เอาลูกสาวมาเป็นภรรยาไม่ได้นะ! - ตอนที่ 0.3
คุณปู่ของผมซึ่งเป็นนักผจญภัยมีงานอดิเรกคือการตั้งแคมป์ในสวน
เนื่องจากธรรมชาติของนักผจญภัย คุณปู่จึงมักไปในพื้นที่ที่ไม่มีสาธารณูปโภคพื้นฐาน ดังนั้นทักษะการตั้งแคมป์จึงจำเป็นต่อคุณปู่มาก
คุณปู่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งมาก การตั้งแคมป์จึงเป็นงานอดิเรกของเขา จากที่กล่าวมา การตั้งมินิแคมป์ในสวนใหญ่จึงเริ่มขึ้น
การตั้งแคมป์ในสวนนั้นแตกต่างจากการออกไปที่แคมป์เพราะสามารถทำได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องแบกอุปกรณ์ตั้งแคมป์มาด้วย
นอกจากนี้ยังมีโต๊ะและเก้าอี้ไม้ในสวนด้วยนะ
คุณปู่ชอบทำงาน DIY จึงมักทำอะไรขึ้นมาเอง
“ปู่! เต้นท์โอเคมั้ย”
“โอ้ นายไม่ต้องการผ้าใบด้วยซ้ำ กินข้าวก่อนเถอะนายคงหิวเหมือนกัน”
ผ้าใบเป็นแผ่นหลังคาที่ใช้เพื่อป้องกันแสงแดดและฝน ในกรณีของการตั้งแคมป์ในสวน มันยังช่วยในการซ่อนตัวจากเพื่อนบ้านด้วย แต่ในสวนนี้ ต้นไม้สูงที่ไม่รู้จักถูกปลูกไว้ริมรั้ว และต้องขอบคุณกิ่งไม้และใบไม้ที่ช่วยให้ข้างนอกมองไม่เห็นข้างในได้
อย่างแรก บริเวณนี้เป็นย่านที่อยู่อาศัยที่เงียบสงบ และผมยังสงสัยว่าจะเรียกว่าย่านที่อยู่อาศัยดีมั้ย
เราจึงสามารถก่อกองไฟและทำบาร์บีคิวได้ แต่เดิมแม้จะเป็นสวนส่วนตัวก็จำเป็นต้องคำนึงถึงพื้นที่ใกล้เคียง หากเราไม่ได้รับอนุญาต ควันและกลิ่นจะสร้างปัญหาให้กับพื้นที่ใกล้เคียง
และปู่ของผมได้รับอนุญาตจากรัฐบาลท้องถิ่นและหน่วยดับเพลิงด้วย หรือเขาอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้เพราะที่นี่อนุญาตกันนะ
คุณปู่เริ่มเตรียมเตาย่างบาร์บิคิวทันที การจุดไฟเป็นงานอดิเรกของคุณปู่เลย ซึ่งมันเป็นงานที่อันตรายสำหรับผมที่ยังเป็นแค่นักเรียนม.ต้น จึงต้องปล่อยให้คุณปู่ทำไป ทำให้ผมได้แต่มองไอระซึ่งทำให้ผมรู้สึกเหงาขึ้นมานิดๆ
ปู่ของฉันนำฟืนจากโกดังมาสับด้วยมีดพร้า ตัดเป็นขนาดที่ไฟติดได้ง่าย แล้วกองไว้บนแท่นก่อกองไฟ จากนั้นทำไม้ขนนกด้วยมีด ฟืนชิ้นบางที่โกนแล้วเหมือนขนนกใช้เป็นตัวนำไฟ
เมื่อจุดไฟไม้ขนนกแล้วใส่ลงในฟืน ไฟซึ่งยังเล็กในตอนแรกจะลุกลามอย่างรวดเร็ว
ปู่ของผมเก่งมากในการจุดไฟ มันดูธรรมดาสำหรับผมในตอนนั้น แต่ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่ามันช่างเป็นศิลปะแค่ไหน
ปู่ของผมยัดถ่านรอบกองไฟที่เขาจุดขึ้นมา ถ่านนี้จะให้พลังงานแก่บาร์บีคิว บาร์บีคิวจะได้รับความร้อนจากถ่าน แทนที่จะเป็นกองไฟ
ปู่ของผมบอกว่าถ่านเป็นวัตถุดิบล้ำเลิศ ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการย่างเนื้อและผักบนเตาถ่านแล้ว
“ลูกโอ๊ค ช่วยพัดหน่อย”
พอคุณปู่บอกมา ผมเลยเป่าลมให้กองไฟด้วยพัดลม ซึ่งในช่วงนี้จำเป็นต้องใส่ถ่านเพิ่ม
“เหฮ้น! ดูทิศทางและความแรงของลมด้วย ควันจะพุ่งเข้าหน้าเจ้าหญิงอยู่!”
“ชิบหายแล้วโว้ย”
“หนูชอบควันนะ มันมีกลิ่นเหมือนคุณพ่อ”
เสื้อตัวโปรดของคุณปู่มักจะมีกลิ่นควันอยู่เสมอ คุณปู่ชอบก่อกองไฟเป็นประจำ ดังนั้นอาจเป็นไปได้ว่าล้างเท่าไหร่ก็ไม่หลุด
ผมก็ชอบกลิ่นนี้เหมือนกันนะคุณปู่
“ข้าดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น เจ้าหญิง”
“หนูบอกแล้วไงว่าอย่าเรียกหนูว่าเจ้าหญิง”
“แต่มีเถ้าถ่านอยู่ในควันจากกองไฟ ถ้าสูดเข้าไป ปอดอาจถูกทำลายได้ แค่เถ้าเท่านั้น”
ปู่ของผมกำลังหัวเราะเยู่คนเดียว ผมไม่ชอบมุขตลกของคนแก่เท่าไหร่นะ คุณปู่
“ได้เวลาแล้วสินะ”
ปู่ใช้ที่ตักถ่านยกถ่านที่กำลังร้อนขึ้นไปไว้บนตะแกรงในเตาบาร์บิคิว
“เอาล่ะ ถึงเวลาที่รอคอยแล้ว ได้เวลาย่าง!!”
ปู่ของผมหั่นเนื้อบนโต๊ะไม้อย่างช่ำชอง หั่นผัก เสียบไม้ แล้ววางทีละชิ้นบนตะแกรงเตาถ่าน
ได้ยินเสียงร้อนฉ่า เสียงน้ำที่ระเหยออกจากส่วนผสม ผมไม่เคยได้ยินเสียงนี้มาก่อนเลยจนกระทั่งได้มาทำบาร์บิคิวครั้งนี้
“พระเอกของวันนี้คือนี่!”
มันคือมันฝรั่งจากฮอกไกโด ดูเหมือนว่าคนรู้จักจะส่งให้ ซึ่งช่วงนี้ก็ตรงกับฤดูเก็บเกี่ยวมันฝรั่งพอดี (TL note : เดือนกันยายน)
ปีนี้คุณปู่ได้ของขวัญมากมาย คุณปู่คงต้องยิ้มหน้าบานแน่ๆ
การเข้าร่วมโครงการการกุศลขององค์กรไม่แสวงผลกำไรและการบริจาคให้กับศูนย์เด็กเล็ก ทำให้เขามีคนสนับสนุนมากมายแบบนี้
นักผจญภัยที่เดินทางไปทั่วโลกจำเป็นต้องหาเงินเพราะพวกเขาต้องการสิ่งต่างๆมากมาย
แต่คุณปู่… ครอบครัวเกลียดเขา
ไม่มีญาติของเชาให้ความร่วมมือกับเขาในการผจญภัยของเขาเลย
วิถีชีวิตของคุณปู่เป็นอิสระและไม่ถูกจำกัด และเขาก็ดูมีความสุข ดังนั้นบางทีผมอาจจะอิจฉาคุณปู่ด้วย
“มันฝรั่งสดๆนี่มันพิเศษมาก ฉันบอกภรรยาว่าอย่ากินมะเขือม่วงในฤดูใบไม้ร่วง แต่มันฝรั่งยดๆจากฮอกไกโดในฤดูใบไม้ร่วงก็ไม่น้อยไปกว่านั้น”
การย่างใช้เวลาค่อนข้างนานเพราะเป็นการย่างด้วยฟอยล์ หลังจากย่างเสร็จ คุณปู่ก็นำมาโรยเกลือด้วยท่วงท่าที่คล้ายการรินชา (TL note : แบบซอลต์เบ) ไอระจึงมองตาไม่กระพริบ
มันเป็นเรื่องปกติของปู่เลย แต่ผมก็อยากรู้นะว่าทำไมเด็กๆถึงชอบ บางทีผมก็คิดว่ามันเท่นะ แต่รู้สึกเหมือนพ่อแม่จะไม่ชอบเวลาที่ผมทำแบบนี้เท่าไหร่
“นายกินคำแรกเลย”
“ให้เจ้าหญิงก่อนไม่ดีกว่าหรอ?”
“อย่าเรียกหนูว่าเจ้าหญิงนะ ซาคุง”
“นี่ ซากุราโตะ”
ผมรู้สึกว่าท่าทางน่าขยะแขยงของคุณปู่ได้ทิ่มแทงเข้ามาที่ตัวผม
“นายคงกังวลอะไรบางอย่างสินะถึงมาที่นี่”
“……”
“ถ้านายอยากคุยก็ตามสบายเลย”
หลังจากนิ่งอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดผมก็ใช้ประโยชน์จากความใจดีของคุณปู่และหยิบมันฝรั่งลูกใหม่มากิน
“ร้อน!”
ปากผมโดนมันฝรั่งร้อนๆลวกไปเต็มที่ แต่มันก็อร่อยนะ ความเค็มก็กลมกล่อมพอดี
“นายเป็นอะไรมั้ย”
“ไหวอยู่ๆ”
“ก็ดี”
ปู่ผมตอบกลับผมก่อนจะไปลูบหัวไอระ ซึ่งไอระวิ่งหนีก่อนมาเกาะที่หลังของผม
ปู่ผมบอกว่าอยากจะมีไร่เป็นของตัวเองเพื่อปลูกพืชผักมาให้ผมและไอระได้กิน แม้เขาจะอายุ 60 เข้าไปแล้วก็ยังคงใจดีกับเด็กอยู่ดี
ไม่ใช่แค่ผมที่คิดงี้หรอก ผมว่าไอระก็คิดแบบนี้เหมือนกัน