หลังจากสอบจบลง วันถัดมา มาร์ก็ไปที่โรงเรียนเพื่อดูผลประกาศห้องที่เขาต้องอยู่ แต่ว่าในหัวของเขานั้น
[เห้ออออ…..ต้องรีบไปทำเรื่องขอเครื่องแบบชายด่วนเลย ไม่งั้นมีหวังมีคนตกกับดักตายเพิ่มแน่ แค่ตอนนี้ก็เยอะจนคุมไม่ไหวแล้ว]
มาร์เดินไปที่ประตูโรงเรียนโดยมีสายตาจับจ้องมาจากรอบด้านของเขา แต่มันไม่ใช่แค่กับจัจบจ้องมา เพราะมีการกระซิบ ชมว่า
"ดูนู้นสิดาวโรงเรียนเหรอนั้น แต่เดี๋ยวนะดาวโรงเรียนตอนนี้ก็แย่ละ พึ่งเปิดเรียนนี้หว่า"
"โหหหห ขาสวยมากอ่ะเธอ นางแบบแน่ๆ จากบริษํทไหนเนี่ยไม่เคยเห็นมาก่อนเลย"
"ขนาดทำหน้าบึ้งยังน่ารักเลยวะ ให้ตายเถอะถ้าเข้าไปตอนนี้จะโดนมองไงวะเนี้ย"
[แย่ที่สุด… แย่ที่สุด แม่นะแม่ พอรู้ว่าเราจะใส่ชุดอื่นมาก็โดนล็อกคอจับเปลี่ยนมาใส่ชุดเครื่องแบบนักเรียนหญิงอีก ดีนะว่าหากระโปรงที่เราซ่อนไม่เจอ ไม่งั้นละก็ บรื๋ยยยย เย็นล่างแน่ๆ!!]
ภาพวันนี้คือมาสวมเครื่องแบบนักศึกษาหญิงท่อนบนสีชมพูกับกางเกงขาสั้นสีดำและถุงเท้ายาวรองเท้าผ้าใบขาวลายทางสีชมพู
"เธอ เธอ… จำเราได้หรือเปล่า เราไง ที่สอบสนามสอบเดียวกันอ่า.." อยู่ๆก็มีคนเข้ามาทักมาร์จากด้านหลัง เป็นเสียงเล็กๆน่ารักมากๆ เธอคือผู้หญิงผมสีเงินม้วนผมเป็นหูแมว เธอทักมาด้วยสีหน้าเขินอาย และกลัวๆนิดหน่อย
"อ๋ออออ เธอ จากตอนที่สอบนิ!! ว้าว…เครื่องแบบนั้นเข้ากับเธอมากเลยน้า แบบว่าไงดีละดูน่ารักดีนะ ฮ่าๆๆ" มาร์มองดูเรือนร่างของสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าพร้อมกับหลุดปากชมไปโดยไม่ตั้งใจ
"อื้อ…ขอบคุณนะ เราชื่อ เอเลนน่า เกรย์แวมเพียร์ เรียกเอเลน ก็พอนะ เธอก็ด้วยใส่ชุดแล้วเข้ากับผมของเธอดีนะ แต่ว่าไม่ใส่กระโปรงเหรอ?" เอเลนถามมาร์ด้วยสายตาสงสัยและจ้องมองไปที่กางเกงขาสั้นของมาร์
[น่ะ….ยังไม่ทันได้เข้าโรงเรียนก็มีเหยื่อตกกับดักไปแล้วสินะ เห้ออออ] มาร์ถอดหายใจเฮือกใหญ่ออกมา พร้อมกับใช้มือทั้งสองเขากุมไหล่เอเลนไว้
เอเลนที่โดนจู่โจมแบบไม่ตั้งตัวก็ลุกลี้ลุกลน เธอหันซ้ายหันขวามองคนรอบๆ ทั้งยังมีใบห้นาที่เริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ
"ฟังนะ เอเลน เราชื่อมาร์ ซันเบิร์น ที่สำคัญกว่าชื่อเราคือ เราเป็น ผู้ชาย!!!" มาร์พูดเสียงดังกับเอเลน ส่วนเอเรนนะเหรอพอได้ยินก็
"คะ?" แต่ในหัวเธอนี้สิกลับคิดว่า [ เอ? ผู้ชาย? สงสัยอยากเกิดเป็นผู้ชายละมั้ง? ] เอเลนมองด้วยความสงสัยและไม่เชื่อในสิ่งที่มาร์พูดแม้แต่น้อย
"เห้อออ….ฟังเราดีๆนะ เอเลน ถึงเธออาจจะยังไม่เชื่อ แต่สักวันนึงเมื่อเธอรู้ความจริง ก็ขอให้จำวันนี้ที่เราบอกนะ งั้นขอตัวก่อนละ" มาร์ที่เห็นเอเลนมองมาแบบนั้นก็เข้าใจได้ว่า เอเลนเป็นเหมือนกับเอม พนักงานอำเภอที่แม้จะผ่านมาจากตอนนั้นหลายปีแล้ว ก็ยังเชื่อว่ามาร์เป็นผู้หญิงอยู่ดี
มาร์ปล่อยเอเลน แล้วเดินหันหลังให้เธอ ตรงไปที่ประตูทางเข้าโรงเรียนด้วยความหดหู่ จากการถูกเข้าใจผิดในสิ่งที่เขาพยายามแก้มาตลอด 6 ปี
"มาร์..จัง….. ถ้าเราได้อยู่ห้องเดียวกันก็ดีนะ ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยละ มาร์จัง!!!" เอเลนตะโกนมาจากข้างหลังของมาร์ ส่วนมาร์ก็ยกชูนิ้วโป้งส่งสัญญาณว่าโอเค
และเมื่อมาร์มาถึงตรงทางเข้าโรงเรียนก็เกิดความสงสัย [ ทำไมวันนี้อาจารย์มายืนกันเต็มเลยเนี่ย มีอะไรหรือเปล่า หรือแค่อยากเห็นหน้าเด็กใหม่หว่า? ]
มาร์มองอยู่สักพักแต่เขากลับรู้สึกได้ว่าพวกอาจารย์เหล่านั้นตอนนี้หันมามองมาร์กันหมด อาจารย์ที่ยืนอยู่ตรงทางเข้ามีรวมๆเกือบ 20 คน พวกเขาสวมเครื่องแบบที่เหมือนกับพร้อมจะออกไปรบที่ไหนได้เลย
แต่มาร์ก็ไม่ได้สนใจ แถมคิดว่านี้คงเป็นมาตราการเพื่อความปลอดภัยเพื่อเกิดเหตุอะไรขึ้นตั้งแต่วันแรกจะได้รับมือได้
มาร์เดินไปที่บอร์ดสำหรับติดประกาศผลห้อง ที่นั้นมีนักศึกษาใหม่มามุงดูอยู่หลายสิบคน มาร์ก็พยายามแทรกตัวเข้าไปให้ถึงบอร์ด แล้วก็เริ่มหาชื่อของเขา
"เหหหห ทำไมชื่อเราไปอยู่ตรงนั้นละ" มาร์มองขึ้นไปที่หัวกระดาษก็พบกับชื่อของเขา และข้อความที่ทำให้รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่
[ เนื่องจากปีนี้ได้มีการเปิดห้องเรียนพิเศษสำหรับ นักศึกษาพิเศษคนหนึ่ง ชื่อ [ มาร์ ซันเบิร์น ] หานักศึกษาตามชื่อที่ปรากฎได้อ่านขอให้ไปรายงานตัวกับอาจารย์ที่บริเวณประกาศด้วย ]
"เอ๋?!?!?! เราติดห้องเรียนพิเศษเหรอเนี้ยยยย!!!" ด้วยความตกใจมาร์เลยตะโกนออกมา
แต่เขาไม่คิดว่าการตะโกนนั้นจะทำให้อยู่ๆอาจารย์ 20 กว่าคนแถวๆนั้นกรูเข้ามาล็อกตัวเขาและพันธนาการด้วยสายรัดก่อนจะพากันแบกเขาออกไปโดยที่มาร์ไม่ได้ทันตั้งตัวหรือเตรียมใจอะไรเลย
[อะไรก้านนนนนนนนนนน!!!! แค่มาวันแรกเราจะโดนจารย์ซิ่วแล้วเหรอวะะะ!!! ชิบหายยยย!!! ขอโทษครับคุณพ่อ คุณแม่ ลูกชายคนนี้คงไม่สามารถจบจากที่นี้ได้แล้ววววว!!!!] มาร์รู้ว่าตนเองขัดขืนได้แต่จะมีปัญหาตามมาเปล่าๆ เขาเลยต้องยอมโดนอุ้มไปทั้งแบบนั้น
ผ่านไปราว 10 นาที มาร์ก็ถูกพามายังห้องๆหนึ่ง ที่ห้องนี้มีชายหนุ่มที่เปร่งออร่าสีขาวออกมา แต่ว่าตัวเขานั้นเป็นคนผิวสีน้ำตาลสวมชุดคล้ายบาทหลวงในมือถือหนังสือเล่มหนึ่ง แต่ว่าใบหน้าของเขาก็มีรอยสักสีน้ำเงินและบนหัวของเขาก็มีเขางอกออกมา
[เผ่าอสูรนิ…..แถมรอยสักสีน้ำเงิน นั้นมันระดับปราชญ์!!! ตัวตนระดับนี้อยากบอกนะว่า…] มาร์ใช้สกิล [เปิดเผยตัวตน] สกิลตรวจสอบระดับ 14 เขาก็รู้ได้ว่าชายตรงหน้าเขานั้นเป็นตัวตนที่อยู่สูงเกือบสุดในระบบเผ่าพันธ์ุ
"สวัสดีตอนเช้านะขอรับ มาร์ บุตชายแห่งบ้านซันเบิร์น กระผม เคโอทิค เดโบลอส ครูใหญ่ประจำโรงเรียนคอลราจแห่งนี้ ก่อนอื่นกระผมต้องขออภัยที่เชิญ คุณมาร์ มาโดยวิธีที่รุนแรงเสียหน่อย แต่เป็นเพราะพวกเรากลัวว่าคุณมาร์จะขัดขืนยังไงกระผมก็ต้องขออภัยด้วยนะขอรับ" เคโอทิคพูดจบเขาก็ก้มหัวขอโทษมาร์พร้อมกับ หญิงสาวผมสีเขียวข้างๆเขา
[ได้ยินมาว่า เผ่าอสูรที่โลกนี้เป็นเผ่า[พ่อพระของโลก] แต่ไม่คิดว่าจะ….อ่อนน้อมขนาดนี้เลยแหะ] มาร์ประหลาดใจกับสิ่งที่เขากำลังเจอ เขาหันไปมองผู้หญิงอีกคนที่อยู่ข้างๆ เคโอทิค
เธอสวมชุดของแม่ชี เธอเป็นคนตัวเล็กคล้ายเด็ดประถม แต่ว่าตามตัวของเธอนั้นมีรอยสักของเถาวัลย์ ผมของเธอมีสีเขียวและที่หัวของเธอก็มีมงกุฎหนามกุหลาบและดอกกุหลาบอยู่บนหัวของเธอ แต่ว่าสิ่งที่น่าประหลาดใจกว่าคือรอบๆตัวเธอมีกลีบกุหลาบร่วงหล่นลงมาตลอดเวลา กลีบพวกนั้นพอลงแตะถึงพื้นก็สลายไปและส่งกลิ่นหอมออกมา
"เอาละ เธอเองก็แนะนำตัวกับคุณมาร์เขาสิขอรับ" เคโอทิคเงยหน้าขึ้นพร้อมกับหญิงสาวคนนั้นก่อนจะบอกให้เธอแนะนำตัวเอง
"ดิชั้น เชอรี่ สไปน-ฟอเรส ผู้ช่วยครูใหญ่แห่งโรงเรียนคอลลาจ ยินดีที่ได้พบบุตรชายของบ้านซันเบิร์นและได้ทำความรู้จัก คุณมาร์นะเจ้าคะ" เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะเหมือนกับดนตรีที่ถูกบรรเลงโดยเทพีแห่งพืนป่า
"ทั้งสองคนไม่จำเป็นต้องสุภาพกับผมก็ได้นะครับ คือ…รู้สึกอึดอัดมากๆเลยละครับ ฮะๆ" มาร์พยายามบอกให้ทั้งสองคนนั้นพูดจาไม่ต้องมีพิธีอะไรมาก เพราะเขารู้สึกกดดันและอิดอัดการสนทนาแบบนี้
แต่ว่า เคโอทิคก็ส่ายหน้าแล้วบอกว่า "ไม่ได้หรอกขอรับ ผมไม่อาจปฏิบัติหยาบคายจนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของเผ่าอสูรได้หรอกนะขอรับ ผมต้องขออภัยที่ไม่อาจทำตามคำร้องขอ ของคุณมาร์ได้นะขอรับ อย่างไรก็ดีผมขออนุญาตเข้าเรื่องเลยนะขอรับ"
[จ่ะ พ่อพระของโลก] หลังจากนั้นมาร์ก็ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด
สาเหตุที่เขาต้องอยู่ห้องพิเศษ และเรื่องที่เขาจะต้องเจอต่อจากนี้นั้นคือ
[ เนื่องจากเราสอบได้คะแนนสูงที่สุดตลอดที่โรงเรียนเปิดมา 2000 ปี ทั้งยังตอบโจทย์วิชาการที่มีคำถามถึง 5 ข้อ ที่เป็นคำถามที่ยังหาคำตอบกันให้ลงตัวไม่ได้
แต่เพราะไอที่เราตอบดันตอบทุกความเห็นไป จึงแสดงให้เห็นว่าเราเป็นคนที่ตามเรื่องนี้และมีความรู้เทียบเท่ากับศาตราจารย์
ส่วนในเรื่องทักษะต่อสู้กับการคุมพลังเวทย์ เราก็ถูกตรวจสอบแล้วหลายครั้ง ซึ่งทุกคนมีความเห็นว่าเป็นเด็กมีพรสวรรค์ที่ไม่มีใคiสามารถสอนได้
ดังนั้น อาจารย์ในโรงเรียน ทั้ง 500 คน จึงลงมติกันว่า ให้เราอยู่ในโรงเรียนต่อไปได้โดย ไม่ต้องเรียน ไม่ต้องสอบ อยากทำอะไรก็ทำ
แลกกับทางโรงเรียนจะมอบ "ห้องเรียนพิเศษ" หรือก็คือห้องส่วนตัวให้เราไว้ใช้ทำอะไรก็ได้
ถึงครูใหญ่จะบอกว่าไว้เพื่อการวิจัยสิ่งที่เราสนใจ กับ เรามีหน้าที่ช่วยสอนหรือลงแข่งในชื่อของโรงเรียน ]
นี้คือสรุปสิ่งที่ครูใหญ่บอกกับมาร์ แต่มาร์นะเหรอในหัวเขาตอนนี้กลับคิดว่า
[ ทว่านะ สิ่งที่น่าสนใจไม่ใช่เรื่องห้องหรือชื่อเสียงแต่เป็น …. เงิน ใช้ โรงเรียนจะให้เงิน เราเป็นรายเทอมเหมือนจ้างเรียนซึ่ง แม่งงงคือความแจ่มแมวอย่างหาที่สุดมิได้จริมๆ ค่าจ้างเรียนนะเหรอ 500 โกลล์ แล้วโกลล์นึงเนี่ยพออยู่ได้ 1 เดือนเลยนะเออ นี้คืออยู่ไปยาวๆ 500 เดือนได้ง่ายๆเลย ฟินสึส!!!] มาร์แอบกุมมือ*เยส* ใต้โต๊ะเพราะสิ่งที่เขาจะได้รับนั้นเหนือคาดหมายเกินไปลิบลับ
ตอนแรกมาร์คิดว่า มาเข้าเรียนและจบไปด้วยคะแนนดีๆเพื่อเอาต่อยอดหางาน สร้างเนื้อสร้างตัว แต่นี้ข้ามขั้นไปไกลโขเลย
[ ยังไม่หมดเท่านั้น โรงเรียนยังให้เงินทุนวิจัยอีกต่างหาก ย้ำว่า "ต่างหาก" อย่างงี้เราก็สามารถพัฒนาอาวุธปืนได้ตามใจชอบแล้วสินะ สุดๆไปเลยยยยยเหวยยยยยยยยยย ]
โลกนี้มีปืนเป็นอาวุธด้วย แต่ว่าปืนเป็นอาวุธสำหรับมนุษย์ที่ไร้ซึ่งพลังและความสามารถ จนอ่อนแอกว่าเผ่าอื่นๆมาก พวกเขาจึงเริ่มประดิษฐ์ปืนมาใช้เพื่อป้องกันตัวนานกว่า 100 ปีแล้ว แต่ปืนในโลกนี้ก็ยังเป็นเพียงปืนคาบศิลาเท่านั้น รวมกับมนุษย์ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบกับทุนสำหรับวิจัยเรื่องปืนได้เลย ปืนจึงยังไม่สามารถพัฒนาไปไหนได้ไกลนัก
หากมองจากข้างนอกมาร์ยังคงนั่งยิ้มอยู่ตรงข้ามเคโอทิคกับเชอรี่ แต่จริงๆแล้วข้างหลังของมาร์ตอนนี้กำลังมีเงาคนสีดำขนาดเท่านิ้วชี้เต้นรำฉลองความร้ำรวยกันอยู่
"แล้วเธอมีความเห็นว่าอย่างไรละเจ้าคะ คุณมาร์" เชอรี่พูดขึ้นมาพร้อมกับยื่นเอกสารสัญญาให้มาร์
มาร์ก็หยิบมาอ่านเช็คเพื่อความมั่นใจ หลังจากอ่านเสร็จเขาก็เซ็นต์ชื่อของเขาและสัญญานั้นก็ม้วนตัวเองและปิดผนึกด้วยตราสีแดงก่อนจะแตกตัวออกเป็น 2 ฉบับ
"เช่นนี้ ยินดีต้อนรับ คุณมาร์สู่การเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนคอลลาจนะขอรับ" เคโอทิคยื่นมือมาหามาร์และมาร์ก็ตอบกลับด้วยการจับมือนั้น
"เช่นกันครับครูใหญ่!!!" มาร์ยิ้มออกมาด้วยสีหน้าร่าเริง
"งั้นก่อนอื่นเลยคงต้องขอให้คุณมาร์ช่วยเปลี่ยนเครื่องแบบแล้วตามเรามาด้วยนะเจ้าคะ" อยู่ๆเชอรี่ก็เดินมาหามาร์ในมือเธอมีซองถุงกระดาษสีขาวห่ออย่างดีและบนห่อนั้นก็ผูกโบว์พร้อมกับข้อความว่า [สำหรับนักศึกษาพิเศษสุดน่ารัก]
"นี้คือเครื่องแบบ ใหม่สำหรับนักศึกษาพิเศษ ทางเราได้ให้บริษัทแฟนชั่นชื่อดังอย่าง [แมรี่&วราเรย์ แกรนด์แฟชั่น] ออกแบบให้โดยเราได้ส่งรูปของคุณมาร์ให้กับทางบริษัทเพื่อออกแบบชุดนี้เป็นพิเศษ หวังวาคุณมาร์จะชอบนะขอรับ" เคโอทิคเดินมาและแกะซองใส่เครื่องแบบนั้นออก
มันเป็นชุดรัดรูปสีดำที่เปิดไหล่และมีเสื้อคลุมให้มันเป็นเสื้อคลุมสีดำที่มีแทบขาวทั้งสองข้าง ส่วนช่วงล่างเป็นกางเกงเล็กกิ้งสีดำแทบขาวเหมือนกัน รองเท้าก็เป็นรองเท้าผ้าใบดำแทบขาว
มาร์ที่เห็นก็ถึงกับหน้าซีดและกอดตัวเองทันที เขาพยายามจะหันหลังและเดินออกจากห้องแต่ที่ประตูนั้น แต่จู่ๆก็มีรากไม้ขึ้นมาขวางไว้เหมือนไม่ให้ออก
"ขออนุญาตนะเจ้าคะ คุณมาร์ไม่งั้นพวกเราจะไปไม่ทันพิธีเปิดนะเจ้าคะ!!!" เชอรี่เริ่มลงไม้ลงมือเปลี่ยนเสื้อผ้ามาร์ทันที เธอใช้เถาวัลย์จำนวนมากเข้าจับตัวมาร์ก่อนจะเริ่มเปลื้องผ้าและเอาชุดที่สั่งตัดมาใส่ให้
"ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!" มาร์กรีดร้องอยู่ในห้องของครูใหญ่ เสียงนั้นไม่อาจส่งไปหาใครที่จะมาช่วยเขาได้เลย…. มาร์ได้แต่คิดในใจว่า [ มีบริษัทเป็นร้อยเป็นพัน ไหงไปจบที่บริษัทแม่ได้ล่ะโว้ยยย!!!! ]
….
MANGA DISCUSSION