[เอเลี่ยนเกยตื้น] สเปซทรัคเกอร์ รูดี้คุง - ตอนที่ 4 ดราก้อนเชสเซอร์
ตอนที่4 ดราก้อนเชสเซอร์
(*TL note [ドラゴンチェイサー] ทับศัพท์ eng มันแปลว่าไล่ตามมังกร แต่เนื้อหาในตอนมัน…ใช่เหรอวะ?..)
ยานลงจอดพุ่งผ่านชั้นบรรยากาศเข้าสู่ท้องฟ้ายามค่ำคืน ด้านนอก ค็อกพิท ดวงดาวอันระยิบระยับนับพันและแสงจันทร์สีขาว ส่องสว่างลงมายังพื้นดิน
รูดี้คุ้นเคยกับการบินผ่านห้องอวกาศแต่ไม่คุ้นเคยกับการบินในชั้นบรรยากาศ มากนัก เขาพยายามอย่างหนักในการกะระยะของพื้นดินและการแสดงผลของมิเตอร์วัดความสูง ตรวจสอบตำแหน่งของเขาจากหน้าจอLCD ในค็อกพิท ดูเหมือนว่าเขากำลังบินอยู่เหนือป่าทึบ
ฮาลได้บอกไว้ว่าที่หมายของเขาห่างออกไปทางตะวันตกเฉียงไต้จากตำแหน่งปัจจุบัน
ในขณะที่รูดีกำลังเปลี่ยนเส้นทาง สัญญาณเตือนอันตรายจากลำโพงในค็อกพิทก็ดังขึ้น
“เกิดอะไรขึ้นล่ะเนี่ย?”
[ตรวจพบสิ่งมีชีวิตบินได้กำลังเคลื่อนเข้าหายานลงจอดด้วยความเร็วสูง]
เสียงของ ฮาล ดังขึ้นมาจากลำโพง ในระหว่างที่เขาสังเกต สถานการณ์จากยาน ไนกี้
“สิ่งมีชีวิต?”
[มันเป็นสัตว์เลื้อยคลาน ที่มีขนาดความยาวกว่า 300 เมตร]
“ใหญ่ชิบ!!”
[“จากการคำนวณของระยะทางปัจจุบัน มันจะเข้าสู่ระยะการมองเห็นใน8นาที”]
“แย่ล่ะสิ……”
สีหน้าของรูดี้บิดเบี้ยวขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำเตือนของ ฮาล
ยานลงจอดเป็นแค่ยานพลเรือน ไม่ได้มีการติดตั้งอาวุธแต่อย่างใด ทำให้มันไม่สามารถป้องกันตัวเองจากการโจมตีได้
“ฮาล แสดงภาพของไอ้ตัวนั้นหน่อย”
[“ครับ มาสเตอร์ นี่คือภาพจากกล้องจับความร้อน ด้วยมุมมองจากด้านบน “]
เพราะมันเป็นเวลากลางคืน กล้องธรรมดาไม่สามารถใช้งานได้ ฮาลจึงส่งภาพจากกล้องจับความร้อนไปที่หน้าจอ LCD ในค็อกพิทของยานลงจอด ภาพในจอแสดงให้เห็นถึงรูปร่างของสัตว์เลื้อยคลานมีปีก ขนาดยักษ์ พุ่งผ่านท้องฟ้า
“ไอ้ตัวนื้มันมังกรไม่ใช่เรอะ!?!”
รูดี้ ร้องลั่นหลังจากเห็นภาพของมัน
แม้ว่ารูดีจะไม่เคยเห็นมังกรตัวเป็นๆมาก่อน แต่เขารู้จักมันดี มันคือสิ่งมีชีวิตลึกลับ ที่โผล่มาในอวกาศเป็นครั้งคราวทุกๆหลายสิบปี
พวกมันสามารถเติบโตจนมีความยาวได้เกินกว่า10กิโลเมตร และเป็นที่รู้จักกันดีถึงนิสัยที่ดุร้ายและรุนแรง มันเข้าทำลายทั้งยานอวกาศและสถานีอวกาศทุกแห่งที่มันมองเห็น แม้แต่การโจมตีจากยานรบของกองทัพก็ไร้ผล เพราะพวกมันสามารถ วาร์ป หนีได้ทั้นทีที่มันต้องการ ราวกับล้อเลียนผู้ที่โจมตีมันก่อนจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย
เมื่อพวกมันโผล่ออกมา ข่าวของมันจะกระจายไปทั่วจักรวาล ซึ่งแม้แต่รูดี้ที่เดินทางในอวกาศเองก็ยังได้ยินข่าวเกี่ยวกับมัน
[“ผมไม่อาจยืนยันโดยที่ยังไม่ได้ตรวจสอบมัน แต่เป็นไปได้ที่มันจะเป็นตัวอ่อน”]
“เราไม่มีเวลาไปตรวจสอบมันหรอก แล้วเราก็ไม่มีอะไรไปโจมตีมันได้ด้วย มีแต่ต้องหนีอย่างเดียวแล้ว”
เขาอาจจะได้ประโยชน์จากการตรวจสอบมัน แต่ตอนนี้เขาต้องมุ่งมั่นในการเอาตัวรอดซะก่อน รูดี้จึงเร่งความเร็วยานลงจอดเพื่อที่จะหนีจากมัน แต่ทว่ามังกรมันไวกว่าและไล่ตามจนถึงเขาอย่างรวดเร็วจนเหลือเชื่อ
[“อีก1นาทีก่อนเข้าระยะโจมตี ผมจะส่งภาพจากยานลงจอดไปที่หน้าจอ” ]
รูดี้เดาะลิ้นอย่างหงุดหงิดเมื่อได้ยินรายงานของ ฮาล เมื่อมองไปที่หน้าจอเขาก็ได้เห็นภาพของมังกรที่มีเกล็ดสีน้ำเงิน
ถึงจะรู้สึกว่าเกล็ดของมันที่ต้องแสงจันจะเปล่งประกายสวยดีก็เถอะ แต่ตาของมันนี่จ้องยานลงจอด แสดงให้เห็นถึงความเป็นศัตรูอย่างชัดเจนเลยนึกได้ว่ามันไม่ใช่เวลาจะมาคิดเรื่องแบบนั้น
“แล้วทำไมมันต้องมาจ้องโจมตียานลงจอดด้วยล่ะเนี่ย?”
[ ตามการคาดการของผมคือ มันต้องการจะกำจัดเราเพราะเราได้ผ่านเข้าไปในอาณาเขตุของมัน ]
“แต่เราแค่บินผ่านท้องฟ้าเองนะ”
[ มีความเป็นไปได้ที่มันถือว่าเปลวเพลิงจากไอพ่นที่ออกมาจากท้ายเครื่องยนต์ของยานลงจอดเป็นเหมือนการท้าทายมันหรือเปล่า?]
“จะใจแคบเกินไปแล้ว!!”
ขณะที่รูดี้กำลังบ่นกับความซวยของตัวเองอยู่นั้นมังกรตัวนั้นก็ได้พุ่งเข้าชนยานลงจอด ทำให้ตัวเข้าเกือบกระเด็นออกมาจากที่นั่งแต่เข็มขัดของของที่นั่งได้รั้งตัวเขาเอาไว้
“เจ็บว้อย–!” รูดี้กัดฟันทน แล้วพยายามหักหลบไปทางซ้าย ในขณะนั้นเองมังกรก็พยายามจะชนเขาอีกครั้งแต่มันพลาดไป เลยจบลงด้วยการขนาบข้างไปกับยานลงจอด
รูดี้ได้สบตากับดวงตาสีทองของมังกร แม้ว่ามันจะเป็นประกายงดงามแต่สายตาของมันเต็มไปด้วยความรุนแรงอันท้วมท้นที่ทำให้เขาถึงกับสั่นกลัว
มังกรที่กำลังบินขนาบข้างเขาอยู่ได้เริ่มหมุนตัวกลางอากาศ แล้ว ตวัดหางขนาดยักษ์ที่มี ความยาวมากกว่า80เมตรใส่ยานลงจอด
“ยาวขนาดนั้นหลบไม่พ้นแหงๆ” เมื่อคิดเช่นนั้น เขาจึงตัดสินใจไม่หลบแต่เปลี่ยนทิศทางเป็นพุ่งเข้าหามังกรแทน
หางของมันเฉี่ยวยานลงจอดไปเล็กน้อยและมันทำให้เกิดเสียงโซนิคบูมดังสนั่นเมื่อมันตวัดข้ามความเร็วเหนือเสียง แต่ยานลงจอดก็ยังคงพุ่งต่อไปในทิศทางของมัน
และแล้ว ก็เหมือนกับลูกเบสบอลที่ถูกขว้างด้วยเทคนิคลูกเร็ว ยานลงจอดพุ่งเข้าชนหน้าของมันอย่างจัง
“เกี๊ยยยย!!”
มันคำรามและบิดตัวด้วยความเจ็บปวด ตกตลึงกับการโจมตีที่ไม่คาดคิด
รูดี้รู้สึกได้ถึงโซนิคบูมจากทางซ้ายและแรงกระทกจากทางขวาเพราะการพุ่งชนกับมังกรทำให้เขาหมุนคว้างจนตาลาย
ถ้าหากว่าชุดของเขาไม่ได้ออกแบบมาให้ดูดซับแรงกระแทก และระบบควบคุมแรงเฉื่อยของยานลงจอดไม่ทำงาน เขาคงได้กลายเป็นเนื้อบดไปแล้ว
[จังหวะนี้ต้องรีบซ่อนตัวนะครับ]
“ฮาาลาาโฮเร อิเรฮาเร้~~” ( @0@)~*
ฮาล เข้าควบคุมตัวยาน แล้วบังคับให้มันร่อนลงไปในป่า ในขณะที่รูดี้กำลังหัวหมุนอยู่ มันลงจอดแล้วซ่อนตัวในป่าด้วยการดับเครื่องยนต์และแสงไฟทั้งหมด
5นาทีหลังจากนั้น เจ้ามังกรก็ฟื้นตัวแล้วกลับมามองหารอบๆพื้นที่ แต่ก็ไม่เจอร่องรอยของยานลงจอดที่ไหนเลย หลังจากที่มันมองหาสักพัก ก็ คำราม แล้วบินวนดูรอบๆ
“เป็นประสบการณ์ที่โหดร้ายชะมัด”
[ขอบคุณในความพยามครับ]
เมือคืนสติกลับมาอีกครั้ง รูดี้ ก็ถอนหายใจหลังจากที่ได้ยินเสียงอันไร้อารมณ์ของ ฮาล
ฉันควรจะรอตรงนี้จนกว่าจะเช้า หรือเสี่ยงออกไปข้านอกตอนนี้เลยดีนะ แต่การออกไปเดินในป่ามืดๆของดาวที่ไม่รู้จักแบบนี้มันอันตรายด้วยสิ ไม่รู้ว่ามันจะมีตัวอะไรโผล่มาบ้าง ถ้างั้นรออยู่เฉยๆดีกว่า…ว่าแต่เมื่อไหร่ไอ้มังกรบ้านั่นมันจะไปสักที่ล่ะเนี่ย?
รูดี้มองไปที่จอLCDแล้วก็ยังเห็นมังกรบินวนอยู่ใกล้ๆ
เพื่อที่จะหาตำแหน่งปัจจุบันของเขา รูดี้ก็ขยายแผนที่ขึ้นมาบนหน้าจอ แล้วเขาก็ได้พบกับสิ่งก่อสร้างในป่า ห่างออกไปทางทิศตะวันตก จากจุดที่เขาอยู่ ประมาณ80กิโลเมตร
[มาสเตอร์ จะเอาอย่างไรดีครับ?]
“….นอนรอจนกว่าจะเช้าดีกว่า แล้วถ้ามังกรตัวนั้นไปแล้วให้เคลื่อนยานไปใกล้ๆกับสิ่งก่อสร้างที่เราเจอ แล้วซ่อนตัวเงียบๆละกัน”
หลังจากโดนมังกรเล่นงานจนอ่วม ทันทีที่ลงมาทบนพื้นของดาวดวงนี้เขาก็ตัดใจเข้านอนอย่างไม่สบอารมณ์
[ราตรีสวัสดิ์]
หลังจกพยักหน้าให้ ฮาล รูดี้ก็ออกจาก ค็อกพิท และตรงไปที่ห้องนอน แล้วผล็อยหลับไป
2ชั่วโมงหลังจากที่รูดี้หลับไปนั้น เจ้ามังกรก็ตัดใจแล้วบินกลับไปที่รังของมัน ฮาล จึงเคลื่อนยานไปยังจุดที่ห่างออกไปจากสิ่งปลูกสร้างที่รูดี้เจอประมาณ9กิโลเมตร และปล่อยโดรนสำรวจเพื่อตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างนั้น
จากข้อมูลที่ได้ ฮาล พบว่าสิ่งปลูกสร้างตรงนั้นมันเป็นยานอวกาศในยุดเก่า