“ 15000 เครดิต พอแล้วสินะ งั้นก็… ”
แอ๊ดดดด
รินรินเท ทำงานมาจนมีเงินเก็บพอ เขาก็มุ่งตรงไปยื่นเรื่องที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในเช้าวันนั้น ซึ่งการไปในครั้งนี้รินรินเทก็ไปเพียงตัวคนเดียว เพราะลูกน้องของเขายังมีเงินทุนไม่พอสักราย
“ โชคดีนะครับท่านรินรินเท ”
“ อ่า พวกนายก็ด้วยรีบๆหาเงินซะละ ”
“ คร้าบบ ”
“ ครับผม ”
นั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสักเท่าไหร่เพราะรินรินเท มักจะทำงานได้ดีกว่าคนอื่น โดยเฉพาะตอนที่ “พลเมือง” มา เขารับมือได้เป็นอย่างดีทั้งยังไม่สลบเลยสักครั้ง นั้นทำให้เจ้าของร้านที่เริ่มสลบบ่อยครั้งไว้วางใจและเพิ่มเงินให้กับเขา
…
“ โอ…. อะไรกัน…. ไม่กี่เดือนแต่เปลี่ยนไปขนาดนี้ สมกับเป็นที่นี้จริงๆล่ะนะ… ขนาดเมืองอโคจรนั้นยังสร้างเสร็จในเวลาไม่กี่วัน… ”
ทว่าเมื่อมาถึงยังสถานที่ที่ว่า เขาก็พบว่ามันเปลี่ยนไปจากวันแรกที่มาสำรวจ อาคารนั้นแทนที่จะเป็นสีเทาปละมีหลังคาเรียบง่าย ตอนนี้กลับพัฒนาให้มีเหล็กห่อหุ้ม มีกำแพงเสริมรอบด้านที่หนาขึ้นอีกทั้งยังมีทหารของยูโทเปียลาดตระเวนอีกต่างหาก
ด้วยความสงสัยประกอบกับต้องไปที่นั้นอยู่แล้ว รินรินเทจึงเดินตรงไปแล้วทำเป็นหยุดที่กำแพงก่อนจะหันไปมองรอบๆ โดยที่ข้างๆเขาก็คือทหารของยูโทเปียที่ยืนเฝ้าทางเข้าอยู่
“ ขอโทษนะครับ? ที่นี้ใช่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองหรือเปล่าครับ? ”
“ อ่า… ที่นี้แหล่ะครับ ”
“ เอ… เปลี่ยนไปเยอะเลยนะครับ ตอนผมมาครั้งแรกไม่เห็นจะอลังการขนาดนี้เลย มันเป็นเพราะอะไรเหรอครับ?? ”
“ …… ”
“ อ่า ขอโทษที่รบกวนนะครับ ”
อย่างไรก็ดีแม้ว่าเขาจะถามไปเช่นนั้น ทหารคนดังกล่าวก็ไม่ได้ตอบกลับแถมหน้านิ่งไม่สนใจเขาอีกต่างหาก เจ้าตัวก็เลยต้องรีบเดินเข้าไปข้างในเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
[ ชิ!! ทหารของที่นี้มันก็เป็นซะอย่างงี้ ระเบียบวินัยสูงเกิ๊น ปากก็ปิดสนิท เนี้ย..ถ้าเป็นที่อื่นเจอเราที่สวมเสื้อผ้าดีๆ คงลนแล้วก็พูดออกมาหมดแล้วแหงๆ แย่ชะมัด! ]
รินรินเทเดินจนมาหยุดอยู่ที่ตัวทางเข้าของอาคาร ที่นั้นมีประตูเหล็กขนาดใหญ่ตั้งเอาไว้อยู่ ซึ่งเขาก็กำลังจะเอื้อมมือไปเปิด ทว่า ประตูนั้นก็เลื่อนออกก่อนที่เขาจะได้แตะเสียอีก พร้อมทั้งเมื่อมันเลื่อนห่างจากกันแล้วลมเย็นๆก็พัดออกมาโดนกับรินรินเทที่ยืนอยู่
“ นี้มันอะไรกัน… เพียงเวลาสั้นๆที่เราไม่มาที่นี้ก็เปลี่ยนไปแม้แต่ข้างใน?? ”
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทำให้รินรินเทรู้สึกตกใจมากถึงกับยืนนิ่งไปครู่หนึ่งที่หน้าประตูนั้น ภาพด้านในที่ต่างไปจากที่เขาจำได้ ก่อนหน้านี้มันเป็นเพียงอาคารที่ด้านในมีจุดต้อนรับ จุดติดต่อที่เรียบง่ายแต่ก็หรูหราเล็กน้อย ทว่าตอนนี้มันกลายเป็นหรูหราไปซะทั้งหมด
พื้นไม้กลายเป็นหินอ่อน เสาไม้กลายเป็นเสาหินแกะสลัก เพดานเองก็เปลี่ยนไปเป็นหินสีขาวที่แกะสลักอย่างสวยงาม เก้าอี้กลายเป็นโซฟา เชิงเทียนมานาก็ไม่มี มันกลายมาเป็นบอลกลมๆที่ให้แสงสว่างไปทั่วบริเวณ ที่นั่งรอก็มีจอบางอย่างมาตั้งพร้อมกับฉายภาพของทิวทัศน์รอบเกาะ พร้อมกับมีหญิงสาวผมสีม่วงหน้าตาน่ารัก พูดบรรยายประกอบด้านขวาล่าง
อย่างไรเสียเมื่อเข้ามาได้รินรินเทก็ดึงสติกลับมาพร้อมกับเดินตรงไปยังแผนกต้อนรับของที่นี้ทันที และก็ได้รับการต้อนรับจากพนักงานสาวที่สวมเสื้อผ้ามิดชิด จนเห็นได้เพียงปากของเธอเท่านั้น
“ สวัสดีตอนเช้าค่ะ คุณคนนอก วันนี้มีธุระอะไรกับทางเราหรือเปล่าคะ? ”
“ สวัสดีครับคือว่า อยากจะมาเข้ารับการตรวจสอบ เพื่อเลื่อนระดับเป็น ผู้ได้รับการตรวจ น่ะครับ ”
นั้นทำให้พนักงานต้อนรับ ยื่น บัตรที่เขียนว่า [ ยื่นขอรับการตรวจสอบลำดับที่ 015 ] ให้ พร้อมกับบอกให้ชายตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่ได้ไร้ความรู้สึก
“ เชิญนั่งรอที่โซฟาจนกว่าจะถึงคิวของคุณคนนอกนะคะ ”
“ ครับ ขอบคุณครับ ”
รินรินเทก็ทำตามแต่โดยดี เขาไปนั่งรอ พร้อมกับมองดูจอที่กำลังฉายภาพรอบเกาะตามปรกติ พร้อมกับขยายเข้าออก ให้เห็นสถานที่ต่างๆ ตัวเมืองคนนอก ตัวเมืองหลวง เขต [01] [02] [03] ต่างๆ แต่ว่ายิ่งดูก็ยิ่งทำให้ในใจของรินรินเทสั่นไหวขึ้นมาช้าๆ
[ วิทยาการ…ล้ำหน้าไปไกลขนาดนี้ ต่อให้พวกคนแคระ หรือเอลด้าที่สาบสูญมาเจอ…เลียนแบบไม่ได้แน่ๆ แบบนี้ถ้าเราได้อะไรไป มันจะเอาไปทำต่อได้จริงๆเหรอเปล่าเนี้ย?? ]
ติ๊ง
“ เชิญ ผู้ขอรับการตรวจสอบลำดับที่ 015 ที่ช่องบริการที่ 1 ค่ะ ”
แต่ระหว่างที่คิดอยู่นั้น เสียงเรียกหมายเลขของเขาก็มาถึง รินรินเทลุกขึ้นพร้อมกับเดินตรงไปยังจุดที่เรียกเลขของเขา และเมื่อมาถึง รินรินเทก็เจอกับพนักงานรูปแบบเดิม ปิดหน้าเผยให้เห็นแต่ปาก แต่ต่างออกไปที่บริเวณตาของพนักงานคนนี้มีกล่องขนาดใหญ่ที่มีดวงไฟเล็กๆ กำลังเคลื่อนที่ไปมา
“ ไม่ทราบว่าได้เตรียมค่าประกันรายได้จำนวน 15000 เครดิตมาหรือเปล่าคะ ”
“ ครับนี้ครับ ”
พนักงานสาวผู้นี้รับเงินนั้นมา พร้อมกับตรวจสอบด้วยการเทเงินเหล่านั้น ธนบัตรเหล็กจำนวนมากนั้นลงในเครื่อง เพียงไม่นานมันก็นับจนเสร็จ เธอจึงหยิบเอากระดาษออกมา 4 แผ่นแล้วส่งกระดาษนั้นให้รินรินเท
“ นี้ค่ะรบกวนเอาไปกรอกให้ครบด้วยนะคะ ”
ในกระดาษที่ว่ามันคือแบบเอกสารไว้กรอกถึงประวัติของรินรินเททั้งหมด ตั้งแต่ที่อยู่ ทวีปที่จากมา และคำถามมากมายอีกนับไม่ถ้วน ก่อนจะลงท้ายด้วย ข้อตกลงอีก 1 หน้ากระดาษสุดท้าย และปิดท้ายด้วยการลงชื่อผู้กรอกข้อความ
รินรินเทก็กรอกไปเรื่อยๆ อย่างระมัดระวัง ทุกอย่างที่กรอกไปนั้นไม่ใช่เรื่องโกหก แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องจริงทั้งหมด ทุกอย่างถูกเตีรยมการไว้หมดแล้ว ที่อยู่ที่จากมาก็มีอยู่จริง แต่ถูกสร้างขึ้นเพื่อการนี้ เงินทุน ครอบครัว ทุกอย่างเตรียมไว้หมดแล้วนั้นเอง
พอกรอกเสร็จเขาก็เดินกลับไปหาพนักงานคนเดิมก่อนจะยื่นเอกสารนั้น ตัวพนักงานเองพอรับมาก็ตรวจดูด้วยการโยนลงเครื่องบางอย่างข้างๆเธอ มันส่งแสงออกมาพร้อมกับเสียงติ๊ด เบาๆทุกครั้งที่แสงนั้นดับไป การตรวจสอบใช้เวลาอยู่ชั่วครู่เท่านั้น พนักงานสาวก็ยื่นบัตรให้กับชายผู้นี้บัตรที่เขียนว่า [ รอ ลำดับที่ 11 ]
“ ขอโทษนะครับทำไมของผมรอลำดับที่ 11 ในเมื่อเขาเป็นคนที่มายื่นเรื่องคนที่ 15 ”
“ ค่ะคุณนอก มีบางคนมาพยายามยื่นแต่ข้อมูลกับเงินนั้นไม่ตรงตามเงื่อนไข แถมบางทีมีเงินปลอมปะปนมาด้วยจึงทำให้คนที่ได้ รอ จริงๆ มีน้อยกว่าคนที่มายื่นค่ะ ”
เขาพยักหน้าตอบรับด้วยความเข้าใจก่อนจะเดินออกไป นั่งรออีกครั้งแต่ยังไม่ทันจะได้นั่งเลย เสียงประกาศเรียกก็ดังขึ้น
ติ๊ง
“ เชิญ ผู้รอลำดับที่ 11 ที่จุดสัมพากษ์ค่ะ ”
รินรินเทจึงต้องเดินไปยังสถานที่ดังกล่าว ที่นั้นเป็นห้องกระจกใสหลายห้องติดๆกัน โดยที่หน้าห้องนั้นก็มีทหารของยูโทเปียยืนอยู่ รินรินเทมาถึงก็ยื่นบัตรที่ตนได้รับมาให้แก่พนักงานชายที่ยืนอยู่ตรงทางเข้า เขาเหมือนกับพนักงานหญิงสองคนก่อนหน้าที่ปกปิดมิดชิดจนเหลือแค่ปากเท่านั้นที่เห็นได้ เขารับบัตรนั้นมาก่อนจะเดินนำรินรินเทไปยังสถานที่ที่เขารอคอย
ห้องกระจกซ้ายสุด ลึกสุด ด้านในนั้นมีคนนั่งรอเขาอยู่ รินรินเทเห็นได้ชัด ชายชราผิวเข้มผมสั้นในชุดสูทสีขาว ทว่ามันก็ไม่ได้เด่นเท่าสิ่งๆหนึ่งที่ชายชราผู้นั้นมี เขาเป็นมนุษย์ ใช่…เขาไม่มีความโดดเด่นใดๆเลย ทั้งออร่ามานาเองก็เป็นมนุษย์อย่างเห็นได้ชัด
รินรินเทเดินเข้าไปในนั้นและนั่งลงตรงหน้า เขาไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี แต่ก่อนที่จะได้คิดอะไรมากไปกว่านี้ กระจกใสๆรอบ ก็ทึบทันทีที่ประตูปิดลง
“ ขอโทษนะพ่อหนุ่ม ตาอ่านประวัติของเรามาทั้งหมดแล้วเป็นถึงลูกขุนนางเลยนะเรา แต่ไหงเป็นไงมาไงถึงมาที่นี้ได้ล่ะ ”
“ ครับที่บ้านผม พวกกองทัพของจอมมารบุกมาเรื่อยๆ ทำให้งบที่มีเพื่อดูแลหมู่บ้านน้อยลง ในฐานะขุนนางประจำเขต จึงต้องหาทางแก้ปัญหาโดยเร็วก็คือหาเงินมาหนุนครับ แต่ท่านพ่อตัดสินใจจะให้ลูกๆที่ไม่ได้ทำอะไรอย่างตัวของผม ออกไปหาเงินแล้วส่งกลับมา ตอนแรกผมก็จะเป็นนักผจญภัยทว่าตัวผมก็อ่อนแอเกินไปบวกกับไม่ถนัดงานใช้แรง ทำให้ต้องตามหาสถานที่ที่หาเงินได้มากๆ แล้วก็พบว่ายูโทเปียพึ่งเปิดทวีปจึงเห็นโอกาสว่าที่นี้น่าจะมีคู่แข่งน้อยเลยตัดสินใจมาน่ะครับ ”
“ โอ้…น่าสงสารจริงๆนะยังหนุ่มยังแน่นก็ต้องมาทำงานในต่างแดนแบบนี้ ว่าแต่ทำไมถึงต้องการจะเป็น ผู้ได้รับการตรวจสอบด้วยล่ะ ในเมื่อตอนนี้ก็น่าจะทำเงินได้พอแล้วไม่ใช่เหรอเจ้าหนุ่ม? ”
“ ครับ…เรียนตามตรง ผมต้องการเงินมากกว่านี้ เพราะเงินเท่านี้ยังไม่สามารถระงับความทุกข์ยากของคนที่ยังอยู่ที่บ้านเกิดได้ ผมเลยคิดว่าถ้าได้ไปทำงานในเมืองหลวงหรือว่าเขตต่างๆ ก็คงจะได้เงินเยอะกว่า เพียงเล็กน้อยก็ยังดี เพราะเงินทุกเครดิตนั้นจะทำให้คนที่บ้านทั้งหลาย ทั้งครอบครัวเขา ทั้งชาวบ้าน มีความสุขมากขึ้น มีความปลอดภัยมากขึ้นครับ ”
เจ้าตัวพูดออกมาด้วยท่าทางที่ดูเศร้าสร้อย ซึ่งชายชราที่เห็นก็พยักหน้าพร้อมกับตบบ่าเขาเบาๆ ก่อนที่เขาจะถามต่อด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
“ คิดว่าหลังจากได้รับอนุญาตแล้ว จะไปที่ไหนบ้างล่ะ เขตซีโร่วัน? ทู? หรืออะไรล่ะ? ”
“ ครับผมก็กะจะไปทั้งหมดแหล่ะครับ จนกว่าจะได้ที่ทำงานครับ ”
“ งั้นเหรอ อืมถ้างั้นตาแนะนำให้ไปที่เขตซีโร่ทรีละกันนะ ที่นั้นน่าจะขาดคนอยู่ ”
พูดจบเจ้าตัวก็ยื่นซองเอกสารสีเขียวให้ พร้อมกับชี้นิ้วไปยังประตูด้านหลังของเขา รินรินเทที่เห็นก็ยิ้มขึ้นมาพร้อมกับขอบคุณชายตรงหน้าด้วยการก้มหัวทันที
“ ขอบคุณครับ ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ ”
“ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร แต่ไปแล้วก็อย่าก่อเรื่องล่ะ ไม่งั้นโดนส่งกลับนะ ฮ่าๆๆๆ ”
“ ครับ!! ”
รินรินเทเดินผ่านเข้าไปด้วยรอยยิ้ม แล้วตรงเข้าไปยังสถานที่ด้านหลัง ที่นั้นพาเขาออกไปยังด้านนอกของสำนักงานนี้ ไปยังด้านข้าง แต่ที่นั้นมีกำแพงกั้นอยู่พร้อมกับข้อความที่เขียนว่า “กรุณาสวมสายรัดคอสีเขียว”
เขาเองก็ทำตาม เขาปลดสายสีแดงที่คอออก ก่อนจะแทนที่ด้วยสายสีเขียวที่อยู่ในซองนั้นแล้วเดินตรงไปยังประตูที่ว่า ทันใดนั้นประตูก็เปิดออก พร้อมกับขึ้นข้อความว่า [ ผ่าน ]
……
…
เจ้าตัวพอเดินออกมาได้แล้วก็ตรงกับไปที่พักของเขาทันที ที่พักซึ่งอยู่ติดกับร้านที่เขาทำงานอยู่ ซึ่งพอไปถึง เขาก็รีบเข้าไปในห้องนอนทันที
[ ตอนนี้ได้รับการตรวจสอบผ่านแล้ว และจะเข้าไปที่เขต ที่เรียกว่า ซีโร่วัน ก่อนหลังจากนั้นจะค่อยๆหาทางเข้าไปที่เมืองหลวงโดยไม่ให้เป็นที่พิรุธ จาก รินรินเท ]
จดหมายนั้นเมื่อเขียนเสร็จแล้วข้อความก็ค่อยๆจางหายไปอย่างรวดเร็ว และรินรินเทก็ลงมือเขียนข้อความอื่นลงไปอีก ข้อความที่พูดถึงว่าเงินก้อนนี้ส่งมาแล้วให้เอาไปใช้อะไร ใช้ระมัดระวัง นู้นนี้นั้น ก่อนจะปิดผนึกใส่ซองที่มีแผ่นเงินเครดิต รวมๆ 1 หมื่นเครดิต
เจ้าตัวยิ้มออกมา ก่อนจะพูดกับตัวเองว่าใกล้ได้เวลาเริ่มแล้วสินะ ทว่าในขณะเดียวกันเจ้าตัวก็ไม่รู้เลยว่า… ณ ประเทศหนึ่งซึ่งเป็นศัตรูกับต้นทางของรินรินเท พวกเขากำลังทำสิ่งสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ทั้งโลกเกิดการแบ่งฝ่ายที่ชัดเจน
โอออออ โอออออมมม อาาาาา เออออ
ผู้คนนับพันกำลังรายล้อมทำพิธีกรรมบางอย่างท่ามกลายสายฝนที่โถมลงมาอย่างรุนแรง พวกเขานั้นเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า พร้อมกับชูมือขึ้นเกิดเป็นเส้นแสงสีฟ้าโผยพุ่งสูงขึ้นไป
เปรี้ยงงงงงงงงงง
ทันใดนั้นฟ้าก็ผ่าลง ณ ใจกลางของพวกเขา และเมฆฝนก็หายไปทันที โดยตรงที่ฟ้าผ่าลงมานั้น มีกลุ่มชายหญิงสี่คนกำลังยืนอยู่พวกเขาและเธอสวมเสื้อผ้าประหลาดและก็หันไปมองรอบๆ
“ ที่นี้มันที่ไหน?? ”
“ อะไรกันกันไม่ใช่ว่าพวกเราอยู่ ไหนเนี้ย?!? ”
“ เอ.. มันเกิดอะไรขึ้น ”
“ อ๊ายยย ตาชั้นนน ”
……….
MANGA DISCUSSION