[เอเลี่ยนเกยตื้น] สเปซทรัคเกอร์ รูดี้คุง - ตอนที่ 31 พิษของมานา
ตอนที่ 31 พิษของมานา
“จะว่าไปแล้วชิโชวชอบดนตรีเหรอ เดส?”
นาโอมิพยักหน้าตอบคำถามของรูดี้ในขณะที่กำลังกินแซลม่อนไปด้วย
แซลม่อนที่เธอกำลังกินอยู่นั้นถูกปรุงมาอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้เนื้อของมันมีความชุ่มชื่นและรสหวานเฉพาะตัว เมื่อกินคู่กับซอสครีมเปรี้ยวที่มาด้ายกัน รสชาติของมันราวกับจะทำให้แก้มของเธอหลุดร่วงลงมา
“ชอบสิ โดยเฉพาะเจ้าโต๊ะสีดำที่เล่นเสียงโดยการกดไปบนแผงของมันน่ะ สุดยอดไปเลยนะ”
“….นี่กำลังพูถึงเปียโนเหรอ เดส?”
“มันมีชื่อเรียกว่าอย่างนั้นเองเหรอ การที่มันสามารถสร้างสียงที่สื่ออารมณ์ได้ถึงขนนาดนั้นเนี่ย สุดยอดไปเลยล่ะ”
“ที่ดาวดวงนี้ไม่มีเปียโนเหรอ เดส?”
“ฉันไม่เคยเห็นหรือได้ยินเกี่ยวกับมันมาก่อนเลยนะ”
นาโอมิตอบในขณะที่ฉีกขนมปังแล้วจุ่มลงไปในซุป หลังจากที่กินมันลงไปแล้วก็พึมพำเงียบๆ
“ขนมปังกับครีมซุปนี่เข้ากันได้ดีเลยนี่นา”
“มันเข้ากันกับข้าวสวยด้วยแหละ แต่ทำแบบนั้นมันเป็นการนอกใจ เดส”
“เปรียบเปรยได้พิลึกจังนะ”
“ชิโชว อยากได้เปียโนไหม เดส?”
รูดี้ดึงบทสนทนากลับเข้าเรื่อง นาโอมิก็เอียงหัวครุ่นคิด
“อืม…ไม่รู้สินะ ถ้าได้ลองเล่นมันดูก็คงจะน่าสนุกดี แต่ถึงจะได้มันมาฉันก็คงจะเล่นไม่เป็นอยู่ดี แล้วฉันก็ไม่มีเวลามาฝึกเล่นมันด้วย ฉันไม่ชอบความหรูหราเกินเหตุด้วยแหละ เพราะงั้นต่อให้มีคนยกเครื่องดนตรีที่ไม่ได้ใช้งานแล้วมาให้ ฉันก็คงต้องขอปฏิเสธ…นอกจากนั้น….”
“…..นอกจากนั้น?”
“ฉันมีไอ้นี่แล้ว”
ว่าแล้วเธอก็ยื่น สมาร์ทโฟน ออกมา
“ด้วยเจ้านี่ฉันก็สามารถฟังดนตรีได้ทุกเมื่อ แค่นี้ฉันก็ไม่ต้องการอะไรที่มันหรูหารไปมากกว่านี้แล้ว”
“เข้าใจละ เดส”
รูดี้ยิ้มให้กับนาโอมิที่กำลังโบก สมาร์ทโฟน ไปมาอย่างมีความสุข
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็จัดการกับอาหารจนเสร็จ ในระหว่างที่สนทนากันถึงเรื่องเวทมนต์และการวิจัยเคมีตามปรกติ
รูดี้ ที่เริ่มเมาเล็กน้อยก็ยืนขึ้น
“จะให้เมาค้าง3วันรวดเลยมันก็ออกจะเกินไปหน่อย เพราะงั้นผมขอตัวไปนอนก่อนดีกว่า เดส”
“งั้นเหรอ…ถ้างั้นฉันก็จะดื่มต่ออีกหน่อยแล้วค่อยไปนอนละกัน”
“ผมปล่อยโดรนไว้ให้แล้ว เชิญใช้มันตามสะดวกเลย เดส”
“เข้าใจละ ราตรีสวัสดิ์”
“ราตรีสวัสดิ์ เดส”
หลังจากรูดี้เข้านอน นาโอมีก็เอา สมาร์ทโฟนขึ้นมาเล่นเพลง Chopin’s Revolutionary Etude แล้วจิบ เลม่อนค็อกเทล ที่ทำมาจาก อควาวิต ไปพลางๆ เธอฟังท่วงทำนองที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น และอัดอั้นตันใจของผู้แต่ง พลางยักไหล่แล้วคิดไปว่ามันเป็นท่วงทำนองที่เข้ากับตัวเธอเองได้ดีเลยทีเดียว
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
วันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนกลับไปที่บ้านของนาโอมิ รูดี้ก็เริ่มโค่นต้นไม้ต่อไปในขณะที่นาโอมิคอยเฝ้าระวังอยู่รอบๆ
พวกเขาทำงานไปโดยไม่มีปัญหาอะไรตลอดทั้งช่วงเช้า และกลับไปที่ยานลงจอดในช่วงบ่าย แล้วกิน แซนวิช LBT เป็นมื้อกลางวัน
“วะว่าไปแล้ว ชิโชว ผลการตรวจสุขภาพเมื่อวานออกมาแล้ว เดส”
หลังจากมื้อกลางวันรูดี้เริ่มพูดถึงผลการตรวจสุขภาพเมื่อวันก่อน
“จะว่าไปเมื่อวานนี้เธอเจาะเลือดของฉันไปตรวจนี้นะ”
“แล้วก็นะ ชิโชว ปริมาณมานาในร่างกายของคุณมันลดลงเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ เดส”
นาโอมิ กระพริบตาปริบๆ ก่อนจะตอบกลับ
“มันเป็นอย่างงั้นเหรอ?”
“ผม ไม่ได้โกหก เดส”
พูดแบบนั้นแล้วรูดีก็ทำแก้มป่องพลางหันหน้าหนี
“อา..โทษที..เมื่อวานนี้ฉันใช้เวทมนต์ไปนิดหน่อย แต่ก็นะ… ”
“ใช้เวทมนต์ไปเหรอ เดส?”
“ก็ไอ้นั่นไง ไอ้ตัวที่รูดี้ผ่าครึ่งไปเมื่อวานนี้นั่นแหละ มันมีอีกตัวที่ฉันจัดการแล้วไล่มันไปน่ะ”
“ยังมีอยู่อีกตัวเหรอ เดส?”
“มีสิ”
พอพูดจบ รูดี้ก็กอดอกแล้วแสดงอาการเป็นกังวล
“หรือว่านั่นจะเป็นสาเหตุ?…อืม…ชิโชว ผมว่าพอจะเดาได้อยู่นะ จำที่ผมเคยบอกไปแล้วได้ไหมว่าคุณจะได้รับมานาเข้าไปในร่างกายผ่านการดื่มกินน่ะ เดส”
“อา…ใช่ เธอเคยว่าไว้แบบนั้นนี่นะ”
“ผมเอาวัตถุดิบในการทำอาหารมาจากอวกาศ เดส”
พอได้ยินรูดี้ว่าแบบนั้น นาโอมิก็พยักหน้าเข้าใจถึงสาเหตุของมัน
“อย่างนี้นี่เอง…วัตถุดิบพวกนั้นมันไม่มีมานาอยู่เลย เพราะงั้นมานาของฉันเลยไม่ฟื้นตัวงั้นสินะ”
“น่าจะเป็นแบบนั้นแหละ เดส”
เขาพยักหน้าตอบ นาโอมิ
“ก็จริงนะ มันมีความเป็นไปได้สูงเลย”
“ถึงตอนนี้จะยังไม่เป็นไร แต่ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป มานาของชิโชวก้จะค่อยๆลดลงเรื่อยๆแน่ๆ เดส”
“แบบนั้นก็เป็นปัญหาเลยสิ”
“ปัญหาใหญ่เลยล่ะ เพราะงั้นผมเลยคิดว่าจะเริ่มทำสวน เดส”
แปลกใจไปกับข้อเสนอของรูดี้ นาโอมิก็ยักไหล่ ตอบ
“…รูดี้นี่ชอบที่จะคิดแผนการแปลกๆออกมาอยู่เรื่อยเลยนะ”
“ก็รู้ตัวอยู่หรอก แต่ไม่สนใจ เดส”
“เดี๋ยวมันจะเป็นปัญหาเอาทีหลังนะสิ เพราะงั้นจะใสใจหน่อยก็ดีนะ”
“เดี๋ยวผมจะรับผิดชอบในการจัดการเอง เพราะงั้นกลับมาเข้าเรื่องกันก่อน ผมต้องขอ อนุญาตใช้สวนของชีโชว เดส”
“สวนที่ว่าคือตรงนั้นนะเหรอ?”
ว่าแล้วนาโอมิก็หันไปมองพื้นที่ว่างเล็กๆราวกับที่ให้แมวดิ้นตาย
“นั่นแหละ เดส”
“ก็ไม่ว่าอะไรหรอก ฉันเองก็แค่ปลูกหลายๆอย่างที่พอหาได้ไปเท่านั้นแหละ ว่าแต่เธอจะปลูกอะไรเหรอ?”
“ยา เดส”
“….ยา?”
นาโอมิเอียงหัวให้กับคำตอบแปลกๆของรูดี้
“พืชบนดาวดวงนี้มันเก็บกักมานาเอาไว้ เพราะงั้นผมจึงจะค้นหาพืชที่มีความเข้มข้นของมานาสูงแล้วเอามันมาปลูก เดส”
“…ว่าต่อเลย”
“พอมันโตขึ้น ผมก็จะเอามันมาสกัดมานา แล้วเอามาทำเป็นยาพื้นมานา เดส”
พอรูดี้อธิบายมาถึงตรงนี้ นาโอมิก็เข้าใจได้แล้วหยักหน้าตอบ
“อย่างนี้นี่เอง แต่ว่านะ ตามที่ฉันรู้มาพืชที่มีความเข้มข้นของมานาสูงมันมักจะมีพิษ เพราะงั้นแนวคิดนี้อาจจะเป็นเรื่องอันตรายเอาได้นะ”
“เป็นแบบนั้นเองเหรอเดส?”
“อืม…พอรูดีว่ามาก็ทำให้นึกถึง คนอื่นๆหลายๆคนในอดีตขึ้น ที่เคยพยายามวิจัยเกี่ยวกับยาฟื้นมานามาขึ้นมาเลยเลย”
“ชิโชว เองก็เคยวิจัยดูเหมือนกันเหรอ เดส?”
ได้ยินแบบนั้น นาโอมิ ก็หัวเราะออกมาพลางส่ายหน้า
“ไม่หรอก ฉันมีมานามากกว่าคนปรกติเยอะเลยไม่ได้สนใจเกี่ยวกับมันมากนัก มากลับเข้าเรื่องกันก่อน คือ ถ้าเธอกินพืชหรือสัตว์ที่มีปริมาณมานาเข้มข้นเข้าไปล่ะก็ เธอจะมีอาการปวดหัว คลื่นไส้ จับไข้ตัวสั่น แล้วที่อาการหนักที่สุดก็คือ อาจจะตายได้ เลย”
“….นั่นมัน..ของกินทุกอย่างมันทำให้มีอาการแบบเดียวกันหรือเปล่า เดส?”
“…มันก็ต่างกันไปนิดหน่อย แต่ส่วนใหญ่ก็เหมือนกันล่ะนะ”
หลังจากฟังมาถึงตรงนี้รูดี้ก็นึกอะไรบางอย่างออก แล้วพูดขึ้นมา
“อืม….นั่นมันท่าทางจะเป็นอาการ ได้รับพิษของมานาเกินขนาด(โอเวอร์โดส) เดส”
“…โอเวอร์โดส?”
“ใช้แล้วเดส เพราะมนุษย์บนดาวดวงนี้มาจากอวกาศ โดยปรกติแล้วมานาก็เป็นพิษอยู่แล้วด้วย แต่พวกเขารอดมาได้เพราะมีการปรับภูมิคุ้มกันให้เข้ากับมันได้”
“อืม”
“จะว่าอีกอย่างก็คือ คนที่สามารถใช้มานาได้เยอะก็คือคนที่มีถูมคุ้มกันสูงกว่าคนทั่วไป เดส”
“จะว่าไปมันก็มีความเป็นไปได้สูงนะ จริงๆแล้วอาจจะเป็นแบบนั้นเลยก็ได้”
“ถ้าเราเข้าใจมันละก็ เราก็จะสามารถผลิตยาขึ้นมาได้เดส”
“…ทำได้สินะ”
“ก็ได้อยู่หรอก อยากจะฟังไหมเดส?”
“จัดมา”
พอนาโอมิว่าแบบนั้น รูดี้ก็เริ่มอธิบายเกี่ยวกับแผนการผลิตยาของเขาออกมา
……………………………………………………………………………………………………………………………….
*(TLnote: จบกิจกรรมละ กลับมาแปลต่อด้วยเรทปรกติ)