*เสียงประกาศตามสายว่าตอนนี้เวลา 7นาฬิกา 30 นาทีดังขึ้น* มาร์นั้นมาถึงตึกเรียนทันเวลา และทานข้าวเช้าได้ทันพอดี
ที่โรงอาหารของโรงเรียนคอลลาจ จะมีการขายอาหารไม่เหมือนโรงเรียนอื่น ที่นี้ใช้ระบบโกเล็มขายอาหารดังนั้นมันจึงคล้ายๆตู้กดอัตโนมัติที่ทำอาหารสดใหม่ในทันที แล้วด้วยระบบนี้เอง คนนอกก็ไม่สามารถเข้ามาสั่งอาหารกินได้ เพราะโกเล็มจะทำตามสั่งของนักเรียนในระบบเท่านั้น
ซึ่งนักเรียนแต่ละคน จะมีสิทธิ์สั่งอาหารได้ตามใจชอบ แต่ก็มีราคาเช่นกัน ตามวัตถุดิบที่ใช้ เช่น เช้านี้มาร์สั่งแซนวิชเบค่อน กับ นม ก็มีราคาอยู่ที่ 1 ซิลเวอร์ แต่นักเรียนข้างมาร์ที่สั่ง สลัดผักออแกนิค น้ำส้มคั้น ที่เป็นวัตุดิบสดใหม่พิเศษ ก็เลยเสียเงินไป 3 ซิลเวอร์
สกุลเงินที่นี้เหมือนกับในนิยายที่มาร์เคยยืมเพื่อนอ่าน เงินเริ่มที่ ตระกูล บลอนซ์ ที่เป็นค่าต่ำสุด 1000 บลอนซ์ เท่ากับ 1 ซิลเวอร์ และ 1000 ซิลเวอร์เท่ากับ 1 โกลล์
"นึกว่าจะไม่ทันได้กินข้าวแล้วนะเนี้ย ต่อไปก็ ห้อง F ห้อง F สินะ ทางไหนหว่า" มาร์เดินหาห้องเรียนที่เขาอยากไปลองนั่งวันนี้ที่ทางเดินอาคารเรียนปี 1
ระบบห้องนั้น เรียงจาก คะแนนที่ได้ตอนสอบเข้า และตอนสอบปลายภาค ทว่านักศึกษาบางคนที่ได้คะแนนดีมากๆ ก็สามารถเลือกที่จะอยู่ห้องไหนก็ได้ตามใจชอบ เพราะเป็นสิทธิ์ที่ครูใหญ่มองว่า สมควรได้รับเป็นรางวัลจากความพยายาม
โดยที่รอบๆนั้น เหล่านักศึกษาปี 1 เอง ก็มองมาร์ ด้วยสายตาแปลก เพราะว่า ไม่มีใครคิดว่านักเรียนหลักสูตรพิเศษจะมาเดินในชั้นปีที่ 1 นี้
"มาร์จังงง อรุณสวัสดิ์ วันนี้เธอก็มาเรียนด้วยเหรอเนี้ย แปลกจังน้า" เสียงนั้นดังขึ้นจากข้างหลังมาร์ เป็นเสียงที่มาร์คุ้นเคยดี
"อ้าว ดี ดี เอเลน เป็นไงบ้าง ไม่เจอกันตั้งแต่เปิดภาคเรียนเลยนินะ ว่าแต่ รบกวนเรียกผมว่า มาร์คุงจะดีกว่านา แบบว่า มาร์จังเนี่ยผมอนุญาตแม่คนเดียวเท่านั้นแหละที่จะเรียกได้อ่ะ"
มาร์หันกลับไปหาเอเลนที่อยู่ข้างหลัง และเขาก็เดินเข้าไปหาเธอ ใกล้ๆและกระซิบข้างหูเอเลนด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่มีแรงกดดันบางอย่างอยู่
ใช่ มาร์นั้นไม่ชอบให้ใครมาเรียกเขาแบบเรียกผู้หญิงสักเท่าไหร่ ตัวมาร์นั้นจะอนุญาตให้คนที่จะเรียกชื่อเขาตามใจชอบได้ก็ต่อเมื่อเขานับถือคนนั้นหรือรักคนนั้นจริงๆ แบบที่ พ่อกับแม่ที่เรียกเขาว่า"มาร์จัง"
"เอ…ขอโทษน้า มาร์จั…คุง คือว่าเราเรียกเธอแบบนี้เพราะมันเข้ากับเธอมากอ่ะ จริงนะๆ เราขอโทษษษษ" เอเลนตอบกลับด้วยความสำนึกผิด เธอพึ่งจะรู้ว่ามาร์ไม่ชอบที่เธอไปเรียกเขาว่า..จังแบบนั้น
"เอาเถอะๆ เรื่องผ่านๆมาแล้วอย่าไปกังวลเลย ว่าแต่เอเลนอยู่ห้องไหนนะ? S ปะ ถ้าจำไม่ผิด" มาร์พยายามเปลี่ยนประเด็นเพื่อให้เอเลนรู้สึกดีขึ้น ซึ่งมันก็ได้ผล สีหน้าเธอดีขึ้น เขาถอยห่างออกมาแล้วกลับมาคุยแบบปกติ
"อื้ม!! เราอยู่ห้อง S ละ เป็นหัวหน้าห้องด้วย มาร์ละจะไปไหนเหรอ หลักสูตรพิเศษนิ ปกติไม่ต้องเข้าเรียนก็ได้ไม่ใช่อ๋อ???" เอเลนถามพร้อมกับเอียงหัวไปมาด้วยความสงสัยและอยากรู้อยากเห็นแต่ว่าหน้าเธอก็เริ่มแดงขึ้นมาแปลกๆ
"ผมน่ะเหรอ กะว่าจะมาดูวิธีการเรียนการสอน กับนั่งฟังบรรยายเพื่อจะได้ไอเดียไปทำวิจัย ตอนนี้ก็เลยกะว่าจะไปห้อง F ก่อนแล้วค่อยคิดอีกที ทำไมเหรอเอเลน?" มาร์ถามเอเลนเพราะเขาเองก็อยากรู้ว่าทำไมเธอจึงสนใจว่าเขาจะไปเข้าเรียนทำไม
"แหมมม เสียดายจัง นึกว่ามาร์คุงจะมาเข้าห้อง S ซะอีก งั้นเราไม่กวนมาร์คุงละ โชคดีกับการหาไอเดียน้า" เอเลนเธอพูดจบก็วิ่งออกไปพร้อมกับใบหน้าที่เขินอาย ผิดกับตอนที่เธอเข้ามาทักมาร์
[วันนี้ทำไมมาร์จัง…..ไม่สิมาร์คุง ดู..เท่ห์จัง] นั้นคือความคิดของเอเลนที่ตอนนี้หน้าแดงสุดๆไปแล้ว
"เอเลนจังวันนี้ก็ดูร่าเริงดีนะ นายว่างั้นไหมละฮะ พี่ชาย" เสียงนั้นมาจากข้างๆมาร์ เจ้าของเสียงเป็นชายหนุ่มผมสีเงินหูยาว ตาสีเงิน สวมแว่นกลม และต่างหูขนาดใหญ่
"เออ ไม่ทราบว่านายเป็นใครเหรอครับ?" มาร์หันไปถามเด็กผู้ชายคนนั้นพร้อมกับความคิดในหัวว่า [ อะไรของหมอนี้วะครับเนี้ย อยู่ก็เดินเข้ามาแล้วเรียกเราว่าพี่ชายแบบนี้อ่ะนะ? ]
"แหมๆ ไม่ต้องเกรงใจหรอกพี่ชายนะฮะ ฮ่าๆ ผมไม่ถือๆ อ่าใช่ๆ ผมชื่อ เคอมิท ดรีมชามเมอร์ ฮะ เรียกมิทเฉยๆก็ได้ ผมเป็นน้องชายของท่านประธานน่ะฮะอยู่ปี 1 ห้อง F ยินดีที่ได้รู้จักฮะ พี่ชาย" เขาพูดกับมาร์ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแต่น้ำเสียงที่เฉื่อยๆ ช้าๆ
"อ๋อเหรอ เราชื่อ มาร์ ซันเบิร์น ยังไงนายก็คงรู้สินะว่าเราอยู่หลักสูตรพิเศษ แต่ว่าเราไม่ค่อยสนเรื่องสถานะด้วยสิ แต่ว่ายินดีที่ได้รู้จักนะมิท ว่าแต่ทำไมนายถึงเข้ามาหาเราแบบนั้นละ แล้วเรียกเราว่าพี่ชายอีก?" มาร์ถามด้ยความสงสัยเพราะเขาไม่ไว้ใจมิทสักเท่าไหร่
โดยไม่รู้เลยว่า มิทนั้นตอนนี้กำลังคิดว่า [ ต้องรีบพา มาร์คุงออกจากที่นี้เดี๋ยวนี้แล้วสินะ ดูเหมือนเจ้าตัวจะยังไม่รู้ว่า มีบางอย่างตามแอบมองอยู่บนเพดานนั้น ]
มิทเหลือบขึ้นไปมองเพดานบริเวณทางเดินที่เขากับมาร์อยู่ ที่นั้นมีช่องเล็กๆที่ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นเส้นผมสีแดงห้อยลงมา พร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคักอยู่บนนั้น
"พี่ชาย เอางี้ ผมได้ยินว่าพี่จะไปเข้าห้อง F ใช่ม้าาฮะ ก็ระหว่างที่เดินไปผมก็จะเล่าไปด้วยละกัน" มิทพูดจบเขาก็เดินนำมาร์ทันที มาร์เองก็ไม่ได้คิดอะไรแต่ก็ยังแอบระวังตัวอยู่เหมือนกัน ก่อนที่จะเดินตามมิทไป
"อืมม แบบนี้….กว่าเน่จังจะตามมาทันก็อีกสักพักสินะ มาร์คุง คือว่า ตอนนี้มาร์คุงกำลังโดนบางสิ่งตามตัวอยู่น่ะ ยังไง ช่วงนี้พยายามอย่าอยู่คนเดียวจะได้หรือเปล่าตอนที่ออกมาข้างนอกอาคารของมาร์คุงน่ะฮะ"
มิทพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เบาจนมีเพียงมาร์ที่ยืนข้างๆเท่านั้นที่ได้ยิน
[คำเตือน? เรื่องอะไร? เดี๋ยวนะหรือว่าเราจะโดนหมายหัวตั้งแต่วันแรก แล้วมีคนมาดักตีเรา!! แบบนั้นมันอาชญกรรมเลยนะนั้น ถึงเราจะสวนกลับได้แต่ไม่มีเรื่องจะดีกว่าหรือเปล่า แต่เดี๋ยวนะเห้ย นี้พึ่ง 5 วันเองหลังจากเปิดภาคเรียนนะสึส จะมาดักตีหัวแบบนี้ไม่ได้!!!]
มาร์ตั้งใจฟังมิทขึ้นมาทันทีที่เขาพูดเรื่องนี้ เพราะมาร์เองก็รู้สึกตัวว่า การที่เขาอยู่หลักสูตรนี้จะต้องสร้างความอิจฉาในหมู่นักศึกษาแน่ๆ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะรุนแรงขนาดนี้
"แล้วก็นะ ที่ผมพูดเนี้ย เพราะผมเห็นหรอกนะฮะ ผมเลยพูดได้ คือเมื่อเช้า… ตอนออกจากห้องที่หอใน ผมไปเจอ"คน"แปลกๆ แอบตามพี่ชาย ตอนแรกผมก็คิดว่าไม่มีอะไรหรอก จนกระทั่งอยู่ๆ "คน""คน"นั้นก็ไปยืนอยู่ที่หน้าทางเข้าตึกพี่ชายด้วยท่าทางแปลกๆละ แบบว่าไงดี อยู่ๆก็ หายใจเสียงดัง ฝืดฝาดอยู่หลายนาทีเลย " มิทพูดพร้อมกับแสดงท่าทีประกอบ แล้วมันก็ทำให้มาร์รู้สึกได้ว่า
[ อ่า….ชีวิต กุข้า อยู่ในสภาวะที่ไม่ปลอดภัยแล้วสินะ ]
"แบบนี้ เราควรจะอยู่ในห้องดีกว่าออกมาข้างนอกสินะ แบบนั้นจะปลอดภัย….." มาร์พูดขึ้นมาเพราะคิดว่าอยู่ในห้องเขาก็ไม่ด้แย่อะไร แค่จะมีไอเดียวิจัยน้อยลงเท่านั้นเอง
แต่ว่าอยู่ๆ มิทก็เดินเข้ามาเขย่ามาร์พร้อมกับพูดเสียงดังด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลนว่า " ไม่ได้นะฮะพี่ชาย!!! ถ้าพี่ชายไม่ออกมาข้างนอกเลยเดี๋ยวโรงเรียนจะมีปัญหาเอานะฮะ!!! " แต่ในหัวของมิทนะเหรอ
[ถ้ามาร์คุงไม่ยอมออกมาละก็….พวกสภานักเรียนได้มารังควานชีวิตผมตั้งแต่เช้าจดเย็นแหงๆ แบบนั้นไม่เอานาาา ถ้าเป็นแบบนั้นก็อดทำตัวเฉื่อยๆในโรงน่ะสิ อุตส่าห์เลือกห้องเรียนง่ายๆแล้วแท้ๆแย่ที่สุดเลย!!]
"งั้นเหรอ…. มันก็จริงละนะถ้าไม่ออกจากห้องเลย มีหวังโรงเรียนโดนมองว่ากักเราไปเป็นแรงงานทาสแหงๆ เนอะ มิท?" มาร์คิดแบบที่เขาพูดจริงๆ เพราะว่านักเรียนที่ตอนนี้ดังระดับประเทศอยู่ๆก็ไม่ยอมออกจากห้อง สิ่งที่แรกที่คนจะสงสัยก็คือโรงเรียนนี้แหละ
"ชะ ใช่แล้วฮะ ไม่งั้นโรงเรียนจะมีปัญหาเอาด้วย อีกอย่างถ้าพี่ชายออกมา แล้วไม่กล้าไปเดินคนเดียวก็บอกผมไม่ก็ เอเลนจังก็ได้นะฮะ ผมว่าเธอน่าจะยินดีที่จะอยู่กับพี่ชายนะฮะ แต่ยังไงก็…อย่าให้ เน่…ท่านประธานเห็นละกันนะฮะ" มิทพูดขึ้นมาพร้อมกับมองไปที่ทางเข้าห้อง F
"อ่า ถึงแล้วสินะ ยังไงก็วันนี้คงต้องรบกวนให้มิทช่วยแนะนำห้องเรียนแล้วก็วิชาแล้วละ ว่าแต่ทำไมมิทถึงเรียกเราว่า พี่ชายละนั้น มีเหตุผลอะไรหรือเปล่า?" มาร์ถามมิทที่ตอนนี้เดินนำเขาเข้าไปนั่งที่หลังห้อง ฝั่งติดกระจก
ในห้องเรียนนี้เป็นห้องเรียนที่นั่งเป็นชั้นๆ เรียงขึ้นไป มีกระดานดำอยู่ที่ทางเข้าห้อง ให้อารมณ์เหมือนห้องเรียนในมหาลัย แต่ว่าค่อนข้างจะหรูกว่ามาก เพราะเก้าอี้และโต๊ะเป็นเครื่องไม้อย่างดี
"นั้นสินะ ผมก็ไม่มีเหตุผลอะไรหรอกฮะ แบบว่าไงดีละ เห็นพี่ชายแล้วรู้สึกว่า พี่ชายมีความเป็นผู้ใหญ่ในเด็กแปลกๆอ่ะนะฮะ ฮ่าๆๆ" มิทตอบมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม มาร์ก็คิดว่านั้นก็สมเหตุสมผลดีและเขาก็ไม่ได้รู้สึกแย่ที่ถูกเรียกแบบนั้น โดยหารู้ไม่ว่าตอนนี้ มิทกำลังคิดในใจอยู่ ความคิดของมิทนั้น…
[ เพื่อวันนึงเราอาจจะได้เรียก มาร์คุงว่าพี่ชายจริงๆก็ได้ ไม่สิพี่เขยสินะ? ]
*เสียงออดเริ่มเรียนดังขึ้น* แล้วนักศึกษาในห้องทุกคนก็เริ่มที่จะหยิบของขึ้นมาเตรียมเรียน
"นี้มิทวันนี้วิชาแรกวิชาอะไรเหรอ? แบบผม walk-in เข้ามาแบบนี้เลยไม่ได้เตรียมอะไรมาเลยละน่ะ" มาร์พูดขึ้นพร้อมกับมองไปรอบๆห้อง ด้วยความที่นั่งอยู่บนสุดแถมเป็นมุมห้องมาร์เลยเห็นรอบๆห้องได้อย่างชัดเจน
ในชั้นเรียนห้อง F นี้มีนักศึกษาราวๆ 50 คน แต่ว่าส่วนใหญ่เป็นเผ่ามนุษย์กับบีสต์โฟค
"วิชาแรกนะเหรอฮะ ก็วิชา…" มิทพูดขึ้นมาแต่ว่ายังไม่ทันได้พูดชื่อวิชาก็มีเสียงดังตรงประตูทางเข้า
*ปั้ง* ประตูถูกเปิดออกและอาจารย์ก็ตะโกนเข้ามาเสียงดัง
"ได้เวลาเรียน คณิตแล้วนะคะทุกคน วันนี้เอาลูกเต๋ามากันหรือเปล่าเอ่ยยยยยย" เสียงผู้หญิงดังเข้ามา พร้อมกับการเขวี้ยงถุงสีดำบางอย่างเข้ามาในห้อง ถุงนั้นพอตกถึงพื้นก็มีบางอย่างกระเด็นออกมามันคือ
[ ชิป สำหรับเล่นพนันนิ? ทำไมถึงเข้ามาในโรงเรียนได้ละ ? ] มาร์มองไปที่ชิปที่กระเด็นออกมา
"วิชาการพนันพื้นฐานน่ะฮะ อย่าไปเชื่อในสิ่งที่จารย์คนนี้พูดนะฮะ พี่ชายคือ จารย์แกมั่วๆยังไงไม่รู้ตั้งแต่วันแรกแล้วละฮะ" มิทพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าผิดหวัง ก่อนจะหยิบอุปกรณ์การเรียนขึ้นมา มันคือไพ่และลูกเต๋า
[ เดี๋ยวนะ…..นี้โรงเรียนห้ามไม่ให้ดื่มเหล้า แต่อนุญาตให้ครูมาสอนการเล่นพนันดื้อๆแบบนี้อ่ะนะ? ฮัลโหล ใครกำหนดหลักสูตรให้ออกมาเป็นแบบนี้วะเนี้ย? ]
….
MANGA DISCUSSION