครดิตแห่งยูโทเปียที่มีจำนวน 10000 เครดิต เงินที่มากพอจะอยู่สบายๆไปได้เป็นสัปดาห์ พอพนักงานได้เห็นเธอก็ทำตัวไม่ถูกแต่พอมาร์บอกให้เอาไปเธอก็ก้มหัวรับมันไว้ด้วยมือที่สั่นอย่างเห็นได้ชัด
“ เอาล่ะทีนี้เรื่องของพวกเรา ยังไงดีล่ะครับเห็นแบบนี้แล้วจะให้ผมนั่งได้หรือเปล่าล่ะ? ”
“ อึก… ของจริงงั้นเหรอ อย่ามาโม้น่า! เด็กอย่างแกจะไปมีบัตรของระดับ S ได้ยังไงกัน!! ”
“ แกโกงมาสินะ! คงให้นักพนักงานออกบัตรให้ด้วยเงินแบบที่แกทำเมื่อกี้ล่ะสิ!! ”
ฟุบ
“ เห้ออ ”
แต่ดูท่าว่าอีกฝั่งจะไม่เชื่อเลย นั้นทำให้มาร์ได้แต่นั่งจิบชาที่พนักงานเอามาเสิร์ฟให้ ส่วนโกโก้นั้นเขาเลื่อนมันไปทางอคโต อย่างไรก็ตามความไม่เชื่อที่ว่ายิ่งทำให้พวกนั้นโกรธเพราะรู้สึกเหมือนกำลังโดนหยามอยู่ โดยเฉพาะนักรบที่ใช้หอก หมอนั้นชี้หอกมายังมาร์ ชี้ไปที่หน้าของเขาอย่างรวดเร็ว
หมับ แกร็ก แกร็ก กร็อบ
“ คิดจะทำอะไร… ”
ทว่าหอกนั้นก็ไม่มีทางได้ไปหยุดที่ตรงหน้าของมาร์เลย อคโตเธอคว้าเอาหอกนั้นไว้ด้วยมือแล้วก็บีบมันแตกเสียดื้อๆราวกับว่ามันเป็นเพียงแค่ท่อนไม้ไม่ก็แก้วกระจอกๆ ทั้งๆที่อาวุธนั้นมองยังไงก็ถูกสร้างจากเหล็กที่ไม่ธรรมดาแน่ๆ
“ อึก!! ”
“ พลังอะไรกัน!?!? ”
“ นั้นมันทำจากเหล็กผสมใหม่ของยูโทเปียเลยนะเห้ย!! ทำไมแตกง่ายแบบนั้น??! ”
อีกฝ่ายที่โดนไปแบบนั้นก็ต้องรีบถอยห่างออกมาในทันที พร้อมกับต้องตกอยู่ในความสับสนที่อาวุธแสนแพงของพวกเขาถูกทำลายด้วยผู้หญิงที่ไม่มีอาวุธอะไรให้ได้เห็น หรือร่างกายที่แสดงให้เห็นว่ามีพละกำลังมหาศาล
“ หึ ระดับ S แต่ให้ผู้หญิงมาป้องกันตัวเองเนี้ยนะ! ”
“ จริงๆแล้วแกก็คงหลบอยู่ด้านหลังของคนอื่นที่จ้างมาตลอดล่ะสิ!! ”
“ นั้นสินะ!! ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วทำเป็นไม่สนใจเพราะกลัวล่ะสิ!! ”
พวกนั้นเริ่มดูถูกมาร์ต่างๆนานา จนแม้แต่อคโตเองก็เริ่มจะตัวสั่นแล้วมือของเธอกำหมัดจนแน่น ทว่ามาร์นั้นต่างออกไปเขาจิบชาจนหมดก่อนจะลุกขึ้นอย่างช้าๆแล้วเงยหน้ามองดูพวกมันทุกคนด้วยรอยยิ้มและสายตาที่ไร้ความกลัวใดๆ
“ ไหนๆก็ไม่มีอะไรทำแล้ว อยากจะลองดูไหมล่ะครับว่า ผมน่ะ S จริงหรือปลอม? ”
“ หึ…ก็ เอา… ”
ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก
“ เดี๋ยววววววววว!! หยุดเลยนะ!! ”
การตกลงที่กำลังจะสำเร็จนั้นก็ถูกขัดขวางไว้ด้วยหญิงสาวที่วิ่งเข้ามายืนขั้นตรงกลางระหว่างทั้งสองฝ่าย วัลคีย์ยืนอยู่ตรงนั้นก่อนจะหันไปมองฝ่ายนักพจญภัยที่เข้ามาหาเรื่องมาร์ด้วยดวงตาที่โกรธแต่กลับมีน้ำตาไหลออกมาตลอดเวลาตามปกติของเธอ
“ หยุดความคิดบ้าๆนั้นเดี๋ยวนี้!! พวกนายไม่รู้หรอกว่ากำลังเจอกับอะไร ถ้ายังเชื่อชั้นแล้วก็ยังรักตัวกลัวตายอยู่ก็ไปขอโทษเขาซะแล้วถอยไปอย่างเงียบๆจะดีกว่านะ!! ”
“ หึ แม้แต่หัวกิลล์เองก็ด้วยเหรอเนี่ย พวกข้าคงต้องขอปฏิเสธคำแนะนำนั้นล่ะนะ ก็พวกข้าเป็นนักพจญภัยนี้จะให้มากลัวคุณหนูที่ไหนไม่รู้ก็คงจะไม่ใช่เรื่องหรือเปล่า? ”
“ ใช่ ใช่ พวกข้าไม่ยอมก้มหัวให้เงินหรอกนะเว้ย! ”
ทว่าอีกฝ่ายไม่คิดจะยอมทำตามที่วัลคีย์พูดเลย ยิ่งเห็นว่า คุณหนูคนนี้เดินนำไปที่ลานประลองอย่างชิวๆแถมเจ้าตัวก็หันมามองด้วยสีหน้าท้าทาย ก็ยิ่งทำให้พวกนั้นโกรธและเดินตามไปในที่สุด ทำให้วัลคีย์ได้แต่ยืนผิดหวังอยู่ตรงนั้นไปอีกสักพัก
แอ๊ดดดด
“ เอาล่ะ การต่อสู้คงไม่มีอะไรมากไปกว่าฝ่ายไหนหมดสติก็แพ้ไป โอ้!! ห้ามถึงตายด้วยนี้เนอะ เท่านี้โอเคหรือเปล่าล่ะ? ”
“ หึ ถามตัวเองเถอะ… แกคิดว่าแกจะทำอะไรได้หรือไงไอหนู? ”
“ นั้นสินะครับ นั้นสิน้าาา? ”
บัดนี้ ทั้งสองฝั่งก็ได้มายืนในสนามประลองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยตามธรรมเนียมนั้นนี้เป็นการปะทะแบบ 1 ต่อ 1 โดยไม่มีกฎการใช้อาวุธหรือห้ามโจมตีส่วนใด กฎง่ายๆกฎเดียวคือห้ามฆ่ากันเท่านั้น แล้วถ้ามองจากกฎนี้โดยทั่วไปคงคิดว่าฝ่ายของนักรบที่สวมเกราะกับถือดาบและโล่ดูจะได้เปรียบกว่ามาร์ที่ไม่มีเกราะ ไม่โชว์อาวุธใดเลยๆ
“ ยังจะอวดดีอีก…ดี งั้นข้าจะให้แกเป็นคนเริ่มก็แล้วกัน… ”
“ เอาเลย เอาเลย!! สั่งสอนไอคุณหนูลูกผู้ดีให้มันรู้ซะบ้าง!! ”
“ ใช่ ใช่ หวดให้หน้าหล่อๆนั้นมันพังไปเลย ”
“ เห้อ… ถ้างั้น… ”
ฝ่ายคู่ต่อสู้ที่ยังคงรู้สึกว่าตนได้เปรียบนั้นก็ให้โอกาสมาร์เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ซึ่งมันก็ทำให้คนดูต่างคิดว่ายังไงเด็กหนุ่มคนนี้ก็คงแพ้แน่ๆในสถานการณ์นี้ เว้นเสียแต่อคโต วัลคีย์และเหล่าพนักงานที่มาจับตาดูสถานการณ์ทุกคนรู้ดีถึงพลังของมาร์ พลังที่ขนาดหารแล้วหารอีกก็ยังทำให้เขาขึ้นมาอยู่ระดับ S ได้ตั้งแต่ตอนสอบวัดระดับ
“ …เริ่มเลยก็แล้วกัน ”
ฟุบ คุ่ม ครืนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน ฟุบ ตึม
มาร์ก็ไม่ได้อ่อนให้แต่อย่างใด พอเริ่มบอกให้เขาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เจ้าตัวก็พุ่งเข้าไปต่อยท้องจนทำให้เกราะแตกเป็นเสี่ยงๆพร้อมกับส่งร่างของศัตรูกระเด็นไปติดกำแพง ยังไงก็ตามมาร์ไม่ได้ปล่อยให้ร่างของคู่ต่อสู้ฝังลงไปในกำแพงจนหมด เขาคว้าเอาไว้ก่อนจะวางร่างลงกับพื้น อัศวินนั้นสลบไม่ได้สติไปแล้ว
“ ก ก เกิดอะไรขึ้น!? ”
“ นี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน?!? ”
“ อึก…หัวหน้า… หัวหน้า!! ”
“ มา มา คนถัดไปมาได้เลยครับ ”
“ “ !!!!! ” ”
ปาร์ตี้ของคนที่มาหาเรื่องนั้นถอยหนีกันทันทีพวกเขาไม่ได้โง่ เพราะขนาดอัศวินยังเป็นแบบนี้ คนที่เหลือที่ไม่ใช่ตำแหน่งที่ทนไม้ทนมือก็คงไม่รอดแน่ๆ แล้วคุณหนูนั้นที่เป็นทุกคนในตอนนี้เข้าใจไปว่าเป็นนักสู้อีก ก็คงยากแน่ๆทั้งความเร็ว กำลัง อันตรายชัดๆ
ตึก ตึก ตึก
“ ไปเรียกหมอมาเร็วเข้า!! ”
“ ค ครับ!! ”
“ ดีนะที่ไม่ปล่อยให้ปลิวฝังลงไปในกำแพง ”
วัลคีย์นั้นรีบเข้ามาดูอาการของอัศวินที่นอนสลบในทันที ส่วนมาร์ก็ถอยมายืนข้างๆพร้อมกับก้มดูอาการด้วยสีหน้าเซ็งๆ และทางด้านอคโตก็เข้ามาพร้อมกับจิบโกโก้ร้อนอย่างช้าๆทีละนิดโดยที่เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังแอบยิ้มอย่างสะใจอยู่ด้วย
“ นี่…พี่วัลคีย์ ไหนๆก็ไหนๆละผมขอคุยเรื่องหนึ่งหน่อยสิ ”
“ คะ?? ”
“ คือว่านะรบกวนช่วยเอาข้อจำกัดการเข้าปาร์ตี้ผมที่ต้องเป็นแรงค์ระดับ A- ขึ้นไปออกไปได้หรือเปล่า คือผมจะลงไปสำรวจดันเจี้ยนน่ะนะ อ๋อ…แล้วก็ถ้าทำให้ผมจะให้พนักงานของผมมาช่วยจัดการเรื่องวัดระดับให้แทนในช่วงนี้ไปก่อน ว่ายังไงล่ะครับพีวัลคีย์? ”
มาร์ค่อยๆก้มลงมากระซิบบอกกับวัลคีย์ด้วยเสียงที่เบาแสนเบาราวกับเป็นการเสนอทำสัญญาของปีศาจ ทางด้านวัลคีย์นั้นพอได้ยินก็นิ่งเงียบไปพร้อมกับก้มมองลงกับพื้นเพื่อคิดพิจารณาข้อเสนอนั้น ข้อเสนอที่เหมือนจะหอมหวานแต่ก็ไม่เลยสักนิด
[ อยากจะปฏิเสธจังแหะ… “พนักงาน” ของท่านมาร์แต่ละคนธรรมดาที่ไหนกัน ถ้าให้เทียบก็ราวๆ B- กันหมด รวมทั้งเรื่องทักษะต่อสู้ที่แปลกประหลาดหลากหลายรูปแบบอีก แต่….ถ้ารับคำเสนอนี้ ไม่สิเราต้องรับข้อเสนอนี้แหล่ะ เพราะอย่างน้อยพอคิดดูดีแล้วๆ การมาของพนักงานนี้ก็จะทำให้นักพจญภัยหน้าใหม่มีคุณภาพมากขึ้น อีกอย่างเราก็ปฏิเสธเขาไม่ได้ด้วยสิ ]
“ … ”
“ ขอบคุณครับ ”
พอตัดสินใจได้แล้ววัลคีย์ก็ค่อยๆหันหน้าไปมองมาร์ที่อยู่ข้างๆอย่างช้าๆ ก่อนจะพยักหน้าให้ นั้นทำให้มาร์ยิ้มออกมาแล้วก็ลุกเดินจากออกไปโดยมีอคโตเดินตามอยู่ข้างหลัง ทั้งสองหายออกไปจากสายตาของวัลคีย์ส่วนเธอนั้นก็กลับมาสนใจยังคนที่นอนสลบตรงหน้าต่อทันที
มาร์ได้เดินมาจนถึงยังที่โซฟารับรองนักพจญระดับ A- ขึ้นไปก่อนหน้านี้ เขานั่งลงพร้อมกันกับอคโต ก่อนจะค่อยๆเอนหลังลงอย่างช้าๆ พร้อมกับหยิบเอาภาพภาพหนึ่งขึ้นมาดู ภาพของชายหนุ่มที่สวมเกราะกับใช้อาวุะดาบและโล่ห์ขนาดใหญ่
“ ที่เหลือก็แค่รอจนกว่าจะมาสินะ หาววว ”
……
MANGA DISCUSSION