มาร์หลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้น เขาก็ยังคงอยู่ที่อาคารที่ว่านั้น อีกหลายวัน ในฐานะ "บอส"
องค์กรใต้ดินนี้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "ผี" และชื่อบังหน้าก็คือ " โรงงานผลิตของเล่น Ghost "
มาร์ควบคุมคนในองค์กรของเขาด้วยความหวาดกลัวผสมความนับถือ และมาร์ก็ไม่ได้เป็นคนยัดเยียดให้ทุกคนต้องคิดกับเขาเช่นนั้น
แต่เป็นเพราะคนในองค์กรนั้นแหละที่คิดกันแบบนั้นเอง เพราะว่าแต่ละคนตอนที่โดนมาร์จับกุมตัวได้ ไม่สามารถขัดขืนอะไรได้เลย ทั้งยังไม่รู้สึกว่ามาร์กดดันหรือเหนื่อยแม้จะจับพวกเขาไปเยอะมากแค่ไหนก็ตาม
ที่สำคัญกว่านั้นคือในสายตาของพวกเขา มาร์มีพลังแปลกๆที่ไม่มีใครรู้จักมากมาย ทั้งการทำให้เหล็กหรือสิ่งของกลายเป็นอย่างอื่น หรือแม้แต่การที่เขาสามารถเดินบนท้องฟ้าได้ สกิลพวกนั้นไม่มีใครในองค์กรรู้
และเพราะความไม่รู้นี้แหละ ที่ทำให้ทุกคนตีโพยตีพายไปเพิ่มเติมว่า มาร์ หรือ บอสคนใหม่ของพวกเขาต้องมีสกิลแปลกๆอีกมากแน่ๆ
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาเชื่อในความคิดนั้นมากที่สุดคือ การที่มาร์ล้มบอสเก่าของพวกเขาได้โดยไม่มีบาดแผลใดๆติดตัวเลย และยิ่งการที่สวมชุดแปลกๆที่ไม่เคยมีใครเห็น กับอาวุธที่ส่งเสียง*จิ๊บ*ออกมาและทำให้คนที่โดนถึงกับสาหัส
พวกเขาต่างเรียกบอสใหม่ของพวกเขาว่า "Laruam [Specter]" ด้วยหน้ากากที่บอสของพวกเขาใส่นั้นเหมือนวิญญาณบางอย่างกำลังจ้องมองพวกเขาอยู่ตลอดเวลา
"เอาละ ทุกคนๆ หลังจากที่ผมสอนวิธีการไปแล้ว รบกวนช่วยทำให้ได้อย่างน้อย 20 ลัง ภายใน 1 เดือนนะ"
มาร์พูดกับพวกเขาที่ยืนเรียงแถวกันในห้องของบอสเก่า แต่ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมานี้มาร์ได้เปลี่ยนห้องนี้เป็นสำนักงานด้วยการ [รังสรรค์] จนมันกลายเป็นเหมือนห้องของ CEO บริษัทไปแล้ว
ข้างๆที่มาร์นั่งอยู่นั้นมีเหล่าผู้หญิงในชุดพนักงานออฟฟิสผสมสายรัดกับอาวุธที่มาร์สร้างขึ้นมา ยืนเรียงแถวกันอยู่ราวๆ 10 คน ให้บรรยากาศเหมือนบอดี้กาดหญิงมากกว่าเมดเสียอีก
พวกเธอคือเหยื่อเคราะห์ร้ายที่รอดมาได้ และหลังจากที่ทุกคนฟื้นก็ต่างพากันเข้ารับใช้มาร์ โดยพวกเธอมองมาร์ว่าเป็นเหมือนเทวทูต ที่ลงมาโปรดพวกเธอ
บางคนในกลุ่มที่รอดมาได้ ก็แอบนับถือมาเป็นพระเจ้าของตนอย่างลับๆ
ต้นเหตุที่เป็นแบบนี้ เพราะสกิล [รักษาสมบูรณ์] ที่มาร์ใช้กับพวกเธอนั้นแหละ
สกิลรักษานั้นคือการ แลกเปลี่ยน มานา กับสภาพร่างกาย และในตอนนั้นที่พวกเธอก็อยู่ใกล้ปากทางเข้าโลกความตายแล้ว มาร์สามารถดึงพวกเธอกลับมาได้ ในสภาพที่สมบูรณ์ และเขาก็ไม่ได้มีอาการเหนื่อยอะไรเลย
"ครับ/ค่ะ บอส" พวกเขาทุกคนตอบกลับำร้อมกับก้มหัวอย่างสุภาพเรียบร้อยให้กับมาร์ ตอนนี้ทุกคนได้ทิ้งผ้าคลุมดำไปหมด แล้วหันมาใส่เสื้อผ้าที่บอสของพวกเขาวาดขึ้นและสั่งตัดให้พวกเขา มันคือชุดสูทสีดำ
[ อืม….ตอนนี้สภาพ รวมๆแล้ว…ไม่ว่าจะดูยังไง จากมุมไหน ตรงไหน ที่นี้มันก็ที่กบดานมาเฟียชัดๆ!! ] มาร์ที่มองไปรอบๆคิดแบบนั้น บรรยากาศในห้องตอนนี้มันมากกว่าองค์กรใต้ดินจะทำกันแบบแค่สั่งแล้วก็ไปทำงาน
มันเหมือนสัมมนาประชุมของกลุ่มมาเฟีย ทุกคนแต่งตัวเรียบร้อยยืนเป็นระเบียบ และแสดงสีหน้าพร้อมทำงานแต่ก็ซ่อนความกลัวเอาไว้ ในห้องก็ถูกตกแต่งจนดูผิดจากอดีตที่เป็นห้องกำแพงหิน ตอนนี้มาร์เปลี่ยนหินพวกนั้นให้เรียบและทาสีดำลงไป
"เอาละ พวกน.."
"อะแฮ่ม…ขอโทษนะคะนายท่าน ขอเวลาสักครู่นะคะ" มาร์กำลังจะพูดแต่ก็ถูกยูเรย์ห้ามเอาไว้
"นายท่านคะ นายท่านต้องทำตัวให้สมกับเป็นบอสหน่อยนะคะ ไม่ต้องไปเกรงใจพวกนี้หรอกค่ะ พูดแบบเดียวกับตอนที่จับพวกนั้นมาจะดีกว่านะคะ นายท่าน.." ยูเรย์เดินมากระซฺบข้างหูมาร์เบาๆ
"อ่า งั้นเหรอ แบบนั้นก็น่าจะดีกว่านะ" มาร์ที่ได้ยินก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบๆเบาๆ
"พวกแกฟัง!!! ที่นี้ใครกล้าฝ่าฝืนกฎ ก็เตรียมไปอยู่กับบอสเก่าของพวกแกได้เลย เข้าใจไหม!!!" มาร์พูดออกมาเสียงดัง ทำให้พวกลูกน้องของเขาตัวสั่นแต่ก็พูดตอบกลัด้วย "ค่ะ/ครับ" ทุกคน
กฎของ"ผี" นั้นคือ
1. บอสและเมดของเขาถือเป็นที่สุด
2. ไม่ทำร้ายหรือยุ่งกับคนทั่วไปโดยไม่จำเป็น
3. ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด
4. ค้าอาวุธเพื่อกำไร และไม่ขายให้คนที่อาจจะเป็นศัตรู
5. ไม่เข้าใจกลับไปดูข้อ 1.
"ดี… งั้นพวกแกก็เริ่มไปทำงานกันได้แล้ว ใครทำอาวุธก็ไปทำ ใครทดลองก็เอาไปลอง ใครจะหาเส้นสายสำหรับขายก็เอาไปรีบๆไป อย่าให้ช้าเราจะมาเปลี่ยนแนวทางการใช้อาวุธของโลกใบนี้กัน!!!" มาร์พูดกับพวกนั้น และทุกคนก็ก้มหัวก่อนที่จะแยกย้ายกันออกไป
ตอนนี้บริษัท "โรงงานผลิตของเล่น Ghost" เริ่มทำหน้าที่ของพวกเขาแล้ว แม้เบื้องหน้าจะเป็นร้านค้าทาสเกรดต่ำ ถึงกลาง ที่มีราคาทาสตั้งแต่ 1 โกลล์ ถึง 100 โกลล์ ทว่าตอนนี้ที่ใต้ดินกำลังมีโรงงานผลิดอาวุธและพื้นที่ทดสอบขนาดใหญ่ ที่ผลิตสิ่งที่เรียกว่า"ปืน" ออกมา ทว่าปืนของที่นี้ต่างจากที่อื่น ปืนของที่นี้ทรงพลังพอจะฆ่าพวกอัศวินที่เผลอได้อย่างง่ายได้ ด้วย *ปั้ง* ครั้งเดียว
หลังจากที่ลูกน้องของมาร์แยกย้ายออกไปหมดก็เหลือเขากับเมดอยู่ในห้อง ทุกคนยกเว้นยูเรย์ต่างพากันเดินอ้อมไปที่ข้างหน้าของมาร์ และก้มหัวคุกเข่าลงทำความเคารพเขา
"พวกเธอน่ะ ยืนขึ้นเถอะนะไม่ต้องทำแบบนั้นหรอก แล้วก็ยังไง..ผมก็ขอโทษด้วยที่ไม่สามารถช่วยให้พวกเธอกลับไปที่บ้าน…ในตอนนี้ได้ละนะ" มาร์พูดออกมาเขารู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถช่วยพวกเธอไปจนถึงที่สุดได้ ไม่สามารถช่วยให้พวกเธอได้กลับไปที่บ้านที่รักของพวกเธอได้
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะนายท่าน แค่พวกดิชั้นรอดมาได้และได้รับใช้ท่านต่อจากนี้ก็เป็นสุขยิ่งแล้วค่ะ" หนึ่งในพวกเธอกล่าวขึ้นมา
"งั้นเหรอ ผมเองก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบที่มีคนมาทำงานให้แต่ว่าบางที…" มาร์หยิบถุงเงินออกมา
[ จะให้มาทำงานฟรีๆ ก็ไม่ใช่เราละนะ อย่างน้อยก็ให้เงินเดือนพวกเธอไปละกัน เพื่อว่าถ้าอยากกลับจะได้มีเงินติดตัวไว้บ้าง ] มาร์คิดแบบนั้น เพราะในโลกเก่าที่จากมาเขาไม่เคยทำงานให้ใครฟรีๆ และไม่ชอบให้ใครมาทำงานให้เขาฟรีๆ
"เอ้า… ต่อจากนี้ผมจ้างพวกเธอละกันนะ เงินเดือนที่คนละ 20 โกลล์ 11 คนก็ 220 โกลล์ใช่ไหม มารับทุกๆสิ้นเดือนละกันนะ…อ๊ะ…จะไม่เอาเงินเดือนกันสินะ" มาร์พูดออกไปแต่ว่าคราวนี้เขาสัง้กตุเห็นว่าเหล่าเมดของเขารวมถึงยูเรย์เองต่างแสดงสีหน้าที่รู้สึกกระอักระอ่วย ไม่อยากรับเงินจากเขา
"เห้อออ ฟังนะ พวกเธอน่ะทำงานใต้คำสั่งผมก็ควรจะมีเงินเดือนไว้บ้าง เวลาอยากได้อะไรก็จะได้เอาไปใช้" มาร์มองไปที่ทุกคน แต่ว่าพวกเธอก็ยังคงแสดงสีหน้าปฏิเสธขึ้นมา
"เอาละ ถ้าไม่อยากรับก็ไม่ต้องมาทำงานให้ แบบนี้จะเอาหรือไม่เอาละ" ทุกคนที่ได้ยินเปลี่ยนสีหน้าทันทีและก้มลงเอาหัวกราบกับพื้น พวกเธออยู่ๆก็วาดกลัวขึ้นมา แม้แต่ยูเรย์ที่อยู่ข้างๆมาร์ก็เข่าทรุดลงไปนั่งกับพื้น
ทุกคนต่างพึมพำเป็นเสียงเดียวกันว่า "พวกเรากำลังจะถูกทอดทิ้ง"
มาร์ที่ได้ยินก็ถึงกับกลุ้มขึ้นมา [ ….เห้อออ ทำไมถึงไม่อยากได้เงินกันขนาดนั้นกัน แล้วอะไรคือถูกทอดทิ้ง เราเองก็ไม่ได้รับพวกเธอมาเป็นทางการซธหน่อย นี้ที่จะให้เงินก็เพื่อเรื่องนี้ด้วยนะเห้ยยย ฮัลโหลลล ไหวกันหรือเปล่าา??? ]
"เอาละ สรุปจะรับหรือไม่รับ เลือก ไม่เลือกเราจะถือว่าพวกเธอปฏิเสธนะ" มาร์พูดออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆก่อนจะวางเงินลงที่หน้าของเขา 11 กอง กองละ 10 โกลล์
สิ่งที่ตามมานั้นมาร์ไม่ได้คิดเลยว่าจะเกิดขึ้น พวกเธอหมอบคลานเข้ามาและหยิบเงินนั้นใส่ในกระเป๋าที่ละเหรียญพร้อมน้ำตา ทุกครั้งที่พวกเธอหยิบเหรียญทองขึ้นมาจะกุมมันไว้ในมือและจูบเหรียญนั้นก่อนที่จะอมเหรียญเอาไว้ราวๆ 1 นาทีก่อนจะเอาใส่กระเป๋า
[เอ่อ…สรุปคืออยากได้หรือไม่อยากได้เนี้ย แล้วก็หยุดอมเหรียญได้แล้วเว้ย มันสกปรก เห้ยย ตรงนั้นน่ะ ยูเรย์ เธอจะเอาเหรียญทองไปถูหน้าอกเพื่ออะไรวะนั้น หยุด หยุด] มาร์มองไปที่พวกเธอทั้ง 11 คน ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
"เห้ยๆๆ หยุดอมเหรียญได้แล้ว มันสกปรกพวกเธอก็รู้ไม่ใช่เหรอไง" มาร์พูดออกไปกะให้พวกเธอหยุดแต่ว่า คำตอบที่ได้รับคือ
"มิได้ค่ะ นายท่าน พวกเราต้องทำความสะอาดพวกเหรียญที่ท่านมอบให้แก่พวกเรา และถ้ามันจะสกปรกก็ไม่ควรสกปรกด้วยน้ำมือของคนอื่นนอกจากพวกเราและนายท่านค่ะ" หนึ่งในนั้นพูดออกมาและเมื่อเธอพูดจบก็เริ่มอมเหรียญต่อด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข
[อืม…สงสัยจิตใจยังไม่ฟื้นดีละมั้ง เอาเถอะ ร่างกายพวกเธอเองตอนนี้แค่อมเหรียญคงไม่ทำให้ถึงตายหรอก] มาร์นั่งรอพวกเธอทำ "กิจกรรมอม" ต่อจนเสร็จ
พวกเธอคลานถอยออกไปที่ตำแหน่งเดิมของตนเอง แล้วก็กลับไปก้มหัวอีกครั้ง
"เอาละ ในเมื่อรับเงินแล้ว พวกเธอก็ถือว่ามาทำงานให้ผม ต่อจากนี้หวังว่าจะทำงานกันคุ้มเงินที่ได้นะ" มาร์พูดพร้อมกับมองไปรอบๆ ใบหน้าของเขาตอนนี้มีรอยยิ้มแห่งความสุขที่สามารถมอบเงินให้พวกเธอได้สักที
ยูเรย์ที่อยู่ข้างๆเดินออกมายืนด้านหน้าของมาร์ก่อนที่จะคุกเข่าลงและพูด "แน่นอนค่ะ นายท่าน พวกเรา ทั้ง 11 คนจะรับใช้นายท่านไปตราบจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ใช่ไหม ทุกคน"
เมดทั้ง 10 คนที่อยู่ข้างหลังก็ตอบรับด้วย คำว่า "ค่ะ!!" พร้อมกัน
"ไม่ต้องถึงจนตายหรอก แต่ผมดีใจนะที่พวกเธอเต็มใจมาทำงานกับผม งั้นงานที่ผมจะมอบให้คือ พวกเธอต้องช่วยเรื่องจัดการบริหารองค์กรนี้ในตอนที่ผมไม่อยู่ แล้วก็คอยช่วยเหลือผมด้วย หวังว่าพวกเธอจะทำมันได้ดีนะ" มาร์พูดออกมาเพราะไม่รู้ว่าเขาจะมอบงานอะไรให้พวกเธอ ในหัวเขามีแค่
[เอ่อ…..รับมาทำงานแต่ดันลืมไปเลยว่าไม่มีงานอะไรให้ทำเงลยแหะ พูดไปแบบนั้นคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง จริงใช่มะ คงไม่เป็นอะไรหรอก??] มาร์นั่งคิดอย่างเรื่อยเปื่อยจนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่ เขารู้แค่ว่าตอนนี้ผู้หญิงทั้ง 11 คนกำลังล้อมวงประชุมบางอย่างอยู่
"งั้นก็ชั้นยูเรย์จะรับหน้าที่เป็นหัวหน้าของกลุ่ม [ผู้รับใช้ผี] นะ ส่วนหลังจากนี้ ดูแล้วพวกเราต้องแบ่งงานกันทำ มีใครถนัดงานเอกสารอะไรบ้าง?" ทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่นไปได้ด้วยดี
"ชั้นค่ะ งานเอกสารประเภทตัวเลขเป็นงานก่อนที่จะถูกลักพาตัวมาค่ะ" ผู้หญิงคนนึงพูดขึ้นมาแล้วยูเรย์จัดการตำแหน่งให้เธอ
การยืนประชุมของทั้ง 11 คนก็ค่อยๆผ่านไป มาร์เองที่เริ่มเหนื่อยหลังจากต้องตื่นติดต่อกันหลายวันก็ค่อยๆงีบหลับลง
………
…….
…..
"นายท่านคะ นายท่าน ตื่นได้แล้วค่ะ เช้าแล้วนะคะ" เสียงของยูเรย์ดังขึ้น มาร์ที่ได้ยินเองก็ค่อยๆลืมตาแล้วก็เห็นว่าตอนนี้เขาไม่ได้นั่งที่เก้าอี้แล้วแต่กลับมานอนที่เตียงแทน
"เช้าแล้วเหรอ ยูเรย์ หึบบบบ นี้ตอนนี้ผ่านไปกี่วันกันแล้วหลังจากที่ผมยึดที่นี้น่ะ พอจะรู้ไหมยูเรย์" มาร์ถามเธอที่ตอนนี้กำลังเดินไปเข็นรถเข็นที่บนนั้นมีอาหารถูกเตรียมเอาไว้
"โอ้…ขอบคุณสำหรับอาหารนะ" มาร์ลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปที่โต๊ะของเขา
"ค่ะ ตอนนี้ผ่านมา 5 วันแล้วหลังจากที่นายท่านมาที่นี้ อืมม ทำไมเหรอคะนายท่าน?" เธอพูดขึ้นในขณะที่เตรียมอาหารเช้าให้มาร์
[ชิบหายยยย 5 วัน ถ้าติดต่อเข้ามาในช่วงนี้ แล้วเราไม่ตอบกลับนานขนาดนั้นนี้ครูใหญ่คงกำลังตามหาตัวเราอยู่แหงๆ ตายละ ตายละ ต้องรีบกลับละมั้งเนี้ยยยย] มาร์รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินตรงไปที่ทางออกทันที
"นายท่านคะ!!! นายท่านจะไปไหนเหอคะ นี้พึ่งจะเช้าเองนะคะ ออกไปแบบนี้เดี๋ยวผู้คนก็เห็นหรอกนะคะนายท่าน" ยูเรย์เดินตามมาร์มาอย่างรวดเร็ว
"เราต้องรีบกลับไปที่"ของเรา"แล้วละ นี้ผ่านมา 5 วันแล้ว ขืนไม่กลับไปแล้วมีเรื่องอะไรละก็โดนแน่ ตาย ตาย" มาร์ยังคงเดินตรงไปที่ทางออกโดยเขาผ่านทุกห้องจนตอนนี้มาอยู่ที่ทางออกตึกแล้ว
"งั้นดิชั้นขอตามไปด้วยนะคะนายท่าน!!" เธอพูดขึ้นมาเสียงดัง มาเลยหยุดและหันกลับไปมอง
ตอนนี้ใบหน้าของยูเรย์เต็มไปด้วยน้ำตา เธอคิดแต่ว่า [ นายท่านกำลังจากจากเราไป ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้ เราต้องอยู่เคียงข้างท่านและรับใช้ท่านไปตลอด เราจะยอมให้ท่านไปไม่ได้เด็ดจขาด ]
"เห้ออออ แต่ผมต้องกลับละนะ ไว้กลางคืนวันไหนผมจะมาที่นี้เพื่อตามดูผลงานละกัน ระหว่างนี้ก็…"
"ไม่ค่ะ นายท่าน ดิชั้นต้องอขอนุญาตตามไปด้วย เพราะนี้"เป็นงาน" ที่ท่านมอบให้นะคะ ยังไงก็ต้องมีพวกเรา 1 ใน 11 คนไปตามดูแลท่าน หวังว่าท่านคงจะเข้าใจดีนะคะ" ยูเรย์พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง เธอเดินเข้าไปหามาร์และมองไปที่เขา
มาร์ที่โดนแบบนั้นก็รู้สึกใจอ่อนทันที มันแปลกมาก มาร์ไม่ควรจะใจอ่อนแบบนี้ เขารู้สึกว่าเหมือนกับมันเป็นหน้าที่ ที่ต้องพายูเรย์ไปด้วย
"เห้อออ เอาเถอะ งั้นก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะนะ เดี๋ยวผมจะรออยู่…." มาร์ยังไม่ทันได้พูดจบ คราวนี้ยูเรย์เริ่มถอดเสื้อผ้าของเธอ
เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยการถอดมันออกทีละชิ้นอย่างช้าๆ จากบนลงล่าง ผิวของเธอนั้นเปร่งปรั่ง และเนียนสวย
มาร์เองก็เป็นครั้งแรกที่พึ่งจะได้เห็นยูเรย์ชัดๆแบบนี้ เธอเริ่มสวมเสื้อผ้าที่ 1 ใน 10 เมด เตรียมมาอย่างช้าๆ เป็นชุดลำลองสีขาวเสื้อในสีดำและกระโปรงสั้นสีดำ เธอสวมมันก่อนที่จะดึงถุงน่องขึ้นมาจากปลายเท้าสู่เอว จบด้วยการใส่รองเท้าหนังสีดำที่มีขนสัตว์ประดับที่ข้อเท้า ก่อนจะจบด้วยการผูกโบวสีขาว
"เสร็จแล้วค่ะ นายท่าน!!" ยูเรย์ที่เปลี่ยนชุดเสร็จก็พูดขึ้นมาโดยที่ไม่สนสายตาของลูกน้องมาร์ที่กำลังจัดคงจัดของกันอยู่แม้แต่น้อย
"อะแฮ่ม พวกแกกลับไปทำงานได้แล้ว อย่ามัวแต่ยืนเฉย เดี๋ยวก็.."
" "ครับบอสสส!!!" " พวกเขากลับไปทำงานกันอีกครั้ง
"นี้วันหลังยูเรย์เองอย่าทำแบบนี้จะได้หรือเปล่า มันล่อตาล่อใจผู้ชายนะเออ เห้อออ" มาร์ถอนหายใจ และกุมหัวด้วยความเครียดเล็กน้อย
"ก็นายท่านคะ…แบบว่า ถ้าไปเปลี่ยนที่ห้องกว่าจะกลับมานายท่านจะรอนานเสียเปล่าๆนะคะ" เธอพูดกับมาร์มันเป็นใบหน้าที่ใสซื่อบริสุทธิ์มากๆ
[ จร่ะ ตามใจเลยจร่ะ ] มาร์ได้แต่สายหัว กับความคิดของยูเรย์
"งั้นพวกเราก็กลับกันเถอะ ช้ากว่านี้มีแต่จะเสี่ยงกว่าเดิม ฮะๆ" มาร์หัวเราะออกมาแห้งๆก่อนที่จะรีบเปิดประตูออกไปข้างนอกโดยมียูเรย์ตามมาข้างหลังเขา
ทั้งสองเดินไปตามถนนอยู่สักพัก แล้ววันนี้ก็โชคดีที่ยังไม่ค่อยมีคนมาที่ตลาดค้าทาสเยอะซักเท่าไหร่
"ยูเรย์เดี๋ยวผมเปลี่ยนเสื้อผ้าแปปนึงละกันนะ" มาร์เดินเลี้ยวเข้าซอยแคบๆด้านหน้า ยูเรย์ก็ตามหลังมาติดๆกะไม่ให้เขาหนีไปจากสายตาได้เลย
มาร์เปลี่ยนชุดของเขาอย่างรวดเร็วกลับไปเป็นชุดนักศึกษาหลักสูตรพิเศษ และถอดหน้ากากออก ทำให้ยูเรย์ได้เห็นหน้าจริงๆของมาร์ครั้งแรก
[ สง่างาม…. ] นั้นคือสิ่งที่ยูเรย์คิด มาร์มองมาที่เธอแต่ยูเรย์ก็หลบสายตาของเขาด้วยความเขินอายและความไม่คุ้นเคย
"ต่อจากนี้เรียกเราว่า มาร์ก็พอ ไม่ต้องมีท่าน คุณ หรืออะไรเพิ่มมาล่ะ" มาร์พูดพร้อมกับโยนเสื้อผ้าของเขาเข้าไปใน [พื้นที่มิติ]
"ค…ค่ะ มาร์.." ยูเรย์พยายามพูดออกมาแต่ก็ทำได้ดีไม่มีติดขัดอะไร
[ว่าแต่จะอ้างกับ ครูใหญ่ยังไงละวะเนี้ยยยย ลืมเฉยยยยย เอาไงดีวะ เอาไงดี เอางี้ละกัน ดูน่าเชื่อถือสุดละมั้งงง]
"เอาละตามมาแล้วอย่าทำตัวน่าสงสัยล่ะ แล้วช่วยจำไว้ว่า ที่เราเจอเธอเพราะ…" มาร์เริ่มเล่าเรื่องที่เขาพึ่งคิดได้ให้กับยูเรย์ เพื่อให้เธอเอาไว้ใช้ตอนโดนถามว่าทำไม ยังไง หรืออะไร
เรื่องก็คือตอนออกไปหาข้อมูลในป่าสำหรับทำวิจัย มาร์พบยูเรย์นอนบาดเจ็บอยู่โดยพ่อแม่ของเธอนั้นกำลังถูกมอนสเตอร์กินทั้งเป็น มาร์จึงเข้าไปช่วยยูเรย์ออกมา แล้วพาเธอไปรักษากับคนที่มาร์รู้จัก แบบนี้มาร์เลยต้องอยู่ดูอาการหลายวัน พอเธอฟื้นก็ไม่มีที่ไป มาร์เลยยื่นข้อเสนอไปว่า "มาเป็นน้องสาวของเราไมหมละ" ยูเรย์ที่ได้ยินก็ตอบตกลงทันที หลังจากนั้นมาร์ก็พาเธอกลับมาที่หอ
[ อ๊ะ แต่เดี๋ยวนะ ยูเรย์..อายุเท่าไหร่หว่า ] มาร์สงสัยขึ้นมาเพราะถ้าเกิดยูเรย์อายุมากกว่าเขาเขาจะได้แต่งเรื่องใหม่ได้
"ยูเรย์ นี้เธออายุเท่าไหร่เลยเหรอ?" มาร์หยุดเดินแล้วหันกลับไปถามยูเรย์
"ปีนี้ชั้….น้องอายุได้ 13 แล้วค่ะ" เธอตอบกลับมา มาร์ที่ได้ยินก็ถึงกับจะอุทานออกมาว่า "เชี้ย!!" เลย แต่เขายังหยุดเอาไว้ได้
"โตไวเหมือนกันนะเรา…" เพราะถ้ามองดูดีๆแล้วยูเรย์นั้นเตี้ยกว่ามาร์เพียงหน่อยเดียว
"ค่ะ ขอบคุณค่ะพี่" ยูเรย์พูดด้วยสีหน้าที่เขินอาย และบิดตัวไปมา มาร์เองก็ลูบหัวยูเรย์ด้วยความอ่อนโยน และห่วงใย มาร์คิดว่า [ เล่นได้ตามบทบาทดีนิ นี้ยังไม่ได้บอกให้เรียกว่าพี่เลยนะ สงสัยมีแววด้านการแสดงละสิ อืมๆ น่าชื่นชมๆ ]
[ นายท่านกำลังลูบหัวเรา อาห์ อ๊ะ อ่าาาาาห์ ฟินสุดๆไปเลยค่ะะะ] แต่นี้คือสิ่งที่อยู่ในหัวของยูเรย์
ทั้งสองเดินต่อจนกระทั่งมาหยุดที่หน้าโรงเรียนคอลลาจ ที่นั้นมีผู้หญิงผมสีแดงยืนรอต้อนรับพวกเขาอยู่ เธอกำลังส่งสายตาอาฆาตบางอย่างออกมา
"ไปไหนมาเหรอคะ คุณมาร์ ทางโรงเรียนตามหาคุณแทบแย่เลยนะคะ แล้วยะ…ยั…ผู้หญิงคนนั้นใครเหรอคะ?" เธอพูดขึ้น เธอนั้นคือประธานนักศึกษา ของโรงเรียนคอลลาจ คาริโลโล่
"อ่าาา นั้นไง ขอโทษนะครับท่านประธาน… อ่าใช่ๆ นี้น้องสาวบุญธรรมของผม ยูเรย์ ยูเรย์นี้ ท่านประธานนักศึกษาคาริโลโล่"
"ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ท่านประธานนักศึกษา" ยูเรย์พูดขึ้นมาเฉยๆด้วยน้ำเสียงเรียบๆเหมือนไม่สนใจ
"เช่นกันค่ะ…" คาริโลโล่เองก็ด้วย
หลังจากนั้นน่ะเหรอ ก็เป็นการถูกสอบปากคำฝ่ายเดียวจากประธานอยู่นานหลายนาที ก่อนที่เธอจะอนุญาตและตามไปส่ง มาร์กับยูเรย์ แต่ว่าไม่รู้ทำไม เธอมองยูเรย์ด้วยสายตาอาฆาตมากเป็นพิเศษ แต่ว่ายูเรย์เองก็ไม่ได้อยู่เฉยเธอมองกลับด้วยสายตาแบบเดียวกัน เหมือนทั้งสองจะประกาศในใจแล้วว่า "อีนี้ คือศัตรู"
[เดี๋ยวนะ ไม่ใช่พึ่งเคยเจอกันหรือไง?? ทำไมถึงต้องมองกันด้วยสายตาแบบนั้นละครับบบ]
….
MANGA DISCUSSION