[เอเลี่ยนเกยตื้น] สเปซทรัคเกอร์ รูดี้คุง - ตอนที่ 40 ความรักของครอบครัว
ตอนที่40 ความรักของครอบครัว
จากที่รูดีได้ยินมาเกี่ยวกับอาการของ นีน่า ทำให้เขาพอจะสรุปได้ว่าเธออาจจะเป็นมะเร็งในมดลูก และความจริงที่ว่าเธอเริ่มที่จะต้องอดทนกับความเจ็บปวดแล้ว นั่นหมายถึงว่าอาการของโรคมันได้เข้าสู่ระยะสุดท้ายแล้ว
แน่นอนว่ารูดี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับ นีน่า แต่ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นผู้มีพระคุณของ นาโอมิ
จากมุมมองของรูดี้แล้ว ไม่ว่าเธอจะเป็นผู้มีพระคุณของ นาโอมิ หรือไม่นั้นมันก็ไม่ได้เป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องเสี่ยงต่อการถูกเปิดโปงโดยการยื่นมือเข้าไปช่วย คนแปลกหน้า เลยแม้แต่น้อย เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้ เขาก็อยากที่จะปล่อยเธอไปตามยถากรรม
แต่ทว่าเมื่อได้เห็นคาร์ล และ ฟรานซ์ พากันมาคุกเข่าก้มหัวขอร้องกับคนที่เพิ่งจะได้พบกันครั้งแรกอย่างรูดี้แล้ว
สำหรับรูดี้ที่เกิดขึ้นมาโดยการผสมเทียม และเลี้ยงดูมาโดยที่ไม่ได้สัมผัสกับความรักของครอบครัวเลยแม้แต่น้อย ทำให้เขานั้นไม่สามารถทำความเข้าใจต่อการกระทำของพวกเขาได้
[มาสเตอร์ จะยอมรับคำขอของพวกเขาไม่ได้นะครับ ถ้าทำอย่างนั้นละก็ ตัวตนของคุณจะถูกเปิดเผยออกมาอย่างแน่นอน]ฮาล ที่จับตาดูการสนทนาของพวกเขามาจนถึงตอนนี้ได้พูดกับรูดี้ผ่านการเชื่อมต่อของสมองอิเล็คทรอนิคส์
“เรื่องแบบนั้น ถึงไม่บอกก็รู้อยู่แล้วแหละ”
[ถ้าอย่างนั้นคุณจะละทิ้งพวกเขาเหรอครับ]
“นั่นสินะ..บางที สิ่งที่นายว่ามันมันก็อาจจะถูกต้องก็ได้ แต่ว่านะ นายไม่เห็นข้างหน้าฉันเหรอ สองคนนี้น่ะ เพื่อที่จะช่วยคนในครอบครัวของพวกเขาแล้ว เขาถึงกับมาก้มหัวขอร้องคนแปลกหน้าที่เพิ่งได้เจอกันเลยนะ นอกจากนั้นแล้วคาร์ลเองก็บอกไว้ด้วยว่าเขายอมแลกกับชีวิตของตัวเองเลยด้วย”
[ถ้าตัวเองตายขึ้นมาก็จะไม่สามารถพบกันได้อีกแท้ๆ มันเป็นความคิดที่ไม่สมเหตุสมผลแบบสุดโต่งไปเลยครับ]
“บางที่นี่อาจจะเป็นสิ่งที่เรียกว่าความรักก็เป็นได้นะ”
พอได้ยินรูดี้ว่าแบบนั้น การตอบสนองของ ฮาล ก็ชะงักไป
[…….ในฐานะของ AI แล้ว กระผมไม่สามารถเข้าใจได้ครับ]
“ไม่ต้องห่วงไป แม้แต่ฉันเองก็ด้วยแหละ”
หลังจากที่รูดี้คุยกับฮาลเสร็จ เข้าก็หันไปพูดกับคาร์ลที่ยังคุกเข่าอยู่บนพื้น
“คาร์ล ที่ผมได้ยินว่าคุณพร้อมที่จะสละชีวิตตัวเองน่ะอันนั้นเรื่องจริงเหรอ เดส?”
“แน่นอนสิ ถ้ามันทำให้ช่วย นีน่าได้ละก็ ไอ้ของอย่างชีวิตของข้าน่ะ จะเอาไปเท่าไหร่ก็เชิญเลย”
คาร์ลเงยหน้าขึ้นมาตอบรูดี้อย่างไม่ลังเล
“ถ้าอย่างนั้นละก็ แค่คราวนี้เท่านั้น ผมจะช่วยคุณภายไต้เงื่อนไขบางอย่าง เดส”
“พูดจริงเหรอ?”
ตรงกันข้ามกับสายตาที่เปล่งประกายแห่งความหวังของทั้งสองคน สายตาของรูดี้กลับดูมืดมน
“รูดี้ แบบนี้ดีแล้วจริงๆเหรอ?”
พอนาโอมิถามแบบนั้น รูดี้ก็ถอนหายใจตอบ
“ชิโชวยังจะพูดแบบนั้นอีกเหรอเดส?…เอาเถอะ คราวนี้ผมยกให้เป็นกรณีพิเศษเดส คาร์ล บ้านหลังนี้เป็นความลับ เป็น…เป็น?….ห้ามพูดถึงความลับของบ้านหลังนี้เด็ดขาดเลย เดส ถ้าคุณพูดถึงมันละก็ ผมจะฆ่าคุณแน่ นี่ผมเอาจริงนะ เดส”
“ถ้าตอนนั้นมาถึงละก็เดี๋ยวฉันช่วยอีกแรงละกัน”
นาโอมิพยักหน้าเห็นด้วยกับข้อแม้ของรูดี้
“เข้าใจละ ถ้าพวกเธออยากให้เก็บมันเป็นความลับละก็ ข้าก็จะไม่พูดถึงมันแม้แต่กับครอบครับของข้าเองเลย”
“ผมเองก็จะไม่พูดถึงมันครับ”
หลังจากคาร์ลตอบตกลง ฟรานซ์เองก็ให้คำสัญญาด้วยอีกคน
“ถ้าอย่างนั้นก็มาทำพันธะสัญญากัน เดส”
“พันธะสัญญา?”
“ด้วยการฝังระเบิดไว้ในหน้าอกของคาร์ลกันเลย..เลย? ไม่สิ เดี๋ยวจะฝังมันเดส”
“น่ะ!”
ทุกคนตกใจกับสิ่งที่รูดี้เสนอ แต่เขากลับพูดต่อไปอย่างไม่ลังเล
“ระเบิดอันนี้มันจะมีกลไกที่จะทำให้มันเริ่มทำงานถ้าคุณพูดคำบางคำออกมา ถ้ามันระเบิดออกมาละก็ คาร์ลก็จะต้องตายอย่างแน่นอน พอรู้แบบนี้แล้วคุณยังจะยอมรับข้อเสนออยู่ไหม?”
แม้ว่ารูดี้จะขู่มาแบบนั้นแต่คาร์ลกับพยักหน้าตกลงอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย
“แน่นอนสิ ช้าบอกไว้แล้วว่าจะแลกด้วยชีวิต และข้าก็จะรักษาสัญญาเอาไว้ด้วย”
“คุณพ่อ!”
ฟรานซ์ ที่อยู่ข้างๆเขาร้องออกมา แต่ความมุ่งมั่นของคาร์ลกลับไม่สั่นคลอนแม้แต่น้อย และเขายังคงจ้องไปที่ตาสองสีของรูดี้อย่างจริงจัง
“ถ้าอย่างนั้นผมก็จะช่วยคุณเดส ส่วน ฟรานซ์ ครั้งนี้จะยกให้เลยไม่ต้องฝังระเบิด แต่ก็ห้ามพูดเด็ดขาดเลย เดส”
“ผมจะไม่พูดเด็ดขาดเลยครับ!”
“รูดี้คุง ขอบคุณนะ ข้ารู้สึกซาบซึ้งจริงๆ”
“คำขอบคุณน่ะเก็บเอาไว้หลังจากที่ช่วยชีวิตของ นีน่าให้ได้ก่อนเถอะ เดส”
คาร์ล และ ฟรานซ์ พยายามจะก้มหัวให้อีกครั้งรูดี้ก็หยุดพวกเขาไว้
“แล้วมีแผนว่าจะรักษาเธอได้ยังไงล่ะ?”
“ผมจะไปลักพาตัวคุณภรรยาของคาร์ลมาที่นี่ก่อนเดส”
“ไม่ใช่ลักพาตัวแต่แค่พามาด้วยเฉยๆต่างหาก”
นาโอมิตบมุขของรูดี้ทันที่เขาพยายามจะเล่นตลก
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้เดส”
“ถ้าพามาแล้วจะทำยังไงต่องั้นเหรอ?”
พอ ฟรานซ์ ถามแบบนั้นรูดี้ก็ชูนี้วชี้ขึ้นมาแตะที่ปาก
“หลังจากนั้นก็จะเป็นความลับ ที่พูดถึงเมื่อกี้เดส”
“ฮา……”
“มันยังมีปัญหาก่อนหน้านั้นอยู่นะ ตอนนี้ นีน่า อยู่ที่ไหนเดส?”
“ในหมู่บ้านที่อยู่ตรงปากทางเข้าป่าน่ะ มันใช้เวลาเดินจากที่นี่ไปสองวันได้”
พอได้ยินคาร์ลว่าแบบนั้นรูดี้ก็เปิดแผนที่ในสมองอิเล็คทรอนิคส์ของเขาขึ้นมาตรวจดูพื้นที่โดยรอบ แล้วก็ต้องทำหน้ามุ่ยเมื่อพบว่าหมูบ้านที่พูดถึงนั้นอยู่ห่างออกไปถึง59กิโลเมตร
“ดูเหมือนว่าถ้าต้องเดินไปกลับมันจะไม่ทันการเอา โซลาริส ช่วยเตรียม แอโร่ไบท์ ให้ที”
แอโร่ไบท์ที่รูดี้พูดถึงนั้นมันเป็นมอเตอร์ไซค์สองที่นั่งที่ลอยตัวสูงจากพื้นขึ้นมาเพียงเล็กน้อย ซึ่งเขานำมาจากรายการสินค้าของยานไนกี้เพื่อการสำรวจพื้นที่ในปา และตอนนี้มันก็ถูกเก็บอยู่ในห้องเก็บของในชั้นไต้ดิน
[รับทราบค่ะ]
เมื่อได้ยินคำลั่งของรูดี้โซลาริสที่ยืนรออยู่ตรงมุมห้องก็โค้งคำนับให้แล้วเดินลงไปในชั้นไต้ดิน
ระหว่างที่มองตามหลังเธอไป เขาก็ติดต่อเธอผ่านสมองอิเล็กทรอนิกส์
“….จะว่าไปแล้ว เธอไม่ได้พูดอะไรเลยนี่นะ”
[ถึงแม้ว่าดิฉันจะไม่เห็นด้วย แต่คำสั่งของกัปตันนั้นสำคัญที่สุดค่ะ]
“อย่างนี้นี่เอง ก็สมกับเป็นเธอดีนะ”
[มันเป็นคุณสมบัติที่ถูกกำหนดมาค่ะ]
รูดี้จบการสื่อสารกับโซลาริสแล้วหันไปคุยกับคาร์ล
“ถ้าผมไปคนเดียวละก็มันก็จะกลายเป็นเหมือนกับว่าไปลักพาตัว นีน่าเข้าจริงๆเอานะ เพราะงั้น คาร์ลเองก็ควรจะมากับผมด้วย ส่วน ฟรานซ์ รออยู่ที่นี่แล้วเล่นกับชิโชวไปละกัน เดส”
ระหว่างที่นาโอมิพยักหน้ารับรูดี้ ฟรานซ์ กลับตื่นตระหนกเมื่อได้ยินว่าเขาจะไม่ได้ไปด้วย
“เอ๋? ผมไปด้วยไม่ได้เหรอ?”
“รูดี้คุง ทำไม ฟรานซ์ถึงไปด้วยไม่ได้ล่ะ?”
ทั้งสองคนเอยถามด้วยความสงสัย
“แอโรไบท์มันเป็นแบบสองที่นั่งเดส แล้วพอขากลับเราก็ต้องแบก นีน่ามาด้วย แค่นั้นก็เต็มพิกัดของมันแล้ว เดส”
“ไอ้เจ้าแอโร่ไบท์ที่พูดถึงนั้นแหละที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร น่ะ”
“พอเห็นแล้วก็จะเข้าใจเองแหละ เพราะงั้นตามมาทางนี้เลย เดส”
พอรูดี้เดินออกไปที่หน้าประตู คาร์ลกับ ฟรานซ์ก็รีบตามออกไป
……………………………………………………………………………………………………………………………………..
พอออกมาข้างนอกพวกเขาก็เห็นแอโร่ไบท์ที่โซลาริสเตรียมไว้ให้จอดอยู่หน้าบ้าน
แอโรไบท์นั้นมันดูเหมือนกับมอเตอร์ไซค์ที่ไม่มีล้อ เพราแทนที่จะใช้ล้อมันถูกออกแบบมาให้ลอยอยู่เหนือพื้นอยู่เล็กน้อยด้วยการปรับลดแรงโน้มถ่วง
พอรูดี้เดินเข้าไปหาแอโรไบท์ โซลาริสที่ยืนอยู่ข้างๆก็ยื่นกล่องขนาดเล็กมาให้
[นี่คือชุดประถมพยาบาลฉุกเฉินค่ะ]
“เธอนี่ก็หัดเป็นห่วงเป็นไยได้เหมือนกันนี่เดส”
[ฮาลบอกให้ดิฉันหยิบมาด้วยน่ะค่ะ]
“สมกับเป็น ฮาล เดส”
[นั่นเป็นเรื่องที่รายการคุณสมบัติของดิฉันไม่สามารถทำได้ค่ะ]
“อย่ามายอมแพ้เอาง่ายๆแบบนั้นสิ เดส”
รูดี้เหลือบมองโซลาริส แล้วก็เอากล่องประถมพยาบาลใส่เข้าไปในช่องเก็บของ ด้านข้างของแอโรไบท์
“คาร์ลเองก็ขึ้นมาเลยเดส”
พอรูดี้ขึ้นไปนั่งบนแอโรไบท์ก็ตระโกนเรียกคาร์ล แต่ทว่าเข้ากลับสับสนเพราะเพิ่งเคยเห็นมันเป็นครั้งแรกและไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร
“จะให้ขึ้นชี่เข้านี่งั้นเหรอ?”
“นอกจากเจ้านี่แล้วเห็นว่ามีอะไรให้ขี่อีกเหรอ เดส?”
“ไม่สิ ถึงจะว่างั้นก็เหอะ….. ไอ้นี่มันอะไรน่ะ? ล้อก็ไม่มีด้วย แล้วมันเคลื่อนที่ยังไงเนี่ยไม่เห็นเข้าใจเลย”
“มันเป็นของที่ชิโชวทำขึ้นมาเดส ไม่ต้องเป็นห่วงไปเดส”
“นาราคุทำเหรอ?”
แน่นอนว่า มันเป็นเรื่องโกหกเพื่อทำให้คาร์ลอุ่นใจเท่านั้น
“หา–?”
นาโอมิที่กำลังยืนดูสถานการณ์อยู่ได้ยินแบบนั้นก็ส่งเสียงแปลกๆออกมา
“นาราคุ ต้องแต่ปลีกตัวออกมาจากสังคมแล้วเธอนี่เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ”
“……….งะ งั้นเหรอ?”
“อา แต่ก็ไม่ใช่ในทางที่แย่หรอก เธอนี่กลายเป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมไปแล้วล่ะ!”
คาร์ลล้อเลียนเธอก่อนที่จะขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายรูดี้ นาโอมิได้ยินแบบนั้นก็หน้าแดงขึ้นมา
“ไอ้บ้านี่ รีบๆไปพา นีน่า มาได้แล้ว”
“ไม่จำเป็นต้องมาบอกหรอกน่า รูดี้คุง ไปกันได้เลย!”
สุดยอด นี่เหรอคือคนที่ไปถึงจุดสูงสุด…….
พอได้ยินสิ่งที่คาร์ลพูดออกมารูดี้ก็หันกลับไปมองเขาด้วยความเคารพ
“……..รูดี้คุง มีอะไรงั้นเหรอ?”
“ไม่มีอะไรเดส แค่จับ ไทโฮรุ ไม่ใช่สิ จับให้แน่นๆล่ะ เดส”
ว่าแล้วรูดี้ก็ติดเครื่องของแอโรไบท์
ตัวเครื่องของมันเริ่มสั่นขึ้นมาแล้วลอยตัวขึ้นมาจากพื้นเล็กน้อยทำให้ต้นหญ้ารอบๆส่ายไปมาจากแรงกดอากาศ
“โอ้!”
เมื่อคาร์ลและ ฟรานซ์เห็นการทำงานของมันก็ส่งเสียงตกใจออกมา
แอโรไบท์เริ่มเปลี่ยนทิทางกลางอากาศแล้วหันไปยังทิศทางของหมู่บ้านที่เป็นจุดหมาย
“ชิโขว ผมไปก่อนล่ะนะ เดส!”
“ไปพา นีน่า มาให้ได้อย่างปลอดภัยล่ะ”
“รอนผู้หนึบหนับ เดส”
*(TLnote: รูดี้มันเล่นคำ โดยพูดว่า โมจิโมจิโนะรอนเดส ที่มาจากคำว่า โมจิรอน ที่แปละว่า แน่นอน ซึ่งในเป็นคำตอบรับ)
ว่าแล้วรูดี้ก็บิดคันเร่งแล้วเจ้าแอโรไบท์ก็พุ่งเรียบพื้นออกไปอย่างรวดเร็ว
“อุว้า—-!!”
แอโรไบท์นั้นพุ่งหายเข้าไปในป่าพร้องกับสียงร้องของคาร์ล
*(TLnote: _:(´ཀ‘_)⌒):_ เคลียร์เควสกิจกรรมหมดสักที ออกจากลิมโบ้ของโหมดนรกได้แล้วด้วย เหลืออีก6วัน หาตังไปเรื่อยๆล่ะทีนี้ )